IPB

ยินดีต้อนรับ ( เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก )


 
Reply to this topicStart new topic
> เซเวอร์รัส สเนป
Albus Dumbledore
โพสต์ Jul 23 2011, 05:16 PM
โพสต์ #1


อาจารย์ใหญ่

******




กลุ่ม : อาจารย์ใหญ่
โพสต์ : 1,594
เข้าร่วม : 9-August 08
จาก : ฮอกวอตส์
หมายเลขสมาชิก : 1
สายเลือด : เลือดผสม
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: เอลเดอร์ | ยาว: 15"
แกนกลาง: ขนหางเธสตรอล
ความยืดหยุ่น: แข็ง

สัตว์เลี้ยง








เซเวอร์รัส สเนป (Severus Snape)



ชื่อ - นามสกุล : เซเวอร์รัส สเนป (Severus Snape)
วัน เดือน ปีเกิด : เกิดเมื่อวันที่ 9 มกราคม ค.ศ. 1960
วัน เดือน ปีที่เสียชีวิต : เสียชีวิตเมื่ออายุ 38 ปี ในวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1998
ลักษณะทางกายภาพ : พ่อมดผิวซีด ผอม ดวงตาดำขลับ จมูกงุ้มเป็นรูปตะขอ ผมสีดำเป็นมันเยิ้มยาวปรกหน้า
สถานะทางเลือด : เลือดผสม (Half-blood)
ไม้กายสิทธิ์ : ไม่ปรากฏข้อมูล
บ้านในฮอกวอตส์ : สลิธีริน
บ็อกการ์ด : ลอร์ดโวลเดอมอร์
ผู้พิทักษ์ : กวางตัวเมีย
อาชีพ :
  • ศาสตราจารย์สอนวิชาปรุงยา (ดำรงตำแหน่งในปี ค.ศ. 1981-1996)
  • อาจารย์ประจำบ้านสลิธีริน (ดำรงตำแหน่งในปี ค.ศ. 1981-1997)
  • ศาสตราจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด (ดำรงตำแหน่งในปี ค.ศ. 1996-1997)
  • อาจารย์ใหญ่ฮอกวอตส์ (ดำรงตำแหน่งในปี ค.ศ. 1997-1998)

เซเวอร์รัส สเนป (Severus Snape) เกิดเมื่อวันที่ 9 มกราคม ค.ศ. 1960 บุตรชายของแม่มดสาว ไอลีน พรินซ์ และพ่อผู้เป็นมักเกิ้ล โทไบอัส สเนป ทำให้เซเวอร์รัสเกิดมาเป็นพ่อมดที่มีสายเลือดผสม ด้วยความละอายใจเรื่องผู้ให้กำเนิด เนื่องจากโทไบอัสมักเพิกเฉยต่อลูกชายของเขา และมักใช้ความรุนแรงอยู่เสมอ เซเวอร์รัสจึงพยายามตั้งชื่อใหม่ของเขา ด้วยการนำนามสกุลของแม่และสายเลือดของเขามาผสมรวมกัน จนกลายเป็น เจ้าชายเลือดผสม และด้วยความสัมพันธ์อันย่ำแย่ระหว่างเขากับผู้เป็นพ่อ จึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เซเวอร์รัสมีความคิดด้านลบเกี่ยวกับมักเกิ้ล ในช่วงวัยเด็กนั้น เซเวอร์รัสเติบโตขึ้นมาอย่างโดดเดี่ยวไร้มิตรสหาย และขาดการดูแลเอาใจใส่จากครอบครัว นอกจากนี้พ่อแม่ของเขามักจะทะเลาะกันบ่อยครั้ง ซึ่งความบกพร่องจากพื้นฐานครอบครัวนี้เอง ทำให้เซเวอร์รัสกลายเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งกระด้าง และมีนิสัยไม่สู้ดีหลายประการ

เขาเกิดและอาศัยอยู่ในเขตสุดตรอกช่างปั่นฝ้ายริมแม่น้ำ ตั้งอยู่ในเมืองโค้กเวิร์ธ ซึ่งเป็นที่ที่มีบ้านของครอบครัวลิลี่ เอฟเวนส์อาศัยอยู่ สเนปคอยแอบดูเธอมาโดยตลอด หลังจากที่เขาสังเกตเห็นว่าลิลี่นั้นมีความสามารถทางด้านเวทมนตร์ หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้รู้จักและกลายเป็นเพื่อนของกันและกัน เซเวอร์รัสเป็นคนแรกที่บอกกับลิลี่ว่าเธอเป็นแม่มด และได้เล่าเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับโลกเวทมนตร์ให้เธอฟัง ในระหว่างที่พวกเขารอเวลาว่า พวกเขาจะได้รับจดหมายเชิญจากโรงเรียนฮอกวอตส์หรือไม่ เดิมทีลิลี่และเพ็ตทูเนียเป็นพี่น้องที่สนิทสนมกันมาก แต่ด้วยพลังเวทมนตร์ของลิลี่ และความสัมพันธ์ของลิลี่กับเซเวอร์รัส จึงก่อให้เกิดความบาดหมางขึ้นระหว่างความสัมพันธ์ของลิลี่กับเพ็ตทูเนีย

ต่อมาในปี ค.ศ. 1971 สเนปและลิลี่ได้นั่งข้างกันบนรถไฟสายด่วนฮอกวอตส์ โดยในระหว่างนั้นทั้งสองก็ได้พบกับเจมส์ พอตเตอร์ และซิเรียส แบล็ก บนตู้รถไฟเป็นครั้งแรก ในเย็นวันนั้นหลังจากพิธีคัดสรรเสร็จสิ้นลง สเนปได้ถูกส่งไปยังบ้านสลิธีริน ซึ่งในขณะนั้นมี ศาสตราจารย์ฮอเรซ ซลักฮอร์น เป็นอาจารย์วิชาปรุงยาและอาจารย์ประจำบ้านสลิธีริน ส่วนเพื่อนของเขาอย่างลิลี่ ก็ถูกคัดสรรไปยังบ้านกริฟฟินดอร์ จากคำอธิบายของซิเรียสนั้นเขาได้กล่าวว่า เซเวอร์รัสมีทักษะและพรสวรรค์ในด้านศาสตร์มืดที่สูงมาก เมื่อตอนที่สเนปอายุเพียงสิบเอ็ดปี โดยสเนปนั้นเชี่ยวชาญและรอบรู้คำสาปแช่งต่าง ๆ มากกว่าเด็กนักเรียนชั้นปีเจ็ดในโรงเรียนเสียอีก นอกจากนี้งานอดิเรกอย่างหนึ่งของสเนป ก็คือการคิดค้นคาถาและคำแช่ง ซึ่งต่อมาคาถาเหล่านั้นได้กลายเป็นที่นิยมของผู้วิเศษ เช่น คาถาเลวิคอร์พัส ที่ทำให้เหยื่อลอยกลับหัวอยู่กลางอากาศ, คาถาลิเบอรา ที่ทำให้คืนสภาพจากคาถาเลวิคอร์พัส, คาถามัฟฟลิอาโต้ คาถาเก็บเสียงที่จะทำให้คนใกล้เคียงหรือผู้ที่เป็นเป้าหมาย ไม่ได้ยินการสนทนาในระยะใกล้, คำแช่งแล็งล็อก ที่จะผูกลิ้นตรึงลิ้นของเหยื่อไว้กับเพดานปาก, คำแช่งปลูกเล็บ เมื่อเสกคำแช่งนี้ เล็บของเหยื่อจะยาวออกมาอย่างรวดเร็ว และคาถาสุดท้ายที่เป็นคาถาประจำตัวของสเนป คาถาเซ็กตัมเซ็มปร้า คาถาที่ทำให้เหยื่อได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง โดยมีแผลราวกับถูกดาบฟัน

สเนปมักคบหากับเพื่อนอันธพาลในบ้านสลิธีรินอย่างมัลซิเบอร์ และเอเวอรี่ ซึ่งต่อมาภายหลังทั้งสองก็ได้เข้าร่วมเป็นผู้เสพความตายรุ่นแรกของลอร์โวลเดอมอร์ นอกจากนี้สเนปยังได้มีการติดต่อกับลูเซียส มัลฟอยระหว่างที่เขาเรียนอยู่ในฮอกวอตส์ โดยในขณะที่สเนปเข้าเรียนชั้นปีหนึ่ง ลูเซียสก็ได้ดำรงตำแหน่งเป็นพรีเฟ็คประจำบ้านสลิธีริน เขาได้ต้อนรับและดูแลสเนปเป็นอย่างดี หลังจากที่สเนปได้ถูกคัดสรรเข้าบ้านสลิธีริน ด้วยความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งสอง จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมต่อมาภายหลังนาร์ซิสซา มัลฟอยจึงไว้วางใจ ให้สเนปเป็นผู้ดูแลและปกป้องลูกชายของเธออย่างเดรโก มัลฟอยในเวลาต่อมา

นอกจากนี้สเนปเองก็เป็นเพียงนักเรียนไม่กี่คนที่ได้รู้ความลับที่ว่า รีมัส ลูปิน เป็นมนุษย์หมาป่า เนื่องจากสเนปมักสังเกตเห็นว่าลูปิน มักหายตัวไปในคืนที่พระจันทร์เต็มดวงอยู่เสมอ ในคืนหนึ่งสเนปจึงตัดสินใจแอบสะกดรอยตามลูปินเข้าไปที่เพิงโหยหวน อย่างไรก็ตาม ด้วยคำขอจากอัลบัส ดัมเบิลดอร์ สเนปจึงสาบานว่าเขาจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับต่อไป ตลอดระยะเวลาที่สเนปเรียนอยู่ในฮอกวอตส์นั้น เขาได้ถูกเจมส์ พอตเตอร์, ซิเรียส แบล็ก, รีมัส ลูปิน และปีเตอร์ เพ็ตติกรูว์รังแก อย่างไรก็ตาม สเนปได้รับการปกป้องจากลิลี่อยู่เสมอ จนกระทั่งเมื่อพวกเขาอยู่ชั้นปีห้า ลิลี่มาปกป้องเขาจากการถูกรังแกของเจมส์เหมือนเช่นเคย แต่ด้วยความอับอายและโกรธเคืองของเซเวอร์รัสในตอนนั้นเอง ทำให้เขาได้หลุดปากพูดออกไปว่า "ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเด็กเลือดสีโคลนสกปรกอย่างยายนั่นหรอก" (แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์ บ.28 น.781) หลังจากเหตุการณ์นั้น เซเวอร์รัสได้ขอร้องให้เธอยกโทษให้เขากับสิ่งที่เขาพลั้งปากพูดออกไป ในขณะเดียวกันลิลี่ได้ถามเกี่ยวกับความตั้งใจของเขา ว่าเขายังจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกผู้เสพความตายอยู่อีกหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เซเวอร์รัสไม่บอกปฏิเสธอะไรแม้แต่น้อย ด้วยทางเลือกของเซเวอร์รัส ทำให้ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนของเขาและลิลี่สิ้นสุดลงอย่างสมบูรณ์

หลังจากที่สเนปจบการศึกษาจากฮอกวอตส์ในปี ค.ศ. 1978 เขาก็ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของผู้เสพความตาย สเนปที่มาสมัครเป็นอาจารย์วิชาปรุงยา ตามคำสั่งที่โวลเดอมอร์ให้เขาจับตาดูดัมเบิลดอร์อย่างใกล้ชิด เขาจึงได้ยินการสัมภาษณ์งานของซีบิลล์ ทรีลอว์นีย์กับอัลบัส ดัมเบิลดอร์ที่ร้านหัวหมู โดยซีบิลล์นั้นได้พยากรณ์คำทำนายของเธอไว้ว่า

QUOTE
"ผู้มีอำนาจปราบเจ้าแห่งศาสตร์มืดใกล้เข้ามาแล้ว เกิดกับคนที่ท้าทายเขาถึงสามหน เกิดเมื่อเดือนที่เจ็ดวางวาย และเจ้าแห่งศาสตร์มืดจะทำเครื่องหมายเขาในฐานะผู้เท่าเทียม แต่เขานั้นจะมีอำนาจที่เจ้าแห่งศาสตร์มืดหารู้จักไม่ และคนหนึ่งจะต้องตายด้วยน้ำมือของอีกคน เพราะทั้งสองจะไม่อาจอยู่ได้ถ้าอีกคนยังอยู่รอด"

หลังจากนั้นสเนปที่กำลังแอบฟังคำทำนายไปได้เพียงช่วงแรกก็ถูกจับได้ สเนปจึงได้นำคำทำนายที่ขาดครึ่งตอนไปบอกแก่โวลเดอมอร์ โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าเด็กชายที่อยู่ในคำทำนาย ที่โวลเดอมอร์ปักใจเชื่อนั้นจะเกิดขึ้นมาในครอบครัวพอตเตอร์ และเป็นลูกชายของหญิงสาวที่เขารักอย่างสุดหัวใจอย่างลิลี่ พอตเตอร์ และจากเหตุการณ์ครั้งนี้เองทำให้สเนปต้องเสียใจเป็นอย่างมาก ต่อมาภายหลังสเนปจึงยอมทรยศหักหลังโวลเดอมอร์ โดยการนำแผนการของกลุ่มผู้เสพความตายนี้ไปบอกแก่ดัมเบิลดอร์ และสเนปก็ได้ขอร้องให้ดัมเบิลดอร์ช่วยซ่อนครอบครัวพอตเตอร์ให้ปลอดภัย แลกกับการที่ดัมเบิลดอร์จะให้เขาทำอะไรก็ได้ แม้แต่การเป็นสายลับอยู่ข้างกายโวลเดอมอร์ก็ตาม แต่ทว่า คำขอร้องของสเนปดูเหมือนจะไม่เป็นผล เมื่อครอบครัวพอตเตอร์ไว้ใจคนผิด พวกเขาเลือกให้ปีเตอร์ เพ็ตติกรูว์เป็นผู้รักษาความลับที่อยู่ของพวกเขา แต่ปีเตอร์กลับทรยศต่อเจมส์และลิลี่ เพราะความหวาดกลัวต่อโวลเดอมอร์ ปีเตอร์ได้บอกที่ซ่อนของครอบครัวพอตเตอร์ ให้แก่โวลเดอมอร์และนั่นทำให้เจมส์และลิลี่ต้องจบชีวิตของพวกเขาลง เหลือไว้เพียงแฮร์รี่ พอตเตอร์ เด็กชายผู้รอดชีวิตเท่านั้น

ต่อมาสเนปจึงได้ใช้เวลาในช่วงที่เหลือของเขาภักดีต่อดัมเบิลดอร์ และช่วยเหลือรวมถึงสานต่อแผนการของดัมเบิลดอร์ ที่ต้องการกำจัดโวลเดอมอร์มาโดยตลอด โดยสเนปได้เข้ารับตำแหน่งอาจารย์วิชาปรุงยาที่โรงเรียนฮอกวอตส์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1981 แม้ว่าสเนปจะต้องการสอนในวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด แต่เขาก็ถูกปฏิเสธไปทุกครั้ง ซึ่งนักเรียนหลายคนเชื่อว่า ที่ดัมเบิลดอร์ไม่ต้องการให้สเนปยุ่งเกี่ยวกับศาสตร์มืดมากเกินไป เนื่องจากมันอาจจะทำให้เขากลับไปร่วมกับกลุ่มผู้เสพความตายอีกครั้ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ที่ดัมเบิลดอร์ทำเช่นนั้นก็เพราะว่ากลัวว่า สเนปจะได้รับคำสาปของอาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด ที่ไม่เคยมีใครดำรงตำแหน่งได้เกินหนึ่งปีเลย นับตั้งแต่ที่เขาเคยปฏิเสธโวลเดอมอร์ไป นอกจากนี้สเนปยังถูกแต่งตั้งให้เป็นอาจารย์ประจำบ้านสลิธีริน ภายหลังจากที่ศาสตราจารย์ฮอเรซ ซลักฮอร์นเกษียณอายุทำงานไปอีกด้วยเช่นกัน

หลังจากที่แฮร์รี่มีอายุครบสิบเอ็ดปี และเข้าเรียนที่โรงเรียนฮอกวอกตส์ สเนปได้คอยปกป้องและช่วยเหลือแฮร์รี่อย่างลับ ๆ มาโดยตลอด ในปีแรกของแฮร์รี่ที่ฮอกวอตส์ สเนปได้ช่วยเหลือแฮร์รี่ที่ถูกปองร้ายจากศาสตราจารย์ควีนัส ครีเวลล์ เช่น ในการแข่งขันควิดดิชประจำปี ไม้กวาดของแฮร์รี่นั้นถูกคำแช่ง เขาจึงไม่สามารถควบคุมทิศทางของไม้กวาดได้ สเนปเองจึงพยายามถอดถอนคาถานั้น แต่ทว่าเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ที่เห็นสเนปท่องคาถาอยู่นั้นจึงเข้าใจผิดคิดว่าสเนปกำลังทำร้ายแฮร์รี่ เธอจึงเสกคาถาจุดไฟบนชายเสื้อคลุมของเขา ต่อมาเมื่อแฮร์รี่อยู่ชั้นปีที่สาม ก็เป็นสเนปอีกเช่นกันที่ออกไปช่วยเหลือเด็กนักเรียนทั้งสามอย่าง แฮร์รี่ พอตเตอร์, เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ และรอน วีสลีย์ที่กำลังจะถูกทำร้ายจากรีมัส ลูปิน ที่กลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่า นอกจากนี้สเนปยังคอยให้ความช่วยเรื่องน้ำยา และการรักษาลูปิน ตลอดเวลาที่ลูปินเข้ามารับตำแหน่งเป็นอาจารย์วิชาป้องกันตัวฯ ต่อมาเมื่อแฮร์รี่เรียนอยู่ชั้นปีที่ห้า สเนปได้รับมอบหมายจากดัมเบิลดอร์ ให้สอนวิธีการสกัดใจแก่แฮร์รี่ เพื่อป้องกันไม่ให้แฮร์รี่ถูกโวลเดอมอร์เข้าถึงความคิดและจิตใจได้ เนื่องจากความสามารถด้านการสกัดใจของสเนปนั้น อยู่ในขั้นที่เชี่ยวชาญมาก แม้แต่โวลเดอมอร์ก็ไม่อาจบุกรุกเข้ามาในจิตใจของเขาได้เลย

ในช่วงต้นปี ค.ศ. 1996 สเนปได้รับการเยี่ยมเยียนจากเบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์ และนาร์ซิสซา มัลฟอย ที่บ้านของเขาในตรอกช่างปั่นฝ้ายริมแม่น้ำ นาร์ซิสซามาที่นี่เพื่อขอให้สเนปทำปฏิญาณไม่คืนคำกับเธอ โดยมีเบลลาทริกซ์เป็นผู้พันธนาการ ในการทำสัญญานั้นนาร์ซิสซาได้ขอให้สเนปดูแลลูกชายของเธอ เมื่อเขาพยายามทำความปรารถนาของจอมมารให้สัมฤทธิผล ปกป้องเดรโกจากอันตรายอย่างสุดความสามารถ และหากว่าจำเป็น เมื่อเดรโกมีท่าทีว่าจะล้มเหลว สเนปก็จะยินยอมที่จะดำเนินการต่อตามที่จอมมารสั่ง ต่อมาในปีเดียวกันนั้นเอง สเนปได้ถูกย้ายจากอาจารย์วิชาปรุงยามาสอนในวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด โดยตำแหน่งเดิมของเขาถูกแทนที่ด้วยศาสตราจารย์ฮอเรซ ซลักฮอร์น ซึ่งกลับมาจากการเกษียณอายุเพื่อรับตำแหน่งอีกครั้ง ตลอดทั้งเทอม สเนปได้คอยจับตาดูแลเดรโกอยู่อย่างสม่ำเสมอ จนกระทั่งในคืนวันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 1997 หลังจากที่ดัมเบิลดอร์กลับมาที่ฮอกวอตส์ ดัมเบิลดอร์ที่สภาพร่างกายอ่อนแอเต็มทีด้วยน้ำยาสิ้นหวังของโวลเดอมอร์ ปรากฏตัวพร้อมกับแฮร์รี่ที่หอดูดาว ซึ่งในขณะนั้นฮอกวอตส์กำลังถูกโจมตีโดยผู้เสพความตายบางส่วน ดัมเบิลดอร์ได้ให้แฮร์รี่ซ่อนตัว ก่อนที่เดรโก มัลฟอยจะปรากฏตัวไม่นานในเวลาต่อมา เดรโกได้ปลดอาวุธของดัมเบิลดอร์ออก และตั้งท่าทีว่าจะสังหารดัมเบิลดอร์ตามคำสั่งของโวลเดอมอร์ แต่ทว่าเดรโกนั้นมีสำนึกและคุณธรรมมากพอ เขาจึงไม่สามารถลงมือสังหารอาจารย์ของเขาได้ และด้วยคำขอร้องของดัมเบิลดอร์นี้เอง สเนปจึงได้ตามมาสมทบเดรโกภายหลัง ก่อนที่เขาจะลงมือปลิดชีวิตของดัมเบิลดอร์ด้วยตัวของเขาเอง

หลังจากที่สเนปได้สังหารดัมเบิลดอร์ เขาก็ได้หลบหนีไปและเข้าร่วมกองทัพผู้เสพความตายอย่างเต็มตัวอีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ในนามเท่านั้น เพราะสเนปยังสานต่อแผนการและคำขอของดัมเบิลดอร์ตลอดมา แม้ว่าดัมเบิลดอร์จะเสียชีวิตลงแล้วก็ตาม ในช่วงหน้าร้อนของปี ค.ศ. 1997 เซเวอร์รัสได้มอบข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายที่อยู่ของแฮร์รี่ ในวันที่เขามีอายุครบสิบเจ็ดปีให้แก่โวลเดอมอร์ เพื่อทำให้เขาไว้ใจตามคำสั่งของดัมเบิลดอร์ ซึ่งในการต่อสู้ครั้งนั้นเอง เซเวอร์รัสได้เข้าร่วมไปกับกองทัพผู้เสพความตาย และในขณะที่มีการต่อสู้ขึ้น เซเวอร์รัสได้เสกคาถาพลาดไปโดนหูของจอร์จ วีสลีย์ ทั้งที่ความจริงแล้วเขากำลังเล็งไปที่ผู้เสพความตายอีกคนที่อยู่ในละแวกนั้น ต่อมาภายหลังจากที่กระทรวงเวทมนตร์ล่มสลาย ฮอกวอตส์ก็ถูกปกครองด้วยสมาชิกผู้เสพความตาย สเนปได้ถูกแต่งตั้งให้ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นอาจารย์ใหญ่ฮอกวอตส์ โดยมีอะเล็กโต แคร์โรว์ และอะมีคัส แคร์โรว์เป็นรองอาจารย์ใหญ่ร่วมกัน ซึ่งสองพี่น้องมักจะใช้ความรุนแรงกับนักเรียนอยู่บ่อยครั้ง โดยที่มีสเนปคอยปกป้องนักเรียนอย่างลับ ๆ ซึ่งระหว่างที่สเนปเป็นอาจารย์ใหญ่ เขาก็ยังคงได้รับคำแนะนำจากรูปภาพของดัมเบิลดอร์ ที่ถูกแขวนไว้ในห้องพักอาจารย์ใหญ่อยู่เสมอ และหลังจากที่เซเวอร์รัสทราบข่าวว่าแฮร์รี่ได้หลบซ่อนตัวอยู่ที่ใด เขาจึงได้ส่งมอบดาบของก็อดดริก กริฟฟินดอร์ไปให้แฮร์รี่ผ่านการนำทางของผู้พิทักษ์ของเขา

ต่อมาในสงครามฮอกวอตส์ เซเวอร์รัสได้ปะทะกับมิเนอร์ว่า มักกอนนากัลที่ห้องโถงใหญ่หลังจากที่เธอได้ปกป้องแฮร์รี่จากผู้เสพความตาย หลังจากการปะทะกับเซเวอร์รัสจึงฉวยโอกาสหลบหนีไป และภายหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงเขาก็ถูกเรียกตัวไปที่เพิงโหยหวนโดยโวลเดอมอร์ ซึ่งโวลเดอมอร์ได้เชื่อว่าผู้ครอบครองไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ก็คือเซเวอร์รัส จากการที่เซเวอร์รัสเป็นผู้ลงมือสังหารดัมเบิลดอร์ ดังนั้นเซเวอร์รัสจึงต้องตาย เพื่อที่เขาจะได้กลายเป็นนายที่แท้จริงของไม้กายสิทธิ์ที่แข็งแกร่งมากที่สุด แม้ว่าเซเวอร์รัสจะพยายามอธิบายสถานการณ์ของเขา แต่ก็ไม่ทันการณ์เมื่อนากินีจู่โจมเซเวอร์รัสทันทีที่ต้นคอของเขา ก่อนที่เขาจะมีโอกาสได้ป้องกันตัว ก่อนที่เซเวอร์รัสจะหมดลมหายใจ เขาได้ส่งมอบความทรงจำของเขาให้กับแฮร์รี่ เพื่อที่แฮร์รี่จะได้รับรู้ข้อมูลภูมิหลัง ถึงสิ่งที่เขาได้ทำมาตลอดหลายสิบปี หลังจากที่เซเวอร์รัสเสียชีวิตลง รูปของเขาก็ได้ถูกแขวนไว้บนผนังในห้องพักอาจารย์ใหญ่ เคียงคู่กับอาจารย์ใหญ่ท่านก่อน ๆ ต่อมาเมื่อแฮร์รี่ได้ให้กำเนิดลูกชายคนที่สอง แฮร์รี่ได้ตั้งชื่อจริงและชื่อกลางตามชื่อของอาจารย์ใหญ่ฮอกวอตส์ทั้งสองท่านคือ อัลบัส เซเวอร์รัส พอตเตอร์





ข้อมูลจาก Harry Potter Wiki

รวบรวมโดย ฮอกวอตส์ไทย (http://hogwartsthai.com)
หากนำข้อมูลนี้หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อมูลนี้ไปเผยแพร่ กรุณาให้เครดิตฮอกวอตส์ไทยด้วย

Go to the top of the page
+Quote Post

Reply to this topicStart new topic

 



RSS Lo-Fi ; ประหยัดแบนวิธ,โหลดเร็ว เวลาในขณะนี้: 28th March 2024 - 10:01 PM