IPB

ยินดีต้อนรับ ( เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก )


 
Reply to this topicStart new topic
> ลูเซียส มัลฟอย
'____Lestrade
โพสต์ Jul 29 2011, 03:51 PM
โพสต์ #1


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 4

****




กลุ่ม : นักเรียนบ้านฮัฟเฟิลพัฟ
โพสต์ : 542
เข้าร่วม : 19-May 11
หมายเลขสมาชิก : 13,786
สายเลือด : เลือดบริสุทธิ์
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: เมเปิ้ล | ยาว: 11"
แกนกลาง: ขนนกฟีนิกซ์
ความยืดหยุ่น: ดีและนุ่ม

สัตว์เลี้ยง








ลูเซียส มัลฟอย (Lucius Malfoy)



ชื่อ - นามสกุล : ลูเซียส มัลฟอย (Lucius Malfoy)
วัน เดือน ปีเกิด : เกิดในปี ค.ศ. 1954 วันและเดือนไม่ปรากฏข้อมูลแน่ชัด
ลักษณะทางกายภาพ : ใบหน้าเรียวแหลม ผมยาวสีบลอนด์ซีด นัยน์ตาสีเทา สวมใส่เสื้อคลุมตัวยาวสีดำ ถือไม้เท้าโดยมีด้ามจับเป็นรูปงู ซึ่งภายในบรรจุไม้กายสิทธิ์ไว้
สถานะทางเลือด : เลือดบริสุทธิ์ (Pure-blood)
ไม้กายสิทธิ์ : ไม้เอล์ม แกนเอ็นหัวใจมังกร ความยาว 18 นิ้ว
บ้านในฮอกวอตส์ : สลิธีริน
บ็อกการ์ต : ลอร์ดโวลเดอมอร์
อาชีพ : กรรมการโรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ และเจ้าของธุรกิจไวน์แดง


ลูเซียส มัลฟอย (Lucius Malfoy) เกิดในปี ค.ศ. 1954 วันและเดือนไม่ปรากฏข้อมูลแน่ชัด บุตรชายของ อะบราซัส มัลฟอย ซึ่งตระกูลมัลฟอยนั้นเป็นตระกูลผู้ดีที่ร่ำรวย และเก่าแก่มากที่สุดตระกูลหนึ่งในโลกเวทมนตร์ โดยทายาทของตระกูลนั้นจะอาศัยอยู่ในเขตวิลท์เชอร์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นเขตที่ตระกูลมัลฟอยขยายที่ดินมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ ลูเซียสนั้นอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ที่ตกแต่งอย่างงดงามสวยหรูอย่างคฤหาสน์มัลฟอย เมื่อครั้งที่ลูเซียสยังอยู่ในวัยเด็ก เขาได้รับการสั่งสอนและปลูกฝังว่าเขานั้นเป็นบุคคลพิเศษ ด้วยสามเหตุผลที่ว่าด้วย ประการแรกคือเขาเป็นพ่อมด ประการที่สองคือเขามีสายเลือดบริสุทธิ์ และ ประการสุดท้ายคือเขาเกิดในตระกูลมัลฟอย ตระกูลที่มีหน้ามีตาในชุมชนผู้วิเศษ และเปี่ยมไปด้วยความมั่งคั่ง โดยไม่ต้องทำงานหรืออาศัยอำนาจของผู้ใด อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ยังคงแทรกแซกอำนาจของกระทรวงเวทมนตร์อยู่บ่อยครั้ง แท้ว่าพวกเขาไม่ได้ต้องการตำแหน่งใหญ่โต อย่างรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ก็ตามที

อะบราซัสได้สอนลูกชายของเขาอย่าง ลูเซียส ให้เติบโตมาด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่นของตระกูลอันประกอบด้วย ความสุขุมรอบคอบ การวางตัวให้เหมาะสมและดูสง่า อันจะทำให้ผู้อื่นนั้นเคารพนับถือ การปลูกฝังให้สืบทอดสายเลือดบริสุทธิ์ ชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล การรักษาระบบการปกครอง และการรักษาสัมพันธไมตรี ที่เป็นผลประโยชน์ต่อครอบครัวมัลฟอย

ในปี ค.ศ. 1965 ลูเซียสนั้นได้มีอายุครบสิบเอ็ดปีบริบรูณ์ เขาจึงได้เข้าเรียนที่ โรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ลอร์ดโวลเดอมอร์ กำลังขยายอำนาจมืดของเขาไปทั่วโลกผู้วิเศษ ลูเซียสได้รับการคัดสรรไปยังบ้านสลิธีริน ลูเซียสมักคบหากับเพื่อนที่ฉลาดหลักแหลม และ มีความทะเยอทะยาน มักใหญ่ใฝ่สูง เช่นเดียวกันกับเขา ในระหว่างที่ลูเซียสเป็นนักเรียน เขาได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถอันโดดเด่น ความฉลาดหลักแหลม และมีผลการเรียนด้านวิชาการที่เป็นเลิศ นอกจากนี้เขายังมีพรสวรรค์ในการปรุงยาอีกด้วยเช่นกัน ทำให้ต่อมาไม่นาน ลูเซียสได้ถูกเชื้อเชิญให้เข้าร่วมสโมสรซลักฮอร์น จากการชักชวนของศาสตราจารย์ฮอเรซ ซลักฮอร์น ศาสตราจารย์วิชาปรุงยา และอาจารย์ประจำบ้านสลิธีรินในตอนนั้น เมื่อลูเซียสอยู่ชั้นปีห้า เขาได้รับเลือกให้เป็นพรีเฟ็คประจำบ้านสลิธีริน และจากการทำงานหนักของเขาจึงทำให้เขากลายเป็น นักเรียนตัวอย่าง ในสายตาของอาจารย์หลายท่าน นอกจากนี้ลูเซียสยังให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นกับเซเวอร์รัส สเนป หลังจากที่เซเวอร์รัสได้รับการคัดสรรมาอยู่ยังบ้านสลิธีริน และหลังจากนั้นพวกเขาก็ได้กลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน จนกระทั่งปี ค.ศ. 1972 ที่ลูเซียสนั้นจบการศึกษาจากฮอกวอตส์

หลังจากจบจากโรงเรียนฮอกวอตส์ ลูเซียสได้สร้างเครือข่ายของเขากับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงเวทมนตร์ ที่เขาโปรดปราน อีกทั้งยังสามารถแสวงหาผลประโยชน์ได้ในอนาคต ต่อมาไม่นานลูเซียสก็ได้เข้าร่วมในกองทัพผู้เสพความตาย เนื่องด้วยอุดมการณ์ที่ตรงกันของพวกเขา ในการรักษาและการดำรงอยู่ของสายเลือดบริสุทธิ์ นอกจากนี้โวลเดอมอร์ยังรับปากที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครอง ให้เป็นไปอย่างที่ลูเซียสหวังไว้ ภายใต้การรับใช้โวลเดอมอร์ที่มีความอดทนต่ำ ลูเซียสจึงพบว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะทำให้เจ้านายของเขาถูกใจ แต่ด้วยการที่ตระกูลมัลฟอยมีอิทธิพลกว้างขวางในกระทรวงเวทมนตร์ จึงทำให้เขาได้รับข่าวสารเบื้องลึกอยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เขาสร้างความพึงพอใจให้กับโวลเดอมอร์อย่างมาก เขาจึงได้เลื่อนขั้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนได้รับมอบหมายให้ขึ้นเป็นหัวหน้าของกองทัพผู้เสพความตายในเวลาต่อมา และเมื่อสงครามโลกเวทมนตร์ครั้งที่หนึ่งได้เริ่มต้นขึ้น ลูเซียสก็ได้เข้าร่วมสงครามด้วยเช่นกัน ในช่วงเวลาระหว่างนี้ลูเซียสได้แต่งงานกับนาร์ซิสซา มัลฟอย (นามสกุลเดิม แบล็ก) และทั้งคู่ก็ได้มีบุตรชายด้วยกันหนึ่งคน โดยตั้งชื่อว่า เดรโก มัลฟอย ซึ่งเกิดในปี ค.ศ. 1980

ภายหลังจากที่โวลเดอมอร์สูญสิ้นอำนาจไปจากการพ่ายแพ้ ในสงครามโลกเวทมนตร์ครั้งที่หนึ่ง ลูเซียสได้ถูกจับกุมและถูกนำตัวไปยังศาลสูงวินเซ็นกาม็อต เพื่อสอบสวนว่าเขามีส่วนในการร่วมกระทำความผิดกับโวลเดอมอร์หรือไม่ อย่างไรก็ตาม จากการที่ลูเซียสได้อ้างว่า เขาถูกครอบงำโดยคำสาปสะกดใจ ท้ายที่สุดเขาจึงไม่ถูกจับไปยังคุกอัซคาบัน เหมือนกับผู้เสพความตายคนอื่น อย่างไรก็ดี หลายฝ่ายระบุว่าที่ลูเซียสรอดพ้นจากการถูกตัดสินผิดครั้งนี้ เนื่องจากเขาเป็นที่โปรดปรานของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงเวทมนตร์ หลังจากที่ลูเซียสพ้นข้อกล่าวหา เขาก็ไม่ได้ออกตามหาโวลเดอมอร์แต่อย่างใด และกลับไปอาศัยอยู่กับครอบครัวของเขาตามเดิม ที่คฤหาสน์มัลฟอย ต่อมาไม่นานอะบราซัส พ่อของเขาก็ได้เสียชีวิตลง ทำให้มรดกทั้งหมดตกเป็นของลูเซียส และลูเซียสก็ได้กลายเป็นผู้นำของตระกูลมัลฟอยนับตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1981 เป็นต้นมา

เมื่อเดรโกเติบโตขึ้น ด้วยความโปรดปรานศาสตร์มืด ลูเซียสจึงตั้งใจว่าเขาจะให้เดรโกเข้าเรียนที่สถาบันเวทมนตร์วิทยาลัยเดิร์มสแตรงก์ ซึ่งในขณะนั้นมีไอกอร์ คาร์คารอฟดำรงตำแหน่งเป็นอาจารย์ใหญ่ เนื่องจากเดิร์มสแตงก์มีนโยบายห้ามผู้ที่เกิดจากมักเกิ้ลเข้าศึกษา นอกจากนี้พวกเขายังมีหลักสูตรการสอนวิชาศาสตร์มืด ซึ่งแตกต่างกับฮอกวอตส์อย่างสิ้นเชิง เนื่องจากที่ฮอกวอตส์ภายใต้การดูแลของอาจารย์ใหญ่อย่างอัลบัส ดัมเบิลดอร์ ที่สอนให้นักเรียนรู้จักการป้องกันตัวจากศาสตร์มืด และมักจะมีข้อแก้ต่างเพื่อปกป้องสิทธิของมักเกิ้ลเสมอ นอกจากนี้ลูเซียสที่ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการโรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ ยังยื่นเรื่องในการสั่งห้ามให้ห้องสมุดฮอกวอตส์มีหนังสือนิทานของบีเดิลยอดกวี เรื่อง น้ำพุแห่งโชคดีทีเดียว อีกด้วย เนื่องจากนิทานเรื่องนี้ ได้เขียนเกี่ยวกับความรักของแม่มดกับมักเกิ้ล

อย่างไรก็ตาม ภรรยาของเขากลับไม่เห็นด้วยที่จะส่งลูกชายสุดที่รักเพียงคนเดียวของเธอ ไปเรียนยังโรงเรียนที่ห่างไกลบ้าน ท้ายที่สุดพวกเขาจึงให้เดรโกศึกษาที่ฮอกวอตส์ ในปีแรกหลังจากที่เดรโกกลับมาจากฮอกวอตส์ ลูเซียสได้รู้ว่าลูกชายของเขาถูกปฏิเสธความสัมพันธ์ฉันเพื่อนจากแฮร์รี่ พอตเตอร์ โดยแฮร์รี่นั้นได้ไปคบค้าสมาคมกับรอน วีสลีย์แทน ซึ่งเป็นครอบครัวที่คอยสาปแช่งตระกูลมัลฟอยตลอดมา ต่อมาในปี ค.ศ. 1992 ลูเซียสนั้นมีแผนที่จะเปิดห้องแห่งความลับอีกครั้ง เขาจึงได้นำไดอารีของทอม ริดเดิ้ล ใส่ลงไปในหม้อของจินนี่ วีสลีย์ระหว่างที่พวกเขาพบกันที่ตรอกไดแอกอน ในขณะที่ด๊อบบี้ เอลฟ์ประจำบ้านของตระกูลมัลฟอย รู้ถึงแผนการณ์นี้เข้าจึงแอบไปเตือนแฮร์รี่ พอตเตอร์ และในปีนั้นเองทำให้นักเรียน สัตว์เลี้ยง รวมถึงผีในฮอกวอตส์ ตกเป็นเหยื่อของบาซิลิสก์หลายราย ในปีเดียวกันนั้นเอง ลูเซียสได้สูญเสียทาสของเขาอย่างด๊อบบี้ไปจากแผนของแฮร์รี่ พอตเตอร์

ต่อมาในช่วงหน้าร้อนของปี ค.ศ. 1995 ลูเซียสได้กลับเข้าร่วมกองทัพผู้เสพความตายอีกครั้ง หลังจากที่เขาได้หมายเรียก ลูเซียสได้อ้างว่าเขาได้พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อตามหาเจ้านายของเขา และช่วยให้โวลเดอมอร์กลับมามีอำนาจยิ่งใหญ่อีกครั้ง ซึ่งโวลเดอมอร์เองก็เชื่อในคำกล่าวอ้างนี้ แต่ทว่าเขายังคลางแคลงใจ กับการที่ลูเซียสได้หนีไปเมื่อตรามารปรากฏขึ้นในการแข่งขันควิดดิชเวิลด์คัพ ในปีเดียวกันนั้นเอง ลูเซียสได้พยายามนัดพบคอร์นีเลียส ฟัดจ์อย่างลับ ๆ อยู่บ่อยครั้ง เพื่อขอให้เขาปกปิดการที่ลูเซียสได้ใช้คำสาปสะกดใจกับผู้ปิดปากเงียบอย่างบรอเดอริก โบ๊ด และสเตอร์จิส พอดมอร์ กองระวังหน้าของภาคีนกฟีนิกซ์ จากการใช้คำสาปสะกดใจนี้เอง ทำให้ลูเซียสได้ล่วงรู้ข้อมูลเกี่ยวกับคำทำนายในลูกแก้วพยากรณ์ของซีบิลล์ ทรีลอว์นีย์ ต่อมาลูเซียส มัลฟอย, เบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์, โรโดลฟัส เลสแตรงจ์, ราบาสแตน โรโดลฟัส, ออกัสตัส รู้กวู้ด, แอนโทนิน โดโลฮอฟ, น็อตต์, มัลซิเบอร์, จักสัน, แครบ, วอลเด็น แม็คแนร์ และเอเวอรี่ ได้รับคำสั่งให้ไปชิงลูกแก้วพยากรณ์ออกมาจากหอเก็บลูกแก้วพยากรณ์ ในกองปริศนา และในเหตุการณ์นี้ก็ได้มีการปะทะกันเกิดขึ้น กับสมาชิกกองทัพดัมเบิลดอร์ อันประกอบไปด้วยแฮร์รี่ พอตเตอร์, เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์, รอน วีสลีย์, จินนี่ วีสลีย์, เนวิลล์ ลองบัตท่อม และลูน่า เลิฟกู๊ด ไม่เพียงเท่านี้ เพราะต่อมาอีกไม่กี่ชั่วโมง สมาชิกภาคี อย่างซิเรียส แบล็ก, รีมัส ลูปิน, อลาสเตอร์ มู้ดดี้, คิงส์ลีย์ ชักเคิลโบลต์ และนิมฟาดอร่า ท็องส์ ก็ได้เข้ามาช่วยเหลือ หลังจากการต่อสู้ ลูเซียสได้ถูกจับกุมตัวอีกครั้ง ด้วยความล้มเหลวจากภารกิจที่กองปริศนา และการที่เขาได้มีส่วนในการทำลายฮอร์ครักซ์ของโวลเดอมอร์อย่างไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ความไว้ใจของโวลเดอมอร์ที่มีต่อลูเซียสพังทลายจนหมดสิ้น จึงทำให้ใครหลายคนเชื่อว่า การที่ลูเซียสอยู่ในคุกอัซคาบัน จะปลอดภัยกว่าการที่เขาลอยนวลอยู่ข้างนอก อย่างไรก็ตามในปี ค.ศ. 1997 ลูเซียสและสมาชิกผู้เสพความตายคนอื่นที่ถูกจองจำอยู่ ได้หลบหนีออกมาจากคุกได้ด้วยความช่วยเหลือของโวลเดอมอร์

ในช่วงสงครามโลกเวทมนตร์ครั้งที่สอง ลูเซียสได้เข้าร่วมกับกองทัพผู้เสพความตายเรื่อยมา จนกระทั่งจบสงครามฮอกวอตส์ด้วยความพ่ายแพ้ของโวลเดอมอร์ แต่ทว่าครอบครัวมัลฟอยนั้นไม่ได้ถูกจับกุม ภายหลังจากจบสงครามเหมือนผู้เสพความตายคนอื่น เนื่องจาก นาร์ซิสซา มีส่วนในการช่วยให้แฮร์รี่รอดพ้นจากการถูกฆ่าตายเป็นครั้งที่สอง ด้วยจากที่เธอกล่าวเท็จกับโวลเดอมอร์ เรื่องการตายของ แฮร์รี่ พอตเตอร์ นอกจากนี้ ลูเซียสยังมีส่วนช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการจับกุมผู้เสพความตายที่ยังหลบซ่อนอยู่ ต่อมาลูเซียสและนาร์ซิสซามีหลานชายด้วยกันหนึ่งคนคือ สกอร์เปียส ไฮเปอเรียน มัลฟอย





ข้อมูลจาก Harry Potter Wiki

รวบรวมโดย ฮอกวอตส์ไทย (http://hogwartsthai.com)
หากนำข้อมูลนี้หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อมูลนี้ไปเผยแพร่ กรุณาให้เครดิตฮอกวอตส์ไทยด้วย

Go to the top of the page
+Quote Post

Reply to this topicStart new topic

 



RSS Lo-Fi ; ประหยัดแบนวิธ,โหลดเร็ว เวลาในขณะนี้: 19th March 2024 - 03:51 PM