อัลบัส ดัมเบิลดอร์ (Albus Dumbledore) พ่อมดร่างสูงผอม ผมและเครายาวสีเงิน ดวงตาสีฟ้าสดใส สวมแว่นตารูปครึ่งวงพระจันทร์ ได้รับการยกย่องให้เป็นอัจฉริยะทางด้านเวทมนตร์ และ “พ่อมดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล”
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ – นามสกุล : อัลบัส เพอซิวาล วูลฟริก ไบรอัน ดัมเบิลดอร์ (Albus Percival Wulfric Brian Dumbledore)
วัน เดือน ปีเกิด : เกิดในช่วงหน้าร้อนของปี ค.ศ. 1881 วันและเดือนไม่เป็นปรากฎข้อมูลแน่ชัด
สถานะทางเลือด : เลือดผสม (Half-blood)
ไม้กายสิทธิ์ : ไม้เอลเดอร์ ยาว 15 นิ้ว แกนกลางขนหางเธสตรอล
บ้านในฮอกวอตส์ : กริฟฟินดอร์
ผู้พิทักษ์ : นกฟีนิกซ์
บ็อกการ์ด : ศพของน้องสาว (แอรีอานนา)
ประวัติส่วนตัว
อัลบัส ดัมเบิลดอร์ (Albus Dumbledore) เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1881 ที่หมู่บ้านโมลด์ออนเดอะเวิล์ด เป็นลูกชายคนโตของ เพอร์ซิวาลและเคนดรา ดัมเบิลดอร์ (Percival , Kendra Dumbledore) มีพี่น้องอีก 2 คน คือ อาเบอร์ฟอร์ธ และ แอรีแอนนา (Aberforth , Ariana Dumbledore)
ในชีวิตวัยเด็กของอัลบัส นั้นเต็มไปด้วยโศกนาฏกรรม พ่อของเขา เพอร์ซิวาล ถูกคุมขังที่คุกอัซคาบันในข้อหาทำร้ายเด็กชายมักเกิ้ล และเสียชีวิตลงที่นั่น ภายหลังครอบครัวดัมเบิลดอร์จึงได้ย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านก็อดดริกส์โฮลโล่
ต่อมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี ค.ศ. 1892 อัลบัส เข้าเรียนที่ฮอกวอตส์เป็นปีแรก แม้สิ่งที่เกิดขึ้นกับพ่อของเขาจะทำให้นักเรียนคนอื่นๆมองเขาในทางลบ แต่ด้วยความสามารถและพรสวรรค์อันยอดเยี่ยม ทำให้เขาถูกจดจำในฐานะนักเรียนที่เฉลียวฉลาดที่สุดเท่าที่ฮอกวอตส์เคยมีมา และในตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่ฮอกวอตส์ เขาได้รับรางวัลและเกียรติยศต่างๆมากมายเช่น การเป็นผู้ชนะการแข่งขันการเสกคาถาดีเลิศของ บาร์นาบัส ฟิงก์ลีย์, การได้เป็นตัวแทนเยาวชนอังกฤษของศาลสูงวิเซ็นกาม็อต, การทำหน้าที่เป็นพรีเฟ็ค และ การดำรงตำแหน่งเป็นประธานนักเรียนชาย นอกจากนี้ เขายังได้รับเหรียญทองจากงานประชุมนักเล่นแร่แปรธาตุนานาชาติ กรุงไคโรอีกด้วย
อัลบัส ดัมเบิลดอร์เริ่มติดต่อคบหากับผู้วิเศษที่มีชื่อเสียงมากมายเช่น นิโคลัส แฟลมเมล นักเล่นแร่แปรธาตุผู้มีชื่อเสียง, บาธิลดา แบ็กช็อต นักประวัติศาสตร์เวทมนตร์ที่มีชื่อเสียง และ กริเซลด้า มาร์ชแบงส์ หัวหน้ากองการจัดสอบพ่อมดแม่มด สมาชิกอาวุโสของสภาพ่อมด
ในเดือนมิถุนายนปี ค.ศ. 1899 อัลบัสจบการศึกษาจากฮอกวอตส์ และวางแผนที่จะเดินทางเที่ยวรอบโลก แต่การเสียชีวิตของ เคนดรา ดัมเบิลดอร์ แม่ของเขา ทำให้เขาต้องเดินทางกลับมายังก็อดดริกส์โฮลโล่และรับหน้าที่หัวหน้าครอบครัว ดูแล อาเบอร์ฟอร์ธ และ แอรีแอนนา นับตั้งแต่วันนั้น และเป็นช่วงเวลานี้เองที่เขาได้รู้จักกับ หลานชายของ บาธิลดา แบ็กช็อต ผู้เป็นเพื่อนบ้านของเขา เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ เด็กหนุ่มที่มีพรสวรค์และความสามารถด้านเวทมนตร์ไม่ต่างไปจากตัวเขา และด้วยวัยที่ไล่เลี่ยกัน อัลบัสและกรินเดลวัลด์สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว ทั้งคู่มีแนวคิดที่ตรงกัน ในการมุ่งเน้นการทำเพื่อประโยชน์สุขของคนส่วนใหญ่ และยังมีความสนใจในเรื่องเครื่องรางยมทูตเหมือนๆกัน ทั้งคู่วางแผนออกตามหาเครื่องรางยมทูต
อัลบัส ละทิ้งหน้าที่ผู้นำครอบครัว เกิดการทะเลาะโต้เถียงกับอาเบอร์ฟอร์ธ น้องชาย เรื่องราวลุกลามไปสู่การต่อสู้ระหว่างกรินเดลวัลด์และอาเบอร์ฟอร์ธ อัลบัสพยายามห้ามปราม ทั้งสามได้ต่อสู้กัน ลำแสงและเสียงระเบิดจากคาถาได้ดังไปทั่วทั้งห้อง และท้ายที่สุด แอรีอานนา เสียชีวิตไปในเหตุการณ์นี้
การตายของแอรีอานนาทิ้งบาดแผล และก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างอัลบัสและอาเบอร์ฟอร์ธ นับตั้งแต่วันนั้น ส่วนกรินเดลวัลด์ก็หายตัวไป พร้อมกับแผนการยึดอำนาจ ทรมานพวกมักเกิ้ล และความฝันเรื่องเครื่องรางยมทูต ละทิ้งให้ อัลบัส จมอยู่กับความรู้สึกผิด ความโศกเศร้าและความละอายใจต่อตนเอง
อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ตัดสินใจกลับไปยังฮอกวอตส์อีกครั้ง ในฐานะอาจารย์วิชาแปลงร่าง ในช่วงปี ค.ศ. 1910 หนึ่งในนักเรียนของเขาอย่าง นิวท์ สคามันเดอร์ นักเรียนมากพรสวรรค์จากบ้านฮัฟเฟิลพัฟ ถูกไล่ออกจากการที่เขาทำการทดลองกับสัตว์วิเศษจนผิดพลาด ทำให้ชีวิตของนักเรียนคนหนึ่งตกอยู่ในอันตราย แม้ว่าอัลบัส พยายามปกป้องสคามันเดอร์ แต่อำนาจของเขาในตอนนั้นก็ไม่สามารถคัดค้านการไล่นักเรียนคนโปรดคนนี้ออกได้
ตลอดช่วงที่อัลบัสเป็นอาจารย์คอยสอนวิชาความรู้ให้กับพ่อมดแม่มดรุ่นเยาว์ กรินเดลวัลด์เองก็เริ่มแผ่ขยายอำนาจและสร้างอิทธิพลไปทั่วยุโรป แม้อัลบัสจะรู้อยู่แก่ใจว่า วันที่เขาต้องเผชิญหน้ากับกรินเดลวัลด์อีกครั้งจะต้องมาถึง แต่เขาก็ถ่วงเวลาไว้ได้นานกว่าห้าปี เนื่องจากความหวาดกลัวในใจของอัลบัสที่มีต่อกรินเดลวัลด์ ไม่ใช่ว่าเขากลัวว่าจะพ่ายแพ้ พวกเขาต่างรู้ดีว่าทั้งคู่นั้นมีฝีมือที่ไม่ห่างกันมาก หากแต่เป็นความจริงต่างหากที่ทำให้อัลบัสรู้สึกกลัว ความจริงจากการต่อสู้ที่นำไปสู่การตายของแอรีอานนา อัลบัสกลัวความจริงที่ว่าเขาอาจเป็นคนเสกคำสาปที่ปลิดชีพน้องสาวของตัวเอง ความหวาดกลัวในข้อนี้ทำให้อัลบัสประวิงเวลาที่จะไม่เผชิญหน้ากับกรินเดลวัลด์โดยตรง ในที่สุดหลังจากปล่อยให้กรินเดลวัลด์สร้างอำนาจอยู่ยาวนาน อัลบัสที่ทนกับแรงกดดันจากผู้คนรอบข้างและความอัปยศต่อไปอีกไม่ไหว ประกอบกับการที่มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมากขึ้นทุกขณะ ทำให้อัลบัสจึงต้องออกมาทำในสิ่งที่เขาควรทำมานาน อย่างการเผชิญหน้ากับกรินเดลวัลด์ การประลองเวทย์ระหว่างสองพ่อมดจึงเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1945 ผลสุดท้ายคืออัลบัสได้รับชัยชนะ และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ก็ได้ถูกบันทึกไว้ในหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์เวทมนตร์ นำมาซึ่งการมอบเหรียญตราแห่งเมอร์ลินชั้นหนึ่ง ส่วนกรินเดลวัลด์นั้น ถูกจองจำไว้ในคุกนูเมนการ์ดที่เขาสร้างขึ้นตลอดช่วงชีวิตที่เหลืออยู่
หลังจากปราบกรินเดลวัลด์ลงได้ อัลบัสได้ถูกเสนอชื่อให้เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์หลายต่อหลายครั้ง แต่เขากลับปฏิเสธไปทุกครั้ง เขาให้เหตุผลว่าตัวเขาเองไม่สมควรได้ครอบครองอำนาจอีก อันเนื่องจากเหตุการณ์ในอดีต สอนเขาว่าอำนาจนั้นเป็นจุดอ่อนของเขา และเป็นเครื่องล่อใจให้เขาหลงผิดได้ง่ายดาย ฉะนั้นเขาจึงทุ่มเทชีวิตที่เหลือให้กับการเป็นอาจารย์ที่ฮอกวอตส์ ซึ่งตำแหน่งสูงสุดในชีวิตที่เขาต้องการมีเพียงอย่างเดียว ก็คือการได้ขึ้นเป็นอาจารย์ใหญ่ของฮอกวอตส์
ในระหว่างที่อัลบัส ดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ เขาเปิดรับนักเรียนมากมาย ปราศจากการแบ่งเชื้อสายและสายเลือด แตกต่างจากอาจารย์ใหญ่ท่านก่อนๆ และเขายังถูกยกย่องว่าเป็น อาจารย์ใหญ่ที่ดีที่สุดของฮอกวอตส์
อัลบัส ดัมเบิลดอร์ได้รับการยอมรับว่าเป็นพ่อมดที่มีพลังอำนาจมาก และเป็นเพียงคนเดียวที่ ลอร์ด โวลเดอมอร์ หวาดกลัว แม้แต่ในช่วงที่ ลอร์ดโวลเดอมอร์เรืองอำนาจ ฮอกวอตส์ไม่เคยถูกบุกรุกเลย นั่นทำให้ฮอกวอตส์คือที่ที่ปลอดภัยเสมอ ตราบใดที่มีดัมเบิลดอร์ยังอยู่ นอกจากนั้น เขายังเป็นผู้ก่อตั้ง ภาคีนกฟีนิกซ์ องค์กรที่ต่อต้านเหล่าผู้เสพความตายของโวลเดอมอร์อีกด้วย
ความสามารถพิเศษของอัลบัส ดัมเบิลดอร์มีเหลือคณานับ นอกจากพลังอำนาจที่เหนือธรรมดาแล้ว เขายังเชี่ยวชาญเรื่องการอ่านใจคน สามารถใช้คาถาได้โดยไม่ต้องเปล่งเสียง และยังสามารถสื่อสารกับสัตว์และชนเผ่าต่างๆได้ เช่น นกฟีนิกซ์ และ ชาวเงือก
