ข้อมูลหนังสือ
พิมพ์ครั้งแรก กุมภาพันธ์ 2553 สำนักพิมพ์ NanmeebooksTeen
มีทั้งหมด49บท +1บทนำ+ประวัติศาสตร์และสิ่งที่เกิดขึ้น
วันนั้นเป็นวันฤดูใบไม้ผลิอันสดใสและลมแรงที่บึงมาร์ราม สายลมได้พัดหมอกตอนย่ำรุ่งไปหมดแล้ว และพาเมฆขาวก้อนเล็กๆ
ลอยลิ่วตัดสู่ท้องสูงขึ้นไป อากาศเย็น มีกลิ่นเกลือทะเล โคลน และซุปกะหล่ำปลีไหม้
ที่ปากประตูกระท่อมหินหลังเล็ก เด็กชายตัวเก้งก้างไว้ผมยาวสีหม่น กำลังสะพายเป้ขึ้นบ่ากว้าง ผู้ที่ช่วยเขาอยู่ดูเหมือนผ้านวมปุปะขนาดยักษ์
"เอาละ เธอแน่ใจนะว่ารู้จักเส้นทาง" ผ้านวมปุปะถามอย่างกังวล
เด็กชายพยักหน้าและขยับเป้ให้ตรงดวงตาสีน้ำตาลยิ้มให้ร่างใหญ่ ที่ซ่อนอยู่ใต้รอยพับของผ้านวม
"ผมมีแผนที่แล้วครับย่าเซลดา" เขาพูดพลางดึงกระดาษยับยู่ยี่แผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
"จะว่าไปแล้ว ผมมีแผนที่ทุกแผ่นของคุณ" เขาดึงกระดาษออกมาอีกหลายแผ่น
"ดูสิ...นี่เป็นแผนที่จากหลุมงูไปดับเบิลเดรน จากดับเบิลเดรนไปเหวเมือกมรณะ จากเหวเมือกมรณะไปทางกว้าง จากทางกว้างไปดงหญ้าแฝก
จากดงหญ้าแฝกไปถึงทางหลวง"
"แต่จากทางหลวงไปท่าเรือเล่า เธอมีแผนที่แผ่นนั้นหรือเปล่า" ดวงตาสีฟ้าสดแบบแม่มดของย่าเซลดาดูวิตก
"มีสิ แต่ผมไม่ต้องใช้มันหรอก ผมจำทางเส้นนั้นได้"
"โธ่ ที่รัก" ย่าเซลดาพูดพร้อมถอนใจ "โธ่ ฉันหวีงว่าเธอจะปลอดภัยนะ เด็กชายหมาป่าที่รัก"
เด็กชายหมาป่าก้มลงมองย่าเซลดา นี่คือสิ่งที่เขาเพิ่งทำได้เมื่อไม่นานมานี้ เขาโตเร็วมาก และย่าเซลดาหลังงอกว่าเดิมอีกเล็กน้อย
เขากางแขนโอบกอดเธอแน่น "ผมไม่เป็นไรหรอก" เขาว่า "จะกลับมาพรุ่งนี้ อย่างที่เราเคยคุยกันแล้ว คอยฟังเสียงผมราวๆ เที่ยงวันนะครับ"
ย่าเซลดาสั่นศีรษะ "เดี๋ยวนี้ฉันฟังไม่ค่อยได้ยินแล้ว" เธอพูดเหมือนโหยหาอดีตอยู่บ้าง "บ็อกการ์ตจะรอรับเธอ เอาละ มันอยู่ไหนนะ"
เธอกวาดตามองมอตต์ ซึ่งน้ำสีดำจากกระแสน้ำขึ้นกำลังไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว สีน้ำตาลที่ดูเหนียวและเต็มไปด้วยขี้โคลนทำให้เด็กชายหมาป่า
นึกถึงซุปแมลงสีน้ำตาลกับหัวผักกาดที่ย่าเซลดาทำเป็นอาหารค่ำเมื่อคืนก่อน ถัดจากมอตต์ออกไปคือที่ราบกว้างใหญ่ของบึงมาร์ราม
มีคูและทางน้ำยาวไหลวกวนตัดสลับไปมา โคลนเลนที่หลอกตาบึงที่ลึกเป็นไมล์ มีตัวประหลาดหลายชนิดอาศัยอยู่ที่นี่ และใช่ว่าทุกตัวจะเป็นมิตร
"บ็อกการ์ต!" ย่าเซลดาเรียก "บ็อกการ์ต!"
"ไม่เป็นไรครับ" เด็กชายหมาป่าพูด เขาพร้อมจะออกเดินทางแล้ว "ผมไม่ต้องใช้บ๊อก..."
"อ้อ เจ้าอยู่นี่เอง บ็อกการ์ต!" ย่าเซลดาร้องเมื่อหัวสีน้ำตาลเข้มของสัตว์ ที่ดูเหมือนแมวน้ำโผล่ขึ้นมาจากน้ำข้นคลั่กในมอตต์
"ใช่ ผมอยู่นี่" เจ้าสัตว์ตัวนั้นพูด มันมองย่าเซลดาอย่างไม่สบอารมณ์ด้วยดวงตาโตสีน้ำตาล "ผมหลักอยู่ที่นี่ หรืออย่างน้อยก็คิดว่าหลับ"
"ฉันเสียใจเหลือเกินบ็อกการ์ตที่รัก" ย่าเซลดาพูด "แต่ฉันอยากให้เธอพาเด็กชายหมาป่าไปส่งที่ทางหลวง"
บ็อกการ์ตพ่นลมใส่โคลนจนเป็นฟองอย่างไม่สบอารมณ์ "ทางหลวงอยู่ไกลนะ เซลดา"
"ฉันรู้ แถมยังอันตรายด้วย ต่อให้มีแผนที่"
บ็อกการ์ตถอนหายใจ โคลนที่พ่นจากรูจมูกของมันกระเด็นขึ้นมาโดนกระโปรงผ้าปะของย่าเซลดา และกลายเป็นรอยเปื้อนโคลนอีกหย่อมหนึ่ง
บ็อกการ์ตมองเด็กชายหมาป่าด้วยสายตาหงุดหงิด "เอาละ ถ้าอย่างนั้นก็ได้ ไม่มีประโยชน์ที่จะชักช้าอยู่" มันพูด "ตามฉันมา"
แล้วมันก็ว่ายตัดผืนน้ำโคลนไปตามมอตต์
ย่าเซลดารวบเด็กชายหมาป่าเข้ามากอดในชุดผ้าปะ จากนั้นเธอก็ผลักเขาออกจากตัว ดวงตาสีฟ้าแบบแม่มดจ้องมองเขาอย่างเป็นห่วง
"เธอมีจดหมายของฉันแล้วนะ" เธอพูด เคร่งเครียดขึ้นมาทันที เด็กชายหมาป่าพยักหน้า
"เธอรู้แล้วใช่ไหมว่าต้องอ่านมันเมื่อไหร่ ห้ามเปิดอ่านก่อนหน้านั้นเด็ดขาด" เด็กชายหมาป่าพยักหน้าอีกครั้ง
"เธอต้องเชื่อใจฉัน" ย่าเซลดาพูด "เธอเชื่อใจฉันจริงๆใช่ไหม" เด็กชายหมาป่าพยักหน้าช้าลงกว่าเดิม เขามองย่าเซลดาอย่างงุนงง
ดวงตาของเธอดูเปล่งประกายจนหน้าสงสัย
"ฉันคงไม่ส่งเธอไป หากไม่คิดว่าเธอจะทำงานนี้ได้ เธอรู้ใช่ไหมจ๊ะ"
เด็กชายหมาป่าพยักหน้าอย่างระแวงอยู่บ้าง
"และ...โธ่ เด็กชายหมาป่า เธอรู้ใช่ไหมว่าฉันห่วงเธอ"
"รู้สิครับ" เด็กชายหมาป่าพึมพำ เริ่มอาย และออกจะกังวล
เขาคิดว่าย่าเซลดามองเขาราวกับเธออาจไม่ได้เห็นเขาอีกแล้ว เขาไม่แน่ใจว่าชอบแบบนั้นหรือไม่ ทันใดนั้นเขาก็ดิ้นหลุดจากมือเธอ
"ลาก่อนนะครับ ย่าเซลดา" เขาพูด และวิ่งไล่ตามบ็อกการ์ตให้ทัน มันไปถึงสะพานไม้ข้ามมอตต์ที่สร้างขึ้นใหม่แล้ว และกำลังรออย่างอดทน
ย่าเซลดาสวมชุดกระโปรงผ้าปะยัดนุ่นที่เธอใช้เวลามากมายตัดเย็บช่วงฤดูหนาว เธอยืนอยู่ข้างมอตต์ และมองเด็กชายหมาป่าออกเดินทางข้ามบึง
เขาใช้เส้นทางที่ดูวกวนประหลาด แต่ย่าเซลดารู้ว่าเขากำลังเดินไปตามทางแคบๆรอบขอบอันวกวนของหลุมงู เธอมองพลางป้องดวงตาชราจาก
แสงที่ส่องลงมาจากท้องฟ้าเหนือบึงมาร์ราม แสงสว่างแสบตาแม้เป็นวันเมฆมาก ย่าเซลดาเห็นเด็กชายหมาป่าหยุดเดินเป็นช่วงๆ ตามคำเตือนของบ็อกการ์ต
มีอยู่ครั้งหรือสองครั้งที่เขากระโดดข้ามหลุมอย่างคล่องแคล่ว และเดินต่อไปตามเส้นทางอีกฝั่งของหลุม ย่าเซลดาเฝ้าดูนานเท่าที่จะทำได้
จนกระทั่งร่างของเด็กชายหมาป่าหายเข้าไปในกลุ่มหมอกที่ลอยอยู่เหนือเหวเมือกมรณะ มันคือหลุมเมือกที่ลึกเกินหยั่ง ทอดยาวออกไปหลายไมล์
ตัดเส้นทางสายเดียวที่นำไปสู่ท่าเรือ มีทางเดียวที่จะผ่านเหวได้ นั่นคือเดินเหยียบไปบนก้อนหินที่ซ่อนอยู่ และบ็อกการ์ตรู้ว่าต้องก้าวไปแล้วปลอดภัย
ย่าเซลดาเดินช้าๆกลับไปตามทาง เธอก้าวเข้าไปในกระท่อมผู้ดูแล ค่อยๆปิดประตู และยืนพิงมันอย่างเหนื่อยอ่อน เช้านี้สาหัสเอาการ มาร์เซียโผล่มา
โดยไม่บอกล่วงหน้า และบอกข่าวน่าตกใจเกี่ยวกับภารกิจของเซ็ปติมัส บรรยากาศไม่ดีขึ้นหลังมาร์เซียจากไป เพราะย่าเซลดาไม่อยากส่ง-
เด็กชายหมาป่าไปทำงาน แม้รู้ดีว่าจำเป็น
ย่าเซลดาถอนหายใจแรงๆและมองไปรอบกระท่อมที่รักยิ่ง ความว่างเปล่าไม่คุ้นเคยทำให้รู้สึกแปลก เด็กชายหมาป่าอยู่กับเธอมาเกินหนึ่งปีแล้ว
เธอคุ้นกับการมีอีกชีวิตหนึ่งอยู่ด้วยในกระท่อม และตอนนี้เธอส่งเขาไป...ย่าเซลดาสั่นศีรษะ ถามตัวเองว่าเสียสติไปหรือเปล่า
แล้วก็ตอบอย่างหนักแน่นว่า เปล่า เธอไม่ได้เสียสติ มันคือสิ่งที่ต้องทำ
เมื่อหลายเดือนก่อน ย่าเซลดารู้ว่าเธอเริ่มอยากได้เด็กชายหมาป่าเป็นศิษย์ หรือว่าที่ผู้ดูแล ตามประเพณีดั้งเดิม ถึงเวลาที่เธอต้องรับลูกศิย์แล้ว
ใกล้หมดวาระของเธอเต็มที และเธอต้องเริ่มถ่ายทอดความลับต่างๆ แต่สิ่งหนึ่งทำให้ย่าเซลดากังวล ยังไม่เคยมีผู้ดูแลชายในประวัติศาสตร์
อันยาวนานของผู้ดูแล แต่ย่าเซลดาไม่เห็นเหตุผลว่าทำไมถึงมีไม่ได้ จริงๆแล้วเธอคิดว่าถึงเวลาต้องมีเสียที ดังนั้น เธอจึงส่งเด็กชายหมาป่าไปทำงาน
ด้วยความหวั่นใจอย่างยิ่ง ถ้าทำสเร็จ เขาจะมีคุณสมบัติได้เป็นว่าที่ผู้ดูแล หากราชินีเห็นสมควร
และตอนนี้เมื่อเขาไปแล้ว เธอก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ราชินียอมเห้นชอบกับการแต่งตั้งเด็กชายหมาป่า ย่าเซลดาคิดขณะค้นชั้นวางมีดหั่นกะหล่ ำเพื่อหาชะแลง
"อะฮ่า! อยู่นี่เอง" ย่าเซลดาพูดกับชะแลงที่ซุกอยู่ เธอเริ่มพูดคนเดียวแบบที่เคยทำสมัยอยู่ตามลำพังอีกครั้ง ย่าเซลดาหยิบชะแลงจากหิ้ง
จากนั้นก็เดินไปที่กองไฟ และม้วนตลบพรมตรงหน้าเตาผิงสำลักฝุ่นขณะที่คุกเข่าลง งัดแผ่นหินที่ค่อนข้างหลวม แล้วจากนั้นก็ม้วนแขนเสื้อขึ้นอย่างหวาดๆ
(เพราะแมงมุมมาร์รามตัวใหญ่ขนดกชอบทำรังอยู่ใต้แผ่นหิน แถมฤดูนี้ยังไม่เหมาะที่จะไปกวนมันด้วย) ย่าเซลดาหยิบท่อเงินอันยาวที่ซ่อนอยู่ด้านล่าง
ขึ้นมาอย่างระมัดระวัง
เธอถือท่อเหยียดออกไปสุดแขน มองสำรวจมันอย่างหวาดระแวง ความกลัวพุงขึ้นมาทั่วร่างทันที สิ่งที่เกาะอยู่ตรงปลายท่อคือกลุ่มไข่สีขาววาววับของ
แมงมุมมาร์รามตัวใหญ่ขนดก ย่าเซลดาหวีดร้องและกระโดดไปมา พลางสะบัดท่ออย่างแรง พยายามให้ไข่หลุดออกไป อย่างไรก็ตาม เมือกที่เกาะอยู่-
บนท่อเงินทำให้มันลื่นหลุดจากมือเธอ ลอยเป็นวงอย่างงดงามข้ามห้อง และหลุดเข้าไปทางประตูครัวที่เปิดอยู่ ย่าเซลดาได้ยินเสียงน้ำกระจายชัดเจน
เมื่อบางอย่างหล่นลงไปในซุปแมลงสีน้ำตาลกับหัวผักกาด ที่ตอนนี้ได้กลายเป็นซุปแมลงสีน้ำตาลกับหัวผักกาดและไข่แมงมุมไปเสียแล้ว(คืนนั้น-
ย่าเซลดาอุ่นซุปนี้กินเป็นอาหารค่ำ ตอนกินเธอคิดว่ารสชาติมันดีขึ้นเพราะตั้งทิ้งไว้บนเตามาหลายวัน หลังจากนั้นจึงสะกิดใจว่าอาจเป็นเพราะรสชาติ-
ของไข่แมงมุมก็เป็นได้ เธอเขานอนโดยรู้สึกวิงเวียนอยู่บ้าง)
ย่าเซลดากำลังจะหยิบท่อจากซุป เมื่อหางตาเหลือบไปเห็นบางสิ่งเคลื่อนไหว ขาขนาดใหญ่ขนดกสองข้างคลำทางออกมาจากช่องใต้แผ่นหิน
ย่าเซลดาสะท้าน เธอยกแผ่นหินขึ้นแล้วปล่อยมือ มันหล่นกระแทกโครมใหญ่จนกระท่อมสั่นไปทั้งหลัง และพรากแม่แมงมุมจากลูกของมันตลอดกาล
ย่าเซลดาหยิบท่อเงิน นั่งลงที่โต๊ะทำงาน ดื่มน้ำกะหล่ำต้มผสมแยมมาร์ชเบอรี่หนึ่งช้อนใหญ่เพื่อเรียกขวัญกำลังใจให้ตนเอง เธอรู้สึกสั่น
แมงมุมนั่นทำให้เธอนึกถึงสิ่งที่ส่งเด็กชายหมาป่าไปทำ และสิ่งที่ครั้งหนึ่งเธอเองก็เคยถูกเบ็ตตี แคร็กเกิลส่งไปทำมาแล้ว ย่าเซลดาถอนหายใจ
และบอกตัวเองว่าเธอเตรียมการให้เด็กชายหมาป่าอย่างดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ และอย่างน้อยเธอก็ไม่ได้เขียนข้อความบนกระดาษแข็ง
แบบที่เบ็ตตี แคร็กเกิลทำด้วย
ย่าเซลดาค่อยๆเช็ดซุปแมลงสีน้ำตาลกับหักผักกาดและไข่แมงมุมจากท่อ เธอหยิบมีดเงินเล่มเล็กออกมา หั่นขี้ผึ้งประทับตราออก และหยิบแผ่น-
กระดาษโบราณที่มีร่องรอบเปียกชื้น และมีข้อความว่า "สัญญาของว่าที่ผู้ดูแล" เขียนไว้ด้านบนด้วยตัวอักษรเก่าซีดล้าสมัย
ย่าเซลดาใช้เวลาชั่วโมงต่อมาที่โต๊ะทำงาน ใส่ชื่อเด็กชายหมาป่าในหนังสือสัญญา จากนั้นเธอบรรจงเขียนคำร้องขอรับศิษย์ด้วยลายมือที่ดีที่สุด-
เพื่อส่งให้ราชินี เธอม้วนคำร้องเข้ากับหนังสือสัญญาและใส่ลงไปในท่อเงิน ใกล้ถึงเวลาแล้ว แต่ก่อนอื่นเธอต้องการบางอย่างจากตู้น้ำยาเวทมนต์-
ไม่คงที่กับยาพิษชนิดพิเศษ
ตู้แคบมากสำหรับย่าเซลดา โดยเฉพาะเมื่อสวมชุดกระโปรงยัดนุ่นตัวใหม่นี้ เธอจุดตะเกียง เปิดลิ้นชักลับ และใช้แว่นตาเที่ยงตรงพิเศษอ่านหนังสือ-
โบราณเล่มเล็กชื่อ ตู้น้ำยาเวทมนตร์ไม่คงที่กับยาพิษชนิดพิเศษ คู่มือและแผนผังของผู้ดูแล เมื่อเจอหน้าที่ต้องการย่าเซลดาก็เปิดลิ้นชักเล็กๆ
สีน้ำเงินที่บรรจุเครื่องรางของขลังและมองเข้าไปข้างใน หินและแก้วผลึกล้ำค่าคละแบบวางเรียงเป็นระเบียบบนผ้าขนสัตว์สีน้ำเงินที่กรุลิ้นชัก
นั้นอยู่ มือของย่าเซลดายื่นออกไปเหนือเครื่องรางแคล้วคลาดแล้วเธอก็ขมวดคิ้ว สิ่งที่เธอหาไม่อยู่ตรงนี้ ย่าเซลดาหาข้อมูลในหนังสืออีกครั้ง แล้วยื่นมือลึก-
เข้าไปในลิ้นชักจนกระทั่งนิ้วแตะขอบลิ้นชักด้านใน เธอเหยียดนิ้วชี้ป้อมๆออกไปให้ยาวที่สุด แล้วก็พลิกขอบขึ้นด้านบน มีเสียงดังกริ๊กเบาๆและอะไรหนักๆ
ก็หล่นลงมาในลิ้นชัก แล้วกลิ้งมาข้างหน้า สู่แสงสว่างของตะเกียง
ย่าเซลดาหยิบขวดทองคำใบเล็กรูปทรงเหมือนลูกสาลี่มาวางไว้บนฝ่ามืออย่างระมัดระวังมาก เธอเห็นประกายสีเข้มทึบของทองบริสูทธิ์ที่สุด
มันคือใยทองคำที่ปั่นโดยแมงมุมแห่งออรัม และมีจุกเงินหนาสลักอักษรภาพเพียงหนึ่งตัว เป็นชื่อทื่ถูกลืมไปนานแล้ว เธอรู้สึกวิตกอยู่บ้าง
ขวดเล็กที่อยู่บนมือเธอคือเครื่องรางแคล้วคลาดแบบมีชีวิตที่หายากมาก เธอไม่เคยแตะต้องของแบบนี้มาก่อนด้วยซ้ำ
ย่าเซลดารู้สึกไม่สบายใจกับการมาเยือนของมาร์เซียเมื่อตอนเช้าตรู่ เพื่อรับยาให้เอฟาเนียห์และฮิลเดอการ์ด หลังมาร์เซียกลับไปแล้ว เธอก็เห็นภาพนิมิต
ขึ้นมาฉับพลัน เซ็ปติมัสบนหลังสปิตไฟร์ไปรับเจ็นนา นิกโก้ สนอร์ริ และบีเทิล แต่ความจริงแล้วคนที่ขี่มังกรคือเซ็ปติมัส สิ่งที่เธอเห้นจะต้องเกิดขึ้นแน่ๆ
เธอไม่อาจทำอะไรเพื่อยับยั้งมันได้ ทั้งหมดที่ทำได้คือส่งเครื่องรางแคล้วคลาดชนิดดีที่สุดให้เซ็ปติมัส...และนี่ก็คือเค
รื่องรางนั้น
ย่าเซลดาเบียดตัวออกจากตู้ และค่อยๆนำเครื่องรางแคล้วคลาดแบบมีชีวิตไปที่หน้าต่าง เธอยกขวดน้อยขึ้นส่องกับแสงอาทิตย์และหมุนไปรอบๆ
เพื่อดูตราประทับขี้ผึ้งโบราณรอบจุก มันยังติดดีอยู่ ไม่มีรอยร้าวหรือร่องรอยว่ามีอะไรมารบกวน ย่าเซลดายิ้มเครื่องรางยังหลับอยู่ ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี
เธอสูดลมหายใจลึกๆและเริ่มปลุกมันด้วยเสียงประหลาดสูงๆ ต่ำๆ ที่คงทำให้คนได้ยินต้องขนลุก
ตลอดห้านาทีอันยาวนาน ย่าเซลดาเอื้อนคาถาซับซ้อนและหาได้ยากที่สุดบทหนึ่งเท่าที่เคยใช้มา มันเต็มไปด้วยกฏ กติกา มาตรา อนุมาตรา
ซึ่งหากนำมาเขียนลงกระดาษ จะต้องทำให้เอกสารกฏหมายทุกฉบับต้องอาย มันคือสัญญาผูกพัน และย่าเซลดาพยายามอย่างที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่า
ไม่มีช่องโหว่ เธอเริ่มบรรยายถึงเซ็ปติมัส ผู้รับเครื่องรางนี้ โดยบอกรายละเอียดมากมาย และขณะที่เอื้อนคำพรรณนาอยู่นั้น เสียงของเธอก็ลอยไปทั่ว
กระท่อมหลังน้อย กระจกแตกไปสามบาน นมบูด แล้วมันก็ลอยออกไปทางปล่องไฟ สู่บึงยามเช้าฤดูใบไม้ผลิที่มีลมโชย
ขณะที่ย่าเซลดาท่องคาถา เสียงแบบแม่มดของเธอเพิ่มผ่านระดับที่มนุษย์ธรรมดาได้ยิน ไปถึงระดับที่สิ่งมีชีวิตในบึงใช้เตือนภัยครอบครัวตัวกระโดด-
ประจำบึงพากันดำลงไปในมอตต์ นิกซีน้ำห้าตัวมุดเข้าไปในหย่อมโคลนสุดโปรดของบ็อกการ์ต หนูบึงสองตัววิ่งร้องจี๊ดๆข้ามสะพานมอตต์และหล่นลง-
ไปในบ่อเมือก ส่วนงูเหลือมบึงที่เพิ่งจะว่ายเข้ามาในมอตต์ก็เปลี่ยนใจมุ่งหน้าไปเกาะไก่แทน
ในที่คาถาก็เสร็จสิ้น และความแตกตื่นในหมู่สิ่งมีชีวิตนอกกระท่อมก็เบาบางลง ย่าเซลดาร้อยเส้นหนังอย่างดีลอดห่วงเงินเบี้ยวๆรอบคอขวด
และบรรจงเก็บมันไว้ในกระเป๋าก้นลึกใยหนึ่งในชุดกระโปรงของเธอ จากนั้นเธอก็ออกไปยังครัวเล็กๆที่ด้านหลังกระท่อม
และเริ่มทำงานที่ชื่นชอบอย่างหนึ่ง นั่นคือทำแซนด์วิชกะหล่ำ
ไม่นานแซนด์วิชกะหล่ำก็ลงไปอยู่กับเครื่องรางแคล้วคลาดมีชีวิตที่ก้นกระเป๋า เธอรู้ว่าเซ็ปติมัสจะต้องชอบแซนด์วิชกะหล่ำแน่ๆและหวังว่าเขาจะชอบ
เครื่องรางแคล้วคลาดเช่นเดียวกัน
ไม่เคยอ่านอ่ะครับแต่ตาลายมากเลย
อุตส่าห์พยายามพิมพ์นะ พี่เซ็ป
เล่ม 6 ที่อเมริกาออกแล้วนะคะ ตอนนี้คงรอแปลอ่ะค่ะ
ดีจังค้ะ มีคนโพสต์ให้อ่านด้วย
จะได้ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อหนังสือ
5555555555
น่าอ่านอ่ะ ซีเอ็ดมีขายป่าว
พี่เซปลงทุนมาก
อยากอ่านเล่มเจ็ดแล้ว 55
Powered by Invision Power Board (http://www.invisionboard.com)
© Invision Power Services (http://www.invisionpower.com)