ช่วยเหลือ - ค้นหาข้อมูล - รายชื่อสมาชิก - ปฏิทิน
อ่านเว็บบอร์ดในเวอร์ชั่นเต็ม : 17 ข้อที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับ Thor: The Dark World
HOGWARTS THAI - ฮอกวอตส์ไทย > นอกเรื่อง > ภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศ
Alexander McLaggen

Thor: The Dark World






ในปี 1962 แสตน ลีและแจ็ค เคอร์บี้ ได้แนะนำ "ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า" ให้ผู้อ่านมาร์เวล คอมิกส์ได้รู้จัก
เป็นการเปิดศักราชใหม่ของการ์ตูนแอ็กชันผจญภัยด้วย เรื่องราวเทพเจ้านอร์ส
ผู้มีค้อนเป็นอาวุธของพวกเขา แม้ว่าชื่อต่างๆ จะเป็นแบบสแกนดิเนเวียน แต่เรื่องราวนี้ก็มีรากฐานบนความขัดแย้งที่เราคุ้นเคยกันดี
และมีความเป็นสากล ซึ่งเป็นตัวผลักดันให้เกิดดรามาของเหล่ามนุษย์ขึ้นนับตั้งแต่ยุคเริ่มแรก
นั่นคือลูกชายผู้รู้สึกอดรนทนไม่ไหวที่จะพิสูจน์ตัวเองกับบิดาของเขา น้องชายที่มีความโกรธ
ขึ้งอย่างน่ากลัว และหญิงสาวผู้ทำให้ชายผู้นี้ได้มองเห็นโลกในมุมใหม่ หลังจากความสำเร็จระดับโลกของภาพยนตร์
เรื่อง Thor ทีมผู้สร้างก็ล้วงลึกเข้าไปในคลังตำนานเทพปกรณัมนอร์สและประวัติศาสตร์ของการ์ตูน
เรื่องนี้อีกครั้งเพื่อสร้าง Thor: The Dark World

ซึ่งได้หยิบยกธีมที่มีความเป็นสากลและเป็นที่คุ้นเคยมาใช้อีกครั้ง ด้วยการนำเอาหน้าที่และความภักดี
ต่อครอบครัวมาขัดแย้งกับความปรารถนาส่วนตัวและความรัก ในเรื่องนี้ โลกของเราต้องเผชิญกับศัตรู
ที่เราคิดว่าตายจากไปเนิ่นนานแล้ว แต่บัดนี้ ศัตรูผู้นั้นกลับกำลังคุกคามการดำรงอยู่ของจักรวาลใบนี้
ในการสร้างภาพยนตร์ภาคต่อเรื่องนี้มีเกร็ดสนุกๆ มากมาย และทางดิสนี่ย์ประเทศไทยก็ส่งมอบมาให้
ทางเราช่วยเผยแพร่ต่อครับ เพื่อให้รับรู้ถึงเบื้องหลังงานสร้างว่ากว่าจะเห็นอย่างที่เราเห็นกันนั้น
มีอะไรน่าสนใจอยู่บ้าง สรุปเป็น 17 ข้อได้ดังนี้ครับ

1. ใน Thor: The Dark World มีการพูดถึงดินแดนอีกเก้าแห่ง
เพื่อให้เราได้เข้าใจถึงประวัติศาสตร์และความซับซ้อนในจักรวาลของธอร์ได้ดียิ่งขึ้น
ดินแดนทั้งเก้านั้นถูกนำมาจากเทพปกรณัมนอร์สและอ้างถึงโลกทั้งเก้า
ที่ได้รับการค้ำจุนจาก อิกดราซิล ต้นแอชขนาดมหึมา ซึ่งเป็นศูนย์กลางของจักรวาลนอร์ส
แอสการ์ดถูกพูดถึงว่าอยู่บนสุด และโลก หรือมิดการ์ด จะอยู่ตรงกลาง ใน Thor ภาคแรก
อิกดราซิลถูกพูดถึงว่าเป็นโครงสร้างที่ถูกสร้างขึ้นจากรูหนอน ที่เชื่อมโยงโลก (ดินแดน) ทั้งเก้าเข้าไว้ด้วยกัน
2. ฉากเมดินา/ท้องถนนของดินแดนแอสการ์ดเป็นฉากที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการสร้างขึ้น
สำหรับภาพยนตร์มาร์เวล เราสามารถเดินตามท้องถนนของดินแดนแอสการ์ดและเห็นร้านค้า ผับและสนามฝึกได้
3. ทีมงานกล้องจากอากาศบินไปน้ำตกเด็ตติฟอสในไอซ์แลนด์ (น้ำตกที่มีความแรงที่สุดในยุโรป) เพื่อถ่ายทำภาพน้ำที่ไหลลงมาจากทุกมุม
เพื่อที่จะสามารถเรนเดอร์ภาพน้ำตกที่โอบล้อมแอสการ์ดได้อย่างสมจริง โดยให้คอมพิวเตอร์จำลองโลกใบนั้นขึ้นมา
4. การถ่ายทำในไอซ์แลนด์รวมถึงโลเกชันห่างไกล ที่ทีมงานจะต้องขับรถจากสนามบินนานหลายชั่วโมงกว่าจะถึงโรงแรมที่พัก
จากนั้น เพื่อให้ได้ฉากของทุ่งขี้เถ้าภูเขาไฟ ที่ถูกใช้แทนเดอะ ดาร์ค เวิลด์ พวกเขาก็ต้องขับรถออกไปอีกสองชั่วโมง
5. หากมองใกล้ๆ ไปที่ของประดับตกแต่งฉากอพาร์ทเมนต์ที่ลอนดอนของเจน ฟอสเตอร์ เราจะเห็นโน้ตดนตรีบนเปียโนที่เขียนว่า "ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า"
6. ภาพของเจน ฟอสเตอร์ตอนเด็กๆ ในฉากอพาร์ทเมนต์ได้มาจากแม่ของนาตาลี พอร์ตแมน
ผู้เก็บรวบรวมแฟ้มที่เต็มไปด้วยภาพของนาตาลีในวัยต่างๆ สำหรับโอกาสแบบนี้
7. มีการสร้างค้อนที่มีน้ำหนักหลากหลายขึ้นมา 30 อันเพื่อให้ธอร์ใช้ในวัตถุประสงค์ต่างๆ กัน ค้อนหลักจะสร้างขึ้นจากอลูมิเนียม
แต่มันก็จะถูกจำลองออกมาด้วยวัตถุดิบและน้ำหนักที่แตกต่างกัน ซึ่งรวมถึง เวอร์ชันสตันท์ "นุ่มๆ" ด้วย
8. แบบดีไซน์ของโยเนียร์ ค้อนของธอร์ ถูกเปลี่ยนแปลงจากเวอร์ชันที่ธอร์ถือใน Marvel's The Avengers
โดยค้อนอันใหม่จะให้ความรู้สึกของประวัติศาสตร์เก่าแก่มากกว่า และด้ามจับก็จะใกล้เคียงกับค้อนที่ธอร์ใช้ใน Thor มากกว่า
9. ถ้อยคำที่สลักบนค้อนของธอร์ ซึ่งเป็นอัขระนอร์ส แปลได้ความว่า "ใครก็ตามที่ถือครองค้อนนี้ หากเขาผู้นั้นคู่ควร จะได้ครองพลังแห่งธอร์"
10. แบร์รี กิ๊บส์ หัวหน้าฝ่ายอุปกรณ์ประกอบฉากและทีมงานช่างเทคนิค 18 ชีวิตของเขา
ได้ออกแบบ/สร้างอาวุธ 140 ชิ้นขึ้นภายใน 10 สัปดาห์ แล้วก็ต้องสร้างอาวุธแต่ละแบบขึ้นมาอีกสี่ชิ้น
เพื่อให้ผู้รุกรานได้มีอาวุธใช้ทั้งหมด 516 ชิ้นในฉากสงคราม ซึ่งหลังจากนั้น
เขาก็ต้องไปทำอาวุธหลักให้กับทั้งธอร์, โอดิน, โวลสแต็กก์, เฮมดัลล์, ซิฟ และ ฯลฯ อีก
11. ธอร์และโอดินต่างก็มีชุดอยู่แบบเดียว แต่ธอร์ก็ต้องใช้ชุดทั้งหมด 15 ชุดเพราะเขาแสดงฉากแอ็กชันและสตันท์มากมายหลายฉาก
12. เดวิด ไวท์ ผู้ออกแบบดาร์คเอลฟ์และเอฟเฟ็กต์ชิ้นส่วนเทียมใน Thor: The Dark World
ได้ออกแบบและสร้างชุด 40 ชุดให้กับดาร์คเอลฟ์ โดยอาศัยช่างเทคนิค 100 ชีวิตตลอดระยะเวลากว่า 3 ฝ เดือน ลุคที่แปลกประหลาด
ของพวกเขาได้มจากชาติพันธุ์ที่หลากหลายและองค์ประกอบจากชนเผ่าต่างๆ
13. ทีมสตันท์และตัวประกอบที่รับบทดาร์คเอลฟ์จะต้องผ่านช่วงเวลาฝึกที่พวกเขาจะต้องฝึก
ยืนตัวตรงอย่างสง่าผ่าเผยเพราะพวกดาร์คเอลฟ์ถูกวาดภาพเอาไว้ว่าจะต้องเป็นเผ่าพันธุ์
ที่ทรงเกียรติ เดวิด ไวท์ ผู้ออกแบบชิ้นส่วนเทียม ได้มีส่วนช่วยด้วยการออกแบบหมวกเกราะ
เพื่อที่จะได้มีการดึงระดับสายตาลงเล็กน้อย ทำให้นักแสดงจะต้องเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย
ซึ่งก็ทำให้พวกเขาให้ความรู้สึกของความหยิ่งทะนง และแข็งแกร่ง
14. ทั้งคริสโตเฟอร์ เอคเคิลสตันและอเดวาลเล แอคคินอย-อัคบาเจ ผู้รับบทดาร์คเอลฟ์ มาเลคิธและอัลกริม ตามลำดับ
ต้องจดจำบทพูดของพวกเขาที่เขียนเป็นภาษาเอลฟ์ ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเฉพาะ
15. ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำระหว่างเดือนตุลาคมและเดือนธันวาคม ปี 2012 ที่เชพเพอร์ตัน สตูดิโอส์ในประเทศอังกฤษ
โดยมีโลเกชันหลักอยู่ในลอนดอน ทั้งกรีนนิช, เวมบ์ลีย์, วิหารเซนต์ปอล, ตลาดโบโรห์และเฮย์ส
รวมถึงป่าบอร์นในเซอร์รีย์และสโตนเฮนจ์ในวิทช์ไชร์ สำหรับลุคของ สวาร์ทาล์ฟเฮม โลกของดาร์คเอลฟ์
ทีมผู้สร้างได้เลือกใช้ไอซ์แลนด์เนื่องด้วยภูมิประเทศแบบภูเขาไฟที่ดำทะมึนของมัน
16. ก่อนหน้าที่จะส่งเฮลิคอปเตอร์ไปถ่ายทำกรีนนิชที่เก่าแก่ ในประเทศอังกฤษ ในเช้าวันอาทิตย์ที่เงียบสงบ
ทีมงานฝ่ายโลเกชันได้หย่อนจดหมาย 4,000 ฉบับลงในบริเวณดังกล่าว โดย 2,000 ฉบับถูกหย่อนลงที่ฟากหนึ่งของแม่น้ำ
และอีก 2,000 ฉบับที่อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำ เพื่ออธิบายให้ชาวบ้านเข้าใจถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
17. การถ่ายทำที่สโตนเฮนจ์ สถานที่โด่งดังทางประวัติศาสตร์ กลายเป็นเรื่องท้าทาย หลังจากได้รับอนุญาตจากอิงลิช แฮริเทจ
ในท้ายที่สุด ทีมผู้สร้างก็พบว่าการถ่ายทำที่นั่นต้องมีกฎ ข้อบังคับมากมาย พวกเขาจะไปอยู่ใจกลางของเสาหินได้นอกเวลาท่องเที่ยวตามปกติเท่านั้น
ดังนั้น การถ่ายทำก็จะต้องเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เช้าก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่
จะเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว ซึ่งทำให้ทีมงานมีเวลาเพียงสามชั่วโมงก่อนที่พวกเขา
จะต้องถอยห่างเพื่อถ่ายทำช็อตในมุมกว้าง เมื่อสถานที่แห่งนี้เปิดกว้างต้อนรับผู้มาเยือน ด้วยความที่มันเป็นสถานที่อนุรักษ์
ก็เลยไม่มีใครได้รับอนุญาตให้แตะต้องหินหรือเดินบนหินเหล่านั้น ดังนั้น จะต้องมีการใช้เรื่องของโลจิสติกมากมายเข้ามาช่วยในการถ่ายทำที่นั่น


°´ ▧ Credit & News From : www.jediyuth.com
°´ ▧ Translated & Posted : Alexander McLaggen @ Hogwartsthai.com


WindRunner Inw

ข้อมูลแน่นมาก วันนี้ไปดูมาแย้ววว มันส์มากก
The Crooked Man
มีการถ่ายน้ำตกเด็ตติฟอส ที่ไอซ์แลนด์ด้วยผมชอบมากๆ ต้องไปหาดูแล้วล่ะ
Erekia Seere Almaecious
ฉากน้ำตกเป็นอะไรที่อลังมาก โดยเฉพาะฉากที่ปล่อยเรือพระศพของฟริกกา หดหู่แต่ก็งดงาม
บางซีนสะเทือนอารมณ์ บางซีนก็ทำให้หัวเราะ แต่หัวเราะแบบเศร้าๆ ทอมแสดงได้ดีมาก ถึงจะเลวยังไงก็รักนะ <3
ตอนที่โลกิถูกแทง ใจหล่นไปที่ตาตุ่ม คิดในใจ อ้าว นี่เอ็งจะตายง่ายๆ แบบนี้เลยเร๊อะ ตอนจบเฉลยยังเห็นนั่งยิ้มอยู่ ฟู่ว
ถ้าโลกิตายจริงภาคหน้านี่ไม่ไปดูด้วย (เดาจากปริศนาที่ยังคาราคาซัง คาดว่าน่าจะมี ธอร์ 3 อีกแน่นอน)
สงสารธอร์ สงสารโลกิ หมั่นไส้โอดิน เห็นใจฟริกกา นังเจนนี่ไปไกลๆ เลย (อยากให้พี่น้องเค้าจิ้นกันนางมาเป็น กขค. ซะงั้นนะ)
ดร.อีริคก็รั่วได้อีก แกโคตรทุ่มทุนเล่นจริงทุ่มจนหมดตัวแบบไม่เหลืออะไร 55
แล้วก็ฉากที่เจนกับดร. ทำการสับเปลี่ยนพลังงานทำให้โลกทั้ง 9 เกิดความแปรรวนชั่วคราว แบบคิดได้ไง
ดาร์ซี่กับเอียน คู่นี้น่ารัก เดาตั้งแต่แรกแล้วว่าทั้งคู่จะต้องมีซัมติงในตอนท้ายแล้วก็มีจริงๆ (คือ ชอบจับคู่ให้คนอื่น)
เมลคิธมาเดินอาด ๆ เดินขึ้นเดินลงยานฯ พูด 4-5 ประโยค ทำเป็นเท่ห์ สุดท้ายแล้วก็ถูกยานทับใส่ (มาทำไม)
ยังไม่รู้ว่ามันตายหรือไม่ตายจริง ที่เหลือไม่ได้สังเกตอะไรเลย เพราะง่วง 55

ปล.ยานของแอสการ์ดกับยานของพวกดาร์คเอลฟ์มันคนละชั้นไปนิดนะ




ลงสนองนี้ดเล็กน้อย ./.
นี่คือหมวดอ่านเว็บบอร์ดแบบไม่มีกราฟฟิค : หมวดที่คุณสามารถดูข้อมูลได้อย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ต้องโหลดกราฟฟิคมากมาย ซึ่งบอร์ดได้ตัดส่วนนั้นออก เพื่อให้โหลดไวขึ้น
แต่ถ้าคุณอยากกลับไปดูข้อมูลแบบเต็มรูปแบบ ให้คุณคลิ๊กที่นี่
.
Invision Power Board © 2001-2024 Invision Power Services, Inc.