โดโลเรส อัมบริดจ์ ตัวเลือก

[`Eros]

โดโลเรส อัมบริดจ์ (Dolores Umbridge)

ชื่อ - นามสกุล : โดโลเรส เจน อัมบริดจ์ (Dolores Jane Umbridge)
วัน เดือน ปีเกิด : เกิดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ไม่ปรากฏข้อมูลปีที่เกิดแน่ชัด ระบุเพียงเกิดก่อนปี ค.ศ. 1976
ลักษณะทางกายภาพ : แม่มดสูงวัยรูปร่างเตี้ย ดวงตาสีน้ำตาล มักใส่ชุดสีชมพูเสมอ หน้าเหมือนคางคก นิ้วสั้นอ้วนป้อม
สถานะทางเลือด : เลือดผสม (Half-blood)
ไม้กายสิทธิ์ : ไม้เบิร์ช ยาว 8 นิ้ว แกนกลางเอ็นหัวใจมังกร
บ้านในฮอกวอตส์ : สลิธีริน
ผู้พิทักษ์ : แมวเปอร์เซีย
อาชีพ :

• หัวหน้าแผนกตรวจสอบการใช้เวทมนตร์ในทางที่ผิด (ตำแหน่งทางการ)
• ปลัดกระทรวงอาวุโส (ดำรงตำแหน่งในปี ค.ศ. 1995-1998)
• เจ้าพนักงานสอบสวนใหญ่ประจำฮอกวอตส์ (ดำรงตำแหน่งในปี ค.ศ. 1995-1996)
• ศาสตราจารย์วิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด (ดำรงตำแหน่งในปี ค.ศ. 1995-1996)
• อาจารย์ใหญ่ของฮอกวอตส์ (ดำรงตำแหน่งในปี ค.ศ. 1996)
• ประธานคณะกรรมาธิการการลงทะเบียนผู้ที่เกิดจากมักเกิ้ล (ดำรงตำแหน่งในปี ค.ศ. 1997-1998)

โดโลเรส เจน อัมบริดจ์ (Dolores Jane Umbridge) แม่มดสายเลือดผสม เธอเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่กระทรวงเวทมนตร์ที่ทำงานรับใช้กระทรวงเวทมนตร์มาอย่างยาวนาน โดโลเรสเป็นบุตรคนแรกของนายออร์ฟอร์ด อัมบริดจ์ และมักเกิ้ลสาวเอลเลน แคร็กเนลล์ ต่อมาไม่นานทั้งคู่ได้ให้กำเนิดบุตรชายด้วยกันอีกหนึ่งคน แต่ทว่าน้องชายของโดโลเรสกลับมีสายเลือดเป็นสควิบ ภายใต้อิทธิพลของสายเลือดพ่อมดจากบิดา ทำให้โดโลเรสดูหมิ่นมารดาที่เป็นมักเกิ้ล และน้องชายของเธอที่เป็นสควิบ ส่งผลให้นายออร์ฟอร์ดตัดสินใจแยกทางกับเอลเลนในที่สุด เมื่ออัมบริดจ์อายุได้เพียงสิบห้าปี หลังจากหย่าร้างกัน เอลเลนและลูกชายได้ย้ายไปอาศัยยังโลกมักเกิ้ล นับจากนั้นมาโดโลเรสก็ไม่เคยได้ยินข่าวคราวจากพวกเขาอีกเลย

เมื่ออายุครบกำหนดเข้าเรียนโรงเรียน โดโลเรสได้รับไม้กายสิทธิ์ด้ามแรก ซึ่งทำมาจากไม้เบิร์ช ยาว 8 นิ้ว แกนกลางเอ็นหัวใจมังกร ด้วยความยาวที่สั้นผิดปกตินี้ การ์ริค โอลลิแวนเดอร์จึงได้อธิบายเพิ่มเติมไว้ว่า ความยาวของไม้กายสิทธิ์มีความสัมพันธ์กับรูปร่างและส่วนสูงของเจ้าของไม้ด้วย ดังนั้นหากเจ้าของไม้มีรูปร่างสันฐานที่อ้วนเตี้ย ไม้กายสิทธิ์ก็จะมีความยาวที่สั้นตามลงไป หลังจากได้รับไม้กายสิทธิ์ เธอก็ได้เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนฮอกวอตส์ และถูกคัดสรรไปยังบ้านสลิธีรินโดยมีศาสตราจารย์ฮอเรซ ซลักฮอร์น เป็นอาจารย์สอนวิชาปรุงยาและเป็นอาจารย์ประจำบ้านสลิธีรินในขณะนั้น ในขณะศึกษาอยู่ที่โรงเรียน โดโลเรสไม่เคยได้รับตำแหน่งหน้าที่อื่นใด นอกจากสถานะนักเรียนคนหนึ่ง ทำให้เธอรู้สึกราวกับถูกลิดรอนสิทธิ์บางอย่างไปโดยตลอดระยะเวลาที่เธอได้ศึกษานั้น เธอไม่เคยมีความสุขเลยแม้แต่วินาทีเดียว และแม้ว่าโดโลเรสจะเป็นนักเรียนสลิธีริน ก็ไม่ได้ทำให้อาจารย์ประจำบ้านทั้งสองรุ่นของสลิธีริน อย่างฮอเรซ ซลักฮอร์น และเซเวอร์รัส สเนป ชื่นชอบเธอมากขึ้นเลยสักนิดเดียว

เมื่อโดโลเรสมีอายุเพียง 17 ปีเศษ เธอได้เข้าทำงานที่กระทรวงเวทมนตร์ทันทีหลังสำเร็จการศึกษา ในช่วงแรกเธอได้เป็นเจ้าหน้าที่ในแผนกตรวจสอบการใช้เวทมนตร์ในทางที่ผิด ซึ่งเป็นแผนกงานย่อยของกองบังคับควบคุมกฎหมายเวทมนตร์ และด้วยศักยภาพที่น่าทึ่งของเธอนี้เอง ทำให้เธอได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าแผนกตรวจสอบการใช้เวทมนตร์ในทางที่ผิด ในเวลาต่อมาอันรวดเร็ว หลังจากเข้ารับตำแหน่งได้ไม่นาน เธอก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้ากองบังคับควบคุมกฎหมายเวทมนตร์ในที่สุด โดโลเรสใช้เวลาเพียงไม่นานในการเลื่อนขั้นขึ้นมาจนอยู่ในระดับสูง ขณะที่เจ้าหน้าที่คนอื่น ต้องใช้เวลานานจนพวกเขามีอายุย่างเข้าเลขสาม ไม่นานนักโดโลเรสก็ได้เข้ารับตำแหน่งเป็นปลัดกระทรวงอาวุโส และดำรงตำแหน่งในศาลสูงวิเซ็นกาม็อต ในยุคของรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ทั้งสามท่าน ได้แก่ คอร์นีเลียส ฟัดจ์, รูฟัส สคริมเจอร์ และไพอัส ทิกเนส

ด้วยความเกลียดชังและรังเกียจลูกครึ่งพันธุ์ผสมของอัมบริดจ์ ทำให้เธอได้ร่างกฎหมายต่อต้านมนุษย์หมาป่าขึ้นในปี ค.ศ. 1993 ซึ่งกฎหมายฉบับนี้จะทำให้มนุษย์หมาป่าที่ติดเชื้อไม่สามารถทำงานประจำได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อรีมัส ลูปินโดยตรง เพราะกฎหมายนี้จะทำให้เขาไม่สามารถหางานทำได้ นอกจากนี้เธอยังมีความคิดที่จะทำกฎหมายเช่นเดียวกันนี้กับพวกชาวเงือกอีกด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม กฎหมายร่างนี้ไม่ได้ถูกประกาศใช้ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่หลายคนในกระทรวงเวทมนตร์ เห็นว่าเป็นกฎหมายที่ไม่สมเหตุสมผล

ในปี ค.ศ. 1995 โดโลเรสได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ ซึ่งเธอได้ใช้อำนาจนี้กับแฮร์รี่ พอตเตอร์ เพื่อสอบสวนเขาต่อหน้าศาลสูงวิเซ็นกาม็อต เนื่องจากแฮร์รี่ได้กระทำผิดกฎบัญญัติของพ่อมด ว่าด้วยเรื่องการใช้เวทมนตร์ทั้งที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่ด้วยความช่วยเหลือของอัลบัส ดัมเบิลดอร์ และการให้คำของพยานที่รู้เห็นเหตุการณ์อย่างอาราเบลล่า ฟิกก์ ทำให้แฮร์รี่ถูกปล่อยตัวออกมาในที่สุด อย่างไรก็ตาม ข้อมูลบางส่วนของเรื่องนี้ที่ยังไม่ถูกเปิดเผยคือ เป็นโดโลเรสเองที่เป็นคนสั่งให้ผู้คุมวิญญาณออกโจมตีแฮร์รี่ พอตเตอร์และดัดลีย์ เดอร์สลีย์ อันเป็นเหตุที่ทำให้แฮร์รี่ต้องเสกคาถาผู้พิทักษ์ป้องกันตัวในโลกมักเกิ้ล ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย

ในปีเดียวกัน โดโลเรสได้เข้าเป็นศาสตราจารย์วิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด ตามคำสั่งของฟัดจ์ รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ เธอได้ร่างกฤษฎีกาการศึกษา ฉบับที่ 22 โดยไม่ได้รับการยินยอมจากดัมเบิลดอร์ อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียน นอกจากนี้แล้ว เธอยังประพฤติตัวไม่เหมาะสมอีกหลายประการ เช่น พูดแทรกระหว่างการกล่าวต้อนรับนักเรียนของอัลบัส ดัมเบิลดอร์ ในวันเปิดภาคเรียนของฮอกวอตส์ ซึ่งไม่มีศาสตราจารย์คนใดเคยทำพฤติกรรมเช่นนี้มาก่อน ทำให้นอกจากเธอจะไม่เป็นที่ชื่นชอบของนักเรียนส่วนใหญ่แล้ว เธอยังไม่เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าศาสตราจารย์อีกด้วย

การเรียนการสอนในชั้นเรียนของโดโลเรสนั้น เธอมักสอนเกี่ยวกับเรื่องในกระทรวงเวทมนตร์ ทำให้เกิดความเบื่อหน่ายแก่นักเรียน ที่หวังจะได้เรียนการรับมือและการป้องกันตัวด้วยการปฏิบัติจริง เธอมักให้เด็กนักเรียนเรียนทฤษฎีจากหนังสือ เนื่องจากเธอเชื่อว่า การเรียนการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดจากทฤษฎีนั้น เพียงพอแล้ว ซึ่งนักเรียนหลายคนก็ไม่ได้เห็นด้วยกับความคิดนี้ แต่ได้แต่เงียบและทนฟัง เพราะกลัวการลงโทษของโดโลเรส อย่างเมื่อตอนแฮร์รี่ได้โต้เถียงกับโดโลเรสว่า โวลเดอมอร์ได้หวนกลับมาอีกครั้ง เธอก็ได้ลงโทษให้แฮร์รี่คัดลายมือด้วยประโยค ‘ฉันจะไม่โกหก’ โดยใช้ปากกาขนนกแบบพิเศษ โดยปากกาด้ามนั้นจะใช้เลือดของผู้เขียนแทนหมึกดำ และจากการลงโทษนี้ทำให้ด้านหลังมือของแฮร์รี่ เกิดเป็นรอยแผลเป็นไว้อย่างเด่นชัด หลังจากนั้นไม่นาน โดโลเรสก็ได้ร่างกฤษฎีกาการศึกษา ฉบับที่ 23 เพื่อเพิ่มอำนาจของตัวเอง และแต่งตั้งเธอขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานสอบสวนใหญ่ประจำฮอกวอตส์ โดยเธอใช้ตำแหน่งนี้ก่อความวุ่นวายให้ศาสตราจารย์ในหลายวิชา ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่แฮร์รี่เริ่มก่อตั้งกองทัพดัมเบิลดอร์ ซึ่งก็เป็นผลทำให้โดโลเรสได้สั่งยกเลิกการชุมนุมทุกรูปแบบ ที่มีสมาชิกมากกว่า 3 คนขึ้นไป ทั้งนี้ก็ทำให้ทีมควิดดิชถูกยกเลิกไปด้วย

ไม่เพียงเท่านั้นโดโลเรสยังได้ก่อตั้งกลุ่มสายตรวจ โดยเธอจะให้รางวัลกับนักเรียนที่จะคอยรายงาน เมื่อพบเห็นผู้กระทำผิดกฎ หรือละเมิดกฎระเบียบและกฤษฎีกา ในปีเดียวกันนั้นเองเธอก็ได้รับตำแหน่งให้เป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียน หลังจากที่อัลบัส ดัมเบิลดอร์หายตัวไปภายหลังจากรับผิดแทนแฮร์รี่ พอตเตอร์ โทษฐานก่อตั้งสมาคมขึ้นอย่างผิดกฎหมาย ในวันที่เกิดการต่อสู้ขึ้นที่กองปริศนา โดโลเรสได้จับตัวสมาชิกกองทัพดัมเบิลดอร์ ที่แอบลักลอบเข้ามาในห้องพักของเธอ เพื่อใช้เตาผิงเดินทางไปยังกระทรวงเวทมนตร์ สมาชิกที่ถูกจับได้ประกอบด้วย แฮร์รี่ พอตเตอร์, เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์, รอน วีสลีย์, จินนี่ วีสลีย์, เนวิลล์ ลองบัตท่อม และลูน่า เลิฟกู๊ด เมื่อโดโลเรสไต่สวนถึงสาเหตุและคนที่พวกเขากำลังติดต่อด้วย แฮร์รี่กลับไม่ยอมบอกข้อมูลอะไรแก่เธอ เธอจึงคิดจะใช้คำสาปกรีดแทง แต่ทว่าเฮอร์ไมโอนี่ได้ช่วยแฮร์รี่ไว้ ด้วยการหลอกล่อให้โดโลเรสให้ไปยังป่าต้องห้าม เพื่อหาอาวุธลับกองทัพดัมเบิลดอร์ แต่เมื่อไปถึงป่าต้องห้ามเธอกลับพบกับเซนทอร์ และด้วยความที่รังเกียจลูกครึ่งพันธุ์ผสม เธอจึงพูดจาดูถูกและเสกคาถาใส่เซนทอร์ จนพวกมันโกรธแล้วจับเธอไปทรมาน อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดดัมเบิลดอร์ก็ได้ไปช่วยโดโลเรสจากเซนทอร์ไว้ทันท่วงที สุดท้ายโดโลเรสได้ถูกปลดออกจากทุกตำแหน่งในฮอกวอตส์ หลังจากที่ฟัดจ์พบว่าเธอได้ใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ ซึ่งนับว่าช่วงเวลาหลังจากนั้นเป็นหนึ่งในหายนะครั้งใหญ่ของเธอก็ว่าได้

ต่อมาในยุคที่ลอร์ดโวลเดอมอร์หวนคืนสู่อำนาจอีกครั้ง โดโลเรสที่มีแนวคิดรังเกียจมักเกิ้ล ก็ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการการลงทะเบียนผู้ที่เกิดจากมักเกิ้ล โดยเธอได้ทำหน้าที่ในการสอบสวนพ่อมดแม่มดที่น่าสงสัยว่าเกิด และเกี่ยวข้องกับมักเกิ้ล ซึ่งผู้ที่ถูกสงสัยนั้นจะถูกนำตัวไปทรมาน คุมขัง และข่มขู่เพื่อสนองความต้องการของเธอเอง ต่อมาหลังการเสียชีวิตของอลาสเตอร์ มู้ดดี้ โดโลเรสได้แอบเอาตาวิเศษของแม้ด-อาย มู้ดดี้มาติดไว้ที่ประตูหน้าห้องทำงานเธอด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่กระทรวงเวทมนตร์หลายคนที่ทำงานอยู่ในนั้นหวาดกลัว ไม่นานนักโดโลเรสก็ได้ครอบครองล็อคเกตของสลิธีริน โดยใช้อำนาจยึดมาจากมันดังกัส เฟล็ทเชอร์ แต่ในภายหลัง ล็อคเกตนี้ได้ถูกขโมยไปด้วยฝีมือของแฮร์รี่กับเฮอร์ไมโอนี่ โดโลเรสไม่ได้เข้าร่วมต่อสู้ในสงครามฮอกวอตส์ อย่างไรก็ตามเธอถูกจับกุมที่คุกอัซคาบัน โทษฐานความผิดว่าด้วยการทรมานผู้บริสุทธิ์เป็นจำนวนมาก

ข้อมูลจาก Harry Potter Wiki

รวบรวมโดย ฮอกวอตส์ไทย (http://hogwartsthai.com)
หากนำข้อมูลนี้หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อมูลนี้ไปเผยแพร่ กรุณาให้เครดิตฮอกวอตส์ไทยด้วย