/ SEVEN KEYS / Operation Har-zia, เรื่องยาว / ฟิคชั่นแฟนตาซี ตัวเลือก

[Celez Volante Am...]

─ SEVEN KEYS ─
OPERATION HAR-ZIA
────────────────────────────────────

สวัสดีค่ะ เซโลวีนกลับมาอีกครั้ง กับบทความที่จบแน่นอน (เพราะชีวิตนี้จะจบแค่นิยายที่ลงแข่งค่ะ -0-)

สำหรับในครั้งนี้แฟนๆ T7K ก็คงเห็นผลโหวตกันและเดาได้แล้วว่าจะเป็นเรื่องของใคร
หลายๆคนก็เป็นหนึ่งในคนที่โหวตให้กับเรื่องนี้ด้วย นั่นก็คือ... เรื่องของ เฮสเทียและฮาเดส นั่นเองค่ะ
โดยสองคนนี้ เป็นสองราชสีห์แห่งคิงส์ตันที่สนิทกันมากที่สุดในบรรดาตรีเทพสามพี่น้อง
และยังเป็นตัวละครที่ถูกพูดถึงมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆของ T7K อีกด้วย

สำหรับ Operation Har-zia เรื่องนี้
ไอซ์เชื่อว่า ผู้ที่ไม่เคยอ่าน T7K จะต้องติดงอมแงมจนต้องไปอ่านเรื่องเต็มอย่างเร่งด่วน
ส่วนผู้ที่เคยอ่านแล้ว การอ่านซ้ำจะต้องเป็นหนึ่งในตัวเลือกลำดับต้นๆของพวกคุณแน่นอน
ไอซ์เอาชื่อของเซโลวีนเป็นประกัน ;)

❈ ◇ ❈ ◇ ❈

จาก มหากาพย์บทใหญ่ ของจักรวาลอันไร้จุดจบ... The Seven Keys
ภายใต้ความร้ายกาจและความเอาแต่ใจของเธอ... น้องเล็กและผู้ใช้ไฟที่ทรงพลังที่สุดในรอบศตวรรษ
ภายใต้ความอ่อนโยน เอาใจใส่ และเพียบพร้อมของเขา... ลอร์ดผู้เป็นความภาคภูมิใจของเหล่าราชสีห์
สิ่งที่ผู้คนเห็นและได้สัมผัส คือหน้ากากหรือเนื้อแท้ของราชสีห์ทั้งสองกันแน่... และพวกเขาแลกมาด้วยอะไรกันนะ ?

/ ติชมผลงานหรือให้กำลังใจได้ที่ ห้องวิจารณ์ผลงาน ♕ /
( อ่านเรื่องเต็มของ The Seven Keys และคอมเมนต์ติชม/ให้กำลังใจได้ ที่นี่ ค่ะ )


────────────────────────────────────

[Celez Volante Am...]

OPERATION HAR-ZIA
PROLOGUE
────────────────────────────────────

____“เอาละ ดูเหมือนพี่จะต้องคุยกับแม่ซะแล้วคืนนี้” ชายหนุ่มแสร้งถอนใจราวกับกำลังจะทำสิ่งที่ฝืนใจยิ่งนัก ภายใต้หน้ากากของเขาเป็นรอยยิ้มที่น้องสาวร่วม
สายเลือดมองออกอย่างทะลุปรุโปร่ง เธอรู้ดีว่าพี่ชายจะมีวิธีให้เธอยอมจำนนโดยไม่ต้องหาแม่มาเป็นข้ออ้างด้วยซ้ำ และที่เขาอ้างขึ้นมาก็เพื่อจะบอกเธอเป็นนัยว่า
เรื่องนี้เขาเองก็คิดแบบเดียวกับเธอ เขาก็ไม่ได้ไว้ใจสองพี่น้องเอมิสเทซนั่นไปมากกว่าเธอ

____"โอเค โอเค! พี่ชนะ ให้ตายสิ” เด็กสาวคลี่ยิ้มกว้างสวนทางกับน้ำเสียงที่ดูเหงาหงอยราวกับเด็กโดนแย่งของเล่น และนั่นให้ฮาเดสไม่อาจกลั้นยิ้มได้อีกต่อไป
เขาเผยรอยยิ้มกว้างตามน้องสาวเจ้าของรอยยิ้มที่สามารถทำให้โลกสดใสและดับมันด้วยพายุอารมณ์ของเธอเพียงลูกเดียว

____“นี่ ฟังพี่นะ พี่ก็ไม่ได้ไว้ใจพวกเขามากไปกว่าเธอหรอก เราแค่ต้องจับตาเอาไว้โอเคมั้ย อย่ากระโตกกระตากให้พวกเขาไหวตัวทัน” เขาค้อมตัวลงและพูดเสียงเบา
ด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มแต่แหบพร่า ดวงตาสีดำขลับวับวาวไปด้วยประกายเจ้าเล่ห์ ฮาเดสก้มลงกระซิบกระซาบกับเฮสเทียซึ่งส่งเสียงหัวเราะคิกคักอย่างชอบอกชอบใจ

____“นี่เป็นปฏิบัติการลับของเราสองคนใช่มั้ย” เฮสเทียเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ภาพความทรงจำในอดีตหวนย้อนกลับมา
และดูเหมือนว่าพี่ชายของเธอก็จำมันได้เช่นกัน “แน่นอน ปฏิบัติการลับฮาเซีย”

____“พี่จำได้!” เสียงเล็กแหลมกรีดร้องด้วยความยินดี มันฟังคล้ายกับเสียงระฆังในวันเฉลิมฉลองที่ไม่ว่าใครก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มตามเจ้าของเสียงตัวเล็กๆคนนี้

____“พี่จะลืมได้ยังไง เราทำให้พ่อยอมยกเลิกกฎเชียวนะ เพราะเราร่วมมือกันยังไงหละ” ฮาเดสเอ่ย ย้อนคิดถึงเมื่อสิบปีก่อนที่พวกเขาสองพี่น้อง
เคยวางแผนปฏิบัติการลับด้วยกัน และนั่นทำให้ดยุคซิลเวอร์ยกเลิกกฎการกักบริเวณน้องสาวตัวดีของเขาที่เผลอไปเผาสาวใช้คนหนึ่งจนอาการสาหัสโดยไม่ได้ตั้งใจ

____การเกิดมาพร้อมกับพลังไฟที่แข็งแกร่งที่สุดในศตวรรษจนแทบควบคุมไม่ได้ เชื่อเถอะว่าโชคดีแค่ไหนแล้วที่เฮสเทียแค่เกือบฆ่าคนตาย

____“สัญญานะ” เฮสเทียว่าพลางยกนิ้วก้อยขึ้นมาแต่แล้วเด็กสาวกลับมีท่าทีลังเล ทว่าชายหนุ่มก็สังเกตเห็นมันทัน เขายื่นมือไปจับมือของเด็กสาวที่กำลังจะหดกลับ
มาไว้ตรงหน้าพวกเขาพร้อมกับสอดนิ้วก้อยของตนเกี่ยวไว้กับนิ้วเล็กๆของน้องสาวด้วยรอยยิ้มกว้าง

____“อื้ม พี่สัญญา”

❈ ◇ ❈ ◇ ❈

TO BE CONTINUE

/ ติชมผลงานหรือให้กำลังใจได้ที่ ห้องวิจารณ์ผลงาน ♕ /
( อ่านเรื่องเต็มของ The Seven Keys และคอมเมนต์ติชม/ให้กำลังใจได้ ที่นี่ ค่ะ )

────────────────────────────────────

[Celez Volante Am...]

OPERATION HAR-ZIA
CHAPTER I
────────────────────────────────────

____“พ่อคะ บ่ายนี้เฮสขอไปปิกนิกที่สวนหลังคฤหาสน์กับแนนนี่ได้มั้ยคะ” เสียงใสของเด็กหญิงวัยแปดขวบเอ่ยเจื้อยแจ้วก่อนจะก้มลงดูดน้ำผลไม้ในแก้วทรงสูง
อย่างแรงเสียจนแก้มยุ้ยๆตอบเข้าหากัน

____ชายวัยกลางคนที่ยังคงมีเรือนผมสีดำขลับเงยหน้ามองบุตรสาวที่นั่งอยู่ด้านข้างอย่างพิจารณา เขาเหลือบไปทางสาวใช้ในชุดสีดำสามคนที่ยืนเรียงอยู่ปลายโต๊ะ
เล็กน้อย ผู้เป็นพ่อหลุบตาลงต่ำ หมุนส้อมในมือก่อนจะบรรจงวางเส้นสปาเกตตีลงบนช้อนสีเงินแวววาวRARD-SRAW-HYJL

____“เอาสิ” คิ้วโก่งได้รูปเลิกขึ้นพร้อมกับผงกหัวอนุญาต ก่อนจะตวัดสายตาไปหาบุตรชายอีกสองคนซึ่งนั่งอยู่อีกฝั่ง “เราสองคนจะไปกับน้องมั้ย”

____ลอร์ดฮาเดส คิงส์ตันซึ่งนั่งอยู่ตรงกันข้ามกับน้องสาวเงยหน้าขึ้นจากจานกระเบื้อง เขาเป็นเด็กชายอายุราวสิบห้าปีที่อยู่ในชุดลำลองที่ดูทางการ
เข้ากันกับยศที่นำหน้าชื่อของเขาเป็นอย่างดี การแต่งกายของเขาเนี้ยบไปทุกกระเบียดนิ้ว ไล่ตั้งแต่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวสะอาดตาไปจนถึงผมสีดำขลับ
ที่ถูกจัดทรงมาอย่างสมบูรณ์แบบ

____ถ้าผูกไทหรือหูกระต่ายเพิ่มเข้าไปก็น่าจะพร้อมออกงานได้เลย แตกต่างจากน้องชายข้างกายที่ใส่เพียงเสื้อคอเต่าแขนสั้นที่ดูลำลองกว่าหลายเท่าตัว

____“ด้วยความยินดีครับพ่อ” ลอร์ดในวัยสิบห้าปีส่งยิ้มให้น้องสาวที่แม้จะกำลังใช้กระดาษสีงาช้างซับมุมปากอย่างสำรวมผิดกับอายุ แต่ก็ไม่สามารถปกปิด
รอยยิ้มสว่างไสวของเธอได้

____บุตรชายคนโตของดยุคซิลเวอร์พยักเพยิดไปทางน้องสาวก่อนชี้ไปที่สันกรามด้านซ้ายเพื่อบอกตำแหน่งให้เธอ“ผมอ่านหนังสือค้างไว้อยู่เล่มนึงพอดี
ดีเสียอีก จะได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง”

____“พี่อ่านอะไรอยู่หรอ” เฮสเทียถามขึ้น สองมือยังคงง่วนอยู่กับอาหารในจานกระเบื้องตรงหน้า ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้สนใจคำตอบเลยแม้แต่น้อย
คล้ายกับถามตามมารยาทหรือไม่ก็หาเรื่องคุยในโต๊ะอาหารเสียมากกว่า

____ฮาเดสเองก็ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าน้องสาวไม่ได้สนใจอะไรกับคำตอบเลย เขาสามารถปล่อยผ่านคำถามนั้นไปก็ได้ แต่เขาก็เลือกที่จะยิ้ม
เด็กชายกระแอมเล็กน้อยก่อนจะเปิดปาก “แนวรบด้านตะวันตกเหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง (All Quiet On The Western Front)”

____เกือบอึดใจหนึ่งเลยทีเดียว กว่าที่ดวงตาสีประหลาดของเด็กสาวจะเงยขึ้นมา “แนว…อะไรนะ”

____เขาคลี่ยิ้มใจดีตามแบบฉบับของพี่ชายคนโตในอุดมคติที่อยากเอาใจน้องสาวคนสุดท้อง “แนวรบด้านตะวันตกเหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง
(All Quiet On The Western Front) ของเอริค มาเรีย เรอมาร์กไง ตระกูลเรอมาร์กที่เราเจอในงานประชุมเดอะดาร์ค กลอเรียสเมื่อปีที่แล้ว”

____เด็กสาวในชุดลายตาสีเหลืองนวลกลอกตา เธอเคี้ยวอาหารในปากพร้อมกับหรี่ตามองพี่ชายร่วมสายเลือด “งานนั้นเฮสกินแล้วก็หลับคาโต๊ะไปเลย
พี่จำไม่ได้รึไง”

____และเมื่อฮาเดสกระตุกยิ้มขึ้นที่มุมปาก เลดี้เฮสเทียก็รู้ทันที พี่ชายของเธอก็จำมันได้ขึ้นใจ แหงละ บทลงโทษของเธอจากดยุคซิลเวอร์ในวันต่อมา
ฐานหลับในงานเลี้ยงใหญ่ยังทำให้ใบหน้าของเธอร้อนเสียจนคล้ายกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้นี่เอง

____“ฮิปนอส” ดยุคซิลเวอร์วางช้อนและส้อมในมือลงอย่างเงียบเชียบเมื่อลูกชายคนรองที่นั่งถัดไปจากฮาเดสยังคงหมุนส้อมในมือเล่น
โดยไม่มีทีท่าว่าจะเปิดปาก และนั่นดึงความสนใจของเฮสเทียไปจากฮาเดสได้สำเร็จ

____เมื่อได้ยินดังนั้น เด็กชายที่อายุอานามเพิ่งจะแตะเลขสองหลักได้ไม่นานพ่นลมหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เสื้อคอเต่าสีตุ่นของเขาดูจะทำให้
ทุกคนในโต๊ะอาหารพลอยอึดอัดไปด้วย

____“ด้วยความยินดีครับพ่อ” แม้จะด้วยประโยคเดียวกัน แต่น้ำเสียงของทายาททั้งสองแห่งคิงส์ตันกลับให้อารมณ์ที่แตกต่างกันเหลือเกิน
แตกต่างเหมือนกับดวงตาของลอร์ดทั้งสองนั่นแหละ

____ฮิปนอสมีดวงตาสีเข้มเสียจนเรียกได้ว่าดำสนิทในขณะที่พี่ชายของเขามีดวงตาสีน้ำเงินสดชัด ส่วนสีผมดำสนิทของทั้งสองนั้น ถอดแบบมาจากผู้เป็นพ่อ
ราวกับแกะ ในขณะที่ผมสีน้ำตาลอ่อนยาวสลวยของเลดี้หนึ่งเดียวน่าจะถอดแบบมาจากดัชเชสเฮเลน่า คิงส์ตัน มารดาของตรีเทพที่ไม่ได้นั่งอยู่ในโต๊ะอาหารเช่นเคย

____แต่แล้วเลดี้ตัวน้อยซึ่งเป็นทายาทคนสุดท้องของดยุคซิลเวอร์ก็ระเบิดเสียงหัวเราะใสแจ๋วออกมา พร้อมกันกับที่รอยยิ้มสว่างไสวเด็กชายวัยสิบขวบจะปรากฏขึ้น

____ใบหน้าที่เคยดูเบื่อโลกของบุตรคนรองกลับกลายเป็นรอยยิ้มที่ลามไปถึงดวงตา และนั่นทำให้ผู้เป็นพ่อของตรีเทพทั้งสามที่กำลังละเมียดละไมกับ
ควันอุ่นๆจากชาต้องคลี่ยิ้มอย่างอ่อนใจ

____“พี่ชอบทำแบบนี้อยู่เรื่อย ถ้าหน้าแก่กว่าพี่ฮาร์สขึ้นมาอย่าหาว่าเฮสไม่เตือนหละ” เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กสาวคนเดียวในโต๊ะอาหารทำเอาเจ้าของชื่อ
ที่โดนเอาไปเปรียบเทียบสำลักอาหาร

____ฮาเดสไอโขลก มือซ้ายของเด็กชายเอื้อมไปหยิบกระดาษขึ้นปิดปาก ส่วนมืออีกข้างหยิบแก้วน้ำทรงสูงขึ้นจิบ

____ลอร์ดฮิปนอสยักไหล่คล้ายกับว่ามันไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร บุตรชายคนรองของดยุคซิลเวอร์เหลือบมองน้องน้อยที่ยู่หน้าใส่เขา แววตาของผู้เป็นพี่ชาย
ฉายแววอ่อนโยนก่อนที่เขาจะพ่นลมหายใจออกมาอีกครั้ง

____“ไว้พี่หน้าแก่ที่สุดในโต๊ะนี้แล้วเราค่อยมาบ่นก็แล้วกัน” และประโยคนั้นก็ทำให้ทายาทแห่งคิงส์ตันทั้งสามหันไปที่หัวโต๊ะโดยไม่ได้นัดหมาย

____“ลอร์ดฮิปนอส ดีลลอน คิงส์ตัน” ผู้อาวุโสซึ่งนั่งพิงพนักอยู่ที่หัวโต๊ะเค้นเสียงคำรามออกมาจากช่องอก

____แม้แต่ฮาเดสที่ดูจะสุขุมที่สุดก็ยังต้องเม้มปากในขณะที่ไหล่กว้างของเขาเริ่มสั่น พี่ชายคนโตซึ่งนั่งอยู่ถัดจากฮิปนอสขมวดคิ้วมุ่นเพื่อกลบเกลื่อน
พยายามอย่างหนักที่จะสำรวมกิริยาไม่ให้หลุดหัวเราะออกมา

____“ขอรับ ใต้เท้า” เด็กชายว่า เขาจิบชาอย่างใจเย็นเพื่อซ่อนรอยยิ้มซุกซนเอาไว้ ดวงตาสีเข้มมองบิดาของตนที่ผิวสีทองแดงดูจะติดเลือดฝาดมากกว่าที่เคย
ด้วยดวงตาสีดำสนิทที่ใสซื่อ

____ตอนนั้นเองที่บุตรชายคนรองแห่งคิงส์ตันเริ่มตระหนักได้ถึงเค้าลางของหายนะ

____“กระผมเป็นกังวลอย่างมากที่เห็นท่านดูไม่ค่อยสดใสและไม่ค่อยจะเจริญอาหารเลยในช่วงนี้ อะไรๆจึงพาลขวางหูขวางตาไปเสียหมดสินะขอรับ”
ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะเกริ่น ในขณะที่ลอร์ดฮิปนอสตัวแข็งทื่อ

____“อันนี้หมายถึงตัวเองรึเปล่า” เด็กชายพึมพำเสียงเบา แต่ดูเหมือนว่าดยุคจะได้ยินมันอย่างชัดเจน เพราะผู้เป็นพ่อคลี่ยิ้มตอบรับที่ทำเอา
อากาศอบอุ่นของฤดูใบไม้ผลิดูเย็นยะเยือกขึ้นทันตา

____“ผมจึงอยากเรียนเชิญท่านไปฝึกความอดทนด้วยการวิ่งรอบคฤหาสน์ให้ครบหนึ่งร้อยรอบก่อนพระอาทิตย์ตกดินวันนี้” ดยุคว่า ดวงตาสีฟ้ามอง
บุตรชายคนรองที่ไม่สามารถควบคุมมือซึ่งถือถ้วยชาไม่ให้สั่นได้อีกต่อไป

____“ท่านคงไม่ขัดข้องอะไร จริงมั้ยขอรับ” ชายวัยกลางคนคลี่ยิ้มที่ทำให้ใบหน้าของเขาดูเด็กลงไปหลายสิบปี

____ลอร์ดฮิปนอสเป็นคนถือตัวแม้แต่กับครอบครัว ดยุคซิลเวอร์จึงมักจะใช้มันในการบีบบังคับให้บุตรชายคนกลางทำอะไรบางอย่างผ่านประโยคเรียบง่าย
คล้ายกับว่าบิดาบังเกิดเกล้าของเขาเป็นเพียงคนธรรมดาสามัญ เป็นประชาชนที่ลอร์ดอย่างเขาต้องรับใช้

____และไม่ว่าจะเป็นในฐานะบิดาบังเกิดเกล้า ดยุคแห่งคิงส์ตัน หรือประชาชนคนหนึ่งของสหราชอาณาจักร ลอร์ดฮิปนอส คิงส์ตันก็ไม่เคยปฏิเสธคำสั่ง
ของชายที่เป็นต้นแบบในทุกๆด้านของเขาคนนี้ได้เลย

____“อ้อ ราชสีห์แห่งคิงส์ตันไม่เคยผิดคำพูด ดังนั้น ทางเลือกของท่านลอร์ดคือ ท่านต้องไปปิกนิกกับเลดี้ก่อนแล้วค่อยเริ่มปฏิบัติการ…”
…ซึ่งก็ไม่รู้ว่าท่านหญิงจะปล่อยตัวท่านลอร์ดตอนไหน เขาต่อประโยคในใจ

____ดยุคเว้นวรรคด้วยรอยยิ้มที่ซุกซนเสียยิ่งกว่าบุตรชาย ลอร์ดฮิปนอสแทบจะได้ยินประโยคที่มาพร้อมกับรอยยิ้มที่เขาเกลียดนักเกลียดหนา
โดยที่ดยุคแทบไม่ต้องเปิดปากเลยเสียด้วยซ้ำ

____แน่ละ สำหรับผู้ใช้ลมหนึ่งเดียวของคิงส์ตันอย่างเขาแล้ว น้องสาวคนเดียวของเขาถือเป็นพายุไฟที่คาดเดาได้ยากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้
เฮสเทียสามารถปิกนิกได้ตั้งแต่สิบห้านาทีไปจนถึงเจ็ดชั่วโมง และนั่นไม่ขึ้นอยู่กับอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ อาหารกลางวัน สีเสื้อผ้า…
นอกเสียจากอารมณ์ของเด็กสาว

____และก็ดูเหมือนว่าทั้งบิดาและพี่ชายทั้งสองจะไม่มีใครกล้าขัดเด็กสาวคนเดียวของคฤหาสน์แห่งนี้ได้เลย

____“ไม่อย่างนั้น ท่านก็ต้องจัดการให้เรียบร้อย ก่อนที่เลดี้เฮสเทียตัวน้อยจะเลิกปิกนิก กระผมเข้าใจถูกต้องหรือไม่ขอรับ ลอร์ดฮิปนอส”

❈ ◇ ❈ ◇ ❈

TO BE CONTINUE

/ ติชมผลงานหรือให้กำลังใจได้ที่ ห้องวิจารณ์ผลงาน ♕ /
( อ่านเรื่องเต็มของ The Seven Keys และคอมเมนต์ติชม/ให้กำลังใจได้ ที่นี่ ค่ะ )

────────────────────────────────────

[Celez Volante Am...]

OPERATION HAR-ZIA
CHAPTER II
────────────────────────────────────

____ลมอ่อนๆ พัดโชยเข้ามาในตัวป่าหลังคฤหาสน์พอให้อากาศไม่อบอ้าวจนเกินไปนัก เมื่อเจอเข้ากับแสงอาทิตย์ยามบ่ายของฤดูใบไม้ผลิซึ่งลอดผ่านร่มเงา
จากแนวต้นไม้แน่นขนัดเข้ามา มันก็ได้กลายเป็นบรรยากาศที่ผ่อนคลายจนไม่น่าแปลกใจเลย ที่เด็กสาวตัวเล็กๆเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนจะชื่นชอบเสียจนต้องหาเรื่องออกมาวิ่งเล่นแทบทุกวัน

____เด็กสาวตัวเล็กๆ ที่เป็นดั่งดวงใจของคฤหาสน์หลังใหญ่อันเงียบเหงาแห่งนี้มาตลอดแปดปี นับตั้งแต่วินาทีแรกที่เลดี้เฮสเทีย คิงส์ตันลืมตาขึ้นมา

____“เฮสเบื่อแล้วอะ” เด็กสาวในเดรสลายดอกไม้หยุดวิ่งด้วยใบหน้ามู่ทู่ เสื้อคอบัวของเด็กสาวชื้นไปด้วยเหงื่อแม้ว่าจะมีแดดเพียงอ่อนๆ และอากาศก็ไม่ได้อบอ้าวมากนัก
ขณะนั้นเองที่ลอร์ดฮาเดสเงยหน้าขึ้นจากหนังสือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบชั่วโมงเพื่อพักสายตา ทายาทคนโตของดยุคแห่งคิงส์ตันเหลือบมองสาวใช้ทั้งสองที่มองหน้ากัน
เลิ่กลั่กอย่างอ่อนใจ ทั้งสองดูกังวลที่เห็นว่าเลดี้ตัวน้อยเริ่มออกอาการเบื่อหน่ายกับการวิ่งไล่จับแล้ว

____“เป็นคนประกาศเองว่าให้ทุกคนอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าฮิปนอสจะมา” เขาหยุดเพื่อยกนาฬิกาข้อมือที่ทำจากทองคำขาวขึ้นดู “ยังไม่ทันถึงชั่วโมงก็บ่นซะแล้ว”

____ทายาทแห่งคิงส์ตันคนโตรำพึง ชายหนุ่มซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้สีขาวสะอาดตาใต้เงาต้นไม้ใหญ่โคลงศีรษะให้กับน้องสาวที่แสนจะเอาใจยาก ทว่า ในจังหวะที่เขากำลังจะ
ก้มลงไปคร่ำเคร่งกับตัวหนังสือตรงหน้าต่อนั้นเอง เสียงที่เขาอยากได้ยินน้อยที่สุดก็ดังขึ้น

____“พี่ฮาร์ส!” เสียงออดอ้อนที่คุ้นเคยของน้องสาวคนเล็กลอยเข้ามาโสตประสาทของเด็กชายจากคิงส์ตันตะวันตก สองขาภายใต้เดรสสั้นลายพิมพ์สดใส
วิ่งเตาะแตะมาหาพี่ชายคนโต นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มดูจะหวาดผวากับท่าทีของเฮสเทียที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่า การมาทำหน้าที่พี่ชายที่ดีโดยการนั่งอ่านหนังสือเป็นเพื่อน
อย่างสงบจะไม่มีอยู่จริง

____“ครับ ท่านหญิง” เขาคลี่ยิ้มออกมาในที่สุดเมื่อเห็นแววตาเว้าวอนจากดวงตาทั้งสองข้างที่มีสีแตกต่างกันของเฮสเทีย ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ชายหนุ่มก็แพ้
ลูกอ้อนของน้องสาวเสมอ

____เแม้ว่าเฮสเทียดูจะสนิทสนมกับฮิปนอสมากกว่าเขาด้วยอายุที่ไม่ห่างกันมากนัก รวมทั้งโลกส่วนตัวของน้องชายคนรองของเขาเองด้วยที่ดูจะถูกจริตกับคนชอบเอาชนะ
แบบเฮสเทียเสียมากกว่า ยังไงก็ตาม เขาก็ยังคงรักและคอยสอดส่องความเป็นไปน้องสาวคนนี้อยู่ห่างๆ

____“พี่พอจะมีวิธีแก้เบื่อมั้ย เฮสวิ่งเล่นกับแนนนี่ซาร่าห์-ซินดี้จนเบื่อแล้ว” เด็กสาวช่างจ้อไม่เพียงแต่เอ่ยเจื้อยแจ้วด้วยใบหน้ามู่ทู่ที่ปั้นแต่งมาจนเกินพอดี
เท่านั้น เฮสเทียยังตบท้ายด้วยการยกมือขึ้นปิดปากหาวประกอบคำพูดของเธอให้มีน้ำหนักมากขึ้นไปอีก

____“ซาร่าห์กับซินดี้ทำให้เฮสเบื่ออย่างนั้นหรอครับ” ฮาเดสแสร้งเหลือบสายตาไปทางสาวใช้ทั้งสองที่อยู่ในเสื้อคอปกสีดำที่มีระบายและกระดุมสีขาวเข้าคู่กันกับ
กระโปรงจีบรูดและเรือนผมสีดำสนิท ทั้งสองยังคงก้มหน้าอย่างสงบเฉกเช่นบริวารที่ได้รับการอบรมมารยาทมาเป็นอย่างดี แม้ว่าเขาจะกำลังแสดงความกังขา
กับการปฏิบัติหน้าที่ของพวกเธออยู่ก็ตาม

____“ไม่ใช่นะ!” เด็กสาวผู้มีดวงตาสองสีแย้งขึ้น เลดี้แห่งคิงส์ตันใต้หันไปหาสาวใช้วัยแรกแย้มทั้งสอง ซึ่งเป็นบุตรสาวของแม่นมของเลดี้เฮสเทีย…สาวใช้สูงวัยอีกคนหนึ่ง
ซึ่งในตอนนี้ คงจะกำลังจัดการความเรียบร้อยอยู่ภายในคฤหาสน์อยู่เป็นแน่

____เด็กสาวดูเป็นกังวลอย่างมาก ริมฝีปากยื่นๆสั่น คล้ายกับมีบางอย่างที่ไม่สามารถเรียบเรียงออกมาเป็นคำพูดได้

____“ไม่ใช่ความผิดของซาร่าห์กับซินดี้นะคะ”

____“ถ้าอย่างนั้น มันก็ต้องเป็นความผิดของเรา พี่พูดถูกมั้ย” ฮาเดสหยั่งเชิง เขามองน้องสาวที่เม้มปากแน่น เฮสเทียพยักหน้าเร่งรัว ดวงตาหลุบต่ำเมื่อโดนตำหนิ

____“ในฐานะเลดี้ผู้สูงศักดิ์ เราจะต้องระมัดระวังคำพูดให้มากกว่านี้ มิฉะนั้น คนของเราซึ่งเขาไม่มีสิทธิโต้แย้งหรือทวงความยุติธรรมให้ตัวเองได้จะต้องถูกตัดสิน
ในความผิดที่เขาเหล่านั้นไม่ได้เป็นผู้ทำ เข้าใจที่พี่พูดรึเปล่า หืม” เจ้าของคำพูดโตเกินวัยอย่างลอร์ดฮาเดส คิงส์ตันปิดหนังสือในมือลง ระมัดระวังเป็นอย่างมาก
ที่จะไม่ให้คำพูดของเขาทำหน้าที่ไปมากกว่าการชี้แนะด้วยความหวังดี

____“เฮสเข้าใจแล้วค่ะ” เลดี้เฮสเทียว่า เธอเม้มฝีปากอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้ากับซาร่าห์และซินดี้ที่ยังคงยืนก้มหน้าอย่างสำรวมอยู่ด้านหลัง

____“ซาร่าห์คะ ซินดี้คะ” ร่างเล็กเอ่ยเสียงอ่อย ก่อนจะโค้งอย่างงดงามให้กับสาวใช้ทั้งสองที่ตกใจจนแทบจะลงไปกองกับพื้น

____“เฮสขอโทษนะคะที่เกือบทำให้ทั้งสองคนต้องเดือดร้อน” ซาร่าห์และซินดี้ยังคงเม้มปากแน่นสนิทในตอนที่ทั้งสองสั่นศีรษะแรงๆ หัวคิ้วขมวดกันเป็นปม พวกเธอย่อตัว
อยู่หลายครั้งด้วยอารามตกใจ แน่ละ คงไม่มีสาวใช้คนใดที่เคยได้รับการอบรมว่าด้วยการโค้งตอบเมื่อนายเหนือหัวโค้งคำนับให้เป็นแน่

____ฮาเดสเหลือบตามองสาวใช้ทั้งสองชีวิตที่อายุมากกว่าเขาไม่กี่ปี ก่อนจะผงกหัวเบาๆแทนคำอนุญาต

____“ไม่เป็นไรเลยค่ะท่านหญิงน้อย” ซาร่าห์ซึ่งมัดผมหางม้าขึ้นไปด้วยโบว์สีดำว่า ดวงตาสีดำของหล่อนหันไปหาซินดี้ผู้มีผมสั้นระคอที่กำลังพยักหน้าเห็นดัวยกับ
คำพูดของพี่สาวเร่งรัว

____“พวกเธอไปเอาน้ำผลไม้ปั่นมาให้เฮสหน่อยไป ส่วนของฉันเอาเป็นเอิร์ลเกรย์ก็แล้วกัน” ว่าที่ผู้นำตระกูลว่า

____“พี่จะกินเอิร์ลเกรย์ร้อนในวันที่แดดเปรี้ยงขนาดนี้หรอ” เลดี้เฮสเทียค่อยๆ เอี้ยวใบหน้ากลับมาหาพี่ชาย คิ้วได้รูปสีอ่อนยับย่น ในขณะที่ซาร่าห์และซินดี้ในเครื่องแบบ
สีดำถอยฉากจากไป

____“เดี๋ยวเราก็ทำให้มันหายร้อนไง” ฮาเดสยิ้มเผล่ รอยยิ้มของเขาไม่น่าไว้วางใจเลยสักนิด แต่ด้วยความเป็นเด็กของเฮสเทียที่ยังไม่รู้ประสีประสานัก เด็กสาวจึง
ไม่สามารถทนทำหน้าหน้าดำคร่ำเคร่งได้นานนักแม้จะยังไม่หายสงสัยก็ตาม

____“เฮสไม่ใช่ตู้เย็นนะ” ร่างเล็กยู่ปาก และนั่นเรียกเสียงหัวเราะจากผู้เป็นพี่ที่กำลังขยับตัวเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถ เขากลั้นยิ้มเมื่อเห็นใบหน้าไม่สบอารมณ์ของน้องสาว
แต่เด็กชายก็ไม่ได้โต้แย้งอะไรออกไป

____“ไหนตอบพี่หน่อย ปกติแล้ว ไฟของเรามาจากไหนได้บ้าง” เด็กชายวัยสิบห้าปีกระแอม ทันใดนั้นเขาก็ดูภูมิฐาน กิริยาท่าทางและน้ำเสียงดูคล้ายกับเชื้อพระวงศ์หนุ่ม
วัยฉกรรจ์ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของตระกูล และแน่นอนว่าเขาไม่ใช่แค่ดูเหมือน หากแต่ลอร์ดฮาเดสคนนี้ คือความภาคภูมิใจของตระกูลคิงส์ตัน เหล่าราชสีห์ผู้ถูกขนานนาม
ว่าเป็นตระกูลหน้ากากทมิฬอันลือชื่อ

____เฮสเทียมองหน้าพี่ชายร่วมสายเลือดด้วยดวงตาทั้งสองข้างที่มีสีแตกต่างกัน ด้วยอารมณ์บางอย่างของเจ้าตัว มันทำให้ดวงตาของเธอดูลึกลับและยากจะหยั่งถึง

____“พี่ชักจะเหมือนท่านหญิงอลิซเข้าไปทุกทีแล้ว” เธอรำพึง

____สีหน้าของฮาเดสราบเรียบ เขาพ่นลมหายใจพลางตบหน้าขาของตัวเอง “มานั่งนี่สิ”

____เด็กชายยกยิ้มที่ดูกังวลเสียจนหากว่าเขาบอกว่าไม่ได้กังวลกับอะไรอยู่ คงยากที่จะมีใครเชื่อ ร่างเล็กในเดรสลายดอกไม้สีอ่อนเดินเตาะแตะตรงเข้ามาหาพี่ชาย
ที่ยกตัวน้องสาวขึ้นนั่งลงบนหน้าขาที่อยู่ภายใต้กางเกงสีมะฮอกกานีเนื้อดี “ท่านหญิงอลิซาเบ็ธ ริสทอร์บัลหนะหรอ”

____“อื้อ” เด็กสาวพยักหน้ารับพลางเอนหลังพิงเสื้อเชิร์ตสีขาวสะอาดของพี่ชาย ซึ่งฮาเดสผู้รักความเนี้ยบเสียยิ่งกว่าอะไรดีก็ไม่ได้แสดงท่าทีทุกข์ร้อนอะไร
ที่เหงื่อของน้องสาวจะมาเปรอะเปื้อน เป็นอีกหนึ่งเครื่องยืนยันชั้นดีถึงความรักและความเอ็นดูของทายาทผู้เป็นความภาคภูมิใจแห่งคิงส์ตันที่มีต่อน้องสาวคนเล็ก
“เฮสคิดถึงท่านหญิง”

____“ท่านพ่อบอกว่าท่านหญิงไม่จะมาสอนเฮสแล้ว เฮสดื้อหรือว่าท่านหญิงไม่ว่างแล้วจริงๆหรอคะพี่ฮาร์ส”

____ผู้เป็นพี่ชะงักไปหลายอึดใจ นานเสียจนเฮสเทียคิดว่าเขาอาจจะไม่หายใจอีกแล้วก็เป็นได้ “จนถึงตอนนี้ พี่ก็ยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมท่านหญิงอลิซาเบ็ธแห่งริสทอร์บัล
ผู้นำแห่งเดอะดาร์คกลอเรียส ถึงยอมมาสอนให้กับตระกูลรองอย่างเรา”

____ดวงตาสีน้ำเงินของลอร์ดฮาเดสดูลังเล “มีบางอย่างที่พ่อไม่ได้บอกเรา”

____“พ่อไม่ได้บอกเฮสหลายอย่างเลยหละ เฮสยังเด็กเกินไปค่ะที่จะรับรู้เรื่องของผู้ใหญ่” เฮสเทียพยักหน้าหงึกหงัก เด็กสาวเอ่ยเจื้อยแจ้วอย่างจริงจัง เด็กสาวไม่ได้
ดูน้อยใจแต่อย่างใด อันที่จริง เลดี้เฮสเทียดูจะเข้าอกเข้าใจความคิดของบิดาบังเกิดเกล้าเสียจนแทบไม่น่าเชื่อว่า เด็กหญิงตัวเล็กๆคนนี้เพิ่งจะอายุครบแปดปีเมื่อไม่กี่เดือนก่อนเท่านั้น

____“แล้วเฮสคิดว่าถ้าเป็นเรื่องของท่านหญิงอลิซ เฮสพร้อมที่จะเป็นผู้ใหญ่ร่างจิ๋วเพื่อรับรู้ความจริงรึเปล่า” ตอนนั้นเองที่เด็กสาวเขยิบตัวออกห่างจากพี่ชาย
เพื่อให้ดวงตาสองสีคู่นั้นสามารถสบเข้ากับดวงตาสีน้ำเงินจัดของฮาเดสได้อย่างถนัดถนี่

____เด็กสาวประเมินสีหน้าของพี่ชายอยู่นานหลายอึดใจ เธอไม่แน่ใจว่าฮาเดสเพียงต้องการที่จะลองเชิงว่า เธอเข้าใจที่ดยุคซิลเวอร์บอกจริงหรือไม่ว่าเธอยังเด็กเกินไป
ที่จะรับรู้มัน หรือบางทีพี่ชายของเธออาจจะแค่ต้องการทดสอบว่าเธอสามารถแยกแยะกิจของผู้ใหญ่กับกิจของเด็กออกจากกันได้มั้ย

____ทว่าตลอดแปดปีที่เธอรู้จักเขามา… เนิ่นนานพอๆกับที่เธอรู้จักตัวเองนั้น พี่ชายคนโตของเธอไม่ใช่คนประเภทที่จะมาทดสอบเธอด้วยการหลอกล่อแบบนี้
และนั่นแปลว่าฮาเดสรู้บางอย่างที่เธอไม่รู้ และเขาเชื่ออย่างจริงใจว่าเธอพร้อมที่รับรู้มันแล้ว

____เด็กสาวสูดหายใจลึกด้วยดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญ “เฮสพร้อมค่ะ"

❈ ◇ ❈ ◇ ❈

TO BE CONTINUE

/ ติชมผลงานหรือให้กำลังใจได้ที่ ห้องวิจารณ์ผลงาน ♕ /
( อ่านเรื่องเต็มของ The Seven Keys และคอมเมนต์ติชม/ให้กำลังใจได้ ที่นี่ ค่ะ )

────────────────────────────────────

[Celez Volante Am...]

OPERATION HAR-ZIA
CHAPTER III
────────────────────────────────────

____“เฮส…” ใบหน้าของฮาเดสเต็มไปด้วยความเจ็บปวดอันลึกล้ำเมื่อปฏิกิริยาของน้องสาวไม่ต่างจากที่เขากลัวเลยสักนิด มันคล้ายกับเปลวเพลิงแห่งความโกรธเกรี้ยว
ที่ถูกรั้งไว้ด้วยห้วงของความเสียใจอย่างสุดซึ้ง สำหรับเด็กอายุเพียงเท่านี้ มันเป็นเรื่องยากยิ่งที่เด็กสาวจะสามารถเผชิญหน้ากับสิ่งที่เรียกว่าความตายได้อย่างกล้าหาญ

____เลดี้เฮสเทีย คิงส์ตัน เด็กสาวผู้เพียบพร้อมที่มีปมในใจเรื่องครอบครัวมาตลอดก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น อันที่จริงควรเรียกว่า เฮสเทียเป็นกรณีพิเศษที่อาจไม่สามารถยอมรับ
การสูญเสียเช่นนี้ได้อย่างคนปกติทั่วไปเลยเสียด้วยซ้ำ

____อลิซาเบ็ธ ริสทอร์บัล ผู้นำแห่งเดอะดาร์ค กลอเรียสทั้งมวลถือเป็นหญิงสาวคนสำคัญเพียงคนเดียวในชีวิตของเลดี้ตัวน้อย เฮสเทียอาจเติบโตขึ้นท่ามกลางความรัก
และความอบอุ่นจากชายร่วมสายเลือดถึงสามชีวิตก็จริง ทว่าทั้งบิดาและพี่ชายทั้งสองต่างก็ไม่สามารถชดเชยสิ่งที่ขาดหายไปของเด็กสาว ซึ่งเกิดจากความห่างเหิน
อันไม่ทราบสาเหตุของมารดาบังเกิดเกล้าได้

____ดัชเชสเฮเลน่า คิงส์ตันเจ้าของผมสีน้ำตาลอ่อนยาวสลวยซึ่งเป็นต้นพิมพ์ของเฮสเทีย บุตรสาวที่ถอดแบบเธอมาอย่างกับแกะ ดัชเชสผู้อ่อนหวานเคยเป็นที่รักของคน
ทั้งปราสาท ทว่าทุกสิ่งได้เปลี่ยนไปนับตั้งแต่วินาทีแรกที่บุตรสาวคนสุดท้องลืมตาขึ้นมาบนโลก ไม่มีใครทราบสาเหตุที่แท้จริงในสายสัมพันธ์ของทั้งคู่ ไม่เว้นแม้แต่
ตัวของลอร์ดฮาเดสเอง

____แม้แต่ดยุคผู้เป็นประมุขของตระกูลก็ดูจะจนใจกับการแก้ปัญหาที่ไม่สามารถจับต้นชนปลายนี้ได้

____แม้ว่าพี่ชายคนโตของเหล่าราชสีห์จะถูกมารดาตีตัวออกห่างไม่ต่างกันกับน้องทั้งสอง แต่เขาและฮิปนอสก็มีบุคลิกที่รักสันโดษเฉกเช่นเด็กชายทั่วไป อีกทั้งอายุ
ในตอนนั้นได้เลยช่วงที่ต้องการการประคบประหงมจากมารดามาไกลแล้ว พวกเขาย่อมที่จะสนใจเรื่องอื่นๆตามประสาเด็กผู้ชายมากกว่าใช้เวลาร่วมกับมารดา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเกิดมาในตระกูลที่สูงส่งอย่างคิงส์ตัน ทำให้พวกเขาล้วนได้รับการอบรมในแบบฉบับที่แตกต่างไปจากคนทั่วไป แตกต่างมากพอที่จะยอมรับ
กับความโดดเดี่ยวได้ดีกว่า และนั่นล้วนเป็นประกอบกันเป็นเหตุผลที่ทำให้แผลในใจของราชสีห์หนุ่มทั้งสองของคิงส์ตัน ไม่สามารถเทียบกันกับแผลฉกรรจ์ซึ่งบาดลึก
อยู่ในใจของเฮสเทียได้เลย

____การเข้ามาของท่านหญิงอลิซาเบ็ธ ริสทอร์บัลในวันนั้น สร้างความคลางแคลงใจให้กับทุกคน ไม่เว้นแม้แต่บิดาของเหล่าตรีเทพ

____ดยุคซิลเวอร์แห่งตระกูลหน้ากากทมิฬ ตระกูลฝ่ายขวาของเดอะดาร์คซึ่งเป็นรองแค่เพียงริสทอร์บัลในตอนนั้นพร้อมจะลุกขึ้นแข็งข้อต่อตระกูลริสทอร์บัลแล้ว
หากไม่ใช่เพราะเสียงหัวเราะกังวานใสคล้ายกับระฆังแก้วของเลดี้ผู้เป็นแก้วตาดวงใจของคฤหาสน์อันเงียบเหงา มันเสียงหัวเราะอย่างจริงใจเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
นับตั้งแต่เด็กสาวเริ่มรู้ประสีประสา และนั่นหยุดบิดาของพวกเขาไม่ให้ก่อสงครามภายในฝ่ายได้สำเร็จ

____หญิงสาวผู้เป็นเสาหลักแห่งเดอะดาร์คกลอเรียสอย่างอลิซาเบ็ธ ริสทอร์บัล ถือเป็นหญิงสาวผู้ทรงอำนาจและน่าหวาดผวาที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์
ของผู้ใช้เวทมนตร์

____ชีวิตของอลิซาเบ็ธเต็มไปด้วยประวัติอันเป็นความลับที่ดำมืด ตลอดระยะเวลากว่ายี่สิบปีนับตั้งแต่วันมหาทมิฬที่ผู้ใช้เวทมนตร์ใช้เรียกวันเกิดของผู้นำหญิงคนนี้
เส้นทางชีวิตของเธอเต็มไปด้วยข่าวลือที่น่าสะพรึงกลัวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นมหันตภัยร้ายแรงที่สุดรอบศตวรรษซึ่งอุบัติขึ้นหลายจุดบนโลกในวันนั้น รสนิยมการใช้ชีวิต
สุดวิปโยคของเจ้าหล่อนนับตั้งแต่เริ่มร้องอ้อแอ้ได้ การหายตัวไปอันเป็นปริศนาของสาวใช้ในคฤหาสน์ริสทอร์บัล และอื่นๆอีกมากมาย

____แม้จะไม่เคยมีหลักฐานชิ้นใดที่สามารถพิสูจน์ข่าวลือใดของอลิซาเบ็ธได้ แต่ก็ไม่มีหลักฐานชิ้นใดที่ยืนยันได้ว่าเจ้าหล่อนบริสุทธ์เช่นกัน ดังนั้น จากข่าวลือและ
สมมติฐานทั้งหมดทั้งมวลก็ล้วนไปบรรจบกับบทสรุปที่ว่า อลิซาเบ็ธ ริสทอร์บัลคือฆาตกรที่โหดเหี้ยมและเก่งกาจที่สุดในรอบสหัสวรรษ

____เรื่องราวยิ่งร้ายแรงและเลวร้ายลงไปอีก เมื่อข่าวการถูกสังหารหมู่ของสมาชิกในตระกูลริสทอร์บัลกระจายออกไป

____เพียงชั่วข้ามคืน การเป็นผู้รอดชีวิตหนึ่งเดียวและการไม่ออกมาเคลื่อนไหวใดๆต่อสาธารณชนของเจ้าหล่อนทำให้อลิซาเบ็ธตกเป็นจำเลยอย่างเสียมิได้
หากไม่ใช่เพราะความเก่งกาจอันเหลือล้นและข่าวลือต่างๆ ซึ่งเป็นดั่งศาตราวุธทิ่มแทงเจ้าหล่อนไปพร้อมกันเป็นเกราะป้องกันตัวหญิงสาวแล้ว อลิซาเบ็ธ ริสทอร์บัล
คงตกอยู่ในที่นั่งลำบากเป็นแน่

____เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันประจวบเหมาะเจาะคล้ายกับถูกจัดวางไว้จนเกินไป มันยืนยันสมมติฐานของผู้คนที่คล้อยตามกับข่าวลือมาตลอดอยู่ก่อนหน้า
ได้อย่างพอดิบพอดี แม้ว่าจะไม่มีใครเห็นกับตาหรือรู้สาเหตุที่แท้จริงที่หล่อนรอดชีวิต แต่ทุกอย่างก็ล้วนเป็นเหตุเป็นผลที่ทำให้หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีบลอนด์
และริมฝีปากสีแดงสด อันคล้ายกับว่ามันไม่ได้เกิดจากการแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์คนนี้ ได้รับการขนานนามว่า อลิซาเบ็ธ บาโธรี่ แห่งโลกเวทมนตร์ หากมองใน
มุมของดยุคซิลเวอร์ นอกเหนือไปจากการที่ชายผู้นี้ดำรงตำแหน่งผู้นำของตระกูลขวามือแห่งเดอะดาร์คกลอเรียส ซึ่งขึ้นตรงกับริสทอร์บัลแล้วนั้น เขายังมีอีกหนึ่ง
บทบาทที่ไม่มีวันหนีพ้นไปได้ นั่นก็คือบทบาทของบิดาบังเกิดเกล้าสำหรับบุตรธิดาทั้งสาม

____มันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะคาดเดาถึงความหวาดกลัวของดยุคซิลเวอร์เมื่อหญิงสาวสุดอันตรายคนนี้ก้าวเข้ามาในชีวิตของเฮสเทีย

____จริงอยู่ที่ดยุคซิลเวอร์เป็นหนึ่งในชายที่จงรักภักดีต่อเดอะดาร์ค กลอเรียสยิ่งชีวิต เขาอาจจะยอมสวามิภักดิ์และมองข้ามข่าวลืออันไม่ได้รับการยืนยันเหล่านั้น
ของอลิซาเบ็ธไปได้ ในฐานะตระกูลใต้บังคับบัญชา แต่ไม่ใช่ในฐานะบิดาของบุตรสาวอันเป็นยิ่งกว่าจิตวิญญาณของเขาอย่างแน่นอน

____ท่านหญิงอลิซาเบ็ธ ริสทอร์บัล คือบุคคลที่สามารถทำให้คนจากเดอะดาร์ค กลอเรียสเองหวาดผวาได้เพียงเอ่ยชื่อ อย่าว่าแต่เดอะไลท์ เฟลม ซึ่งต่างก็ยอม
รามือจากสงครามระหว่างฝ่ายไปได้หลายสิบปี นับตั้งแต่การปรากฏตัวของทายาทแห่งริสทอร์บัลคนนี้เลย

____หลังจากครั้งแรกที่เฮสเทียได้พบกับอลิซาเบ็ธ บาดแผลของเด็กสาวก็ดูคล้ายกับว่าจะได้รับการเยียวยา

____อลิซาเบ็ธในวัยที่เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นมารดาของเฮสเทียได้แล้ว เธอได้กลายมาเป็นคนโปรดของท่านหญิงน้อยแห่งคิงส์ตัน เป็นแขกคนสำคัญที่เทียวไปมา
ระหว่างคฤหาสน์ริสทอร์บัลและคฤหาสน์คิงส์ตันอยู่เป็นนิจ

____ความหวาดกลัวของทุกคนยังคงอยู่ แต่รอยยิ้มอันยากแก่การต้านทานของเฮสเทียก็หยุดยั้งบิดาของเหล่าตรีเทพเอาไว้ ทุกครั้งที่อลิซาเบ็ธเหยียบย่างเข้ามา
ในคฤหาสน์ เหล่าสมาชิกที่เหลือจะปิดประตูห้องให้สนิท และยกพื้นที่ทั้งคฤหาสน์ให้กับคนทั้งสอง

____ไม่มีใครรู้ว่าทั้งสองฝึกฝนพลัง พูดคุย หรือศึกษาศาสตร์แขนงไหนด้วยกัน และไม่มีใครเคยงัดปากของเลดี้ตัวน้อยแห่งทิศใต้ออกมาได้ นอกเหนือไปจากบางเรื่อง
ที่เด็กสาวยอมเปิดปากเล่าในโต๊ะอาหารด้วยตนเอง แต่ข้อมูลเหล่านั้นมันก็น้อยเสียเหลือเกิน น้อยเกินไปที่จะลบความกังวลของประมุขแห่งตระกูลหน้ากากทมิฬไปได้

____ทว่าดยุคก็ยังยอมให้หญิงสาวเทียวไปมาระหว่างคฤหาสน์อยู่หลายปี และยังยอมให้เฮสเทียไปเยี่ยมเยียนที่ริสทอร์บัลเลยเสียด้วยซ้ำ ผลที่ได้ก็คือ พลังของเฮสเทีย
ที่พุ่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด และมันมาพร้อมกับความคิดความอ่านที่ยากจะหยั่งลึก

____แต่แล้ว ในฤดูหนาวในปีที่เฮสเทียอายุครบเจ็ดปี อลิซาเบ็ธก็ไม่กลับมาปรากฎตัวที่คฤหาสน์คิงส์ตันอีกต่อไป

____เฮสเทียในวัยเจ็ดปีเคยหนีออกจากคฤหาสน์และนั่งรถม้าไปถึงคฤหาสน์ริสทอร์บัลด้วยตัวเอง เพื่อจะรับรู้ว่าคฤหาสน์แห่งนั้นไม่เปิดรับเธอเข้าไปอีกแล้ว แม้ว่าเลดี้
เฮสเทียจะยืนเกาะขอบรั้วและตะโกนเรียกเสียจนเสียงแหบแห้งไปเกือบค่อนวัน ก่อนที่บิดาของเขาจะไปรับร่างเล็กซึ่งสลบไสลด้วยความเหนื่อยอ่อนกลับมาก็ตาม
แต่ประตูของคฤหาสน์ริสทอร์บัลก็ยังคงปิดสนิท

____ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เด็กสาวก็เปลี่ยนเป็นเด็กที่เก็บตัวเสียยิ่งกว่าเดิม เธอได้แต่เฝ้าตั้งคำถามกับตัวเอง แม้ว่าจะมีจดหมายจากอลิซาเบ็ธมาถึงเฮสเทีย
ในอีกสองเดือนต่อมา แต่นั่นก็ไม่เพียงพอ พวกเขาใช้เวลาอยู่พักใหญ่กว่าที่เด็กสาวจะยอมเปิดใจให้กับพี่ชายทั้งสองอย่างฮาเดสและฮิปนอสมากขึ้น แต่ทั้งสองก็รู้ดีว่า
สิ่งที่พวกเขาได้เห็นจากน้องสาวของเขา เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของตัวตนอันสลับซับซ้อน ซึ่งเฮสเทียและอลิซาเบ็ธได้สร้างไว้ด้วยกัน

____และเมื่อเหมันต์มาเยือน ข่าวการฆ่าตัวตายของเจ้าหล่อนก็ได้สร้างความวิปโยคครั้งยิ่งใหญ่ให้กับโลกเวทมนตร์

____มันเป็นเรื่องไม่คาดฝันที่ใช้เวลานานหลายเดือนนักกว่าที่ผู้ใช้เวทมนตร์จะยอมปักใจเชื่อ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นปริศนา เฉกเช่นเดียวกับเรื่องอื่นๆในชีวิตของอลิซาเบ็ธ
ริสทอร์บัลนั่นแหละ มันไม่ใช่เรื่องน่ายินดี แม้ว่ามันจะเป็นความตายของหญิงสาวผู้รับการขนานนามว่าเป็นฆาตกรผู้ใช้เวทมนตร์แห่งยุค เพราะมันสั่นสะเทือนไปทุกหย่อมหญ้าของโลกเวทมนตร์ สมดุลอำนาจของเดอะดาร์คกลอเรียสพังทลาย โลกปีศาจและเหล่าปีศาจพันธะซึ่งต่างเชื่อมต่อกับห้องสัจจะในคฤหาสน์ตระกูลริสทอร์บัลถูกปิดตาย

____ความวิปโยคภายในของเดอะดาร์คกลอเรียสเหมือนจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของหายนะที่แท้จริง เพราะแน่นอนว่าจุดเปลี่ยนครั้งนี้ถือเป็นโอกาสทองของเดอะไลท์เฟลม
ที่เก็บตัวเงียบอย่างอึดอัดมากว่าสิบปี

____และแน่นอน หายนะที่ทุกคนหมายถึงก็ได้รวมถึงโทสะของตรีเทพคนสุดท้องแห่งตระกูลหน้ากากทมิฬเข้าไปด้วย

❈ ◇ ❈ ◇ ❈

TO BE CONTINUE

/ ติชมผลงานหรือให้กำลังใจได้ที่ ห้องวิจารณ์ผลงาน ♕ /
( อ่านเรื่องเต็มของ The Seven Keys และคอมเมนต์ติชม/ให้กำลังใจได้ ที่นี่ ค่ะ )

────────────────────────────────────

[Celez Volante Am...]

OPERATION HAR-ZIA
CHAPTER IV
────────────────────────────────────

____“เฮส…” นี่เป็นครั้งที่สี่แล้วที่เสียงทุ้มๆ ของฮาเดสเอ่ยเรียกร่างเล็ก เขาเพิ่มระดับเสียงให้ดังขึ้นจนมันคล้ายการตะโกนเข้าไปทุกที ทว่าน้องสาวหัวแก้วหัวแหวนก็ยังคง
นั่งนิ่งอยู่บนหน้าขาภายใต้กางเกงสีมะฮอกกานีของเขา

____เลดี้เฮสเทียไม่ได้ผลักพี่ชายออก หรือผละถอยห่างออกไปอย่างที่คนเป็นพี่คาด อันที่จริงควรจะบอกว่าเด็กสาวไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆนอกเหนือไปจากเสียงลมหายใจ
ขาดห้วงที่ดังขึ้นเป็นระยะน่าจะเหมาะกว่า สิ่งที่เด็กชายมองเห็นมีเพียงเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนบนศีรษะทุยซึ่งถอดแบบมาจากมารดาของพวกเขาเท่านั้น เรือนผมยาวสลวย
เคลื่อนไหวไปตามการนำพาของสายลม มันสยายและไล้ไปตามสันกรามคมชัดของเก้าอี้จำเป็นซึ่งนั่งตัวแข็งทื่อ

____ฮาเดส คิงส์ตันไม่กล้าแม้แต่จะแตะตัวร่างเล็กตรงหน้า เด็กสาวตัวสั่น คล้ายกับแก้วที่พร้อมจะปริแตกได้ทุกเมื่อ สองมือของเขายกขึ้นลงกลางอากาศอย่างไม่รู้จะ
ทำอย่างไรดีและในขณะที่ลอร์ดฮาเดสกำลังจะสติแตกนั่นเอง มือเล็กๆของเฮสเทียกเอื้อมมาจับมือของเขาไว้

____อาการสั่นระริกจะหายไปแล้ว แต่มันก็ยากเหลือเกินที่จะตัดสินว่ามือของใครในตอนนี้ที่เย็นกว่ากัน

____ไม่ต้องมีคำพูดอื่นใด เพราะสัมผัสนุ่มนิ่มนั่นก็พัดเอาความโล่งใจแผ่ซ่านไปทั่วร่างของทายาทคนโตแห่งตระกูลหน้ากากทมิฬ ร่างของฮาเดสสั่นสะท้าน คล้ายกับว่า
ผู้ใช้ไฟตัวน้อยเพิ่งจะส่งผ่านพลังงานความอบอุ่นมาให้กับเขา มันหอมหวานและอบอุ่นเหมือนกันกับช็อคโกแลตร้อนที่หลอมจากเปลวไฟในเตาผิงประจำบ้านไม่มีผิด
ซึ่งก็เข้ากันกับชื่อของเจ้าตัวที่ถูกตั้งตามเทพีแห่งเตาไฟของกรีกได้เป็นอย่างดี

____เด็กสาวในชุดกระโปรงสั้นเหนือเข่าใช้มืออีกข้างปาดน้ำตาที่ไหลเป็นสาย ริมฝีปากสีอ่อนเม้มแน่น ร่างเล็กสามารถสะกดกลั้นก้อนสะอื้นเอาไว้ได้เป็นอย่างดี
ดีเกินไปเสียด้วยซ้ำสำหรับเด็กสาวอายุเพียงแปดปีเท่านั้น

____“กอดได้มั้ย...” ก่อนที่เสียงเล็กจะทันได้จบประโยค ร่างของเฮสเทียก็ถูกอ้อมแขนของพี่ชายรวบเข้าไปแนบอกเสียก่อน มือเล็กจับเสื้อของฮาเดสแน่นจนมันยับยู่ยี่
ส่วนใบหน้าจิ้มลิ้มก็ไม่วายใช้แผ่นอกของร่างสูงเป็นที่ซับน้ำตา ซึ่งแน่นอนว่าคนเป็นพี่ผู้รักความสะอาดเรียบร้อยเสียยิ่งกว่าอะไรดีอย่างลอร์ดฮาเดส คิงส์ตันคนนี้
ก็ยกให้เฮสเทียเป็นข้อยกเว้นอีกเช่นเคย

____“อย่าทำขี้มูกเลอะเสื้อพี่ก็พอ” ลอร์ดฮาเดสปั้นเสียงขรึมที่ทำเอาใบหน้าของเด็กสาวงอง้ำ ทว่ารอยยิ้มเขินอายของเด็กสาวปรากฏตามมาเมื่อเฮสเทียซุกหน้าลงกับ
หน้าอกของร่างสูง อย่างที่คนเป็นพี่คาดไว้ไม่มีผิด เด็กชายโยกตัวไปมา ฮึมฮัมบางอย่างในลำคอที่ฟังไม่คล้ายกับเสียงเพลงเสียเท่าไหร่นัก แต่ทั้งหมดก็ล้วนทำเพื่อ
ปลอบประโลมร่างเล็กในอ้อมกอด ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะได้ผลดีเสียด้วย

____ไม่มีบทสนทนาใดเกิดขึ้นระหว่างราชสีห์ทั้งสองแห่งคิงส์ตันอีก เฮสเทียยังคงซุกอยู่กับเสื้อเชิร์ตของพี่ชายอย่างเงียบสงบ ลมหายใจของเด็กสาวกลับสู่ภาวะปกติแล้ว
มันลึกและยาวจนผู้ควบคุมดินเกือบจะคิดว่าน้องสาวของเขาได้จมลงสู่ห้วงนิทราไปเสียแล้ว หากไม่ใช่เพราะดวงตาสองสีที่ยังคงเบิกโพลงอยู่คู่นั้น

____“วางไว้ได้เลย” เด็กชายวัยสิบห้าบุ้ยปากไปทางโต๊ะไม้เคลือบสีขาวเมื่อสาวใช้ทั้งสองกลับมาพร้อมกับแก้วทรงสูงและถ้วยกระเบื้องตามที่ได้รับมอบหมาย
ร่างเล็กขยับตัวเมื่อรับรู้ถึงการมาเยือนของสาวใช้คนสนิท เฮสเทียยกยิ้มบางเบาให้กับคนทั้งสองขณะเอื้อมมือไปหยิบถ้วยกระเบื้องส่งให้กับฮาเดส ก่อนจะยกเอา
แก้วทรงสูงของตนมาไว้ในมือ

____ใบหน้าจิ้มลิ้มยังไม่แสดงความรู้สึกใดในตอนที่ของเหลวสีสดเคลื่อนผ่านลำคอลงไป เลดี้เฮสเทียแลบลิ้นเลียริมฝีปากน้อยๆก่อนจะพยักหน้าให้กับสองสาวที่ยังคง
ยืนก้มหน้าด้วยท่าทีสำรวม

____ฝั่งฮาเดสซึ่งรับถ้วยชามาจากน้องสาวเมื่อครู่ เขายกแก้วขึ้นอังปลายจมูกอย่างระมัดระวัง กลิ่นของมันทำให้เขาผ่อนคลาย กระนั้นฮาเดสก็ยังไม่ลืมว่าเด็กสาวตัวเล็ก
ยังคงนั่งจุ้มปุ้กอยู่บนตักของเขา และคนเป็นพี่อย่างลอร์ดฮาเดสคงไม่อยากให้ของเหลวร้อนๆนี่หกใส่น้องสาวจอมซนอย่างแน่นอน

____“ซาร่าห์ เธอไปดูฮิปนอสหน่อย บอกเขาว่าฉันกับเฮสกำลังรออยู่” สาวใช้เจ้าของผมหางม้าโค้งตัวรับคำสั่งจากเด็กชายที่ดูจะมีอายุน้อยกว่าเธอเพียงไม่กี่ปี
ดวงตาสีน้ำเงินจัดของลอร์ดฮาเดสมองตามร่างของซาร่าห์ไปอย่างครุ่นคิด แก้วกระเบื้องถูกวางลงบนโต๊ะ ข้างกันกับหนังสือเล่มหนาโดยที่เขาไม่ยอมแตะต้องมัน
แม้แต่หยดเดียว

____ลอร์ดฮาเดส คิงส์ตันในวัยสิบห้าปีมองเด็กสาวที่ยังคงก้มหน้าก้มตาดูดน้ำผลไม้ในมืออย่างตั้งอกตั้งใจ เขากระแอมเล็กน้อยก่อนจะเริ่มเปิดปาก
“ชานั่นมันร้อนเกินไปรึเปล่าซินดี้”

____ทายาทคนโตแห่งตระกูลหน้ากากทมิฬทำเสียงขึงขัง น้ำเสียงของเขาเป็นเชิงตำหนิทั้งที่ชาเมื่อครู่มีอุณหภูมิแสนจะพอดิบพอดี ฮาเดสละสายตาออกจาก
ใบหน้าตระหนกของซินดี้ ตอนนั้นเองที่หางตาของเขาเหลือบมองเด็กสาวบนตักและพบว่าละครฉากใหญ่ที่เขาพยายามปั้นแต่งขึ้นมาได้ผลเกินคาด เพราะเฮสเทีย
กำลังแหงนหน้าขึ้นและใช้ดวงตากลมโตคู่นั้นเขม้นมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์

____“พี่ก็โบ้ยความผิดให้ซินดี้เพื่อเรียกร้องความสนใจจากเฮสเหมือนกันนั่นแหละ” เฮสเทียยู่ปากน้อยๆ แก้มของเด็กสาวป่องทำให้ความโกรธของเธอดูน่ารักมากกว่า
น่ากลัวหลายเท่านัก “มาว่าเฮสอยู่คนเดียวได้ยังไง”

____“งั้นพี่ต้องโดนเราลงโทษแล้วล่ะสิ” เสียงถอนหายใจจอมปลอม ทำเอาเด็กสาวซึ่งสามารถมองแผนตื้นๆพวกนั้นออกเสียจนทะลุปรุโปร่งต้องกลอกตา

____สำหรับเด็กหญิงวัยเพียงแปดขวบ จริงอยู่ที่เลดี้เฮสเทียมีความคิดความอ่านที่ก้าวกระโดด ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากการใช้เวลาคลุกคลีกับอลิซาเบ็ธ ริสทอร์บัลมาแรมปี
ทว่าความเป็นเด็กในตัวของเฮสเทียก็ยังคงเป็นกำแพงสูงชัน และความเป็นเด็กที่ว่านั่นคือสิ่งที่อดีตผู้นำฝ่ายหญิงคนนั้นเรียกว่าอาวุธลับ

____เมื่อผนวกเข้ากับความเหนื่อยล้าสะสม มันก็ทำเด็กสาวเลือกที่จะมองข้ามแผนตื้นๆของคนเป็นพี่ไป

____“ช่ายยยย” เฮสเทียลากเสียงยานคาง ร่างเล็กดันตัวเองลงจากตักของพี่ชาย รองเท้ารัดส้นสีครีมขาวเดินเตาะแตะมาหยุดที่โต๊ะสีขาว ซึ่งห่างออกไปเพียง
ช่วงแขนเท่านั้น “แต่ก่อนอื่นเฮสต้องทำให้พี่ได้ดื่มชาอุ่นๆก่อน”

____ฮาเดสอาจจะเข้าใจผิดไป มันไม่ใช่แค่ความเป็นเด็กและความเหนื่อยล้าที่สะสมอยู่ในตัวของเฮสเทียเท่านั้น แต่มันคือวิธีเบี่ยงเบนความสนใจของเจ้าตัว
เป็นวิธีที่เขาไม่เคยเห็นน้องสาวใช้มาก่อน กระทั่งความเสียใจเข้าจู่โจมเธออย่างรุนแรงในวันนี้

____มือเล็กประคองถ้วยชาไว้ทั้งสองข้าง ฮาเดสขมวดคิ้วเมื่อพบว่าเลดี้ตัวเล็กไม่ได้สะดุ้งกับความร้อนของมันอย่างที่ควรจะเป็น ผู้ควบคุมไฟแห่งคิงส์ตันใต้ปิดเปลือกตาลง
พร้อมกับผ่อนลมหายใจออกอย่างเชื่องช้า

____แล้วเฮสเทียก็สูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ทุกการเคลื่อนไหวของร่างเล็กล้วนอยู่ในสายตาของเด็กชายเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำเงินจัดทั้งสิ้น กระทั่งตอนที่เด็กสาวลืมตาขึ้น
และเดินเตาะแตะมายื่นถ้วยชาให้เขาตรงหน้า เขาจึงเบนความสนใจไปจากใบหน้าจิ้มลิ้มได้สำเร็จ

____ฮาเดสกำลังจะยื่นมือออกไปรับแล้ว แต่เฮสเทียกลับชะงักมือและดึงถ้วยกลับไปเสียก่อน เด็กสาวยกมันขึ้นอังปลายจมูกด้วยใบหน้ามู่ทู่ แก้มกลมสีระเรื่อป่องอย่างขัดใจ

____“เย็นไปแล้ว” เสียงเล็กบ่นพึมพำ ก่อนจะปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง เธอเป่าลมเบาๆออกจากปาก และในตอนนั้นเองที่ไอกรุ่นเริ่มลอยขึ้นมาจากปากถ้วย

____คิ้วคมเข้มของฮาเดสเลิกขึ้นในตอนที่สองมือรับถ้วยชาจากน้องสาวมา เขายกขึ้นจิบอย่างไม่รีรอแม้ว่าใบหน้าของเฮสเทียอาจดูนิ่งเฉยและไม่ใส่ใจ
แต่พี่ชายอย่างฮาเดสรู้ดีว่านั้น การแกล้งเสมองไปรอบๆของเลดี้ตัวน้อยนั้นมีเพื่อซุกซ่อนความกังวลเอาไว้ เขาแกล้งคว่ำริมฝีปากและวางมือซึ่งถือแก้วอยู่ลงบนหน้าตัก

____“มันไม่พอดีหรอ” เฮสเทียตกหลุมพรางของพี่ชายอีกครั้ง แต่แล้วเด็กสาวก็รับรู้ได้ทันทีที่รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมเข้มของลอร์ดฮาเดส

____เธอพลาดท่าให้กับคนไม่เก่งเรื่องลูกล่อลูกชนอย่างฮาเดสอีกแล้ว หากฮาเดสเป็นฮิปนอส พี่ชายคนรองของเธอแล้วละก็ เฮสเทียอาจจะแกล้งมองผ่านมันไปก็ได้
เพราะสิ่งที่เธอเรียนรู้มาจากท่านหญิงอลิซ มันเทียบไม่ได้เลยกับความสามารถพิเศษส่วนตัวของ พายุโลกันต์ เด็กชายวัยสิบปีที่กำลังจะขึ้นเป็นแม่ทัพแห่งเดอะดาร์คกลอเรียส

____เสียงของฮิปนอสยังไม่แตกหนุ่มเลยด้วยซ้ำ แต่ความเจ้าแผนการของพี่ชายคนรองของเฮสเทียกลับล้ำลึกกว่านักปราชญ์ของฝ่ายดำหลายขุมนัก

____“เฮสไม่คุยกับพี่แล้ว”

____“ใจร้ายเกินไปแล้ว” ลอร์ดฮาเดสตัดพ้อ และร่างเล็กก็เพิ่งเข้าใจว่าเธอประมาทร่างสูงตรงหน้ามากเกินไป แม้ว่าเฮสเทียจะมีความคิดความอ่านที่ลึกล้ำกว่า
เด็กหญิงในวัยใกล้เคียงกัน แต่เธอก็ยังเป็นเด็กอายุแปดปีที่ทำให้โดนหันเหความสนใจได้ง่ายดายนัก และลอร์ดฮาเดสก็มองจุดอ่อนของเธอได้อย่างเฉียบขาด

____เฮสเทียไม่ควรประมาทบุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็นความภาคภูมิใจของเหล่าราชสีห์ผู้ครอบครอบหน้ากากทมิฬอย่างลอร์ดฮาเดสเลย เด็กสาวเพิ่งเข้าใจตอนที่พบว่าตัวเอง
วิ่งเตาะแตะออกมาด้วยรอยยิ้มที่ไม่สามารถซุกซ่อนไว้ได้อีกต่อไป

____“จับเฮสให้ได้สิ” ร่างเล็กหัวเราะร่า เธอเงยหน้าขึ้นรับแสงจากดวงอาทิตย์ที่ลอดผ่านใบไม้ซึ่งขึ้นอย่างหนาแน่นก่อนจะกรีดร้องเสียงดังเมื่อพี่ชายดีดตัวขึ้นจากเก้าอี้
ตามคำท้าทาย

____ฮาเดสออกวิ่งเต็มกำลัง แต่น้องสาวตัวดีก็มีพิษสงมากเหลือเกิน เฮสเทียสร้างไฟไปทุกหย่อมหญ้าที่พายุเพลิงตัวเล็กๆพัดผ่าน และผู้ควบคุมดินอย่างเขา
ก็ต้องใช้สมาธิในการหลบหลีกและป้องกันความเสียหายของป่าหลังคฤหาสน์คิงส์ตันไปพร้อมกัน

____หลายครั้งที่เฮสเทียอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว ห่างไปเพียงแค่เอื้อมมือเท่านั้น แต่เด็กชายก็อยากจะยืดเวลาแห่งความสุขเช่นนี้ไปอีกสักหน่อย การเป็นผู้แพ้ให้กับเลดี้
ตัวน้อยไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขาเลยสักนิด แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่รักความสมบูรณ์แบบถึงเพียงไหน เฮสเทียก็ยังเป็นข้อยกเว้นสำหรับทุกกฎเกณฑ์ในโลกของลอร์ดฮาเดส
คิงส์ตันเสมอ

____เสียงหัวเราะเอิ้กอ้ากของเด็กสาววัยแปดปีทำให้วันของลอร์ดฮาเดสสดใสได้อย่างง่ายดาย มันแผดเผาความทุกข์เหมือนกับดวงอาทิตย์ ดวงตาที่หยีลงอบอุ่นราวกับ
เขากำลังซุกตัวอยู่ภายใต้ผืนทรายอุ่นๆริมทะเล และรอยยิ้มนั้น มันชุ่มฉ่ำเฉกเช่นน้ำทะเลสีครามที่พัดกระทบชายฝั่งเลยทีเดียว

____เฮสเทียคือความสวยงามในวันพักร้อนที่ในวันพักร้อนที่ไม่มีอยู่จริงของลอร์ดฮาเดส คิงส์ตัน และเขายินดีเดิมพันด้วยชีวิตเพื่อให้มันเป็นเช่นนี้ตลอดไป

❈ ◇ ❈ ◇ ❈

TO BE CONTINUE

/ ติชมผลงานหรือให้กำลังใจได้ที่ ห้องวิจารณ์ผลงาน ♕ /
( อ่านเรื่องเต็มของ The Seven Keys และคอมเมนต์ติชม/ให้กำลังใจได้ ที่นี่ ค่ะ )

────────────────────────────────────

[Celez Volante Am...]

OPERATION HAR-ZIA
CHAPTER V
────────────────────────────────────

____สายลมที่พัดมาจากภายในตัวป่าทำให้เกิดเสียงเสียดสีของกิ่งก้านสาขาที่เป็นดั่งร่มเงาขนาดใหญ่ มันดังคลอไปกับกับเสียงหัวเราะคิกคัก คล้ายกับดวงอาทิตย์ขนาดย่อมๆที่แผ่ความสดใสออกมาโดยไม่แสบตาเลยทีเดียว

____ซินดี้ไม่แน่ใจเลยว่านี่เป็นหินขนาดเท่ากำปั้นก่อนที่เท่าไหร่แล้วที่ลอยผ่านหน้าของเธอไป เธอไม่แน่ใจเลยเสียด้วยซ้ำว่าไฟที่ลุกท่วมและลามเลียไปทั่วทุกอณูของมวลสาร ก่อนจะทิ้งไว้เพียงเถ้าสีกระดำกระด่างที่ปลิวหายไปในแมกไม้นั่น ใช่เหตุผลที่ทำให้ป่าหลังคฤหาสน์ดูจะอุดมสมบูรณ์เกินธรรมชาติไปซักหน่อยหรือไม่

____เสียงของนายน้อยทั้งสองทำเอาคนไม่ค่อยพูดอย่างซินดี้ซึ่งโตมาด้วยกันกระพริบตาปริบ มันเป็นภาพที่คุ้นตาสำหรับเธอสองพี่น้องรวมทั้งมารดาในฐานะผู้รับใช้เก่าแก่ของตระกูลคิงส์ตันไปเสียแล้ว แม้ว่าพวกเธอจะไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของเวทมนตร์ไหลอยู่ในกายเลยก็ตาม

____อันที่จริงซินดี้เกือบจะคิดแล้วว่าการไม่มีเวทมนตร์ของคนอื่นๆที่อยู่นอกรั้วคฤหาสน์น่ะแปลกประหลาด จนกระทั่งหญิงสาวพบว่าตัวเองกำลังยืนรอให้น้ำเดือดโดยไม่จุดไฟนั่นแหละ มนุษย์ไร้เวทมนตร์อย่างซินดี้ถึงได้ตาสว่าง

____"พี่ฮาร์ส! เฮสจะฟ้องพี่ฮ- กรี๊ด!" เสียงกรีดร้องแหลมเล็กและใบหน้ากระเง้ากระงอดของบุตรสาวหัวแก้วหัวแหวนแห่งตระกูลหน้ากากทมิฬทำเอาร่างเก้งก้างที่ยืนหลบอยู่ใต้เงาของต้นไม้ใหญ่เผลอคลี่ยิ้มออกมาอย่างเสียไม่ได้ ลอร์ดฮิปนอสพ่นลมหายใจพรืด เขาส่ายหัวอย่างอ่อนใจก่อนจะเริ่มสาวเท้าตรงเข้าไปหาต้นเสียงที่ยังคงส่งเสียงโหวกเหวกโวยวายไม่หยุด

____แต่แล้วลอร์ดแห่งคิงส์ตันเหนือก็ต้องชะงักฝีเท้าเมื่อลอร์ดฮาเดสหันมาสบตากับเขาเข้าพอดี คนเป็นพี่เลิกคิ้วน้อยๆเป็นเชิงทักทายในขณะที่ฮิปนอสเหยียดริมฝีปากอย่างคนปั้นหน้าไม่ถูก บุตรชายคนรองแห่งตระกูลหน้ากากทมิฬบุ้ยปากไปทางแผ่นหลังของคนตัวเล็กที่ออกวิ่งหนีไปไกลโขด้วยดวงตาเป็นประกาย แต่นั่นก็เพียงเสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้นที่ทายาทคนโตแห่งคิงส์ตันจะงุนงงกับสัญญาณของผู้เป็นน้อง

____ฮาเดสกลอกตา มันชัดเจนแล้วว่าสิ่งที่ฮิปนอสต้องการจะสื่อคงไม่พ้นแผนแกล้งเทพีแห่งเตาไฟตัวน้อยของพวกเขาซึ่งอาจนำมาสู่ความโกลาหลครั้งใหญ่เป็นแน่ ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะได้ห้ามอะไรออกไป เสียงของน้องสาวผู้ควบตำแหน่งเจ้าชีวิตก็กระชากลอร์ดฮาเดสให้กลับเข้าสู่ความจริงเสียก่อน

____"พี่ฮาร์ส! ยืนคุยกับนางไม้ที่ไหนอยู่ ยู้ฮู!" ประโยคแสนจะแก่แดดทำเอาคนเคร่งครัดอย่างลอร์ดฮาเดสจำต้องละสายตาจากน้องคนกลางเพื่อไปถลึงตาใส่เฮสเทียตามสัญชาตญาณ แต่แล้วเด็กชายวัยสิบห้าปีเบิกตากว้างก่อนจะเอี้ยวตัวอย่างรวดเร็วเมื่อภาพตรงหน้ากลับกลายเป็นลูกไฟดวงเล็ก มันพุ่งผ่านจุดที่เคยเป็นร่างของเขา เฉียดปลายเสื้อเชิ้ตไปอย่างหวุดหวิดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

____เด็กสาวผู้ใช้ไฟอ้าปากหวอมองมือของตัวเองที่เป็นต้นกำเนิดของลูกไฟเมื่อครู่อย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาก่อนจะคลี่ยิ้มที่กว้างเสียจนเกือบถึงใบหู เฮสเทียทำตาโต เธอปรบมือพร้อมกับกระโดดโลดเต้นอยู่สองสามครั้ง ในขณะที่ฮาเดสซึ่งตั้งสติได้ในวินาทีต่อมารีบหันกลับไปยังที่ที่ฮิปนอสเคยยืนอยู่ทันที

____ทว่ามันก็สายเกินไปเสียแล้ว น้องชายคนกลางของฮาเดสได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยราวกับสายลม ซึ่งก็ดูจะใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่ว่าลอร์ดฮิปนอสคือผู้ใช้ลมอยู่ไม่น้อย

____ฮาเดสชบกรามแน่น เด็กชายวัยสิบห้าพยายามควบคุมอารมณ์อย่างวัยรุ่นของตนด้วยความยากลำบาก เขาไม่สามารถเตือนฮิปนอสได้ทันว่าอารมณ์ของเฮสเทียไม่ปกติ… ผู้ใช้ดินแทบจะร่างภาพความพังพินาศที่กำลังจะตามมาในไม่ช้าได้เลย

____ด้วยความที่เป็นพี่ชาย ฮิปนอสจึงเผลอเล่นแรงๆกับเฮสเทียเสมอ

____แน่นอนว่าน้องสาวของพวกเขาแข็งแกร่งพอที่จะสนุกไปกับมัน แต่นั่นไม่ได้หมายยความว่าเฮสเทียจะแข็งแกร่งอยู่เสมอเสียที่ไหน ภายใต้พลังไฟอันยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษและความคิดความอ่านที่ยากจะหยั่งถึง ทายาทคนสุดท้องของตระกูลหน้ากากทมิฬยังคงเป็นเด็กหญิงอายุแปดขวบที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนได้ดีเฉกเช่นเด็กหญิงในวัยเดียวกัน

____ฝั่งเฮสเทียที่หวังจะได้รับคำชื่นชมก็ขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ ปฏิกิริยาของพี่ชายที่หันสนใจอย่างอื่นมากกว่าชื่นชมการใช้พลังสุดก้าวกระโดดเมื่อครู่ของเธอไม่ใกล้เคียงสิ่งที่ผู้ใช้ไฟตัวน้อยคิดไว้เลยสักนิด เด็กสาวในชุดกระโปรงคอบัวเท้าสะเอวด้วยท่าทางที่ออกจะเกินอายุไปสักหน่อยขณะแผดเสียงลั่น แม้จะด้วยประโยคหยอกล้อแต่ดวงตาสองสีที่หรี่ลงกลับแสดงให้เห็นว่าเธอกำลังจับผิดลอร์ดฮาเดสผ่านประโยคที่เหมือนจะไม่คิดอะไร

____"ถ้านางไม้ลักพาตัวพี่ไป เฮสจะไม่ช่วยนะ!"

____แม้ฮาเดสจะยืนอยู่ไกลออกไปพอสมควร แต่เฮสเทียก็ทันสังเกตความผิดปกติในท่าทีของคนเป็นพี่ที่กำลังพยายามกลบเกลื่อน เธอเห็นเขาปั้นยิ้ม เห็นดวงตาสีน้ำเงินสดชัดแอบเหลือบไปด้านหลังเพียงชั่วครู่ แม้ว่าเจ้าตัวจะเกร็งลำคอไม่ให้หันหน้าไปจนผิดสังเกตก็ตาม

____ลอร์ดฮาเดสสาวเท้าเข้มาเพียงสองสามก้าวเท่านั้นในตอนที่ยกมือป้องปากตะโกนผ่านระยะทางกว่าสามเมตรมาหาร่างเล็กในเดรสลายดอก "เราจะทิ้งพี่ได้ลงคือรึไง"

____ผู้ใช้ไฟยกแขนขึ้นกอดอกพร้อมกับเบ้หน้า ดวงตาสองสีที่ดูเหมือนม่านตาของข้างที่มีสีเขียวจะขยายใหญ่กว่าเล็กน้อยยังคงจ้องเขม็งไปที่พี่ชายร่วมสายเลือด ท่าทีปั้นปึ่งและแก้มกลมๆทำให้เฮสเทียดูเหมือนลูกโป่งสีแดงซึ่งกำลังถูกเติมลมจนจวนจะระเบิดในไม่ช้า

____"แน่นอน และเฮสจะบอกพ่อว่าพี่พานางไม้หนีไปแล้วด้วย!"

____ร่างสูงแสร้งทำท่าแข็งค้าง ดวงตาสั่นระริกคล้ายกับกำลังหวาดกลัวอยู่หลายอึดใจ แต่แล้วรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมเข้ม ฮาเดสไม่สามารถกลั้นยิ้มได้อีกต่อไปแล้ว แขนทั้งสองข้างของเขาก็สะบัดขึ้นบนอากาศอย่างแรงพร้อมกับเสียงตะโกนกึกก้อง

____"คนขี้ฟ้องจะต้องถูกลอร์ดจับไปขังในถ้ำ ฮ่า!" สิ้นเสียงของผู้ควบคุมดิน หินน้อยใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากร่างเล็กพร้อมใจกันดีดตัวขึ้นกลางอากาศคล้ายกับกำลังกระโดดโลดเต้น

____เฮสเทียหวีดร้องเสียงใสพลางวิ่งเตาะแตะหลบก้อนหิน เด็กสาวยกมือขึ้นถูกัน ทันใดนั้นหินทั้งหลายก็ลุกเป็นไฟ เธอก้มตัวลงหลบหนีอีกสองสามครั้งก่อนที่หินทั้งหมดจะเหลือแต่เพียงเถ้าถ่านที่ปลิวหายไปในเท่านั้น

____“โอ้ย!” ทว่าในเสี้ยววินาทีที่เลดี้เฮสเทียกำลังจะหันมายิ้มเผล่อย่างผู้ชนะนั่นเองที่ท่อนไม้ขนาดไม่ใหญ่นักพุ่งเข้าชนข้อพับขาของเด็กสาวจนต้องทรุดตัวลง

____ดวงตาสีน้ำเงินจัดเบิกถลน นั่นไม่ใช่ฝีมือของผู้ใช้ดินและนั่นสามารถแปลความหมายได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น… ลอร์ดฮิปนอส ดีลลอน คิงส์ตัน!

____ผู้เป็นพี่คนโตก่นด่าน้องชายคนรองพลางปรับสีหน้าให้แนบเนียนและก้าวเขาเร็วๆเข้าไปหาร่างเล็กที่นั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นหญ้า จังหวะที่ความหวาดกลัวเข้าโจมตีฮาเดสนั้นเองที่เด็กชายถูกปล้นการควบคุมร่างกายไป

____ไม่ ไม่ ไม่! เขากรีดร้องในหัว ทว่าฮาเดสกลับไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่าการรับรู้ว่าตัวเองกำลังกระแอม และพ่นลมหายใจออกทางปากช้าๆเพื่อเตรียมจะเปิดปากพูด

____"ไฟคือสัญล้กษณ์แห่งการเริ่มต้น การเกิดใหม่ ความก้าวหน้า และการทำลายล้าง แต่ไฟไม่มีทางเอาชนะดินซึ่งเป็นผู้ปกปักษ์และรากฐานอันแข็งแกร่งไปได้" ลอร์ดผู้อาวุโสที่สุดเชิดคางขึ้นน้อยๆ ก่อนจะไขว้แขนไว้ด้านหลังแสร้งทำที เด็กชายวัยสิบห้าปีก้าวตรงมาหาผู้เป็นน้องช้าๆในขณะที่ความคิดในหัวปั่นป่วนจนเละเทะ

____ริมฝีปากบางของฮาเดสเผยอน้อยๆขณะเปล่งเสียงเอ่ยอย่างหนักแน่น "ไม่มีทาง"

____รอยยิ้มของเลดี้เฮสเทียจางหายไปแล้ว ร่างเล็กที่นั่งก้มหน้าอยู่บนพื้นหญ้าดูจะสั่นเทิ้มน้อยๆ และนั่นทำให้ฮาเดสตระหนักได้ว่าการหยิบยกความผิดของฮิปนอสมารับผิดชอบเองเป็นความคิดที่ผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย แต่ความรุนแรงกลับไม่ใกล้เคียงกับการที่เขาเลือกจะเปิดปากพูดเบี่ยงเบนความสนใจของเฮสเทียในขณะที่ยังไม่สามารถสลัดอารมณ์หวาดกลัวในหัวออกไปได้เลย

____มีผู้ไม่ประสงค์ดีจำนวนหนึ่งอาศัยจังหวะที่หน้ากากของเขามีช่องโหว่แทรกแซงความคิดในหัวของเขาอยู่ คนพวกนั้นที่ดยุคซิลเวอร์ผู้เป็นบิดาคอยเตือนให้ระมัดระวังตัวอยู่เสมอ ในตอนนี้ได้แทรกเข้ามาในหัวของพี่คนโตอย่างลอร์ดฮาเดสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้จะกินเวลาเพียงไม่นานนักจากประสบการณ์ที่ผ่านมา แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ก็สามารถสร้างความเสียหายได้มากเกินจะจินตนาการ

____และดูเหมือนว่าพวกมันจะเข้าควบคุมเฮสเทียได้แล้วเช่นกัน

____สถานการณ์ในตอนนี้แย่ลงไปเสียยิ่งกว่าเดิม ทว่าลอร์ดฮาเดสก็ไม่สามารถถอยกลับได้อีกแล้ว เขาสลัดมันไม่หลุด สิ่งเดียวในร่างกายของผู้ใช้ดินที่สามารถควบคุมได้มีแค่การขยับปลายนิ้วเท่านั้น

____เดิมทีเด็กชายวัยสิบห้าคิดว่าอาการสั่นของน้องสาวมาจากที่เจ้าตัวกำลังร้องไห้อยู่เป็นแน่ กระทั่งดวงตาสองสีวาววับเงยขึ้นประสานสายตากับเขา โดยเฉพาะดวงตาข้างที่เป็นสีเขียวสุกสกาวดั่งมรกตล้ำค่า ความหวาดกลัวและหนาวเหน็บตรงเข้าจู่โจมลอร์ดฮาเดส

____และมันก็เป็นอีกครั้งที่สายเกินไป เขาไม่สามารถห้ามคำพูดยั่วยุของตัวเองได้ทัน "แสดงให้พี่เห็นสิว่าเราเป็นได้มากกว่านั้น"

____ดวงตาสีน้ำเงินจัดของลอร์ดฮาเดสเบิกโพลงขณะมองภาพตรงหน้า ผมสีน้ำตาลอ่อนของนายหญิงน้อยแห่งคฤหาสน์คิงส์ตันสยายไปตามแรงลม พลังงานสีน้ำเงินจัดที่อยู่ล้อมรอบร่างเล็กห่างออกไปนั้นร้อนจัดเสียจนผิวหน้าของฮาเดสแทบมอดไหม้ เขาพยายามก้าวถอยหลัง ทว่าขาทั้งสองข้างดูจะไม่ให้ความร่วมมือเลยแม้แต่น้อย

____ฝั่งเฮสเทียดูเหมือนกำลังพยายามต่อสู้กับอะไรบางอย่างอยู่เช่นกัน แต่ด้วยประสบการณ์อันน้อยนิดของสองพี่น้องก็ทำให้พวกเขารับมือกับมันได้ไม่ทันการณ์

____ตอนนั้นเองที่ทุกอณูของสนามหญ้ากลางป่าหลังคฤหาสน์ลุกเป็นไฟ

❈ ◇ ❈ ◇ ❈

TO BE CONTINUE

/ ติชมผลงานหรือให้กำลังใจได้ที่ ห้องวิจารณ์ผลงาน ♕ /
( อ่านเรื่องเต็มของ The Seven Keys และคอมเมนต์ติชม/ให้กำลังใจได้ ที่นี่ ค่ะ )

────────────────────────────────────

[Celez Volante Am...]

OPERATION HAR-ZIA
CHAPTER VI
────────────────────────────────────

____เฮสเทียรู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวดั่งไฟลนไปทั่วร่างอย่างแจ่มแจ้ง แม้ว่าอันที่จริงเธอจะแทบไม่ได้ขยับตัวเลยก็ตามการหายใจเข้าออกแต่ละครั้งของเด็กหญิงวัยแปดขวบดูจะยากลำบากไม่ต่างกับการพยายามเปิดเปลือกตาอันหนักอึ้ง เลดี้แห่งคิงส์ตันใต้หายใจแรงขึ้นเมื่อพบว่าร่างกายไม่ยอมทำตามคำสั่งของเธออย่างที่ควรจะเป็น ความเมื่อยล้าที่ฝังตัวแน่นอยู่ในทุกมัดกล้ามเนื้อดีดตัวขึ้นมาจากการหลับใหลพร้อมกันกับสติสัมปัชชัญญะคล้ายกับต้องการประท้วงผู้เป็นนาย

____เฮสเทียเปิดเปลือกตาสองสีได้แล้วในที่สุด

____ภาพรอบกายที่คุ้นเคยทำให้คนตัวเล็กผ่อนคลายลงไปบ้างแม้ว่ากล้ามเนื้อทุกมัดจะยังกรีดร้องด้วยความเมื่อยล้า ทายาทคนสุดท้องของตระกูลหน้ากากทมิฬขมวดคิ้วขณะยันตัวขึ้นเพื่อมองไปรอบห้องส่วนตัวของเธอซึ่งตั้งอยู่ปีกใต้ของคฤหาสน์หลังโต มันประกอบด้วยผ้าม่านสีสว่างขนาดใหญ่ฟากหนึ่งตรงข้ามกับประตูตั้งตระหง่าน เตียงคิงส์ไซส์ที่เด็กสาวนอนอืดอยู่ ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเก้าอี้อีกจำนวนหนึ่ง กระนั้นเฮสเทียก็ไม่สามารถเค้นสมองออกมาได้เลยว่าภาพสุดท้ายก่อนที่เธอจะหมดสติไปนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่

____จริงอยู่ที่เด็กสาวพอจะจำได้ลางๆว่าเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เธอกำลังวิ่งเล่นกับลอร์ดฮาเดสเพื่อรอพี่คนรองอย่างลอร์ดฮิปนอสที่โดนดยุคซิลเวอร์ทำโทษ แต่นั่นก็ไม่ควรเป็นสาเหตุที่ให้คนอย่างเลดี้เฮสเทีย ดาร์ลิงก์ คิงส์ตันเป็นลมล้มพับไปได้

____ตอนนั้นเองที่บานประตูห้องของเฮสเทียเปิดออก

____ฮาเดสนั่นเองที่ปรากฎกายขึ้นพร้อมกับถ้วยสีขาวสะอาดขลิบทองในมือ ไอกรุ่นอันอบอุ่น เข้มข้น และขมปร่าของกาแฟที่โอบล้อมลอร์ดคนโตแห่งคิงส์ตันตะวันตกนั้น แตกต่างไปจากกลิ่นชาประจำตัวของเขาที่เฮสเทียคุ้นเคย ดวงตาสีน้ำเงินจัดของร่างสูงอ่อนลงเมื่อหันมาสบตากับเธอ มันยังคงถ่ายทอดความอ่อนโยนที่เด็กสาวคุ้นชินและรู้สึกปลอดภัยได้เหมือนทุกครั้ง

____แต่ที่ผิดแผกไปนอกจากการที่ฮาเดสดื่มกาแฟก็คือ เขาไม่ได้ยิ้มหรือเดินเข้ามาใกล้ร่างบนเตียงไปมากกว่าการยืนมองอยู่อย่างนั้น

____ลำคอของเฮสเทียแห้งผากและตีบตันจนน่าหงุดหงิดในตอนที่ร่างเล็กพยายามเค้นเสียงเรียกคนตรงหน้า แต่มันก็ไม่มีอะไรออกมามากไปกว่าลมแห้งๆที่มีกลิ่นเหมือนคนไม่ได้แปรงฟัน ดวงตาของเธอเบิกโพลงแทนเส้นเสียงที่ไม่ให้ความร่วมมือ แต่ดูเหมือนว่าฮาเดสจะแกล้งมองข้ามมันไปเสียอย่างนั้น

____"พี่จะไปเรียกแนนนี่ให้เตรียมผ้ามาเช็ดตัวน้องก่อน" เสียงทุ้มๆของลอร์ดแห่งคิงส์ตันตะวันตกยังคงอบอุ่นเหมือนเตาผิง แต่มันไม่สามารถความกังวลและความลังเลที่ซ่อนอยู่ได้อีกแล้ว ไม่ใช่หลังจากแสดงพิรุธเหล่านั้นกับเฮสเทียที่รู้จักเขามาทั้งชีวิตแน่

____ฮาเดสกลืนน้ำลายที่เหนียวหนืดด้วยท่าทีประหม่าก่อนจะก้าวถอยหลัง มือหนาจับขอบประตูแน่นคล้ายกับพยายามทรงตัว "...เดี๋ยวพี่กลับมา"

____จู่ๆ เสียงอ่อนหวานที่เฮสเทียคิดว่าตนเองลืมเลือนมันไปจากความทรงจำแล้ว ก็กลับหวนเข้ามาอีกครั้ง

____ดวงหน้าอ่อนหวานและรอยยิ้มที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสดดั่งลูกเชอร์รี่ทำให้เฮสเทียในตอนนั้นอดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม อลิซาเบ็ธ ริสทอร์บัลหัวเราะในลำคอน้อยๆ หลังจากได้ยินคำถามแสนจะไร้เดียงสาจากเธอ

____“ใช่แล้ว เฮสเทีย หน้ากากของคิงส์ตันแข็งแกร่งดั่งเพชรแท้ แม้แต่ของเธอที่เป็นน้องเล็กสุดก็ตาม” เฮสเทียจำได้ว่าตนเองเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มเสียจนตาหยีเมื่อได้รับคำชมจากผู้นำของเดอะดาร์คกลอเรียส

____ตอนนั้นเองที่อลิซาเบ็ธย่อตัวลงตรงหน้าของเด็กตัวกะเปี๊ยกที่ไม่สูงไปกว่าเอวของเธอเสยด้วยซ้ำ ชายประโปรงหรูหราสีดำของเจ้าหล่อนกองลงไปกับพื้น แต่หญิงสาวก็ดูจะไม่ใส่ใจนัก เธอสบตาเลดี้ตัวน้อยด้วยดวงตาแพรวพราวขณะเปิดปาก

____“แต่พวกเขาพลาดไปอย่างหนึ่ง รู้กันแค่ฉันกับเธอนะ” ท่านหญิงอลิซลดเสียงลงจนเฮสเทียต้องยื่นหน้าเข้าไปใกล้ขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น เด็กสาวเอียงคอน้อยๆ ก่อนจะหันซ้ายทีขวาทีพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีใครแอบฟังพวกเขาอยู่ ก่อนจะหันมาผงกหัวสั้นๆแทนการตอบรับด้วยใบหน้าไร้เดียงสา

____“หน้ากากของคิงส์ตันแข็งแกร่งหากต้องปะทะกับเนื้อหนังมังสา” หญิงสาวเว้นวรรคขณะเอื้อมมือมาบีบแก้มยุ้ยๆของเฮสเทียเบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยว “แต่หากหน้ากากปะทะกับหน้ากากเมื่อใด เพชรกับเพชรยอมตัดกันได้เมื่อนั้น”

____“ว้าว เธอเข้าใจที่ฉันพูดด้วยงั้นรึ” มือทั้งสองที่แต่งแต้มเล็บด้วยสีเดียวกันกับลิปสติกประกบกันดังฉาดพร้อมกับดวงตาสีอ่อนของท่านหญิงอลิซที่เจิดจ้า หล่อนมองคิ้วที่จะขมวดเป็นเส้นเดียวกันของคนตรงหน้าอย่างขบขันก่อนจะยื่นมือข้างหนึ่ง ไล้ไปตามแก้มที่มีเลือดฝาดอย่างสุขภาพดีของเลดี้เฮสเทียอย่างอ่อนโยน

____“อย่ากังวลไป ฉันพูดกับเลดี้เฮสเทียผู้มีหน้ากากแกร่งกล้าเหนือใครไว้ล่วงหน้า” เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฮสเทียก็ขนลุกไปกับสัญชาตญาณที่แสนจะแม่นยำของคนในความทรงจำพร้อมกับความโศกเศร้าที่ดูจะแผลงฤทธิ์ขึ้นมาอีกครั้ง

____เสียงของท่านหญิงอลิซาเบ็ธดูจะล่องลอยห่างออกไปไกลแสนไกล กระนั้นประโยคต่อมาก็ยังชัดแจ้งและเต็มตื้น “เฮสเทียของอลิซจะเป็นเพชรเหนือเพชร สัญญากับฉันนะว่าเธอจะเรียนรู้และสวมมันเมื่อจำเป็น”

____ท่านหญิงอลิซจากโลกนี้ไปนานแล้ว… และเขาก็จากห้องนี้ไปแล้วเช่นกัน

____หลังจากเล่นละครด้วยหน้ากากห่วยๆ ฉากนั้นจบลง จากไปหลังจากการกระทำที่ไม่ต่างไปจากการตะโกนใส่หน้าเด็กสาวว่ามีบางอย่างผิดปกติ บางอย่างที่ใหญ่หลวงมากพอที่จะทำให้ร่องรอยความกังวลปรากฏบนใบหน้าขาวซีดของทายาทคนโตแห่งตระกูลหน้ากากทมิฬได้

____ทว่าเรื่องของฮาเดสนั้น หาใช่เรื่องหลักที่เฮสเทียคลื่นเหียนกับกลิ่นความผิดปกติที่ฉุนจมูกไม่ สิ่งที่แปลกประหลาดกว่านั้นก็คือการที่เธอลืมตาขึ้นมาไม่เจอดวงตาสีดำสนิทที่คุ้นเคยต่างหาก ลอร์ดฮิปนอสไม่ได้อยู่ที่นี่ ไม่มีแม้แต่กลิ่นอายของเขา... เรื่องนี้ต่างหากที่ไม่ปกติ มันผิดธรรมดามากพอที่อาการจะกระสับกระส่ายของฮาเดสผู้ที่เคยสามารถปั้นหน้าได้อย่างไร้ที่ติสูญเสียการควบคุมได้ถึงเพียงนี้ มันไม่ใช่วิสัยปกติของพี่คนโตเลยซักนิด

____จากประสบการณ์แปดปีของเลดี้แห่งคิงส์ตันใต้ เด็กสาวเรียนรู้ว่าทุกครั้งที่มีเรื่องป่วนๆเกิดขึ้น ฮาเดสจะเป็นคนออกหน้าในการจัดการกับอะไรๆให้โดยไม่ต้องเอ่ยปากขอ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการเผชิญหน้าดยุคซิลเวอร์ผู้เป็นบิดา ส่วนคนที่จะนั่งกอดอกทำหน้าบึ้งให้น้องเล็กอย่างเลดี้เฮสเทียสบายใจในทุกครั้ง ต้องเป็นคนปากไม่ตรงกับใจอย่างฮิปนอส ดีลลอน คิงส์ตันเสมอ

____เฮสเทียคุ้นชินกับมันไปเสียแล้ว และพี่ชายทั้งสองคนของเธอรู้ดี

____วันนี้ยังคงเป็นวันแดดจัดในฤดูร้อนที่อบอ้าวไม่น้อย ทว่าเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฮสเทียกลับรู้สึกหนาวเหน็บเสียจนตัวสั่น ปลายเท้าที่เกือบจะไร้ความรู้สึกของเธอเย็นเฉียบไม่ต่างจากซากศพ

____เพล้ง!

____เสียงของแข็งตกกระทบพื้นดังกังวานจนสามารถเดาระยะได้ว่ามันเกิดขึ้นไม่ไกลไปกว่าประตูใหญ่ของปีกใต้ แม้จะถูกกั้นด้วยกำแพงหนาทึบหลายชั้นแต่เฮสเทียก็มั่นใจว่า มันเป็นเสียงแหลกละเอียดของแก้วกาแฟสีขาวขลิบทองใบนั้นบนพื้นหน้าห้องของเธอนี่เอง

____เฮสเทียมั่นใจในสมมติฐานนั้น มากเสียยิ่งกว่าตอนนี้ที่คาดเดาว่าประตูหน้าห้องจะถูกแง้มออกเสียอีก เด็กสาวปิดเปลือกตาอย่างไร้พิรุธในวินาทีก่อนที่บานประตูจะขยับอย่างแผ่วเบา กระนั้น ในความมืดมิดเธอก็ยังมั่นใจว่าดวงตาสีน้ำเงินจัดคู่นั้นกำลังมองมา มั่นใจมากพอๆกับความจริงที่ว่าฮาเดสโกหกเธอ

____ความเหนื่อยล้าอย่างไม่ทราบสาเหตุและละครบทใหญ่ที่เลดี้เฮสเทีย ดาร์ลิงก์ คิงส์ตันเล่นทำให้เด็กสาววัยแปดปีแทบจะประคองสติไม่อยู่ ยิ่งผสมกับการนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆและพิษไข้อ่อนๆ รวมทั้งร่างกายของเจ้าตัวที่ไม่ได้โตเกินไวเฉกเช่นความคิด เฮสเทียจึงผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว

____เลดี้หนึ่งเดียวแห่งคิงส์ตันใต้ไม่แน่ใจเลยว่าเธอรอให้ฮาเดสมองเธอด้วยความโล่งใจอยู่นานแค่ไหนก่อนจะดำดิ่งสู่นิทรา แต่มันก็นานพอที่จะยืนยันความผิดปกติข้อหนึ่งที่เฮสเทียมั่นใจเสียยิ่งกว่าครั้งไหนๆ

____เธอมั่นใจก่อนทั้งที่มันยังไม่เกิดขึ้นเสียด้วยซ้ำว่า ฮิปนอสจะไม่มา

____ความจริงอีกประการหนึ่งที่เฮสเทียกะละมังและผ้าที่ฮาเดสเอ่ยถึงวางอยู่หน้าห้องตั้งแต่แรกแล้ว เขาคือคนที่ถูกส่งให้มาเช็ดตัวเธอ ไม่ใช่แนนนี่ ซินดี้ หรือซาร่าห์ แต่มันจะวางอยู่อย่างนั้น เพราะมันจะไม่มีใครหน้าไหนเข้ามาเช็ดตัวให้เธอทั้งนั้น เหมือนกับที่จะไม่มีใครคอยปลอบประโลมเธออีกต่อไป...

____การเป็นเด็กไร้เดียงสาของเลดี้เฮสเทียจบลงแล้ว

❈ ◇ ❈ ◇ ❈

TO BE CONTINUE

/ ติชมผลงานหรือให้กำลังใจได้ที่ ห้องวิจารณ์ผลงาน ♕ /
( อ่านเรื่องเต็มของ The Seven Keys และคอมเมนต์ติชม/ให้กำลังใจได้ ที่นี่ ค่ะ )

────────────────────────────────────

[Celez Volante Am...]

OPERATION HAR-ZIA
CHAPTER VII
────────────────────────────────────

____ใบหน้าบูดบึ้งของคุณหนูคนเดียวของปราสาทหลังมหึมาทำเอาลอร์ดอันดับหนึ่งอย่างลอร์ดฮา
เดสต้องลอบกลืนน้ำลายอย่างหวั่นใจ ไม่บ่อยนักที่บุตรสาวหัวแก้วหัวแหวนของดยุคซิลเวอร์ คิงส์ตัน ซึ่งถูกเลี้ยงดูมาอย่างประคบประหงมจากทั้งบิดาและพี่ชายทั้งสองจะถูกขัดใจ และไม่บ่อยนักที่เขาจะเป็นหนึ่งในสาเหตุนั้น แม้ว่าอันที่จริงแล้วมันก็ไม่ใช่สิ่งที่คนส่งสาสน์อย่างเขาเลือกได้เสียที่ไหน

____"คำสั่งของดยุคเนี่ยนะ" เฮสเทียเกือบจะแผดเสียงออกมาแล้วถ้าไม่ใช่เพราะม้วนกระดาษเนื้อหนาสีงาช้างนั้นมีตรา
ประทับขี้ผึ้งที่ท้ายจดหมาย คนตัวเล็กสูดลมหายใจลึกทว่าดังฟืดฟาดคล้ายกับกำลังพยายามระงับอารมณ์อย่างสุดความสาม
ารถ ดวงตาสองสีถลึงมองอย่างเอาเรื่อง ฮาเดสแอบสังเกตว่าม่านตาของดวงตาข้างที่มีสีเขียวดูจะเบิกกว้างกว่าอีกข้างอย่างน่าข
นลุก

____"ทำไมพ่อไม่มาบอกเฮสเอง แล้วไอ้ประกาศด่วนพิเศษ เรื่องการกักบริเวณเลดี้เฮสเทียนี่ มันเรื่องอะไรกันคะพี่ฮาร์ส!"

____เสียงตวาดเล็กแหลมที่ฟังคล้ายกับการกรีดร้องในลำคอทำให้ลอร์ดฮาเดสไม่กล้าตอบอะไรคนต
รงหน้าออกไป

____เขาสูดลมหายใจลึกก่อนจะเคลื่อนมือหนาไปหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง มันเป็นวัตถุที่มีขนาดเล็กกว่าฝ่ามือของเขามาก หากสังเกตจากนิ้วเรียวที่กำรอบมิดชิดคล้ายกับมีเพียงอากาศธาตุอยู่ภายใน กระทั่งชายหนุ่มแบมือตรงหน้าของเด็กสาวในชุดนอน คนตัวเล็กที่นั่งแกร่วอยู่บนเตียงโง่ๆมาสามวันแล้วจึงเห็นใบไม้ที่ไหม้เกรียมจนเป็นส
ีดำสนิท คล้ายกับว่ามันสามารถสูญสลายไปเป็นเถ้าธุลีได้ทันที หากเฮสเทียหายใจแรงกว่านี้ซักหน่อย

____"นี่คือสภาพของต้นไม้ทั้งหมดในป่าหลังคฤหาสน์" เด็กชายวัยสิบห้าเอ่ยด้วยเสียงที่หนักแน่นกว่าทาร์ทาร์ซอสนิดหน่อย

____"เฮสไม่เข้าใจ" ผู้เป็นน้องส่ายหน้าช้าๆ ทว่าดวงตาสองสีกลับเบิกโพลง ฮาเดสไม่ได้เอ่ยอะไรออกไปมากไปกว่านั้น เขาปล่อยให้เฮสเทียที่คล้ายกับกำลังจ้องหน้าเขาอยู่ แต่ในความเป็นจริงแล้วเด็กสาวเพียงแค่มองตรงไปข้างหน้าอย่างเลื่อนลอย ถ้าดวงตาของเฮสเทียสามารถเผยความอลหม่านในหัวของตนได้ ลอร์ดฮาเดสมั่นใจว่ามันคงกำลังกลอกไปมาเป็นลูกข่างอยู่เป็นแน่

____"พี่คงไม่ได้หมายความว่า..." ลำคอระหงของร่างเล็กคล้ายกับตีบตันไปชั่วขณะ ความคิดที่โผล่เข้ามาเมื่อครู่จุกอยู่ในลำคอของเธอนี่เอง

____"โอ้พระเจ้า เฮสทำทั้งหมดนี่หรอ" มือเล็กเลื่อนขึ้นมาปิดริมฝีปากสีอ่อนอย่างลืมตัว แม้ว่าเส้นเสียงของคนตัวเล็กดูจะหยุดทำงานไปตั้งแต่กลางประโยคจนคำพูดของเด็กหญิงขาด
หาย แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับลอร์ดฮาเดสเลยซักนิด เขาเดาได้ตั้งแต่น้องสาวคนเล็กยังไม่ทันเปิดปากเลยเสียด้วยซ้ำว่าเขากำลังจะได้ยินคำ
อุทานทำนองไหน

____"กว้างแค่ไหน" เปลือกตาที่ปิดลงของเลดี้เฮสเทียกลับสะท้อนความปวดร้าวได้ดีกว่าแก้วตาใสเปื้อนน้ำตา
เสียอีก คิ้วของเจ้าหล่อนขมวดเข้าหากันด้วยความลุ้นระทึก แต่ความเงียบงันและสัมผัสอุ่นร้อนของมือหนาที่เปลือกตาก็บังคับให้คนอ่อนวัยกว่าต้อง
รวบรวมความกล้าเปิดตาขึ้นมาเผชิญหน้ากับพี่ชายคนโตอีกครั้ง

____ฮาเดสไม่ได้ยิ้มเลยในตอนที่เขาลดมือลงจากใบหน้าของผู้เป็นน้อง ดวงตาของเขาอบอุ่นเหมือนชาร้อนๆที่ได้กลายเป็นกลิ่นประจำตัวของทายาทลำดับที่หนึ่งแห
่งตระกูลหน้ากากทมิฬไปเสียแล้ว

____หากมันมีความหวาดกลัวหรือความรู้สึกแค้นเคืองสักนิดในหัวของเด็กชายวัยสิบห้าคนนี้ ในครั้งนี้เฮสเทียคิดว่าฮาเดสสามารถซ่อนได้อย่างมิดชิดจนน่าทึ่ง เพราะเธอสามารถสัมผัสความอาทรที่ส่งผ่านมาได้อย่างแจ่มแจ้ง

____ฝั่งคนเป็นพี่ก็รู้ดีว่าเขาไม่สามารถโกหกคนตรงหน้าได้แม้ว่าความจริงจะน่าหวาดกลัวเพ
ียงไหนก็ตาม ลอร์ดหนึ่งเดียวแห่งคิงส์ตันตะวันตกเหยียดริมฝีปากออกก่อนจะเปิดปาก "สี่สิบเอเคอร์"

____"รั้วนอกบางส่วนละลายไปแล้ว" เขาขมวดคิ้วที่ดูเคร่งเครียดขณะเอ่ยต่อ ทว่าเสียงทุ้มค่ำกลับขึ้นจมูกคล้ายกับขบขันเสียจนจะสามารถหัวเราะออกผ่านดวงตาสีน้ำเ
งินจัดคู่นั้นได้แล้ว

____"น้องหลอมงานแกะสลักจากเงินบริสุทธิ์สูงเสียดฟ้าและหนักเป็นตัน..." ช่วงขายาวก้าวฉับๆไปที่ผ้าม่านก่อนจะเปิดมันออกในครั้งเดียว

____แสงอาทิตย์ของช่วงเกือบเที่ยงวันสาดเข้ามาอย่างไม่ปรานีปราศรัย เฮสเทียหยีตา กระนั้นเด็กหญิงก็ยังพยายามกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับม่านตาให้เข้าที่เข้าทาง ร่างสูงหมุนตัวกลับมาหาคนที่นั่งจุ้มปุ้กอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าที่ยากจะคาดเดาอารมณ์ คิ้วคมเข้มของเขาเลิกขึ้นราวกับกำลังจะสำลักน้ำลายในตอนที่เปิดปากพูดปิดประโยคอย่าง
ยากลำบาก "...จนกลายเป็นรั้วหนามที่สูงไม่เกินสองเมตรครึ่ง"

____ภาพที่ไม่ได้ร้ายแรงน้อยกว่าคำพูดเมื่อครู่ที่ด้านหลังไม่ได้ทำให้ฮาเดสรู้สึกอะไรเล
ยสักนิด ใบหน้าของเขายังคงอาการขบขันไว้อยู่ในขณะที่เจ้าตัวเม้มปากมองร่างเล็ก เฮสเทียดันตัวลงจากเตียงโดยไม่ยอมละสายตาไปจากภาพใสแจ๋วที่ปรากฏผ่านกระจกขนาดใหญ่ เธอลากขาเดินเตาะแตะมายังหน้าต่างห้องของตนซึ่งอยู่ส่วนหน้าสุดของคฤหาสน์ราวกับต้อง
มนตร์ คิ้วโก่งดั่งคันศรของเด็กหญิงวัยแปดปีขมวดเช้าหากันแบบที่คนเป็นพี่อย่างฮาเดสไม่สาม
ารถหาสาเหตุได้ และเมื่อทุกอย่างปรากฏแจ่มชัดตรงหน้า ริมฝีปากสีอ่อนเปิดออกอย่างไม่อาจควบคุม

____"โอ๊ะโอ"

____เฮสเทียเปรียบเสมือนหนังสือเล่มบางที่เข้าใจยากเสียยิ่งกว่าปรัชญาเก่าแก่เล่มใดๆที่
ลอร์ดฮาเดสเคยพานพบ เป็นหนังสือเล่มบางที่มีเนื้อหาปรากฏน้อยเสียยิ่งกว่าจำนวนหน้า

____หากมองในเชิงเปรียบเทียบแล้ว ฮาเดสคิดว่าหน้าปกของหนังสือเล่มนั้นคงจะน่าดึงดูดจนยากจะต้านทานเช่นเดียวกับเลดี้เ
ฮสเทียผู้เป็นที่รัก ส่วนเนื้อหาภายในนั้นเกือบจะว่างเปล่า มันไม่ใช่เรื่องที่ชายหนุ่มคุ้นเคยเลยสักนิด และความคิดในหัวน้องสาวหัวแก้วหัวแหวนของลอร์ดฮาเดส ดันแคน คิงส์ตันก็เช่นกัน

____มุมมองและวิธีการคิดของเฮสเทียแตกต่างไปจากวิถีของคิงส์ตันเสมอ… แตกต่างอย่างที่ไม่มีใครทราบสาเหตุ

____ลอร์ดฮาเดสเข้าใจดีว่าน้องคนเล็กของเขาคงรับอะไรหลายอย่างมาจากหญิงสาวคนนั้นมากมายเ
หลือเกิน แต่เงาของอลิซาเบ็ธ ริสทอร์บัล และความไร้เดียงสาอย่างเด็กที่ผ่านโลกมาแปดปี ก็ยังไม่ใช่ทั้งหมดที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากสีเหลืองข้าวโพดที่เจ้าตัวโปรดปราน

____มันยังประกอบด้วยสัญชาตญาณของอะไรบางอย่างที่เขาแทบบ้าตายกับการพยายามนั่งลงขบคิด สัญชาตญาณนั้นทำให้เฮสเทียดูแตกต่างออกไปทั้งในบุคลิก การวางท่วงท่า ลำดับการคิด การแก้ปัญหา รวมไปถึงวิธีการใช้พลังไฟของเจ้าตัวด้วย

____แม้ว่าเหล่าทายาททั้งสามจะได้รับการอบรมแบบเดียวกัน จากนักปราชญ์คนเดียวกันอย่างไม่ผิดเพี้ยน แต่ความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ของเลดี้แห่งคิงส์ตันใต้ก็ชัดเจนจนยากจะปฏิเสธ

____มันแตกต่างในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร แต่ก็ไม่ใช่ความคุ้นเคยที่ลอร์ดฮาเดสไม่เคยพานพบ ทว่าเด็กชายวัยสิบห้าปีกลับนึกไม่ออก แม้ว่าจะขบคิดเสียจนหัวแทบแตกก็ตาม คล้ายกับว่ามีอะไรบางอย่างดันมันไม่ให้หลุดออกมาจากปากเขาได้ มันติดอยู่ที่ปลายลิ้นนี่เองกับความคุ้นเคยและทรงพลังนี้

____คนตัวสูงกว่าทอดสายตามองเจ้าของดวงตาสองสีที่กำลังกวาดไปรอบบริเวณ เมื่อดวงตาสีน้ำเงินจัดของฮาเดสมองตามไปก็พบว่าเลดี้เฮสเทียกำลังพิจารณาเถ้าถ่านที่
กินอาณาเขตรอบคฤหาสน์ยาวไปจนถึงแผงกั้นบุบเบี้ยว ยากที่จะมีใครนึกออกว่าแผงกั้นที่ไม่คุ้นตาสักนิดเหล่านั้นเคยเรียกตัวเองว่ารั้วอัน
โอ่อ่ามาก่อน ส่วนเถ้าถ่านที่มอดไหม้จนไม่เหลือเค้าเดิม คือสิ่งเดียวที่ยืนยันถึงอะไรก็ตามที่เคยมีอยู่ และมันคือป่าหลังคฤหาสน์ที่เต็มไปด้วยต้นไม้เหลือคณานับ สรรพสัตว์นับพัน และปริศนาเชิงตำนานของป่าแห่งนี้ มันคงจะกลายเป็นปริศนาซึ่งไม่มีใครไขได้อย่างแน่นอนแล้ว เพราะในตอนนี้ตัวป่าได้หายวับไปกับตาเช่นเดียวกับร่องรอยอะไรก็ตามที่ควรจะมีอยู่

____ดวงตาข้างที่เป็นสีเขียวของเฮสเทียดูเจ้าเล่ห์อย่างประหลาดในตอนที่ใบหน้าค่อนไปทางก
ลมผินกลับมาหาพี่ชายที่ยืนขนาบอยู่ทางซ้าย

____มือเรียวยกขึ้นชี้ไปยังทางเดินทอดยาวที่ไปบรรจบอยู่ที่ซากสถาปัตยกรรมซึ่งถูกความร้อ
นทำลายเสียจนไม่เหลือเค้าเดิม ตอนนั้นเองที่ฮาเดสสังเกตว่าส่วนที่เคยเป็นบานประตูได้หลอมติดกันจนไม่สามารถเรียกสิ
่งที่เปิดออกไม่ได้ว่าประตูได้อีกแล้ว

____"เราถูกขัง" ร่างสูงครางออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำที่เต็มไปด้วยความตระหนก ลอร์คนโตแห่งคิงส์ตันตะวันตกเลียริมฝีปากน้อยๆอย่างเผลอตัวก่อนจะกลืนน้ำลายอย่างยาก
ลำบากเมื่อเห็นคนตัวเล็กข้างกายพยักหน้ายืนยันภาพที่เขาเห็น

____"เฮสไม่ใช่คนเดียวที่ถูกขัง แต่เป็นเรา... เราทุกคนเลย"

❈ ◇ ❈ ◇ ❈

TO BE CONTINUE

/ ติชมผลงานหรือให้กำลังใจได้ที่ ห้องวิจารณ์ผลงาน ♕ /
( อ่านเรื่องเต็มของ The Seven Keys และคอมเมนต์ติชม/ให้กำลังใจได้ ที่นี่ ค่ะ )

────────────────────────────────────

[Celez Volante Am...]

OPERATION HAR-ZIA
CHAPTER VIII
────────────────────────────────────

____"ฟื้นซักทีเถอะน่า" คนโตกว่ามองใบหน้าที่คล้ายคลึงกันไม่มีผิดด้วยแววตาที่ยากจะหยั่งถึง เสียงของลอร์ดฮาเดสดูจะติดกวนประสาทกว่าเวลาที่พูดกับเลดี้เฮสเทียไปมากโข นอกจากลักษณะการพูดที่เป็นกันเองตามประสาพี่น้องแล้ว มันยังแฝงความประชดประชันที่ดูจะเป็นวิสัยของร่างสูงที่ยังนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงเสียมากกว่าเข้าไปด้วย

____"ไอ้เทพเจ้าแห่งการหลับใหล ฉันโกหกน้องต่อไปไม่ได้แล้ว ให้ตาย" แสงสีนวลที่ฉายเข้ามาจากด้านนอกผ่านช่องว่างระหว่างผ้าม่านเนื้อหนากับผนังเผยให้เห็นใบหน้าขาวซีดของคนพูดที่นั่งอยู่ข้างเตียง ลอร์ดฮาเดส คิงส์ตันประสานมือเข้าหากันก่อนจะกดหน้าผากลงแนบอย่างคนที่คิดไม่ตก ทว่าร่องรอยความกังวลนั้นหาใช่สิ่งที่ผิดปกติที่สุดในห้องนอนภายในปีกเหนือของคิงส์ตันไม่ แต่กลับกลายเป็นร่างที่นอนอยู่บนเตียงต่างหาก

____ลอร์ดฮิปนอส ดีลลอน คิงส์ตันอยู่ในชุดลำลองที่ไม่สามารถปกปิดแผลพุพองตามร่างกายของเขาได้มิด อันที่จริงควรพูดว่ามันไม่สามารถปกปิดได้เลยน่าจะเหมาะกว่า

____เวลาได้ล่วงเลยมาหลายวันแล้ว และมันทำให้แผลเหล่านั้นจึงเปลี่ยนจากสีจัดอย่างแผลสดไปเป็นสีคล้ำ ทว่าสิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปเลยคือเปลือกตาของผู้ใช้ลมที่ยังคงปิดสนิท รวมทั้งลมหายใจที่แผ่วเบาเสียจนน่ากลัวว่าพลังชีวิตจะขาดหายในไม่ช้า

____เสียงกุกกักที่ดังขึ้นเรียกคนเป็นพี่เงยหน้าขึ้นด้วยดวงตาเป็นประกาย แต่แล้วก็ต้องพ่นลมหายใจออกมาอย่างผิดหวังเมื่อพบว่าน้องชายยังคงไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว

____มันอาจจะเป็นเสียงของลมหวีดหวิว นก หรือสัตว์กลางคืนอื่นที่มีปีกเป็นแน่ เพราะสัตว์อื่นที่เคยมีในป่าหลังคฤหาสน์ได้ถูกล้างบางไปจนสิ้นแล้ว

____ผู้ใช้ดินตัวสั่น มันแทบไม่เคยมีสถานการณ์ใดที่สามารถทำให้คนสุขุมและรอบคอบอย่างลอร์ดฮาเดสหวั่นใจได้มากเท่านี้ ใบหน้านิ่งเรียบของบิดาขณะยื่นหมายกักบริเวณของเฮสเทียให้เขายังคงฝังแน่นในหัวราวกับกาฝาก... เขาประเมินดยุคซิลเวอร์ผิดไป

____ผู้เป็นพ่อและดยุคแห่งตระกูลหน้ากากทมิฬมิได้อยู่ข้างเขาและเลือกลงโทษน้องสาวคนเล็กแต่เพียงผู้เดียวอย่างที่ลอร์ดฮาเดสเข้าใจทีแรก แต่ชายซึ่งเป็นต้นแบบของเหล่าตรีเทพกำลังลงโทษบุตรชายคนโตด้วยความทรมานที่สาหัสสากรรจ์กว่าการกักบริเวณหลายขุม นั่นคือการโยนบทผู้คุมให้ลอร์ดฮาเดสรับมือกับนักโทษกิตติมศักดิ์อย่างเลดี้เฮสเทีย น้องสาวคนเดียวที่ลอร์ดหนุ่มไม่เคยปฏิเสธใดๆได้เลย

____ร่างสูงเก้งก้างลดแขนที่เท้าไว้บนเตียงของน้องชายคนรองลง คิ้วได้รูปยังขมวดขึ้ง มันทำให้ใบหน้าของเด็กชายวัยสิบห้าดูคลับคล้ายว่ามีอายุเกือบจะเท่าความปราดเปรื่องที่ซ่อนอยู่ภายใต้กระโหลกศีรษะที่ถูกปกคลุมด้วยกลุ่มผมสีดำ

____"เฮสเทียมีปฏิบัติการลับใหม่อีกแล้ว" เด็กชายวัยสิบห้าปีเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ ลอร์ดฮาเดสคิดว่าตัวเองอาจจะเสียสติไปแล้วที่มานั่งพล่ามให้กับคนเป็นน้องที่ยังไม่ได้สติ

____แม้ว่าจะเป็นพี่ชายน้องชายที่คลานตามกันมาและไม่ใคร่จะถูกกันตามประสาพี่ชายน้องชายทั่วไป ทว่าคนเป็นพี่อย่างฮาเดสก็ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าเขานับถือมันสมองของลอร์ดฮิปนอส

____เจ้าดวงตาสีดำสนิทจนยากจะเชื่อว่าเป็นหนึ่งในตรีเทพคนนั้นมีเรื่องที่ฉีกทุกทฤษฎีที่ฮาเดสเคยอ่าน แค่การได้ชื่อว่าเป็นบุตรธิดาของดยุคและดัชเชสแห่งคิงส์ตันก็นับว่าเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมากพอแล้ว ซึ่งต้นเหตุทั้งมวลล้วนมาจากดวงตาสีดำสนิทที่แปลกแยกคู่นั้น ดยุคซิลเวอร์ผู้เป็นบิดามีดวงตาสีฟ้าค่อนข้างจัดเหมือนกับเขา ลอร์ดฮาเดสผู้เป็นบุตรชายคนโต ส่วนบุตรสาวคนเล็กนั้น ถอดแบบทั้งเรือนผม ดวงตา และเค้าโครงใบหน้ามาจากดัชเชสราวกับแกะ การปรากฎของสิ่งที่ไม่ใช่ยีนด้อยและยากจะเชื่อว่าเป็นการกลายพันธุ์อย่างสีนัยน์ตาของฮิปนอสก็ทำให้เกิดความแตกตื่นในวงกว้าง

____ฮาเดสจำได้ดีว่าความอลหม่านในช่วงอายุสามขวบเป็นต้นมามันเป็นอย่างไร มันเริ่มตั้งแต่วินาทีแรกที่ดยุคซิลเวอร์จำต้องพาบุตรชายคนรองออกสู่สายตาประชาชนเลยเสียด้วยซ้ำ

____ลอร์ดอันดับหนึ่งแห่งตระกูลหน้ากากทมิฬทราบภาระหน้าที่ของตนในฐานะข้ารับใช้ของประชาชนดี แม้ว่ามันจะเร้นกายอยู่ในความหรูหรา ฟุ้งเฟ้อ และโอ่อ่าอย่างแนบเนียนเพียงใด แต่ดยุคซิลเวอร์ไม่เคยปล่อยให้เขาอยู่เหนือพื้นฐานความเป็นจริงเลยแม้แต่วินาทีเดียว

____วินาทีเดียวกันกับที่ลอร์ดฮาเดสรับรู้ถึงภาระหน้าที่อันหนักหนาของตนในฐานะตระกูลผู้ครอบครองทิศตะวันออก ก็เป็นวินาทีเดียวกันกับที่เขาเรียนรู้ถึงมหันตภัยที่เรียกว่าความเป็นมนุษย์

____"มันชื่อว่าปฏิบัติการลับฮาเซียทั้งที่ควรจะเป็นเฮสนอส แกคือคนที่ควรจะมาอยู่ข้างๆน้องเล็ก ไม่ใช่ฉัน" เสียงของเด็กชายวันสิบห้าปีที่ต้องแบกรับอะไรมากมายเหลือเกินสั่นเครือ เขายังจำริมฝีปากที่ไหม้เกรียมของลอร์ดฮิปนอสซึ่งขยับอย่างยากลำบากในตอนที่ร่างเก้งก้างอย่างคนที่อายุไม่เกินสิบสามปีทรุดลงกับพื้นได้ ดวงตาที่เป็นสีเดียวกับริมฝีปากกระซิบอย่างแหบแห้งหลังจากส่งร่างเล็กอันไร้สติของเลดี้แห่งทิศใต้เข้าสู่อ้อมกอดของผู้ใช้ดินคล้ายกับกำลังละเมอ

____ทายาทอันดับหนึ่งแห่งตระกูลหน้ากากทมิฬจำได้ว่าตัวเองในวินาทีนั้นได้แต่เบิกตากว้างอย่างทำอะไรไม่ถูก ในมือหรือก็เป็นวัตถุหนักอึ้งที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องสาวหัวแก้วหัวแหวน ส่วนตรงหน้าก็คือน้องคนรองที่มีสภาพเป็นตายเท่ากันทว่า สติอันน้อยนิดของเขาก็ยังสามารถจับได้ว่าคำพูดที่ลอร์ดฮิปนอสไม่ได้กำลังเพ้อ ทว่าคนเป็นน้องกลับทำสิ่งที่เกินความคาดหมายกว่านั้น

____ผู้ใช้ลมกำลังร่ายหนึ่งในคาถาต้องห้ามของผู้ใช้ลมใดๆในโลก อย่าพูดถึงผู้ใช้เวทมนตร์ฝึกหัดซึ่งแม้แต่ประสบการณ์การฝึกหายใจ ยังมีมาไม่ถึงสิบปีที่มีสภาพไม่ต่างจากสเต็กเนื้อเลย ผู้ใช้เวทมนตร์บางคนที่เก่งกล้าพอจะใช้พลังธาตุลมของตนก่อพายุขนาดมหึมาขนาดที่ถอนรากถอนโคนประเทศหนึ่งๆได้อย่างสบาย ยังไม่สามารถทนรับการกระชากธาตุลมออกจากร่างกายและจิตวิญญาณได้เกินครึ่งบทจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตเลยเสียด้วยซ้ำ

____"แกทำบ้าอะไร" ฮาเดส ดันแคน คิงส์ตันจำได้ว่าตัวเองตะโกนออกไปอย่างเกรี้ยวกราด แต่คนที่ควรจะมีสัมมาคารวะกับความเป็นพี่ของฮาเดสสักครั้งในชีวิตก็ยังยืนหยัดที่จะเลิกคิ้วไหม้ๆขึ้นอย่างกวนอารมณ์ให้กับเสียงแหบแห้งเหมือนสุนัขขาดน้ำของเขา

____"บ้าของจริงแน่" ดวงตาสีดำฉายแววหวาดกลัวขึ้นมาครู่หนึ่ง ในครั้งนี้ดูเหมือนว่าลอร์ดฮิปนอสจะจงใจให้เขาเห็นมันเสียด้วยซ้ำ คนที่ดูจะเป็นลมสมชื่อผู้ใช้ลมได้ทุกเมื่อกลืนน้ำลายด้วยสีหน้าเจ็บปวดก่อนจะเอ่ยต่อ "ทำยังไงก็ได้ให้เฮสไม่มาเหยียบที่ฝั่งเหนืออีก ฉันไม่สนว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไร"

____"เฮสเทียจะจำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น แต่งเรื่องขึ้นมาสักเรื่องให้น้องและพ่อด้วย" ลอร์ดฮาเดสมองรอยยิ้มของคนตรงหน้าที่ยกขึ้นอย่างเจ็บปวดด้วยลำคอที่ตีบตัน “แค่เรื่องปลอมๆสักเรื่องไม่น่าจะเหลือบ่ากว่าแรงสำหรับลอร์ดฮาเดสหรอก มันไม่ต้องใช้มันสมองเรื่องกองทัพหรือยุทธการณ์ในหัวฉันหรอกกระมัง”

____"แกจะลบความทรงจำของน้องไม่ได้นะฮิปนอส มันเสี่ยงเกินไป" ถึงตรงนี้ ลอร์ดฮาเดสก็ค่อยๆย่อตัวลงเพื่อประคองร่างบางของเลดี้หนึ่งเดียวแห่งคิงส์ตันลงบนผืนดินที่เคยมีหญ้าเขียวชอุ่ม เขายืดตัวขึ้นมาเผชิญหน้ากับน้องชายร่วมสายเลือดที่ดูเหมือนว่าการเกิดช้ากว่าห้าปีจะไม่ได้ทำให้ลอร์ดฮิปนอสเคารพประสบการณ์กว่าสองพันวันนั่นเลย

____"ฉันดูเหมือนคนที่จะฟังคำพูดของแกรึไง ไอ้พี่ชาย” และแล้วดวงตาและใบหน้าของฮิปนอสก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมพร้อมๆกับที่ซีดเผือดลงชนิดที่คราบเขม่าควันตามเนื้อตัวไม่สามารถปกปิดได้อีกต่อไป

____“ฉันไม่มีทางปล่อยให้น้องเป็นอะไรไปหรอกน่า” ถึงตรงนี้ ลมหายใจของเด็กชายวัยสิบปีก็ดูคล้ายจะหลุดลอยไปในทุกที และอารมณ์โกรธที่ปะทุขึ้นในตัวก็เช่นกัน

____"ฉันไม่ได้กังขากับความสามารถในการปกป้องน้องของแก ฮิปนอส ฉันไม่ได้กลัวเฮสเทียเป็นอะไรไปเลยเพราะฉันจะไม่มีทางยอมให้มันเกิดขึ้นเช่นกัน" ลอร์ดฮาเดสคำราม ดวงตาของเขากระตุกด้วยความกราดเกรี้ยว “…แต่ฉันไม่ได้มีน้องคนเดียวให้ดูแล”

____"แกจะได้รับการทาบทามให้เป็นเสธ.ของทัพใหญ่หรือมาเป็นทายาทอันดับหนึ่งแทนฉันก็ช่าง แม้แต่แกจะนอกคอกแล้วซมซานกลับมาให้ฉันเลี้ยงจนตายก็แล้วแต่ แต่แกต้องไม่ตายด้วยการตัดสินใจโง่ๆแบบนี้" คำพูดที่พรั่งพรูออกมาจากปากซีดเซียวไปด้วยความตระหนกของลอร์ดฮาเดสทำเอาคนที่มีสภาพย่ำแย่กว่าหลายเท่าต้องแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากไหม้เกรียมด้วยความประหม่า

____ฮิปนอสพ่นลมหายใจออกมาในที่สุดด้วยเสียงขึ้นจมูกที่คล้ายกับกำลังขบขันเสียเต็มประดา "วางใจเถอะ ฉันยังอยู่ใช้เวรใช้กรรมกับแกไปอีกนาน"

____"แกไม่รู้หรอกว่าการดึงพลังธาตุจากลมหายใจอย่างมนตร์ลบความทรงจำของคิงส์ตันเหนือมันอันตรายแค่ไหน”

____“ฮาเดส… ฉันคือผู้ใช้ลมหนึ่งเดียวและทรงพลังที่สุด” ดวงตาของลอร์ดฮิปนอสปิดปรือ และการขยับของผิวหนังบริเวณเปลือกตาก็เผยให้เห็นเนื้ออ่อนสีสดที่ดูเหมือนจะมีเลือดไหลออกมาได้ทุกเมื่อ เช่นเดียวกับสติอันบางเบาของเจ้าตัวที่ดูจะโอนเอนเหมือนกันกับร่างเก้งก้างที่เริ่มตระหนักได้ว่าการทรงตัวเป็นเรื่องยากเพียงใด

____แต่ผู้ใช้ลมวัยสิบปีก็ยังคงหัวเราะในลำคอทั้งที่ภาพตรงหน้าแสนจะลางเลือนลงในทุกที เขาพยายามเพ่งมองคนเป็นพี่อย่างอ่อนล้า ริมฝีปากบางเผยอออกอยู่สองสามครั้งคล้ายกับการเปล่งเสียงเป็นเรื่องยากเย็นเสียเหลือเกิน

____“ฉันยังไม่ตายเร็วๆนี้หรอกพี่ชาย เสธ.ลมแดงอย่างฉันรู้ดีว่าลมหายใจของตัวเอง... มีไว้เพื่อใคร”

❈ ◇ ❈ ◇ ❈

TO BE CONTINUE

/ ติชมผลงานหรือให้กำลังใจได้ที่ ห้องวิจารณ์ผลงาน ♕ /
( อ่านเรื่องเต็มของ The Seven Keys และคอมเมนต์ติชม/ให้กำลังใจได้ ที่นี่ ค่ะ )

────────────────────────────────────

[Celez Volante Am...]

OPERATION HAR-ZIA
CHAPTER IX
────────────────────────────────────

____ร่างบางยังคงหอบหายใจอยู่แม้ว่าพี่ชายบังเกิดเกล้าจะขอตัวไปอาบน้ำอาบท่าได้สักพักแล้ว ลอร์ดฮาเดสเป็นคนเจ้าสำอางที่มักแสดงท่าทีว่า การปล่อยให้ร่างกายมีเหงื่อชื้นๆหรือแม้แต่ยอมเสื้อเชิ้ตมีรอยยับ ถือเป็นเรื่องคอขาดบาดตายยิ่งกว่าอะไรทั้งมวล

____การใช้พลังที่มากเกินไปแม้แต่กับผู้ควบคุมธาตุที่มีพลังมากเป็นพิเศษอย่างบุตรสาวคนเล็กของดยุคคิงส์ตัน แห่งสหราชอาณาจักร ดูจะเป็นการใช้งานเกินขีดจำกัดของร่างกายที่คล้ายมนุษย์เกินไปเสียหน่อย

____ในตอนที่ศาสตราจารย์อะไรสักอย่างมาพล่ามเรื่องวิวัฒนาการคู่ขนานที่ไม่คู่ขนานของมนุษย์และผู้ใช้เวทมนตร์ ยังคงเป็นหนึ่งในเรื่องมีสาระเพียงไม่กี่เรื่องที่แจ่มชัดในความทรงจำของเลดี้ตัวน้อย เด็กสาวจำได้ว่าตนเองในตอนนั้นหงุดหงิดเสียจนโพล่งขัดทุกประโยคที่นักปราชญ์ในชุดคลุมยาวโบร่ำโบราณพยายามจะสอน

____และในท้ายที่สุด เลดี้แห่งทิศใต้ก็ได้รับวันหยุดในห้องของตัวเองนานนับสัปดาห์ เป็นการตบรางวัลในแบบฉบับของดยุคซิลเวอร์ คิงส์ตัน เพื่อตอบแทนสำหรับความมีมารยาทอันเหลือล้นที่บุตรสาวคนเล็กแสนเพียบพร้อมของเขาได้แสดงต่อหน้านักปราชญ์จนเป็นที่เชิดหน้าชูตา

____ในครั้งนั้นเองที่ทำให้คนเป็นพ่อจับทางบทลงโทษที่ทำให้เลดี้เฮสเทีย ดาร์ลิงก์ คิงส์ตันกลัวจนหัวหดได้

____ดวงตาข้างละสีผิดธรรมชาติเขม้นมองภาพผ่านกระจกใสไปยังประตูหน้าคฤหาสน์ที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาอีกครั้ง มันเป็นเวลาเกือบสองสัปดาห์แล้วนับตั้งแต่ที่เธอและพี่ชายคนโตอย่างลอร์ดฮาเดส เริ่มปฏิบัติการลับฮาเซียนี้ขึ้น

____ปฏิบัติการลับฮาเซียที่มีจุดประสงค์เพื่อบูรณะรั้วรอบขอบคฤหาสน์ที่เคยเป็นประติมากรรมสลักเสลาโดยช่างผู้ชำนาญและโด่งดัง เป็นหนึ่งในผลงานศิลปะที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ ทว่ามันได้ผิดรูปไปจากการระเบิดพลังธาตุไฟออกมาเต็มกำลังสูบเมื่อหลายวันก่อน

____ดูเหมือนว่างานนี้ออกจะยากกว่าที่เด็กสาวคิดไว้ในทีแรกนัก ทั้งหมดทั้งมวลก็เนื่องมาจากการถูกกักบริเวณอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆนั่นแหละที่ทำให้ดวงตาข้างที่มีสีพิเศษของเลดี้เฮสเทียมืดบอด มันจะมีก็แต่กระจกขนาดใหญ่ที่พอจะทำให้แต่ละวินาทีของผู้ใช้ไฟวัยแปดปีเคลื่อนผ่านไปอย่างมีชีวิตชีวา

____จากกระจกที่มีติดห้องพักของเหล่าทายาททั้งสี่ทิศนี้เองที่ทำให้เลดี้เฮสเทีย ดาร์ลิงก์ คิงส์ตันสามารถมองเห็นรั้วได้ แม้มันจะไม่ถึงเสี้ยวหนึ่งของทั้งหมด แต่ก็ช่วยให้ปฏิบัติการฮาเซียของเฮสเทียง่ายขึ้น… อย่างน้อยก็ในช่วงต้น

____แน่นอนว่าผู้ที่รับหน้าที่หลอมรั้วเงินบริสุทธิ์ทีละส่วนให้กลายเป็นของกึ่งแข็งกึ่งเหลวต้องตกเป็นของผู้ใช้ไฟหนึ่งเดียวอย่างช่วยไม่ได้

____เฮสเทียพบว่ามันยากทีเดียวกับการบังคับให้ความร้อนของเปลวเพลิงในทุกอณูร่างกายทำประโยชน์แทนการทำลายเช่นที่เธอเคยทำมาในอดีต อันที่จริงเด็กสาวคิดว่าผู้ใช้ไฟที่แข็งแกร่งที่สุดในศตวรรษไม่ควรใช้นิยามเจ้าของพลังทำลายล้างที่มากที่สุด หากแต่ควรเก็บไว้เรียกผู้ใช้ไฟผู้ปราดเปรื่องในการสรรสร้างสรรพสิ่งจากพลังนี้ และสามารถควบคุมมันได้ราวกับเป็นกล้ามเนื้อมัดหนึ่งเสียมากกว่า

____แม้งานตรงหน้าจะวุ่นวาย ซํบซ้อน และท้าทายแค่ไหน แต่เด็กหญิงวัยแปดขวบที่นอนฝังตัวอยู่บนเตียงหนานุ่มและผ้านวมผืนโตก็ยังไม่สามารถเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองไปได้ ความหวาดกลัวและความรู้สึกผิดอย่างผิดปกติยังคงคละคลุ้ง มิได้ถูกลืมเลือนไปได้ง่ายๆเช่นเด็กวัยเดียวกันทั่วไปที่มักละความสนใจไปจากเรื่องๆหนึ่งอย่างง่ายดาย

____งานของลอร์ดฮาเดส อีกหนึ่งสมาชิกของปฏิบัติการฮาเซียก็ดูจะหินไม่แพ้กัน ผู้ใช้ดินสามารถเปลี่ยนรูปร่างของรั้วที่อ่อนลงจากความร้อนได้โดยอาศัยพลังธาตุของตน อันที่จริงลอร์ดฮาเดสสามารถบิดคฤหาสน์หลังนี้ให้หมุนไปรอบๆเหมือนดวงไฟดิสโก้เทค โยนภูเขาวากายาม่าจากญี่ปุ่นมาไว้หน้ารั้วคิงส์ตัน หรือแม้กระทั่งยกเมืองแอตแลนติสขึ้นมาจากก้นมหาสมุทรได้เสียด้วยซ้ำ หากจะมองกันในแง่ของทฤษฎี

____ทว่าในความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

____ลอร์ดฮาเดสไม่ได้มีพลังดินน้อยไปกว่าน้องอีกสองคนของเขาเท่าไหร่เลย ปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่พลังของเขาไม่เพียงพอแต่อย่างใด และปัญหาก็ไม่ได้เกิดจากความไม่รู้ เพราะมันไม่มีทฤษฎีใดๆบนโลกที่ลอร์ดฮาเดส ดันแคน คิงส์ตันเชี่ยวชาญน้อยกว่านักปราชญ์หน้าไหน เว้นก็แต่ตำราพิชัยสงคราม หรือยุทธการณ์ร้อยเล่ห์ที่ดูจะเป็นของแสลงเพียงอย่างเดียวในชีวิตของชายหนุ่มผู้เพียบพร้อม

____ข้อจำกัดที่เกิดขึ้นมันเกิดจากอันตรายที่ชื่อว่า ผลพวงจากพลังต่างหากที่ทำให้ลอร์ดฮาเดสเลือกที่จะทำตัวเป็นคนไร้แขนขาไปโดยปริยาย

____ธาตุดินถือเป็นธาตุที่แข็งแกร่งและไร้ขีดจำกัดที่สุดในบรรดาธาตุทั้งสี่ เพราะดินถือเป็นส่วนประกอบของสสารทั้งมวลในจักรวาล ไม่เว้นแต่ในสภาวะสุญญากาศที่ไม่มีกระทั่งอากาศธาตุสำหรับผู้ใช้ลม อย่างว่าแต่น้ำหรือไฟเลย

____และพลังของธาตุดินก็เป็นพลังที่ทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงเกินจินตนาการ เหนือชั้นกว่าธาตุใดๆเช่นกัน

____ยิ่งเมื่อลอร์ดฮาเดสได้สวมบทบาทการเป็นพี่คนโต ได้เฝ้าดูการเติบโตและประสบการณ์ของน้องทั้งสอง ด้วยความที่ดัชเชสผู้เป็นมารดาแทบจะหายสาบสูญไปจากชีวิตของพวกเขาและบิดาที่มีงานยุ่งตลอดเวลา ทั้งภาระในฐานะดยุคแห่งคิงส์ตันที่มีต่อประชาชนในสหราชอาณาจักร และหน้าที่ในฐานะผู้นำตระกูลผู้ครอบครองเผ่าตะวันออกแห่งโลกปีศาจ

____ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นลอร์ดฮิปนอสหรือเลดี้เฮสเทียก็ล้วนแต่อยู่ในสายตาของคนดูและเช่นพี่คนโตอย่างเขามาตลอดเวลานับสิบปี นั่นทำให้ลอร์ดฮาเดส ดันแคน คิงส์ตันได้เห็นผลพวงอันน่าสะพรึงกลัวของพลังธาตุชัดเจนขึ้น ทั้งจากธาตุไฟและธาตุลม

____"เลดี้เฮสเทีย ดาร์ลิงก์ คิงส์ตัน!" เสียงทรงอำนาจที่คุ้นหูดังขึ้นในอีกสองสัปดาห์ถัดมาที่ผ่านไปอย่างน่าเบื่อหน่าย เสียงนั้นเรียกเลดี้เฮสเทียที่จวนจะจมสู่ห้วงนิทราสะดุ้งขึ้นมาด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

____เสียงฝีเท้าที่ยังคงดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆทำเอาร่างบางกำผ้านวมที่คลุมร่างอยู่แน่น ดวงหน้าตื่นตระหนกที่จะเผชิญหน้ากับเจ้าของเสียงที่เธอไม่ได้ยินมากว่าสองสัปดาห์ อันที่จริงเด็กสาวไม่ได้พบใครเลยนอกจากฮาเดสผู้เป็นพี่ชายคนโตที่เข้ามาส่งอาหารสามมื้อและสุมหัวกันทำปฏิบัติการลับที่จวนจะเสร็จในไม่ช้า

____เลดี้เฮสเทีย เลดี้หนึ่งเดียวผู้ครอบครองคฤหาสน์คิงส์ตันปีกใต้พบว่า การพยายามหลอมรั้วบริเวณที่เธอไม่สามารถมองเห็นผ่านกระจกได้นั้นเป็นเรื่องยากแสนสาหัส โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแผ่นหลังของลอร์ดฮาเดสเองก็อยู่นอกระยะสายตาของเธอเช่นกัน คู่หูในปฏิบัติการลับฮาเซียที่ควบตำแหน่งพี่ชายคนโตต้องลงไปด้านล่างเพื่อจัดการขึ้นรูปรั้วเงินที่เธอหลอมจนร้อนจัด

____แต่การกะระยะให้เปลวเพลิงเกิดขึ้นในจุดที่เด็กสาวไม่สามารถมองเห็นแทบจะเป็นเรื่องกล้วยๆไปเลย เมื่อเทียบกับการต้องเผชิญหน้ากับคนที่กำลังจะสัมผัสประตูหน้าห้องของเธอในไม่ช้า

____เฮสเทียพ่นลมหายใจออกมาอย่างประหม่า ดวงตาข้างที่เป็นสีเขียวของเจ้าตัวดูจะขยับด้วยจังหวะแปลกประหลาด ม่านตาของดวงตาข้างนั้นหดและขยายอยู่หลายครั้งในตอนที่ร่างเล็กดีดตัวขึ้นจากเตียง ทันใดนั้นเสียงจังหวะก้าวเดินของผู้มาเยือนก็ดุจะช้าลงอย่างไมทราบสาเหตุ

____บุตรสาวคนเล็กแห่งรั้วราชสีห์คิงส์ตันกวาดสายตาไปรอบห้องเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย มือเล็กลากผ้าม่านสีเหลืองข้าวโพดเปิดออกเผยให้เห็นบานกระจกกึ่งนึง แสงอาทิตย์สาดเข้ามาจนเฮสเทียต้องลอบหยีตา ทว่าสองขาก็ไม่ได้หยุดอยู๋กับที่แต่อย่างใด

____ร่างเล็กก้าวเท้าสั้นๆตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าของตน เปิดด้านหนึ่งออกและเริ่มหยิบเอาเสื้อผ้าบางส่วนออกมาวางให้กระจัดกระจายอยู่บนเตียง

____เสียงฝีเท้าเคลื่อนเข้ามาใกล้ในระยะที่น่าใจหายแล้วในตอนที่เลดี้เฮสเทียถอดเสื้อแขนกุดสีเดียวกับผ้าม่านออกทางหัว เด็กสาวที่ท่อนบนเหลือเพียงแต่เสื้อซับในครึ่งตัวสีขาวสะอาดสะบัดเสื้อในมือหนึ่งครั้งก่อนจะพาดมันไว้กับบ่า มืออีกข้างสางผมสีน้ำตาลอ่อนอย่างใจเย็นในตอนที่ลูกบิดประตูถูกกระชากออกอย่างแรง

____ผู้มาเยือนเบิกตาน้อยๆ ดูจะผงะเสียหลักไปไม่น้อยเมื่อเจ้าของห้องหันไปสบตา

____“โอ๊ะ” เด็กหญิงวัยแปดขวบอุทานออกมาด้วยเสียงแหลมสูงพร้อมกับหยิบเสื้อในมือขึ้นมาทาบอกด้วยอารามตกใจที่ปั้นแต่งมาเป็นอย่างดี

____ฝั่งร่างสูงที่สูงกว่าทั้งวัยและความสูงก็ได้เปิดปากน้อยๆ คล้ายกับมีน้ำท่วมปากไปเสียแล้ว

____เฮสเทียขยับตัวเล็กน้อยเข้าไปใกล้ตู้เสื้อผ้าจนบานประตูตู้สามารถปกปิดร่างเล็กที่ไม่สูงไปกว่าร้อยห้ามสิบเซนติเมตรนั้นได้หมด เด็กสาวยื่นหน้าออกมาจากที่กำบังด้วยดวงตาใสซื่ออันเป็นเอกลักษณ์ เด็กสาวไม่ได้ยิ้ม กระนั้นก็ไม่ได้ดูบึ้งตึงไปกว่าความตกใจจอมปลอมที่สวมไว้

____เลดี้แห่งคิงส์ตันใต้ไม่อยากยอมรับเลยว่าเธอก่นด่าตัวเองแค่ไหนที่ฟังผิดไปว่าเสียงเกรี้ยวกราดนั่นมาจากคนที่เธอแทบจะชะเง้อคอรอทุกวินาที กระนั้นเด็กสาวก็ยังยกมุมปากขึ้นน้อยๆอย่างสุภาพพร้อมกับก้มหัวนิดๆแสดงความเคารพ

____“สวัสดีค่ะพ่อ”

❈ ◇ ❈ ◇ ❈

TO BE CONTINUE

/ ติชมผลงานหรือให้กำลังใจได้ที่ ห้องวิจารณ์ผลงาน ♕ /
( อ่านเรื่องเต็มของ The Seven Keys และคอมเมนต์ติชม/ให้กำลังใจได้ ที่นี่ ค่ะ )

────────────────────────────────────

[Celez Volante Am...]

OPERATION HAR-ZIA
CHAPTER X
────────────────────────────────────

____ลอร์ดฮาเดสตัดสินใจปลีกตัวมายังบริเวณด้านหลังคฤหาสน์ที่อยู่เกือบถึงปีกเหนือของคฤหาสน์ซึ่งตั้งหันหน้าเข้าหาทิศใต้ ทว่าชายหนุ่มกลับไม่พบคนที่เขาตั้งใจจะตามหาแต่อย่างใด

____ดวงตาสีน้ำเงินสดกวาดไปรอบทางเดินที่แคบกว่าทางเดินหลักเกือบเท่าตัว เขาไม่คุ้นชินกับส่วนนี้ของคฤหาสน์นัก ด้วยวัยวุฒิทีโตเกินกว่าจะแวะเวียนมาหาแม่นมเป็นกิจวัตรเหมือนแต่ก่อน และเขาก็ไม่ได้มีธุระปะปังอะไรให้ต้องมาถึงห้องพักเพิ่มเติมไปจากปกติที่มักเดินสวนกันตามทางเดินส่วนหลักของคฤหาสน์

____ดวงไฟตามทางเดินของคฤหาสน์ส่วนนี้ดูจะสลัวกว่าทั่วไป ด้วยความประหยัดมัธยัสถ์ของหญิงมีอายุที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่นมของเหล่าตรีเทพ เจ้าหล่อนจึงเลือกที่จะเปิดไฟเฉพาะช่วงเวลาที่จะใช้ และเปิดแค่พอให้มองเห็นลางๆเท่านั้น ไม่ได้เปิดให้สว่างไสวเหมือนส่วนคฤหาสน์ที่เป็นเขตของผู้เป็นนายแต่อย่างใด

____“สวัสดีครับแนนนี่” ร่างสูงแทบจะมองเห็นตัวเองในตอนที่ไม่ได้ตัวใหญ่ไปกว่าท่อนแขนของแนนนี่ในดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นเลยด้วยซ้ำ ใบหน้าของเขาร้อนขึ้นเล็กน้อยเมื่อเจ้าของใบหน้าเกลี้ยงเกลาออกจะเจ้าเนื้อเล็กน้อยอมยิ้ม ก่อนที่เด็กชายจะรีบกลบเกลื่อนด้วยการโค้งคำนับให้ผู้มีพระคุณอย่างอ่อนน้อม

____“ไม่เปิดไฟเดินอีกแล้วหรอครับ ถ้าหกล้มเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง” กระนั้น ฮาเดสก็ยังไม่สามารถห้ามปากตัวเองไม่ให้ท้วงติงด้วยความห่วงใยได้ เด็กชายวัยสิบห้าที่มักโอ้อวดว่าตนโตเป็นผู้ใหญ่แล้วได้แต่เกาคอแก้เก้อในตอนที่แม่นมของตนฉีกยิ้มสว่างไสว

____เจ้าของชื่อแนนนี่ย่อตัวทำความเคารพผู้เป็นนายน้อยด้วยรอยยิ้มใจดีเหมือนเคย หญิงสาววัยกลางคนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับดยุคผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์ช้อนดวงตาดื้อรั้นขึ้นมามองลอร์ดฮาเดสอย่างขบขัน หากแต่ริมฝีปากยังคงปิดสนิทเฉกเช่นเดิม ไม่ได้ตอบโต้อะไรออกไปอย่างเคย

____แนนนี่พูดไม่ได้ ในบางครั้ง ลอร์ดฮาเดสก็ดูเหมือนจะลืมความจริงข้อนี้ไปเสียสนิท กระทั่งรู้สึกตัวว่ากำลังจ้องริมฝีปากสีคล้ำของแม่นมอยู่นานพอตัวนั่นแหละ สติสัมปชัญญะของเขาจึงเริ่มเข้าที่เข้าทาง

____ร่างสูงเก้งก้างส่งยิ้มขอโทษขอโพยก่อนจะหันหลังกลับออกมาด้วยความผิดหวัง

____และในตอนที่ลอร์ดฮาเดสเดินมาถึงหัวมุมนั่นเอง เขาก็ต้องผงะเมื่อพบว่าตนเองเกือบชนเข้ากับร่างบางที่เดินสวนมา ในมือของซาร่าห์ถือถาดอาหารสีเงิน ดูเหมือนว่าฝาแฝดคนพี่จะรับถาดอาหารนี้มาจากห้องของดัชเชสเฮเลน่า

____ทว่าสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาไปไม่ใช่การกลับมาอย่างผิดวิสัยของมารดาบังเกิดเกล้าแต่อย่างใด แต่เป็นแววตาแปลกแปร่งของคนโตกว่าต่างหากที่ทำให้ลอร์ดวัยรุ่นสังหรณ์ใจไม่ดีนัก

____“แล้วซินดี้ล่ะ” ฮาเดสคาดเดาว่าซาร่าห์จะต้องโพล่งสาธยายกิจวัตรของน้องสาวฝาแฝดในวันนี้ออกมาเป็นฉากๆเหมือนอย่างเคยตามประสาคนช่างจ้อ ทว่าในครั้งนี้ หญิงสาวกลับทำเพียงแค่หลบทางให้เขาเละก้มหัวให้อย่างเงียบๆเท่านั้น

____มันผิดวิสัยของคนที่ฮาเดสเคารพเหมือนพี่สาวคนหนึ่งและเห็นกันมาตั้งแต่แบเบาะเป็นอย่างมาก มันทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเอียงตัวบังทางไม่ให้คนตัวเล็กกว่าด้วยเพศสภาพเดินต่อได้ ดวงตาสีน้ำเงินจัดฉายแววจริงจังและคาดคั้น

____“ซินดี้ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วค่ะท่านชายใหญ่” หญิงสาวที่สูงกว่าด้วยอายุแต่ด้อยกว่าด้วยฐานะหลุบตาลงต่ำ เธอยอมจำนนในที่สุดหลังจากลองพยายามจะออกเดินเลี่ยงไปอยู่หลายครั้งแต่ก็ล้มเหลว เสียงของซาร่าห์ยังคงแหลมสูง หากแต่ไร้ซึ่งความร่าเริงและซ่อนความแข็งกระด้างอย่างที่ฮาเดสไม่เคยเห็นมาก่อน

____“ที่จริงแล้ว ซินดี้ไม่ควรจะเคยอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ” รูปประโยคที่สาวใช้พูดต่อด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้มช่างคุ้นหูอย่างประหลาด อันที่จริงลอร์ดฮาเดสแทบไม่ต้องเดาด้วยซ้ำว่าต้นเหตุของเลือดที่เดือดพล่านในตัวเขามันมีสาเหตุมาจากอะไร

____แต่ลอร์ดแห่งทิศตะวันตกก็ยังคงปล่อยให้ตัวเองเปิดปากถามในสิ่งที่ตนรู้อยู่แก่ใจออกไปอยู่ดี “ซินดี้ไปนานแค่ไหนแล้ว และใคร... ใครเป็นคนมาจัดการเรื่องนี้”

____หญิงสาววัยแรกรุ่นโค้งตัวน้อยๆแต่ดวงหน้ากลับแข็งกร้าวขึ้นมาในบัดดล “ซาร่าห์เกรงว่าท่านชายใหญ่จะมาช้าไปเยอะเลยทีเดียว เพราะเรือของซินดี้ออกจากท่าไปตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้ว”

____ถึงตรงนี้ ซาร่าห์ก็ช้อนสายตาขึ้นมาหาร่างสูงเก้งก้างที่ยืนจังก้าอยู่ตรงหน้าด้วยใบหน้าเคลือบแคลง เธอมองคนที่คล้ายกับขนาดตัวจะหดลงเรื่อยๆด้วยดวงตาที่อ่อนลง แต่แล้ว ชั่วขณะหนึ่งฮาเดสก็เห็นคำว่าเวทนาปนกราดเกรี้ยวอยู่ในดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้น

____เสียงของซาร่าห์อาจจะนิ่งเรียบจนแทบไม่มีอารมณ์เจือปน ทว่าคำพูดของเจ้าหล่อนก็เป็นเหมือนหมัดฮุกที่จัดการกับลอร์ดฮาเดส ดันแคน คิงส์ตันได้อยู่หมัดในครั้งเดียว

____“ส่วนคำตอบของอีกคำถาม ท่านชายคงมีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้ว... ขอตัวนะคะ”

❈ ◇ ❈ ◇ ❈

____“ย้ายก้นของแกออกมาจากเตียงโง่ๆนั่นเดี๋ยวนี้เลยนะฮิปนอส!” เสียงเข้มของคนที่แก่กว่าไม่เกินสองปีดีดังลั่นคฤหาสน์ปีกเหนือ ซึ่งเคยเป็นส่วนที่เงียบเหงาและวังเวงที่สุด มันดังก้องจนแม้แต่ฝุ่นที่เกาะอยู่ตามจุดต่างๆอาจดีดตัวขึ้นมามีชีวิตได้เลยด้วยซ้ำ ทว่าร่างที่ยังนอนนิ่งก็ยังคงยืนหยัดที่จะสวมหน้ากากแสร้งทำเป็นสลบไสลต่อ

____ฮาเดสคำรามเมื่อเห็นว่าน้องชายคนรองยังคงเดินหน้าปั่นหัวเขาเหมือนคนโง่ต่อ

____“เวรเอ้ย ฉันบอกให้ลุกขึ้นมา!”

____“หูฉันไม่ได้ฝาดไปสินะที่ได้ยินคำว่า เวรเอ้ย ออกมาจากปากของลอร์ดผู้สุขุมและเก๊กท่าขรึมเก่งเป็นที่หนึ่งอย่างพี่” เปลือกตาของลอร์ดฮิปนอสยังคงปิดสนิท แต่ริมฝีปากสีคล้ำที่เริ่มมีเนื้อตายบางส่วนหลุดลอกออกไปกลับยกยิ้มและเปิดออกอย่างที่ลอร์ดฮาเดสคาดไว้ไม่มีผิด

____“แกคิดจะปั่นหัวฉันให้คิดว่าแกเป็นเจ้าชายนิทราไปเลยรึไง” มือหนากำเข้าหากันแน่นจนมันซีดขาวเป็นริ้วๆ รูจมูกของฮาเดสขยายตามจังหวะการหายใจเข้าออกด้วยโทสะที่พลุ่งพล่าน กระนั้นคิ้วที่เลิกน้อยๆและไม่ขมวดเข้าหากันเท่าที่ควรจะเป็นของพี่ชายคนโต ก็ได้กลายมาเป็นหลักฐานของความโล่งใจชิ้นสำคัญ และเป็นภาพแรกที่นัยน์ตาสีดำสนิทของลอร์ดฮิปนอสเห็นเมื่อเขาเปิดตาขึ้น

____“จะให้ฉันเชื่อว่าที่แกเสียเวลาถ่อสังขารมาเล่นเรื่องนู่นนี่ให้ฉันฟังทุกวันเป็นเพราะแกเชื่อว่าฉันยังไม่ได้สติจริงๆหนะหรอไอ้พี่ชาย” น้ำเสียงกลั้วหัวเราะของเจ้าของห้องพักแห่งคิงส์ตันเหนือทำเอาเส้นเลือดบริเวณหน้าผากของพี่ชายคนโตของเหล่าตรีเทพปูดโปน ฮิปนอสยันตัวขึ้นพร้อมกับเบนสายตาไปรอบๆห้องพร้อมกับหัวเราะในลำคออย่างประชดประชัน

____เขายั่วยุอารมณ์ของฮาเดสจนมีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้ลอร์ดผู้สุขุมและรอบคอบอยู่เสมอซัดหมัดเข้าที่หน้าได้โดยชอบธรรม โชคยังดีที่พี่ชายของเขาไม่ได้นิยมการใช้กำลังเพื่อแก้ปัญหานัก และนั่นเป็นผลพวงที่สามารถอธิบายเรื่องความไม่ชำนาญของพี่คนโตเรื่องการรบและยุทธศาสตร์สงครามอะไรทั้งหลายแหล่ด้วย

____ฮิปนอสผินหน้ากลับมาหาร่างสูงในเชิ้ตแขนสั้นคลุมทับด้วยเสื้อกั๊กผ้าสูทและโบว์สีกรมท่าเข้าชุดกันอีกครั้ง เขาถอนหายใจยาวด้วยความอ่อนล้าที่ดูจะสลักเสลาไปทั่วทั้งใบหน้า “ฉันยังไม่พร้อม คิดไม่ตกเลยจริงๆว่าต้องทำหน้ายังไงถ้าเจอเฮส”

____“เฮอะ” ลอร์ดแห่งคิงส์ตันตะวันตกพนลมหายใจพรืดด้วยท่าทีที่ประชดประชันไม่ต่างกัน “แกควรคิดให้ดีกว่านี้ตอนที่พุ่งตัวไปตายที่แกนกลางของเปลวเพลิงนะ”

____“แต่ไม่หรอก แกคงคิดมาดีแล้ว เพราะถ้าแกไม่ทำ ซินดี้จะไม่ใช่แค่ต้องไปจากคฤหาสน์แน่” ความย้อนแย้งของคนโตกว่าไม่ได้ทำให้คนที่ยังมีรอยแผลตามเนื้อตัวปรากฏให้เห็นหงุดหงิดเลยสักนิด ฮิปนอสเข้าใจพี่ชายของตนเองดี และเขาเองก็ไม่ได้สับสนน้อยไปกว่าที่ฮาเดสเป็นอยู่ในตอนนี้เลย

____ลอร์ดฮาเดสไหวไหล่น้อยๆพลางทรุดตัวลงนั่งบนเตียง เขาเหลือบสายตามาทางเจ้าของห้องที่เอาแต่เงียบมานาน“แล้วแกจะทำยังไงต่อไป”

____“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว ความสัมพันธ์ห่างเหินและมึนตึงมันง่ายกว่ากันมากโข” ฮิปนอสตอบในทันที ลอร์ดวัยย่างสิบปีไม่แม้แต่หยุดคิดเลยเสียด้วยซ้ำ

____เจ้าของดวงตาสีดำถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ดวงตาฉายแววเจ็บปวดอย่างล้ำลึก ทว่าก็เด็ดเดี่ยวและแข็งกร้าวดั่งเหล็กกล้า “ฉันบอกแล้วไง ที่ฉันยังหายใจอยู่ทุกวันนี้มีเหตุผลเดียวเท่านั้น”

____“แกยังเชื่อคำทำนายนั่นอยู่อีกรึไง” คนเป็นพี่เลิกคิ้วเมื่อได้ฟังดังนั้น ทว่าถูกถามกลับไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ ฮิปนอสเพียงแค่จ้องหน้าเขานิ่งๆเท่านั้น

____“ฉันขอถามลอร์ดฮาเดส ดันแคน คิงส์ตันผู้ยิ่งใหญ่กลับดีกว่าว่าท่านลอร์ดเคยเชื่อในบางสิ่งรึเปล่า” คำพูดยอกย้อนที่ดูจะแฝงแง่คิดจริงจังของคนอ่อนวัยกว่าทำเอาฮาเดสชะงักไป เขาจ้องใบหน้าขาวซีดที่ยังมีรอยไหม้และเนื้ออ่อนบางส่วนที่ยังคงเป็นสีชมพูระเรื่อ

____“เชื่อในหน้าที่ เชื่อในความรุ่งโรจน์ เชื่อในสิ่งที่พ่อพยายามปิดบังเรา แกเชื่อในหลายสิ่งหลายอย่างฮาเดส รวมถึงที่แกพูดว่าแกเชื่อในตัวฉันด้วย นั่นก็ถือเป็นความเชื่ออย่างหนึ่ง” ริมฝีปากของฮิปนอสแห้งผาก ทว่าเสียงทุ้มๆของเจ้าตัวที่ติดจะแตกหนุ่มเล็กน้อยกลับชุ่มฉ่ำ เช่นเดียวกับแววตาที่วาววับจากความเด็ดเดี่ยวที่แรงกล้า

____คำพูดของน้องคนกลางก็ขยี้ปมในใจของฮาเดสได้อย่างตรงจุด หากเปรียบคำพูดของลอร์ดฮิปนอสเป็นศาสตราวุธแล้วไซร้ มันก็คงเป็นอาวุธที่คมกริบและแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าเพชรน้ำดีใดๆที่ฮาเดสเคยพานพบ

____“ดังนั้น ถ้าแกถามว่าฉันยังเชื่อในคำทำนายไร้สาระพวกนั้นรึเปล่า คำตอบคือไม่ ฉันไม่ได้เชื่อในสิ่งงมงายอย่างเทพเจ้า ปีศาจ สิ่งลี้ลับ หรือแม้แต่การถวายหัวอย่างงมงายให้กับนามธรรมที่ฉันจับต้องไม่ได้”

____ฮิปนอสผ่อนลมหายใจยาวเหยียดพลางตวัดมือหนึ่งที ทันใดนั้น ผ้าม่านทั้งราวก็ถูกเปิดออกเผยให้เห็นแสงสว่างที่สาดส่องเข้ามาอย่างแรงเนื่องจากไม่มีร่มไม้จากป่าหลังคฤหาสน์กั้นไว้เช่นทุกที ดวงตาสีนิลของผู้ครอบครองปีกเหนือแห่งคิงส์ตันมองรั้วที่เป็นรูปเป็นร่างคล้ายเดิมจนน่าทึ่งด้วยแววตาที่ยากจะอ่าน

____“ฉันแค่เชื่อในทางที่ฉันเลือกแล้ว แล้วแกล่ะลอร์ดฮาเดส ลองถามตัวเองดูหรือยังว่าแกเลือกที่จะผูกความเชื่อไว้ที่อะไรกันแน่”

❈ ◇ ❈ ◇ ❈

THE END

/ ติชมผลงานหรือให้กำลังใจได้ที่ ห้องวิจารณ์ผลงาน ♕ /
( อ่านเรื่องเต็มของ The Seven Keys และคอมเมนต์ติชม/ให้กำลังใจได้ ที่นี่ ค่ะ )

────────────────────────────────────