แนวซุปเปอร์ฮีโร่/ดราม่า/ไซไฟ
เรท 18+ (ฉากรุนแรงค่อนข้างเยอะ)
ดูได้ทาง Netflix
ปัจจุบันมีทั้งหมด 2 ซีซั่น (ยังไม่จบ)
เรื่องย่อ : ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กที่มีพลังพิเศษทั้ง7คนซึ่งถูกรับไปเลี้ยงดู โดยเศรษฐีชราคนหนึ่งและถูกฝึกให้ใช้พลังพิเศษของพวกเขาในการช่วยเหลือผู้คน จนกลายเป็น 'กลุ่มซุปเปอร์ฮีโร่เด็ก' ที่โด่งดังและใครๆก็รู้จักในนาม ดิ อัมเบรลล่า อะคาเดมี แต่ทว่าอนาคตของซุปเปอร์ฮีโร่เด็กทั้ง7 กลับไม่ได้ถูกโรยไปด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่ผู้คนคาดหวังไว้...พวกเขาเปราะบาง แตกต่าง มีปัญหาทางจิตใจในรูปแบบที่ต่างกันออกไป เหมือนดั่งเช่นพลังพิเศษของพวกเขาที่ไม่เหมือนกัน เมื่อเติบโตขึ้นชื่อของซุปเปอร์ฮีโร่จึงเลือนหายไปจากตัวตนและจิตใจของพวกเขา ฮีโร่น้อยทั้ง7ต่างแยกย้ายกันไปเติบโตในทางของตนเอง ก่อนจะถูกดึงกลับมารวมตัวกันอีกครั้งหนึ่งหลายปีต่อมา เพื่อที่จะต้องหยุดยั้งหายนะวันสิ้นโลกที่กำลังจะเกิดขึ้น...ดิ อัมเบรลล่า อะคาเดมี ต้องร่วมกันกอบกู้โลกอีกครั้งภายใต้ความบาดหมางระหว่างพี่น้อง รวมถึงปัญหาพัวพันต่างๆของแต่ละคนที่เข้ามารุ้มเร้า..
Review
ซีรีย์เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งสำหรับเราที่ครบทุกรสและหลากอารมณ์มากๆ... เมื่อนึกถึงซีรีย์ซุปเปอร์ฮีโร่ หลายๆ
คนอาจจะนึกถึงการกอบกู้โลก ความสามัคคี การเสียสละ หรือฉากแอคชั่นมันส์ๆ ฉากธรรมะชนะอธรรมในตอน
จบ แต่สำหรับThe Umbrella academy ตัวซีรีย์ได้นำเสนอแง่มุมอีกแง่มุมหนึ่งที่ล้ำลึกไปกว่านั้น ทางคนเขียนบท
ได้นำเสนอแง่มุมที่เป็น 'มนุษย์'ของเหล่าฮีโร่ให้เราได้สัมผัส...ตัวละครหลักทั้ง7ของเราต่างมีแง่มุมที่ผิดพลาด ล้ม
เหลว ถูกหลอก หรือแม้กระทั่งมุมเห็นแก่ตัวซึ่งออกจะขัดแย้งกับภาพลักษณ์ของเหล่าฮีโร่ ที่จะต้องเป็นคน
'เสียสละ' อยู่ตลอดเวลา
ตัวซีรีย์ได้สะท้อนออกมาตลอดเรื่อง ว่าหากคนที่เป็นมนุษย์จริงๆถูกจับไปฝึกให้ทำร้ายผู้คนแต่เด็ก จับโจรแต่
เด็ก...มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะฮีโร่แต่เด็ก อะไรจะเกิดขึ้นกับผู้คนเหล่านี้บ้าง พวกเขาจะออกมาเป็นฮีโร่ผู้สมบูรณ์
แบบแบบในการ์ตูนจริงหรือ? หรือจะแตกสลายเป็นเสี่ยงๆจากการที่ไม่ได้เติบโตมาอย่างเด็กปกติกัน
แน่?...สำหรับเราซีรีย์เล่นประเด็นนี้ไว้ได้ดีมากๆ
แต่นอกจากประเด็นดราม่าแล้ว The Umbrella academyยังไม่ได้มีดีแค่เล่นเรื่องดราม่าอย่างเดียว... แต่ฉาก
แอคชั่นก็มันส์ดุเดือดมากด้วยเช่นกันโดยทุกซีซั่นของซีรีย์จะต้องมีฉาก
บู๊ล้างผลาญให้คนดูและนักวิจารณ์ต้องเอามาพูดถึงอยู่เสมอ โดยฉากบู๊ที่เป็นภาพจำนั้นก็ทำได้ตราตรึงไม่แพ้
เนื้อเรื่องเลย ทางทีมงานดึงเอกลักษณ์ของพลังพิเศษแต่ละคนออกมาใช้ได้ดีมากๆ
...ส่วนเรื่องงานภาพไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ เพราะทีมงานพิถีพิถันกับงานภาพซีรีย์เรื่องนี้มาก ทั้งสไตล์การ
ดำเนินเรื่อง การคุมมู้ดโทน เรียกว่าพาเลทสีที่ใช้คุมโทนตัวซีรีย์สวยและเข้ากับเนื้อเรื่องหม่นๆเอามากๆ
แล้วก็ในบางครั้งการถ่ายฉากแต่ละฉากก็แฝงมุกตลกจิกกัดเอาไว้อย่างแยบยลด้วยค่ะ
...
ใครที่เคยดูซีรีย์เรื่องนี้ หรือเคยเห็นผ่านๆคงจะรู้แล้วใช่ไหมล่ะคะว่าอีกสาเหตุนึงที่ทำให้ซีรีย์เรื่องนี้
เป็นที่พูดถึงขอคอซีรีย์ฮีโร่เอามากๆก็คือเรื่อง 'การใส่เพลง' ที่มาได้โดนมากๆ เรียกได้ว่าทีมงานพิถีพิถันกับซีรีย์
เรื่องนี้ตั้งแต่การถ่ายภาพ การเลือกมุมกล้อง แม้กระทั่งเพลงประกอบแต่ละฉากยังเลือกมาเป็นอย่างดี... ทุกครั้งที่
ซีรีย์ปล่อยออกมาก็จะมีแฟนๆจำนวนไม่น้อยเรียกร้องให้ทางofficialช่วยรวม
เพลลิสต์ซาวด์แทรกไว้ให้ทีเถอะ เพราะเพลงแต่ละเพลงมันโดนมากๆ ส่วนตัวเราชอบที่ทางทีมงานไม่ได้เลือกเพลง
ฮิต เพลงในกระแส หรือเพลงเก่าๆที่ดังๆมาใช้ประกอบฉากอย่างเดียว แต่ทางทีมงานขยันเฟ้นหาเพลงcoverดีๆ
มาใช้ในเรื่องด้วย เรียกได้ว่าเป็นการช่วยให้เจ้าของเพลงcoverนั้นๆกลายเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นไปอีก
...
ในวันนี้เราขออวยยศซีรีย์เรื่องนี้ไว้แต่เพียงเท่านี้ค่ะ ใครที่อ่านบทความของเราแล้วสนใจสามารถตามหาดูได้ทางNetflixเลยนะคะ (แอบกระซิบว่าซีซั่น3จะมาเดือนมิถุนายนนี้ด้วย) สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบค่ะ555
9.5 / 10
🎞
คนอาจจะนึกถึงการกอบกู้โลก ความสามัคคี การเสียสละ หรือฉากแอคชั่นมันส์ๆ ฉากธรรมะชนะอธรรมในตอน
จบ แต่สำหรับThe Umbrella academy ตัวซีรีย์ได้นำเสนอแง่มุมอีกแง่มุมหนึ่งที่ล้ำลึกไปกว่านั้น ทางคนเขียนบท
ได้นำเสนอแง่มุมที่เป็น 'มนุษย์'ของเหล่าฮีโร่ให้เราได้สัมผัส...ตัวละครหลักทั้ง7ของเราต่างมีแง่มุมที่ผิดพลาด ล้ม
เหลว ถูกหลอก หรือแม้กระทั่งมุมเห็นแก่ตัวซึ่งออกจะขัดแย้งกับภาพลักษณ์ของเหล่าฮีโร่ ที่จะต้องเป็นคน
'เสียสละ' อยู่ตลอดเวลา
ตัวซีรีย์ได้สะท้อนออกมาตลอดเรื่อง ว่าหากคนที่เป็นมนุษย์จริงๆถูกจับไปฝึกให้ทำร้ายผู้คนแต่เด็ก จับโจรแต่
เด็ก...มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะฮีโร่แต่เด็ก อะไรจะเกิดขึ้นกับผู้คนเหล่านี้บ้าง พวกเขาจะออกมาเป็นฮีโร่ผู้สมบูรณ์
แบบแบบในการ์ตูนจริงหรือ? หรือจะแตกสลายเป็นเสี่ยงๆจากการที่ไม่ได้เติบโตมาอย่างเด็กปกติกัน
แน่?...สำหรับเราซีรีย์เล่นประเด็นนี้ไว้ได้ดีมากๆ
แต่นอกจากประเด็นดราม่าแล้ว The Umbrella academyยังไม่ได้มีดีแค่เล่นเรื่องดราม่าอย่างเดียว... แต่ฉาก
แอคชั่นก็มันส์ดุเดือดมากด้วยเช่นกันโดยทุกซีซั่นของซีรีย์จะต้องมีฉาก
บู๊ล้างผลาญให้คนดูและนักวิจารณ์ต้องเอามาพูดถึงอยู่เสมอ โดยฉากบู๊ที่เป็นภาพจำนั้นก็ทำได้ตราตรึงไม่แพ้
เนื้อเรื่องเลย ทางทีมงานดึงเอกลักษณ์ของพลังพิเศษแต่ละคนออกมาใช้ได้ดีมากๆ
...ส่วนเรื่องงานภาพไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ เพราะทีมงานพิถีพิถันกับงานภาพซีรีย์เรื่องนี้มาก ทั้งสไตล์การ
ดำเนินเรื่อง การคุมมู้ดโทน เรียกว่าพาเลทสีที่ใช้คุมโทนตัวซีรีย์สวยและเข้ากับเนื้อเรื่องหม่นๆเอามากๆ
แล้วก็ในบางครั้งการถ่ายฉากแต่ละฉากก็แฝงมุกตลกจิกกัดเอาไว้อย่างแยบยลด้วยค่ะ
...
ใครที่เคยดูซีรีย์เรื่องนี้ หรือเคยเห็นผ่านๆคงจะรู้แล้วใช่ไหมล่ะคะว่าอีกสาเหตุนึงที่ทำให้ซีรีย์เรื่องนี้
เป็นที่พูดถึงขอคอซีรีย์ฮีโร่เอามากๆก็คือเรื่อง 'การใส่เพลง' ที่มาได้โดนมากๆ เรียกได้ว่าทีมงานพิถีพิถันกับซีรีย์
เรื่องนี้ตั้งแต่การถ่ายภาพ การเลือกมุมกล้อง แม้กระทั่งเพลงประกอบแต่ละฉากยังเลือกมาเป็นอย่างดี... ทุกครั้งที่
ซีรีย์ปล่อยออกมาก็จะมีแฟนๆจำนวนไม่น้อยเรียกร้องให้ทางofficialช่วยรวม
เพลลิสต์ซาวด์แทรกไว้ให้ทีเถอะ เพราะเพลงแต่ละเพลงมันโดนมากๆ ส่วนตัวเราชอบที่ทางทีมงานไม่ได้เลือกเพลง
ฮิต เพลงในกระแส หรือเพลงเก่าๆที่ดังๆมาใช้ประกอบฉากอย่างเดียว แต่ทางทีมงานขยันเฟ้นหาเพลงcoverดีๆ
มาใช้ในเรื่องด้วย เรียกได้ว่าเป็นการช่วยให้เจ้าของเพลงcoverนั้นๆกลายเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นไปอีก
...
ในวันนี้เราขออวยยศซีรีย์เรื่องนี้ไว้แต่เพียงเท่านี้ค่ะ ใครที่อ่านบทความของเราแล้วสนใจสามารถตามหาดูได้ทางNetflixเลยนะคะ (แอบกระซิบว่าซีซั่น3จะมาเดือนมิถุนายนนี้ด้วย) สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบค่ะ555
9.5 / 10
🎞
© Jx
code by Jaxton Panzias