IPB

ยินดีต้อนรับ ( เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก )


 
Reply to this topicStart new topic
> คำสาปโทษผิดสถานเดียว
Ian McMillan
โพสต์ Aug 14 2020, 12:27 AM
โพสต์ #1


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 2

****




กลุ่ม : นักเรียนบ้านฮัฟเฟิลพัฟ
โพสต์ : 595
เข้าร่วม : 31-July 20
หมายเลขสมาชิก : 38,498
สายเลือด : เลือดผสม
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: ไซคามอร์ | ยาว: 15"
แกนกลาง: ขนหางเธสตรอล
ความยืดหยุ่น: แข็ง

สัตว์เลี้ยง


ผู้พิทักษ์








Unforgivable Curses
คำสาปโทษผิดสถานเดียว






คำสาปโทษผิดสถานเดียว ประกอบไปด้วย คำสาปพิฆาต, คำสาปสะกดใจ และ คำสาปกรีดแทง เป็นคำสาปที่มีอานุภาพรุนแรงและทรงพลังมากที่สุดในโลกเวทมนตร์ การใช้คำสาปดังกล่าวมีโทษผิดร้ายแรงตามกฎหมายของโลกเวทมนตร์ โดยทั้งสามคำสาปนี้เป็นองค์ประกอบของศาสตร์มืดที่รู้จักกันในชื่อ คำสาปโทษผิดสถานเดียว ได้รับการขึ้นทะเบียนครั้งแรกในปี ค.ศ. 1717 (นิทานของบีเดิลยอดกวี น.83) ซึ่งเป็นยุคของรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ อูลิค แกมป์ การนำคำสาปใดคำสาปหนึ่งมาใช้กับมนุษย์มีโทษหนักสูงสุดถึงขั้นถูกจองจำที่คุกอัซคาบันชั่วชีวิต

ช่วงทศวรรษที่ 1990 การใช้คำสาปทั้งสามนี้ต่อมนุษย์ มักเกิ้ล หรือพ่อมด จะส่งผลให้ได้รับโทษสูงสุดคือการจำคุกตลอดชีวิต เว้นแต่จะมีหลักฐานเพียงพอว่าผู้กระทำผิดนั้น ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของคำสาปสะกดใจ พ่อมดแห่งศาสตร์มืดหลายคนพยายามใช้ข้ออ้างนี้เพื่อปกป้องตัวเองจากการถูกจองจำ หากถูกจับได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลังสงครามโลกเวทมนตร์ครั้งที่หนึ่ง มือปราบมารได้รับอนุญาตให้ใช้คาถาดังกล่าวในช่วงสงครามโลกเวทมนตร์ครั้งแรก และในช่วงสงครามโลกเวทมนตร์ครั้งที่สอง ต่อมาคำสาปได้ถูกทำให้เป็นเรื่องถูกกฎหมาย แม้ว่าจะถูกยกเลิกภายหลังจากการตายของทอม มาร์โวโล ริดเดิ้ล

QUOTE
“ทีนี้... คำสาปทั้งสามนั่น ‒ อะวาดา เคดาฟ-รา คำสาปสะกดใจ และคำสาปกรีดแทง -- เป็นที่รู้จักในชื่อคำสาปโทษผิดสถานเดียว การนำคำสาปใดคำสาปหนึ่งมาใช้กับมนุษย์มีโทษหนักถึงขั้นถูกจองจำที่อัซคาบันชั่วชีวิต นั่นคือสิ่งที่เธอต้องต่อสู้ นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องสอนให้เธอรู้จักต่อสู้ แต่เหนืออื่นใด เธอจะต้องฝึกฝนให้ตัวเองตื่นตัวอยู่เสมออย่างไม่เว้นว่าง หยิบปากกาขึ้นมา... จดตามนี้...”

— บาร์ทีเมียส เคร้าช์ จูเนียร์ ในร่างอลาสเตอร์ มู้ดดี้

ถ้วยอัคนี บ.14 น.251 คำสาปโทษผิดสถานเดียว



ประวัติความเป็นมา


ในช่วงสงครามโลกเวทมนตร์ครั้งแรก ผู้เสพความตายได้ใช้คำสาปเหล่านี้บ่อยครั้งอลิซ และแฟรงก์ ลองบัตท่อม ถูกทรมานจนเสียสติจากคำสาปกรีดแทงโดยผู้เสพความตายทั้งสี่คน อาชญากรรมนี้ได้รับการพิจารณาจากหลายคนว่า เป็นหนึ่งในอาชญากรรมที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต เหยื่อไม่เคยหายและต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ใน โรงพยาบาลวิเศษเซนต์มังโกเพื่อผู้ป่วยและบาดเจ็บ เพื่อเข้ารับการเยียวยาจากความสูญเสียที่ไม่สามารถแก้ไขได้

เมื่อบาร์ทีเมียส เคร้าช์ จูเนียร์ใช้น้ำยาสรรพรสในการปลอมตัวเป็นอลาสเตอร์ มู้ดดี้ ในช่วงปีการศึกษา 1994-1995 เขาได้แสดงคำสาปโทษผิดสถานเดียวกับแมงมุมในวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด ชั้นเรียนของปีที่สี่ ในปี ค.ศ. 1994 เขาบอกกับนักเรียนว่าโทษของการใช้คำสาปดังกล่าวคือการจองจำในคุกอัซคาบันชั่วชีวิต ต่อมาเขาได้เสกนักเรียนหลายคนด้วยคำสาปสะกดใจ เพื่อสอนวิธีต่อต้านผลของคำสาป โดยมีเพียงแฮร์รี่เท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ ในวันที่ 24 มิถุนายน ค.ศ. 1995 แฮร์รี่ พอตเตอร์ตกอยู่ภายใต้คำสาปกรีดแทงถึงสองครั้ง และคำสาปสะกดใจโดยลอร์ดโวลเดอมอร์ ระหว่างต่อสู้กันที่หมู่บ้านลิตเติ้ลแฮงเกิลตัน (หมู่บ้านอันเป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัวริดเดิ้ล ที่ซึ่งแฮร์รี่ถูกนำตัวมาพบกับลอร์ดโวลเดอมอร์ที่กลับคืนชีพอีกครั้ง ผ่านกุญแจนำทางที่บาร์ตี้ เคร้าช์ จูเนียร์เสกขึ้น) แต่เขาสามารถต้านทานคำสาปสะกดใจ จากการสอนของบาร์ตี้ เคร้าช์ จูเนียร์เช่นกัน

ในระหว่างการต่อสู้กันที่กองปริศนา แฮร์รี่พยายามใช้คำสาปกรีดแทงกับเบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์ แต่ไม่ค่อยได้ผลนัก เธอเหน็บแนมแฮร์รี่ว่าเขาต้อง “สนุก” กับความเจ็บปวดเพื่อให้คำสาปทำงานได้ ขณะที่เขาได้เรียนรู้ในภายหลังเมื่อเขาใช้คำสาปกรีดแทงกับอะมีคัส แคร์โรว์ได้สำเร็จก่อนที่จะเกิดสงครามฮอกวอตส์ ในวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1998

QUOTE
“ไม่เคยใช้คำสาปโทษผิดสถานเดียวมาก่อนใช่ไหมล่ะ ไอ้หนู แกต้องตั้งใจให้มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ พอตเตอร์! แกต้องการให้เกิดความเจ็บปวดจริง ๆ ‒ เพื่อจะได้สนุกกับมัน -- ความโกรธอย่างชอบธรรมน่ะไม่ทำให้ฉันเจ็บปวดได้นานหรอก -- ฉันจะแสดงให้แกดูว่ามันต้องทำยังไง ฉันจะสอนแกเอง -- ”

— เบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์

ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.36 น.975 คนเดียวที่เขากลัว

เซเวอร์รัส สเนปสังหารอัลบัส ดัมเบิลดอร์ โดยใช้คำสาปพิฆาตที่ด้านบนของหอคอยดาราศาสตร์ นอกจากนี้ ในระหว่างการต่อสู้ที่หอคอยดาราศาสตร์ ทอร์ฟินน์ โรลว์ได้เสกคำสาปพิฆาตไปทางซ้ายและขวาด้วยความพลาดพลั้ง และหนึ่งในนั้นได้ฆ่าผู้เสพความตาย กิ๊บบ้อน โดยไม่ได้ตั้งใจ ตลอดระหว่างปีการศึกษา 1996-1997 เดรโก มัลฟอยได้ใช้คำสาปสะกดใจกับ แคตี้ เบลล์ และมาดามโรสเมอร์ทา รวมถึงพยายามทรมานแฮร์รี่ด้วยคำสาปกรีดแทงแต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากคำสาปเซ็กตรัมเซมปร้าที่แฮร์รี่ร่ายใส่เขาเสียก่อน

เบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์ได้ทรมานเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์อย่างเหี้ยมโหดด้วยคำสาปกรีดแทงที่คฤหาสน์มัลฟอย ในปีเดียวกันระหว่างการต่อสู้ที่ฮอกวอตส์ โวลเดอมอร์พยายามสังหารแฮร์รี่ด้วยคำสาปพิฆาตถึงสองครั้ง ครั้งแรกในป่าต้องห้าม และครั้งที่สอง ระหว่างการต่อสู้ครั้งสุดท้ายในห้องโถงใหญ่ นอกจากนี้ในระหว่างการต่อสู้ เบลลาทริกซ์เกือบโจมตีจินนี่ วีสลีย์ด้วยคำสาปพิฆาต แต่ยังห่างจากตัวเธอไปหลายนิ้ว และเนื่องจากความเสียสละของแฮร์รี่และความสามารถของจินนี่ จึงทำให้ทั้งคู่หลบหลีกคาถาของคู่ต่อสู้ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

ในช่วงสงครามโลกเวทมนตร์ครั้งที่สอง คำสาปโทษผิดสถานเดียวได้ถูกทำให้ถูกต้องตามกฎหมายโดยลอร์ดโวลเดอมอร์ หลังจากที่เขาและผู้เสพความตายแทรกซึมและโค่นล้มกระทรวงเวทมนตร์ของอังกฤษได้สำเร็จ หลังจากสงครามสิ้นสุด แต่สิ่งนี้ได้ถูกหยุดยั้ง เมื่อคิงส์ลีย์ ชักเคิลโบลต์เข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ และทำการถอดถอนกลุ่มคนที่มีแนวคิดเหยียดสายเลือดภายในองค์กรให้หมดสิ้นไปได้ในที่สุด



ประสิทธิภาพ


เนื่องจากคำสาปโทษผิดสถานเดียวนั้นทรงพลังมาก การใช้งานของพวกมันจึงต้องใช้ทั้งความมุ่งมั่นอันแรงกล้ากับทักษะที่ยอดเยี่ยม และต้องมีความปรารถนาที่จะใช้คำสาปเพื่อจุดประสงค์อันมุ่งร้ายด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น แฮร์รี่ พอตเตอร์ไม่สามารถใช้คำสาปกรีดแทงกับเบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ในปี ค.ศ. 1996) แม้แฮร์รี่จะโกรธแค้นเธอมากจากการฆาตกรรมพ่อทูนหัวของเขา แต่เขาก็ยังขาดความปรารถนาที่จะสร้างความเจ็บปวดให้กับผู้อื่น “ความโกรธอย่างชอบธรรม” ของแฮร์รี่สร้างความเจ็บปวดให้กับเบลลาทริกซ์ได้เพียงชั่วครู่เท่านั้น

ไม่นานก่อนจะเกิดสงครามฮอกวอตส์ แฮร์รี่ไม่เพียงแต่ใช้คำสาปกรีดแทงกับอะมีคัส แคร์โรว์ได้สำเร็จ เขายังร่ายคำสาปสะกดใจกับบุคคลสองคนในระหว่างเกิดการปล้นที่ธนาคารกริงก็อตส์ ซึ่งทำให้แฮร์รี่ รอน และ เฮอร์ไมโอนี่ สามารถเข้าไปยังตู้นิรภัยเลสแตรงจ์ได้ หลังจากที่แฮร์รี่ “ตรึง” อะมีคัส แคร์โรว์ก็ถูกคำสาปสะกดใจของมิเนอร์ว่า มักกอนนากัลเข้าเล่นงาน บางทีอาจเป็นเพราะคำสาปโทษผิดสถานเดียวถูกเพิกเฉยไป ในช่วงที่การห้ามใช้ของพวกเขาถูกยกเลิก จึงไม่มีข้อบ่งชี้ว่าแฮร์รี่หรือมักกอนนากัลจะถูกลงโทษสำหรับการใช้คำสาปเหล่านี้

QUOTE
“แฮร์รี่ตะโกน ‘ครูซิโอ!’ ผู้เสพความตายตัวลอยขึ้นไปจากพื้น เขาดิ้นรนอยู่กลางอากาศเหมือนคนกำลังจมน้ำ แขนหวดฟาดไปมาและร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด จากนั้นเขาชนตู้หนังสือจนกระจกแตกกระจาย แล้วล้มลงไปกองหมดสติอยู่บนพื้น”

— แฮร์รี่ พอตเตอร์ใช้คำสาปกรีดแทงกับอะมีคัส แคร์โรว์

เครื่องรางยมทูต บ.30 น.545 เซเวอร์รัส สเนป ถูกไล่ออก



คำสาปโทษผิดสถานเดียว


คำสาปสะกดใจ (Imperius Curse)

คำร่าย : อิมเปริโอ
วิธีร่าย : อิม-เปียร์-ริ-โอ (im-PEER-ee-oh)
ผลของคำสาป : เป็นคาถาที่มีผลในการบังคับควบคุมจิตใจ และการกระทำของเหยื่อให้เป็นไปตามที่ต้องการ
รากศัพท์ : อิมเปริโอ (Imperio) มาจากคำว่า impero ในภาษาละติน แปลว่า “ฉันควบคุม” หรือ “ฉันบังคับบัญชา”

QUOTE
“เมื่อหลายปีก่อน มีพ่อมดแม่มดจำนวนมากถูกควบคุมด้วยคำสาปสะกดใจ เป็นงานใหญ่ของกระทรวงเลยล่ะ ต้องพยายามแยกให้ออกว่าใครถูกบังคับให้ทำ และใครที่จงใจทำเอง -- คาถานี้มีวิธีต่อสู้ได้และฉันจะสอนวิธีให้กับเธอ แต่ก็ต้องใช้พลังในตัวมากทีเดียว และไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีพลังมากพอ ที่ดีที่สุดคือพยายามหลีกหรืออย่าให้ถูกคาถานี้ จงตื่นตัวอยู่เสมอ!”

— บาร์ทีเมียส เคร้าช์ จูเนียร์ ในร่างอลาสเตอร์ มู้ดดี้

ถ้วยอัคนี บ.14 น.247 คำสาปโทษผิดสถานเดียว

คำสาปสะกดใจ ทำให้เหยื่อตกอยู่ในภวังค์หรือเสมือนอยู่ในความฝัน ซึ่งนิยามได้ว่าเป็น “การปลดปล่อยที่สมบูรณ์แบบ” หลุดจากความรับผิดชอบใด ๆ ต่อร่างกายของตัวเอง ทำให้เหยื่อที่อยู่ภายใต้อำนาจไม่อาจต้านทานต่อผู้ควบคุมได้

QUOTE
“คิดว่าตลกงั้นหรือ เธอจะชอบไหมถ้าถูกทำแบบนี้ ถูกควบคุมเบ็ดเสร็จ ฉันสั่งให้มันกระโดดออกไปทางหน้าต่างก็ได้ กระโดดน้ำตายก็ได้ กระโดดเข้าไปในคอของเธอคนใดคนหนึ่งก็ได้...”

— บาร์ทีเมียส เคร้าช์ จูเนียร์ ในร่างอลาสเตอร์ มู้ดดี้ เมื่อตอนเสกคำสาปสะกดใจใส่แมงมุม

ถ้วยอัคนี บ.14 น.246-247 คำสาปโทษผิดสถานเดียว

การต้านทานคำสาปสะกดใจเป็นไปได้ แต่ยากมาก เฉพาะผู้ที่มีความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษเท่านั้นจึงจะสามารถต่อกรได้ แฮร์รี่ พอตเตอร์, บาร์ทีเมียส เคร้าช์ ซีเนียร์ และบาร์ทีเมียส เคร้าช์ จูเนียร์ ต่างก็เรียนรู้ที่จะต่อต้านคำสาปหลังจากที่เคยได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะแฮร์รี่ พอตเตอร์ที่ดูเหมือนจะเก่งในด้านนี้เป็นพิเศษ เนื่องจากเขาสามารถต้านทานคำสาปสะกดใจได้บางส่วนตั้งแต่ครั้งแรกที่ถูกร่ายใส่ และต่อมาก็สามารถต้านทานมันได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อถูกร่ายโดยโวลเดอมอร์ที่อยู่ในจิตใจของเขาเอง



คำสาปกรีดแทง (Cruciatus Curse)

คำร่าย : ครูซิโอ
วิธีร่าย : ครู-ซี-โอ (KROO-see-oh)
ผลของคำสาป : เป็นคาถาที่ส่งผลให้เหยื่อรู้สึกเหมือนอาวุธแหลมคมกรีดแทง จนเจ็บปวดทรมานอย่างไม่อาจทนได้
รากศัพท์ : ครูซิโอ (Crucio) มีความหมายว่า “ฉันทรมาน” ในภาษาละติน มาจาก crux ที่หมายถึง กางเขนที่ใช้สำหรับการประหาร

QUOTE
“เธอไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธอะไรเพื่อทรมานคนอื่น ถ้าเธอร่ายคำสาปกรีดแทง... สมัยหนึ่งคำสาปนี้แพร่หลายมากเช่นกัน”

— บาร์ทีเมียส เคร้าช์ จูเนียร์ ในร่างอลาสเตอร์ มู้ดดี้ เมื่อตอนเสกคำสาปกรีดแทงใส่แมงมุม

ถ้วยอัคนี บ.14 น.249 คำสาปโทษผิดสถานเดียว

คำสาปกรีดแทง สร้างความเจ็บปวดให้กับเหยื่อเป็นอย่างมาก ซึ่งต้องใช้คำร่ายและไม้กายสิทธิ์ ผลของคำสาปขึ้นอยู่กับความปรารถนาและอารมณ์ของผู้สาป ในการสร้างความเจ็บปวดที่ทุกข์ระทมตามความหมายโดยนัยของชื่อของมัน ผู้ร่ายจะต้องทำแบบที่ เบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์ กระทำต่อเหยื่อ เธอดูถูกเหยื่ออย่างแท้จริงและเพลิดเพลินไปกับการสร้างความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ทำให้มันเหมาะกับการใช้เพื่อทรมานในรูปแบบหนึ่ง

เมื่อแฮร์รี่ พอตเตอร์กลายเป็นเหยื่อของคำสาปกรีดแทง เขาเล่าว่ามันรู้สึกเหมือนหัวของเขาถูกผ่าออก ในขณะที่กระดูกของเขาถูกเผาไหม้ด้วยไฟ



คำสาปพิฆาต (Killing Curse)

คำร่าย : อะวาดา เคดาฟ-รา
วิธีร่าย : อะ-วา-ดา เค-ดา-วรา (a-VAH-dah ke-DAH-vra)
ผลของคำสาป : เป็นคาถาที่มีผลให้ผู้ถูกสาปเสียชีวิตในทันที โดยปราศจากรอยแผลใด ๆ เมื่อร่ายคำสาปนี้จะปรากฎเป็นแสงสีเขียวจ้า
รากศัพท์ : เคดาฟ-รา (Kadavra) มาจากภาษาตุรกี มีความหมายว่า “ซากศพ” ซึ่งรวมกันแล้วมีความหมายโดยนัยว่า “ให้ผู้ที่อยู่ต่อหน้าฉันถูกทำลายกลายเป็นศพ”

การร่ายคำสาปพิฆาต ทำให้เกิดแสงสีเขียวจ้าที่พุ่งออกมาจากปลายไม้กายสิทธิ์ของผู้สาป เมื่อสัมผัสกับเหยื่อจะส่งผลให้เสียชีวิตทันที เหยื่อเพียงแค่ “ตาย” โดยไม่มีเหตุผลทางชีววิทยามารองรับ

เป็นไปได้ว่าอวัยวะภายในของเหยื่อหยุดทำงานแบบฉับพลัน อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจะเป็นวิธีการสังหารที่ประสบความสำเร็จได้มากที่สุด เนื่องจากวิญญาณของเหยื่อถูกฉีกออกจากร่างอย่างน่าอัศจรรย์ หลักฐานนี้มาจากประจักษ์พยานที่ชั่วร้ายที่สุดอย่างลอร์ดโวลเดอมอร์ หลังจากได้รับผลกระทบร้ายแรงของคำสาปพิฆาตที่ย้อนกลับ แต่เขาก็รอดมาได้เนื่องจากได้สร้างฮอร์ครักซ์แยกไว้หลายส่วน (วิญญาณที่แบ่งออกยังไม่ถูกทำลาย ส่งผลให้วิญญาณของโวลเดอมอร์ไม่แตกสลายไป)

QUOTE
“เกิดแสงสีเขียวจ้าบาดตาขึ้นพร้อมกับเสียงซู่ซ่า ราวกับมีวัตถุขนาดใหญ่ที่มองไม่เห็นพุ่งผ่านอากาศ... ฉับพลันทันที แมงมุมนอนหงายท้อง ไร้รอยแผล แต่ตายสนิทอย่างไม่ต้องสงสัย ‘ไม่สวยงาม ไม่ชวนมอง และไม่มีคาถาต้านคำสาปนี้ ไม่มีทางขวางได้’ ... ”

— บาร์ทีเมียส เคร้าช์ จูเนียร์ ในร่างของอลาสเตอร์ มู้ดดี้ เมื่อตอนเสกคำสาปพิฆาตใส่แมงมุม

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี บ.14 น.249-250 คำสาปโทษผิดสถานเดียว

คำสาปพิฆาต ไม่มีสิ่งใดต้านทานได้ แต่ก็ดูเหมือนว่าความคิดนี้จะไม่ถูกต้องเสียทีเดียว เมื่อเราเห็นว่ามีการหลบหนีจากคำสาปพิฆาตได้หลายครั้ง เช่น ตอนที่ดัมเบิลดอร์เสกให้รูปปั้นพ่อมดสีทองในกระทรวงเวทมนตร์มีชีวิตขึ้นมา แล้วพุ่งมารับคำสาปพิฆาตแทนแฮร์รี่ จนคำสาปแฉลบออกไปจากรูปปั้น (แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์ บ.36) แสดงให้เห็นว่าเหยื่อสามารถรอดจากคำสาปนี้ได้ด้วยการมีสิ่งอื่นมารองรับแทน เช่น วัตถุที่เป็นของแข็ง หรือสกัดกั้นด้วยคาถาที่รวดเร็วและทรงพลังพอจะฟาดคำสาปนี้ไปให้พ้นตัวได้ หากคำสาปพลาดจากเหยื่อและโจมตีเข้ากับวัตถุที่ไม่มีชีวิตแทน อาจทำให้เกิดการระเบิดเปลวไฟสีเขียว ณ จุดเกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม คำสาปอาจจะแฉลบออกจากวัตถุตัวกลางที่เป็นปัญหาได้เสมอ

QUOTE
“อะวาดา เคดาฟ-รา เป็นคำสาปที่ต้องใช้อำนาจเวทมนตร์ที่มีพลังช่วย -- เธอจะหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมาตอนนี้และชี้มาที่ฉันและพูดคำนี้ก็ได้ แต่ฉันสงสัยว่าคงจะทำร้ายฉันได้เพียงเลือดกำเดาไหล แต่นั่นไม่สำคัญ ฉันไม่ได้ให้เธอมาอยู่ตรงนี้เพื่อสอนวิธีใช้คำสาป”

— บาร์ทีเมียส เคร้าช์ จูเนียร์ ในร่างของ อลาสเตอร์ มู้ดดี้

ถ้วยอัคนี บ.14 น.251 คำสาปโทษผิดสถานเดียว

มีเพียงสองคนเท่านั้นที่สามารถอยู่รอดจากผลของคำสาปนี้ได้ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ผู้ได้รับการปกป้องอย่างวิเศษจากลิลี่ พอตเตอร์ต่อคำสาปของลอร์ดโวลเดอมอร์ และโวลเดอมอร์เอง จากการแบ่งส่วนของวิญญาณเพื่อสร้างฮอร์ครักซ์ของเขา และทั้งสองคนต่างก็มีส่วนใดส่วนหนึ่งที่เชื่อมต่อกัน เมื่อแฮร์รี่ใช้คาถาปลดอาวุธ และได้รับการช่วยเหลือจากผลกระทบของ ‘ไพ-ออร์ อินคานตาโต้’ เมื่อไม้กายสิทธิ์ของเขาและโวลเดอมอร์ประสานกันจากแกนกลางของไม้กายสิทธิ์ แฮร์รี่จึงมีชีวิตรอดได้อีกครั้ง เนื่องจากโวลเดอมอร์ใช้เลือดของแฮร์รี่ในการฟื้นคืนชีพ ซึ่งยังคงมีเวทมนตร์ของลิลี่หลงเหลืออยู่ ทำให้มันย้อนเข้าสู่ร่างกายของจอมมารเอง เนื่องจากกระบวนการนี้จะผูกมัดแฮร์รี่ไปตลอดชีวิต ตราบเท่าที่โวลเดอมอร์ยังคงมีชีวิตอยู่

ในปี ค.ศ. 1996 ฟอกส์ได้เสียสละตัวเองโดยการกลืนคำสาปพิฆาตที่โวลเดอมอร์ร่ายใส่ดัมเบิลดอร์ มันฆ่าฟอกส์ในทันที แต่แตกต่างจากความตายทั่วไป เพราะการตอบสนองต่อความตายของนกฟีนิกซ์นั้นจะลุกเป็นไฟ และเกิดใหม่จากขี้เถ้าของตัวเอง เนื่องจากนกฟีนิกซ์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นอมตะ

ลอร์ดโวลเดอมอร์ได้ใช้คำสาปพิฆาตสังหารผู้คนมากมาย ได้แก่ ครอบครัวริดเดิ้ล, เจมส์และลิลี่ พอตเตอร์, แชริตี้ เบอร์เบจ, แฟรงก์ ไบรส์, เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์, เบอร์ธา จอร์กิ้นส์, ครอบครัวสามคนที่อาศัยอยู่ในบ้านเดิมของเกรโกโรวิตช์ และคนอื่น ๆ อีกมากมาย เป็นที่รู้กันว่าเขาฆ่าคนมากพอที่จะสร้างกองทัพอินเฟอไร

ข้อมูลจาก Harry Potter Wiki

รวบรวมโดย ฮอกวอตส์ไทย (http://hogwartsthai.com)
หากนำข้อมูลนี้หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อมูลนี้ไปเผยแพร่ กรุณาให้เครดิตฮอกวอตส์ไทยด้วย

Go to the top of the page
+Quote Post

Reply to this topicStart new topic

 



RSS Lo-Fi ; ประหยัดแบนวิธ,โหลดเร็ว เวลาในขณะนี้: 12th November 2024 - 12:32 PM