รีวิวหนัง Antebellum: หลอน ย้อน โลก, รีวิว สไตล์ boom15 ตัวเลือก

[boom15]

Antebellum: หลอน ย้อน โลก

เรื่องย่อ


กลายเป็นภาพยนตร์เขย่าขวัญแห่งปีสำหรับคอหนังทั่วโลกไปแล้ว สำหรับภาพยนตร์เขย่าขวัญ แหวกแนว คอนเซปต์เทพอย่าง Antebellum ผลงานเรื่องล่าสุดจากผู้สร้างภาพยนตร์ที่ปั่นหัวคนมาแล้วทั่วโลกอย่าง Get Out และ Us เพราะทันทีที่ปล่อยภาพใบปิดแรกกับตัวอย่าง ก็เรียกเสียงฮือฮาจากสื่อชั้นนำจากทั่วโลกอย่างเว็บไซต์วิจารณ์หนังอย่าง Rotten Tomatoes และ Collider ต่างก็ยกให้ Antebellum ขึ้นหิ้งหนังเขย่าขวัญห้ามพลาดแห่งปีไปแล้ว



สิ้นสุดการรอคอยสำหรับคอหนังชาวไทยจะได้พิสูจน์ผลงานระทึก ไอเดียแปลกกับตัวอย่างซับไทย ที่เผยให้เห็นเรื่องราวและบทบาทการแสดงของ นักแสดงสาวผิวสี “จาแนลล์ โมเน่” ที่สร้างผลงานการแสดงอันโดดเด่นมาแล้วจาก Moonlight และ Hidden Figure และยังเป็นผู้เข้าชิงรางวัลแกรมมี่อวอร์ดในฐานะศิลปิน มาร่วมถ่ายทอดการแสดงสุดหลอนสั่นประสาท ในหนังที่คาดเดาคำตอบไม่ได้ กับบทบาทของ เวโรนิก้า เฮนลีย์ นักเขียนระดับเบสต์เซลเลอร์ ที่ถูกโชคชะตาะนำพาให้เธอเข้าไปติดอยู่ในโลกความเป็นจริงสุดน่ากลัว และต้องไขปริศนาหาคำตอบของเรื่องราวสุดหลอนครั้งนี้ไปให้ได้ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายจนไม่สามารถแก้ไขได้ตลอดกาล

เครดิต https://www.majorcineplex.com/movie/antebellum

รีวิว

แวะมาแนะนำหนังเรื่อง Antebellum บอกเลยว่างงตั้งแต่ชื่อเรื่องว่าคืออะไร แต่ก็เพราะอยากดูเนื่องจากเป็นทีมผู้สร้างเดียวกับ Get out และ Us ส่วนตัวคือชอบเรื่อง Get out มากเลยสนุกหักมุมลุ้นระทึกมากคาดเดาไม่ได้เลย และได้ดูเรื่อง Us ที่บอกได้เลยว่าลดความสนุกลงไปมากจาก Get out ถามว่าสนุกมั้ยก็สนุกนะแต่ความคาดหวังที่หวังไปทำให้ออกมาแล้วไม่ชอบ เลยให้โอกาสจากเรื่อง Antebellum เรามาดูกันดีกว่าเรื่องนี้มีอะไรบ้าง จะไม่มีการสปอยใดๆทั้งสิ้นเพื่อคนที่อยากไปดูในโรงภาพยนตร์


Antebellum เล่าในมุมนักเขียนคนนึง ที่เขียนในมุมมองของ สิทธิความเท่าเทียมกัน แอบเข้าสถานการณ์ประเทศไทย การไม่แบ่งแยกสีผิวของชนชั้นนั่นคือจุดเริ่มต้น การที่เธอออกมาเขียนด้วยเรื่องพวกนี้จึงทำให้เรื่องต่างๆเกิดขึ้น อาจจะไม่สะกิดแขนขาใครเข้า ซึ่งจะทำให้เกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง แล้วเธอจะเอาตัวรวดยังไง หรือจะไม่รอด ต้องติดตามชมกันเองครับ มุมการเล่าเรื่องที่แบบว่าลดความตื่นเต้นจาก 2 เรื่องแรกที่เคยทำไว้มาก แต่ถามว่ายังลุ้นอยู่มั้ยก็ยังพอลุ้นอยู่ พอดูเอาสนุกได้อยู่ แค่ไม่เท่า 2 เรื่องแรกแค่นั้นเอง การเรียงTimeline ที่เรียงแบบไม่น่าเรียงแบบนี้ มันดูไม่ลุ้นไม่อะไรเลยเรื่อยๆแต่ไม่น่าเบื่อ ส่วนความพีคของลายเส้นทีมผู้สร้างที่ต้องหักมุมสรุปคือรู้สึกเฉยๆมาก สรุปเลยในมุมมอง boom15 ถ้าใครว่างก็ไปดูได้ครับเพลินๆดี แต่ถ้าไม่ว่างก็รอได้ครับ ไม่ถึงขั้นแนะนำต้องไปดูขนาดนั้น

boom15 รายงาน

คุณ boom15 ได้แก้ไขข้อความนี้ ครั้งล่าสุดเมื่อ Sep 21 2020, 01:08 PM