IPB

ยินดีต้อนรับ ( เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก )


5 หน้า V  < 1 2 3 4 5 >  
Reply to this topicStart new topic
> [RPG] Diagon Alley | ตรอกไดแอกอน
Noelle Darlene F...
โพสต์ Sep 5 2023, 11:51 PM
โพสต์ #41


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 3

***




กลุ่ม : นักเรียนบ้านเรเวนคลอ
โพสต์ : 233
เข้าร่วม : 28-July 21
หมายเลขสมาชิก : 57,355
สายเลือด : เลือดผสม
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: เชอร์รี่ | ยาว: 13"
แกนกลาง: ขนนกฟีนิกซ์
ความยืดหยุ่น: ไม่ยอมงอ

สัตว์เลี้ยง


ผู้พิทักษ์






Qarez Kruz Fières
Qarez Kruz Fières #6699CC
Julienne De Pelissier#D8BFD8
Cruise Cartellist#4F80C0

Diagon Alley

PM : 12:00 ในช่วงเที่ยงของวันนี้ เด็กหนุ่มกำลังเดินทางไปที่หมู่บ้านข้างเคียง โดยวันนี้คาเรสได้มีนัดกับ ครูซ คาร์เทลลิสท์ ไว้ว่าจะไปกันที่ ตรอกไดแอกอน พร้อมกัน เดินอีกไม่กี่ก้าวก็เห็นบ้านหลังหนึ่ง พร้อมกับร่างสูงที่ยืนรออยู่ตรงหน้าบ้าน

"มาแล้วพร้อมหรือยัง"

Cruise Cartellist

"วันนี้ว่าจะไป ร้านตัวบรรจงกับร้านนกฮูกอายล๊อปส์ไปไหม"

Cruise Cartellist

"แล้วจะไปไหนต่อหรือป่าว" เด็กหนุ่มถามเพื่อนอีกครั้ง

Cruise Cartellist

เด็กหนุ่มพยักหน้ารับก่อนจะพากันเดินไปที่ตรอก ระหว่างทางที่กำลังเดินกันอยู่ก็เห็นเพื่อนสนิทอีกคน กำลังยืนทำอะไรบางอย่างอยู่ คาเรสเมื่อเห็นดังนั้นจึงได้เดินเข้าไปทักทายกับอีกคน

"สวัสดีทำไรอยู่ ทำไหมทำหน้าตาแบบนั้น ไปโกรธใครมา"
เด็กหนุ่มกล่าวทักคนตรงหน้าพร้อมกับทำหน้าสงสัย ทำไหมเพื่อนเขาถึงทำหน้าอยากเข้าห้องน้ำอยู่ตลอดเวลา

Julienne De Pelissier

"หน้าแบบอยากเข้าห้องน้ำตลอดเวลา" คาเรสได้กล่าวก่อนจะเเอบกลั้นขำ

Cruise Cartellist

"ใช่ไหมครูซ ฮ่าๆๆ" เด็กหนุ่มว่าจะไม่ขำแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อตอนนี้หน้าของลีนนั้น เป็นอย่างที่เพื่อนเขาเอ่ยจริงๆ

Julienne De Pelissier

Cruise Cartellist

Julienne De Pelissier

"พอๆเลิกเถียงกัน ไปด้วยกันหมดนี่แหละ"
คาเรสเอ่ยห้ามก่อนจะเสียเวลาไปมากกว่านี้ ก่อนจะจูงเพื่อนทั้งสองตรงไปที่จุดหมายแรกทันที โดยที่ตลอดทางนั้นก็มีเสียงพูดคุย หยอกเล่นกันมาตลอดทางโดยที่มีเขาเป็นคนคั่นกลางระหว่างทั้งสองคน








Go to the top of the page
+Quote Post
Ohm Lee
โพสต์ Sep 6 2023, 01:14 PM
โพสต์ #42


พ่อมด

*****




กลุ่ม : พ่อมดแม่มด
โพสต์ : 786
เข้าร่วม : 14-July 17
จาก : ประเทศไทย กทม
หมายเลขสมาชิก : 31,029
สายเลือด : สควิบ
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: มะเกลือ | ยาว: 10"
แกนกลาง: เอ็นหัวใจมังกร
ความยืดหยุ่น: ไม่ดีดตัว

สัตว์เลี้ยง


ผู้พิทักษ์






Mission 1

ร้านขายยาแผนโบราณ หรือร้านขายเครื่องยา

...ณ ตรอกไดแอกอน
นานแล้วที่ไม่ได้มาที่นี้ตั้งแต่เรียนจบเขาเดินสำรวจ ตรอกไดแอกอน
ที่ผู้คนเดินเต็มสงใสโรงเรียนจะเปิดเทอมแล้วมั้ง เขาเดินสวนทางกับเหล่านักเรียนและศาสตราจารย์
ที่มาซื้ออุปกรณ์การเรียนกาพสอนที่ตรอกแห่งนี้เขาล้วงกระเป๋ากางเกง 'แย่แล้วได้เข้ามาที่ตรอกไดแอกอนทั้งที
ดันมีเงินแค่ 50เกล"
เขากล่าว แล้วเดินตรงไปที่ร้านขายยาแผนโบราณ "มีคนอยู่รึป่าวครับ" เขาส่งเสียงเรียก

'มีครับจะรับอะไรดีครับ' พนักงานขายยาแผนโบราณเอ่ยถาม เขาจึงถามว่า มียาปลูกกระดูกรึปล่าวครับ'

'มีครับ'
พนักงานร้านตอบ เขาจึงภามไปว่า"ราคาเท่าไรครับ" พนักงานตอบ 'ราคา 45 เกลเลียนครับ' เขาจึงยื่นเงินให้
"นี่ตั้งทอนครับ 5 เกล" พนักงานยื่นเงินทอนและ ขวดน้ำยาให้ เขาจึงรับเงินทอนและขวดน้ำยา

หลังได้รับขวดน้ำยาแล้ว เขาจึงเดินเที่ยวภายในตรอกไดแอกอน ต่อสักพักเขาเริ่มเดินไม่ค่อยไหว

สายลมพัดบรรยากาศเริ่มเย็นเขาได้นั้งพักมานาน ก็ถึงเวลากลับบ้าน เขาจึงเดินไปที่ ข้างนอกตรอก

เพื่อไปรอ รถเมล์อัศวิน เพื่อเดินทางกลับบ้าน

ohm lee #99FF99
NPC พนักงานร้านขายยา#8B0000


คุณ Ohm Lee ได้แก้ไขข้อความนี้ ครั้งล่าสุดเมื่อ Sep 6 2023, 01:16 PM
Go to the top of the page
+Quote Post
Kathlyn McCarthy...
โพสต์ Sep 6 2023, 11:08 PM
โพสต์ #43


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 6

******




กลุ่ม : สมาชิกสโมสรซลัก
โพสต์ : 1,591
เข้าร่วม : 15-October 20
จาก : ”ଘ(੭ˊ꒳​ˋ)੭✧
หมายเลขสมาชิก : 42,142
สายเลือด : เลือดบริสุทธิ์
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ
ล็อกเกอร์

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: แอปเปิ้ล | ยาว: 10"
แกนกลาง: ขนหางเธสตรอล
ความยืดหยุ่น: ดีและนุ่ม

สัตว์เลี้ยง


ผู้พิทักษ์








✧ MCCARTHY ✧Diagon AlleyMISSION 1 (ย้อนเวลา)

Teara


เขาว่ากันว่า จุดเริ่มต้นของเคล้าลางความวุ่นวายสำหรับใครสักคนนั้น แปดสิบเปอร์เซ็นต์มักเกิดจากคนใกล้ตัว ทว่าสำหรับตัวมหันตภัยอย่างเทียร่า อาจต้องจับไปยัดในหมวดของ ‘หายนะ’ ก็คงจะเหมาะสมที่สุด โรแซนน์นั้นเคยบอกกับเธอว่า ความวิบัติมักอยู่คู่กับความโศกเสมอ ซึ่งตัวเธอไม่เข้าใจและไม่เห็นด้วยเลยสักนิด จนกระทั่งถึงตอนนี้ ตอนที่ เทียร่า แมคคาร์ธี ทำเกลเลียนนับล้านหายยกคลังตระกูล
คาร์ธีเชียลสาวจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเก็บพวกมันไว้ที่ไหน เอลเฟรมไม่มี ในกริงกอตส์ก็ไม่ใช่ และเธอขี้เกียจเหนื่อยใจที่จะไล่หามันแล้วด้วย ในความเป็นจริงคาร์ธีเชียลลำดับสองที่มีพลังก่อเกิดอย่างเทียร่านั้น สามารถเสกเงินตราออกมาได้อย่างไม่จำกัด ทว่า ถ้าต้องการให้มันเหมือนของจริงละก็ เธอคงต้องมานั่งแกะรายละเอียดทีละส่วน ทั้งลวดลายเอย ทั้งน้ำหนักเอย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคาร์ธีเชียลคนอื่นในตระกูลถึงหันไปเลือกสายพลังทำลายล้างแทน ซึ่งแน่นอนว่าตัวขี้เกียจอย่างเธอ จึงขอใช้วิธีที่ลำบากน้อยกว่านั้น นั่นคือการปล้นเกลเลียนส่วนตัวของไพร์ม คาร์ธีเชียลลำดับหนึ่ง ธีออน คีธ แมคคาร์ธี
แหม ใครใช้ให้พี่ชายของเธอสวมบทเป็นพ่อมดบ้างานจนมีเกลเลียนเป็นล่ำเป็นสันกันล่ะ ช่วงนี้หน้าตาก็ไม่เห็น บ้านช่องก็ไม่กลับ จดหมายก็ไม่ส่ง สายสัมพันธ์พี่น้องมันชักจะห่างเหินเกินไปแล้วมั้ง
เทียร่าในร่างของชายหนุ่มเอเชียหน้าคม เดินออกมาจากกริงกอตส์พร้อมกระเป๋าสะพายลายดอกเดซี่ในมือ เธอสวมมันทับบนชุดสูทเนี้ยบ และเมินความย้อนแย้งชนิดที่มองจากดาวเครสเซน ก็รู้ว่ามันไม่เข้ากันเลยสักนิด เจ้าหล่อนกระชับสูทให้เข้าที่ ใช้หลังมือปัดเศษฝุ่นออกจากบ่ากว้าง พลางเดินเลี้ยวเข้าไปในมุมมืดของตรอกซอย ก่อนจะทะลุมายังถนนสายหลักในร่างของสาวผมเข้ม เคทลิน แมคคาร์ธี สเปนเซอร์


ร้านหม้อใหญ่และเครื่องยา, ตรอกไดแอกอนฝั่งเหนือ

“เด็กปีห้าต้องใช้ของพวกนี้ด้วยเรอะ” เสียงพ่อมดชราเจ้าของร้านหม้อใหญ่และเครื่องยาเอ่ยทักด้วยความสงสัย
“ฉันจำได้ว่าในรายการวิชาของเด็กปีห้าไม่มีวิชาปรุงยานะเทียร์” หญิงสาวเจ้าของชื่อไล่มองตามของที่วางอยู่บนโต๊ะไม้เนื้อดี นอกจากวัตถุดิบปรุงน้ำยาพื้นฐานแล้ว ที่เพิ่มมาก็มีทั้งดิตทานีบ้างละ รากเดซี่บ้างละ ผงพิกซี่เรืองแสง แม้แต่เลือดมังกรเธอก็หยิบมันมาด้วย “และใช่ ฉันรู้ว่าเธอซ้ำชั้นอีกแล้ว”
“ขอบใจที่ย้ำ” เทียร่ามองหน้าตาแก่แว่นหนาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ เจ้าหล่อนกลอกตาตอบกลับประโยคบอกเล่านั้น ก่อนจะก้มหยิบห้าพันเกลเลียนจากกระเป๋าใบน้อยออกมาวางไว้ตรงหน้าพ่อมดชรา ซึ่งจำนวนของมันนั้นมากพอที่จะทำให้เขาเงียบปากและนำมันไปสรรหาวัตถุดิบดี ๆ ให้เธอได้อีกหลายปี
“แต่ถ้ายังอยากมีชีวิตถึงเลขสามหลัก คราวหลังไม่ต้อง” เสียงหัวเราะร่าของคนที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ดังขึ้น เมื่อเขาได้ยินประโยคจิกกัดจากเพื่อนค้าทางธุรกิจ มือเล็กกวาดวัตถุดิบทุกชิ้นลงถุงกระดาษใบใหญ่ หยิบไอศกรีมแฮนด์เมดจากตู้แช่เย็นส่วนตัวของร้านอย่างถือวิสาสะ และเดินออกทางประตูหลังเพื่อหวังลดแรงปะทะกับฝูงชนในไดแอกอนยามใกล้เปิดเทอม ทว่าเหมือนความหวังอันแสนริบหรี่นั้นได้ถูกลิดรอนจากความซุ่มซ่ามของตัวเธอเอง
ปึกกก พลั่ก!
“ตายละ ต้องขอโทษจริง ๆ ครับ” เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นเหนือศีรษะเทียร่า ข้าวของทั้งของเขาและเธอร่วงหล่นกระจัดกระจาย พร้อมกับเจ้าไอศกรีมแฮนด์เมดได้ไปนอนแน่นิ่ง สังเวยให้กับพื้นของตรอกไดแอกอนอย่างน่าสลดใจ
เป็นนิคลาส ธอร์วาลดร์ เลวิอาน่า หัวหน้าตระกูลแห่งโชคชะตา
“ไม่เป็นระ— พี่นิคลาส?” ความขุ่นเคืองถูกแทนที่ด้วยความประหลาดใจ สาวผมเข้มวางมือบนมือหนาที่หมายช่วยดึงตัวเธอให้ลุกกลับมายืนขึ้นดังเดิม
“อ้าว เคทลินน่ะเอง” เธอมองบุรุษตรงหน้าพลางส่งยิ้มบางให้กับท่าทีของอดีตรุ่นพี่บ้านเขียวที่ ณ ตอนนี้ผันตัวไปเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงหนุ่มไฟแรง “ต้องขอโทษจริง ๆ ครับ ผมเดินไม่ดูทางเอง... แอ๊กซีโอ!”
ข้าวของต่าง ๆ เริ่มขยับกลับมาอยู่ตำแหน่งเดิมที่ควรจะเป็น เทียร่ายื่นมือออกไปรับของจากเขา ประกอบกับใช้ดวงตากลมโตลอบมองดูถึงความเปลี่ยนแปลงของทายาทโชคชะตา ที่ไม่ว่าจะมองอย่างไร เขาผู้นี้ก็ยังคงสุขุมและดูเป็นผู้ใหญ่เหมือนเดิม
“ขอบคุณค่ะ ทางนี้ก็ต้องขอโทษด้วยเหมือนกัน” เทียร่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานที่น้อยคนนักจะได้รับจากเธอ สาวผมเข้มยิ้มให้กับความสุภาพของนิคลาส เธอผงกหัวเอ่ยขอบคุณเขาอีกรอบ แล้วจึงถอยหลังเปลี่ยนทิศไปยังจุดหมายถัดไป


*****

Kathlyn Crescentia McCarthy #AACCE2
Niklas Thorvaldr Leviana #40FAC9
เจ้าของร้านร้านหม้อใหญ่และเครื่องยา (NPC) #888888



✧ THE SORROW OF MCCARTHY ✧
THEON ⠀•⠀ KATHLYN ⠀•⠀ MILIN ⠀•⠀ CHARLYNE
ROMMIE ⠀•⠀ DIANA ⠀•⠀ ROSEANNE ⠀•⠀ PIERRE ⠀•⠀ BERNA
Go to the top of the page
+Quote Post
Jerome Colveno Z...
โพสต์ Sep 11 2023, 03:30 PM
โพสต์ #44


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 2

**




กลุ่ม : นักเรียนบ้านสลิธีริน
โพสต์ : 77
เข้าร่วม : 8-June 21
หมายเลขสมาชิก : 56,976
สายเลือด : เลือดบริสุทธิ์
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: ปอปล่าร์ | ยาว: 14"
แกนกลาง: ขนหางเธสตรอล
ความยืดหยุ่น: โก่งเล็กน้อย

สัตว์เลี้ยง








Mission 1

ณ ตรอกไดแอกรอน

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะให้คนอย่าง เจโรม โคลเวโน เซเดคิยาห์ มายังสถานที่คนพลุกพลานขนาดนี้โดยปราศจากผู้ติดตาม หลังจากที่ชายหนุ่มจบการศึกษาจากฮอกวอตส์ ไม่เคยมีสักครั้งที่ได้ไปไหนมาไหนคนเดียวอีกเลย แต่ครั้งกลับเป็นเรื่องเร่งด่วนที่เขาเองก็ไม่สามารถหลีเลี่ยงได้ เมื่อไม้กายสิทธิ์ประจำตัวถูกทำลายโดนญาติผู้พี่ ที่ไม่ได้พบเจอกันมานานเท่าจำความได้

ความโชคร้ายของเจโรมยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น เมื่อความรีบร้อนเป็นเหตุทำให้มีเกลเลียนติดตัวมามีเพียงแค่ 50 เกลเลียนเท่านั้น ถึงแม้จะเพียงพอกับค่าไม้กายสิทธิ์ก็ตาม แต่ชายหนุ่มก็หวังว่าการมาตรอกไดแอกอนครั้งนี้ จะได้มีโอกาสลิ้มรสบัตเตอร์เบียร์สักครั้ง


กลิ่นไม้อวบอวลไปทั่วร้านขายไม้กายสิทธิ์โอลลิเเวนเดอร์ ชายหนุ่มสวมใส่เสื้อฮูดสีดำสนิท กอดอกอยู่หน้าเคาน์เตอร์อย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อเวลาผ่านไปหลายนาทีแล้วกลับไร้ร่างเจ้าของร้าน มือหนาเอื้อมไปสัมผัสกระดิ่งขนาดเล็กอีกครั้ง ทว่าคราวนี้ใช้เวลาไม่นานก็ปรากฏร่างของชายชรา

“ต้องขอโทษด้วย พอดีแก่แล้วไม่ค่อยได้ยินเสียงกระดิ่งเท่าไร”

“พี่ชายผมทำไม้กายสิทธิ์ผมหัก” เสียงทุ้มเอ่ยพร้อมกับยื่นซากไม้กายสิทธิ์ของตนที่หักครึ่งให้กับเจ้าของร้าน มือเหี่ยวย่นรับเศษซากนั้นมาพิจารณาพลางส่ายหัวไปมา

“ซ่อมไม่ได้ โดนคาถารุนแรงขนาดนี้”

เจโรมนิ่งค้างราวกับใช้ความคิด เขาไม่รู้หรอกว่าอีกคนไปทำอีกท่าไหน หรือใช้คาถาอะไร จะมารู้ตัวอีกทีว่าไม้กายสิทธิ์ไม่ได้อยู่กับตัวเอง เมื่อคนต้นเรื่องได้มาคุกเข่ากอดขาขอโทษเขาแล้ว ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ถึงแม้จะเป็นไม้ที่ชอบที่สุดตั้งแต่ที่ใช้มา แต่ก็ต้องจำใจเปลี่ยนอย่างช่วยไม่ได้

ผ่านไปสักพักที่เจ้าของร้านเดินหายไปข้างใน ชายชราก็กลับมาพร้อมกับกล่องไม้กายสิทธิ์สีสนิม ฝุ่นละอองลอยละล่องเมื่อถูกเป่าอย่างแรง ชายหนุ่มผู้รักสะอาดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถอยห่างจากเคาน์เตอร์อย่างรวดเร็วพลางยกมือปกปิดจมูกตัวเอง

“ไม้กายสิทธิ์ชนิดนี้ทำจากไม้ปอปลาร์ ความยาว 14 นิ้ว แกนกลางทำจากขนหางเธสตรอล”

ราวกับคำว่า ‘ขนหางเธสตรอล’ ที่เอ่ยออกมาจากปากชายชรา ทำเอามือหนาที่จะเอื้อมไปสัมผัสไม้กายสิทธิ์อันใหม่หยุดชะงัก เจโรมช่างใจอยู่สักพัก ราวกลับหวาดกลัวสิ่งที่อยู่ภายในไม้กายสิทธิ์นั้น ก่อนจะตัดสิ้นใจหยิบไม้กายสิทธิ์นั้นขึ้น แสดงสว่างจากปลายสว่างไสวไปทั่วร้านก่อนจะดับลง ราวกับไม้กายสิทธิ์ได้เลือกนายของตนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“แปลกมา ไม่ว่าจะผ่านมากี่คนก็ไม่เคยถูกไม้นี้เลือกสักที แปลกจริงๆ”

“นี่ครับ ค่าไม้กายสิทธิ์” มือหนาแกะเปลือกอมยิ้มรสโคล่าก่อนจะยัดมันเข้าปากทันที ดวงตาออดอายจับจ้องไม้กายสิทธิ์คู่กายอันใหม่ ก่อนที่รอยยิ้มปรากฏขึ้น




#6E6E6E ⟩ Jerome Colveno Zedekiah
#FFFFFF⟩ NPC เจ้าของร้านขายไม้กายสิทธิ์





Go to the top of the page
+Quote Post
Levi Klay
โพสต์ Sep 13 2023, 08:54 PM
โพสต์ #45


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 1

*




กลุ่ม : นักเรียนบ้านฮัฟเฟิลพัฟ
โพสต์ : 16
เข้าร่วม : 7-August 23
หมายเลขสมาชิก : 62,817
สายเลือด : เลือดบริสุทธิ์
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: บีช | ยาว: 13"
แกนกลาง: ขนนกฟีนิกซ์
ความยืดหยุ่น: โก่งเล็กน้อย

สัตว์เลี้ยง


ผู้พิทักษ์






copyright Leon Fuchizawa Levi Klay

Diagon Alley , 3.48 PM
เมื่อผ่านไปสักพักร่างสูงของทั้งสองเดินทางมาถึงร้านตัวบรรจงและห
ยดหมึก ประตูถูกเปิดโดยมือหนาของเลออนพี่ชายของเขา โดยที่ไม่ลืมหันไปทักทายยิ้มเล็กน้อยให้กับเจ้าของร้าน ก่อนจะพากันเดินเข้าในมุมหนึ่งของร้าน
ลีวายที่กำลังจะเดินไปอีกฝั่งหนึ่ง ก็ได้หยุดชะงักฟังเสียงพี่ชายที่เอ่ยขึ้นมาว่า

“ มีงบให้แค่ห้าสิบเกลเลียนนะเด็ก เกินออกเอง ” เขาขมวดคิ้วพลางมองหน้าพี่ชายของเขา

“ แล้วผมจะเอาที่ไหนมาจ่าย พี่สิต้องจ่ายไม่งั้นผมฟ้องพ่อพี่แน่ ฮึ! ” เด็กหนุ่มเอ่ยพลางกอดอกมองหน้าพี่ชายของเขา ด้วยท่าทางที่แสนงอน

“ ล้อเล่น อยากได้เล่มไหนก็หยิบมา พวกหนังสือเรียนเดี๋ยวค่อยมาซื้ออีกทีตอนใกล้เปิดเทอมก็ได้ ”

“ ต้องอย่างนี้สิครับพี่ผม ” ลีวายกล่าวอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเดินไปดูอีกฝั่งที่เขาได้มองไว้ตั้งแต่แรก เมื่อเวลาผ่านไปสักพักลีวายก็เดินกลับมาตรงจุดเดิม พร้อมกับหนังสือในมือห้าเล่ม โดยมีร่างสูงของคอยมองเขาอยู่ตลอดเวลา เพราะในตอนนี้ลีวายกำลังลังเลว่าจะซื้อหมดดีไหม แต่หนังสือเรียนก็ต้องใช้ หนังสือเล่มอื่นก็อยากอ่าน แต่ถ้าจะให้เขามาซื้ออีกครั้งก็อาจจะนาน เพราะเขาต้องกลับบ้านในไม่อีกกี่วันข้างหน้านี่เพื่อเตรียมตัวที่จะเข้าเรียนในชั้นป
ีที่หนึ่ง เมื่อเด็กหนุ่มคิดไม่ตกกับหนังสือในมือ เสียงพี่ชายของเขาก็เอ่ยขึ้นมา

“ เดี๋ยวก็ต้องย้ายมาอยู่ด้วยกัน ถ้าขี้เกียจออกมาอีก ก็เอาหนังสือพี่ไปเรียนแทนสิ ” ลีวายมองหน้าพี่ของเขาก่อนจะพยักหน้ารับ ก่อนะเดินไปเก็บหนังสือให้เรียนให้เข้าที่เหมือนเดิม และเสียงของเลออนก็กล่าวขึ้นมาอีกครั้ง

“ เลือกได้รึยัง ? ”

“ เลือกได้แล้ว ผมเอาสามเล่มนี้ ” พลางยื่นไปตรงหน้าร่างสูงให้ดู

“ เสร็จแล้วก็เอาไปจ่ายเงิน ”

“ เชิญนำทางได้เลยครับพ่อ ” ลีวายเอ่ยอย่างหยอกล้อ ก่อนจะวิ่งไปที่หน้าหน้าเคาน์เตอร์ เมื่อเห็นว่าเลออนยกมือขึ้นจะมาเขกหัวเขา

เมื่อจ่ายเงินเป็นที่เรียบร้อยร่างของทั้งสองก็เดินออกจากร้าน โดยที่มีลีวายเดนตามร่างสูงอีกเช่นเคย

“ แล้วพี่จะไปไหนต่อไหมครับ ” ลีวายเอ่ยถาม

Leon Fujiwara Fières

“ ตัดชุดหรอครับ ค่าตัดแพงไหม ” ลีวายเอ่ยอย่างกังวล ถึงตัวเขาชอบที่พี่เขาจ่ายเงินให้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่าง ของบางอย่างกถ้าแพงมากไป เขาก็เกรงใจเป็น

Leon Fujiwara Fières

“ ก็ได้ครับ ถ้างั้นผมค่อยให้คุณแม่มาคืนพี่ให้ทีหลังนะ ตอนนี้เรารีบเดินกันดีกว่าผมอยากไปดูชุดแล้ว อยากรู้ว่าถ้าตัดแล้วจะหล่อขึ้นหรือป่าว ” เด็กหนุ่มเอ่ยอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะลากพี่ชายของเขาให้เดินตามเร็วๆ ถึงแม้ว่าตัวเองไม่รู้เส้นทางเลยก็ตาม






Leon Fujiwara Fières #4D94AC
Levi Klay #908471



คุณ Levi Klay ได้แก้ไขข้อความนี้ ครั้งล่าสุดเมื่อ Sep 13 2023, 09:46 PM



LEVI KLAY


Go to the top of the page
+Quote Post
Wynn Blaze
โพสต์ Sep 20 2023, 02:49 PM
โพสต์ #46


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 3

****




กลุ่ม : นักเรียนบ้านสลิธีริน
โพสต์ : 335
เข้าร่วม : 2-October 20
จาก : On the moon ☽
หมายเลขสมาชิก : 38,819
สายเลือด : เลือดผสม
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: ด็อกวูด | ยาว: 14"
แกนกลาง: ขนยูนิคอร์น
ความยืดหยุ่น: ไม่ดีดตัว

สัตว์เลี้ยง


ผู้พิทักษ์







Mission 1
TW: Profanity

ตรอกไดแอกอน สถานที่จับจ่ายใช้สอยยอดฮิตของเหล่าผู้วิเศษ มันเป็นย่านการค้าที่มีครบแทบจะทุกอย่างที่พ่อมดแม่มดส่วนใหญ่ต้องการ ยิ่งในช่วงใกล้เปิดภาคการศึกษาด้วยแล้วนั้น ยิ่งทำให้สถานที่แห่งนี้คึกคักและเต็มไปด้วยผู้คน จนในบางครั้งแทบเรียกได้ว่าแน่นขนัดอย่างเช่นในวันนี้ มันแทบจะไม่มีที่เดินอยู่แล้ว !
วินได้แต่บ่นในใจเพียงเท่านั้น เขาไม่ได้โวยวายอะไรออกไป แต่ด้วยคิ้วเส้นสวยที่ขมวดเข้าหากัน อาการสูดลมหายใจเข้าลึกออกลึกจนเกิดเป็นเสียงถอนหายใจในบางครั้ง เปลือกตาที่ปิดลงและเปิดขึ้น พร้อมกับศีรษะที่ส่ายไปมาก็สามารถใช้เป็นเครื่องบอกอารมณ์ของชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี

ขาทั้งสองข้างของวินพาตัวเองเดินตรงไปตามเส้นทาง พร้อมด้วยนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มที่กวาดมองหาร้านเสื้อคลุมของมาดามมัลกิ้นส์ ก่อนจะเลี้ยวตัวเดินเข้าร้านทันทีที่มาถึง เขาเดินหาสิ่งที่ต้องการตั้งแต่สมัยที่ยังเรียนอยู่ ทว่าในตอนนั้นเขากลับไม่กล้าแม้จะสัมผัสมันด้วยซ้ำ
‘สร้อยคอเครื่องรางยมทูต’ ไอเท็มที่ชายหนุ่มอยากมีไว้ในครอบครอง หากจำไม่ผิดในตอนนั้นเหมือนว่ามันจะมีราคาเพียงแค่ 50 เกลเลียน ทว่าในตอนนี้ที่เขาได้ย้อนกลับมาดูอีกครั้ง กลับพบว่าราคาของมันพุ่งสูงขึ้นถึง 300 เกลเลียน วินคอตก แม้ว่าเขาจะอยากได้มันมากแค่ไหน แต่ 300 เกลเลียนก็ใช่ว่าจะน้อย ชายหนุ่มอย่างเขาไม่ได้สามารถหาเงินมาได้เพียงแค่กระพริบตาในครั้งเดียวหรอกนะ !
ชายหนุ่มยังคงจ้องมองมันอยู่อย่างนั้นจนเวลาล่วงเลยไปกว่าสิบนาที เขาถึงได้ตัดสินใจเดินออกจากร้าน ก่อนสายตาจะปะทะเข้ากับ ‘กูร์แฟง หรือ การ์วิน’ เด็กหนุ่มรุ่นน้องในสังกัดบ้านเดียวกัน ที่บังเอิญได้รู้จักตอนเขากลับไปทำธุระที่ฮอกวอตส์
Gauvain Leon Zynaxalia
เด็กชายตรงหน้ากล่าวทักทายขึ้นทันทีที่เจอ คิ้วเรียวสวยของวินขมวดเข้าหากันโดยอัตโนมัติ ชายหนุ่มไม่ได้เอ่ยทักทายกลับไป แต่เขาเลือกที่ถามคนตรงหน้าอย่างตรงไปตรงมาว่าร่างที่ประทับอยู่นี้คือใครกันแน่ จะว่าไปไอ้เด็กนี่ก็เหมือนพวกร่างทรงอยู่นะ “นายคือกูร์แฟง หรือ การ์วิน”
Gauvain Leon Zynaxalia
“กวนประสาท ไอ้เด็กเวร !”
หลังออกจากร้านเสื้อคลุมของมาดามมัลกิ้นส์ ชายหนุ่มก็เดินเตร่ดเตร่ไปตามทาง โดยมีเด็กชายหน้าตากวนประสาทจากตระกูลสัตว์ป่าอะไรเทือกนั้น เดินลอยหน้าลอยตาขนาบอยู่ข้างกาย
ในตอนนี้วินไม่มีอะไรที่รู้สึกอยากได้อีกแล้ว จนกระทั่งดวงตาทั้งสองข้างหยุดนิ่งจดจ่ออยู่กับลูกสนิชสีทอง ที่ลอยเด่นโชว์ตัวหน้าตู้กระจก และในจังหวะนั้นเองที่เขาตัดสินใจเลี้ยวเข้าร้านอุปกรณ์ควิดดิชชั้นเยี่ยม โดยไม่ลืมที่จะหิ้วคอเสื้อไอ้เด็กนั่นให้เดินเข้ามาด้วยกัน พร้อมหยิบลูกสนิชสีทองและเดินตรงไปหน้าเคาน์เตอร์ชำระเงิน
“ว่าแต่นายอยากได้อะไรป่ะ แต่ซื้อเองนะ แค่ถามเฉย ๆ”
Gauvain Leon Zynaxalia

#998877 ✦ Wynn Blaze
#48D1CC ✦ Gauvain Leon Zynaxalia


Go to the top of the page
+Quote Post
Eos Strahan
โพสต์ Sep 20 2023, 08:39 PM
โพสต์ #47


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 2

****




กลุ่ม : นักเรียนบ้านสลิธีริน
โพสต์ : 364
เข้าร่วม : 27-April 22
หมายเลขสมาชิก : 60,173
สายเลือด : เลือดบริสุทธิ์
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: ฮอร์ธอร์น | ยาว: 13"
แกนกลาง: เอ็นหัวใจมังกร
ความยืดหยุ่น: แข็งเล็กน้อย

สัตว์เลี้ยง


ผู้พิทักษ์






Copr. for Zynaxalia only



Mission 1

ร้านอุปกรณ์ควิดดิชชั้นเยี่ยม

ร่างสูงของกูร์แฟงเดินผ่านประตูมิติหลังร้านหม้อใหญ่รั่ว สถานที่ที่เป็นทางเชื่อมมาสู่ตรอกไดแอกอน เด็กหนุ่มที่ตั้งใจจะไปซื้ออุปกรณ์การเรียนสำหรับชั้นปีที่สอง อันประกอบไปด้วยหนังสือวิชาประวัติศาสตร์เวทมนตร์ โดย บาธิลดา แบ็กช็อต หนังสือคู่มือแปลงร่างเบื้องต้น โดย เอ็มเมริก สวิทช์ หนังสือยาวิเศษและยาพิษ โดย อาร์เซเนียส จิกเกอร์ และสารานุกรมเห็ดมีพิษ

เมื่อก้มลงมองรายชื่อหนังสือที่จำเป็นต้องใช้ภาคการศึกษานี้ เด็กหนุ่มก็ถอนหายใจออกมาเพราะกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่มากมายในเทอมนี้ แต่ในขณะที่กูร์แฟงกำลังจะไปถอนเงินที่ธนาคารกริงกอตส์นั้น สายตาคู่ดำก็เหลือบไปเห็นชายหนุ่มร่างหนากำลังยืนคอตกอยู่หน้าร้านเสื้อคลุมของมาดาม
มัลกิ้นส์ เด็กหนุ่มเห็นโอกาสที่จะได้สปอนเซอน์สนันสนุนอุปกรณ์การศึกษาในเทอมนี้ ไม่รอช้าเด็กหนุ่มรีบตรงเข้าไปทักทายรุ่นพี่จากบ้านสลิธีรินคนดังกล่าวทันที


"สวัสดีครับพี่วิน" กูร์แฟงเอ่ยทักทายอย่างสุภาพ

“นายคือกูร์แฟง หรือ การ์วิน”

"พี่ว่าถ้าเป็นการ์วินจะทักทายพี่แบบนี้มั้ยครับ" กูร์แฟงตอบกลับคำถามของอีกฝ่ายด้วยคำถามที่เป็นการบอกกลาย ๆ ว่าคำถามที่คนสูงกว่าถามมานั้นเป็นคำถามสิ้นคิด

“กวนประสาท ไอ้เด็กเวร !” คนสูงกว่าเอ่ยแต่ยังไม่ทันที่กูร์แฟงจะได้เอ่ยอะไรต่อ วินก็ลากคอเขาเข้าไปยังเข้าร้านอุปกรณ์ควิดดิชชั้นเยี่ยม ก่อนที่มือหนาจะหยิบลูกสนิชสีทองขึ้นมา

“ว่าแต่นายอยากได้อะไรป่ะ แต่ซื้อเองนะ แค่ถามเฉย ๆ” คนสูงกว่าเอ่ย

"อันที่พี่ถือก็สวยดีนะครับ ผมว่าผมเอาด้วยดีกว่า" ไม่พูดเปล่า กูร์แฟงรีบเดินไปหยิบลูกบอลที่มีขนาดเท่าลูกวอลนัตสีทองอย่าง ลูกสนิช ขึ้นมาพร้อมกับรอต่อแถวคิดเงินที่เคาท์เตอร์จ่ายเงิน



#48D1CC | Gauvain Leon Zynaxalia
#998877 | Wynn Blaze








THE ZYNAXALIA
Cynthia • Sephiroth • Isaline • Chryses
Albrigtsen • Yrene • Ullynaze • Melanie
Valentine • Quinlynn • Gauvain • Theo
GOD OF WILD ❖ KING OF LAND ❖ BREATH OF WORLD

Go to the top of the page
+Quote Post
Laurel Erela
โพสต์ Sep 22 2023, 12:29 PM
โพสต์ #48


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 2

**




กลุ่ม : นักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์
โพสต์ : 91
เข้าร่วม : 29-July 23
จาก : Kengtung, Shan
หมายเลขสมาชิก : 62,800
สายเลือด : เกิดจากมักเกิ้ล
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: เมเปิ้ล | ยาว: 11"
แกนกลาง: ขนยูนิคอร์น
ความยืดหยุ่น: ไม่ยอมงอ

สัตว์เลี้ยง


ผู้พิทักษ์






Mission (1)


บนทางเดินที่ทอดยาวคลาคล่ำไปด้วยผู้วิเศษมากหน้าหลายตา แม้ไม่ใช่ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ สองข้างทางเดินเต็มไปด้วยร้านรวงต่างๆ ร่างเล็กเดินเบียดเสียดฝ่าผู้คนมาหยุดตรงที่หน้าร้านแห่งหนึ่ง ข้างกายของเธอมีบุรุษร่างสูงผู้มีใบหน้าอันหล่อเหลาระบายยิ้มส่งมา พลางเอื้อมมือเช็ดเหงื่อบนหน้าผากเล็ก

“เพื่อเป็นการไถ่โทษที่อยู่ทานมื้อค่ำด้วยไม่ได้ วันนี้เธออยากได้อะไร พี่จะซื้อให้ทุกอย่าง” น้ำเสียงนุ่มทุ้มฟังรื่นหูดังมากจากปากชายผู้เปรียบเสมือนพี่ชายแท้ๆ เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนกระทรวงฯ เรียกตัวชายหนุ่มให้กลับไปทำหน้าที่อย่างกะทันหัน คำสัญญาว่าจะทานมื้อค่ำด้วยกันเป็นอันต้องจบลง

“พี่พูดแล้วนะ สัญญาแล้วห้ามคืนคำ”เจ้าของดวงตากลมโตสดใสจ้องเขม็งไปยังคนตัวสูงกว่า ริมฝีปากเล็กคว่ำลงอย่างคนเอาแต่ใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาผิดสัญญา แต่มันนับครั้งไม่ถ้วนแล้วต่างหาก

“อื้อ สัญญาเลย”ชายหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆ ส่งยิ้มละไม รอยยิ้มที่ปัดความขุ่นเคืองในใจของเด็กหญิงจนแทบหมดสิ้น

“แล้วก็เป็นแบบนี้ทุกที ทำไมหนูต้องแพ้รอยยิ้มของพี่ตลอดเลยนะ”ลอเรลถอนหายใจ คิ้วเรียวเล็กขมวดมุ่นเป็นปม สองมือกอดอก “หนูยกโทษให้ก็ได้”

ชายหนุ่มหัวเราะให้กับท่าทีของเด็กหญิง มือหนาลูบลงที่เรือนผมนุ่มเบาๆ ด้วยความเอ็นดูรักใคร่

ผู้มีศักดิ์เป็นพี่และเจ้ามือเดินตามร่างเล็กเข้าร้านโน้นออกร้านนี้ ลอเรลเลือกซื้อของด้วยความสนุกสนาน ทำเอาเงินเกลเลียนที่ชายหนุ่มพกติดตัวมาทั้งหมดพร่องลงไปค่อนกระเป๋า เด็กหญิงเลือกร้านตัวบรรจงและหยดหมึก เป็นเป้าหมายสุดท้ายของการมาเยือนตรอกไดแอกอนในวันนี้ ลอเรลหอบหนังสือจำนวนหลายเล่ม และเครื่องเขียนจำนวนหลายรายการวางลงบนเคาน์เตอร์คิดเงิน ร่างเล็กมองใบหน้าของคนที่เอ่ยปากว่าจะยอมซื้อทุกอย่างให้เท่าที่เธอต้องการ สังเกตว่าเขามีสภาพของคนอาการเหงื่อเริ่มตก รอยยิ้มหวานปรากฏขึ้นที่ใบหน้าเล็กยามมองพี่ชายควักเงินในกระเป๋าแทบฉีก

“เล่มนี้ด้วยค่ะ”ลอเรลวางหนังสือคำสาปเพื่อผู้ถูกสาป สนนราคา 50 เกลเลียน ลงบนเคาน์เตอร์เป็นเล่มสุดท้าย

“ขาดอีก 50 เกลเลียนค่ะคุณ”พนักงานของร้านเอ่ยกับชายหนุ่มในมือของเขาถือของพะรุงพะรัง ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“พี่พกเงินมาไม่พอ เอาไว้คราวหน้านะ เดี๋ยวพามาซื้อใหม่”ชายหนุ่มพูดพร้อมกับมองไปที่หนังสือราคา 50 เกลเลียน ที่เธอพึ่งวางมันลงเป็นเล่มสุดท้าย

“คราวหน้าของพี่ปีไหนคะ หนูจะเอาตอนนี้”ลอเรลพูดตามประสาลูกคุณหนูเอาแต่ใจ ซึ่งก็จริงส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเด็กหญิงแค่ต้องการแกล้งคนตรงหน้าเล่นต่างหาก พอเห็นสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของชายหนุ่ม และเห็นว่าเสียเวลาไปมาก เด็กหญิงจึงล้วงกระเป๋าเงินเพื่อจ่ายในส่วนที่ขาด

“เพื่อเป็นการตอบแทนความใจดีของพี่ในวันนี้ หนูขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงบัตเตอร์เบียร์ กับอาหารมื้อกลางวัน ชดเชยที่พี่ไม่ว่างอยู่ทานมื้อค่ำกับหนู ตกลงนะคะ”เด็กหญิงยิ้มหวานส่งไปยังชายหนุ่มที่พยักหน้าตอบตกลง มือเล็กคว้ามือหนาจูงเดินเคียงข้างกันไป ผ่านผู้คนมากหน้าหลายตามุ่งหน้าไปยังร้านหม้อใหญ่รั่ว

٭ ٭ ٭ ٭ ٭ ٭ ٭ ٭ ٭ ٭ ٭ ٭ ٭ ٭ ٭ ٭ ٭ ٭ ٭ ٭ ٭ ٭ ٭ ٭

Laurel Erela - #A25016
NPC - #000000


คุณ Laurel Erela ได้แก้ไขข้อความนี้ ครั้งล่าสุดเมื่อ Sep 22 2023, 12:32 PM


ʚ Laurel Erela ɞ
Go to the top of the page
+Quote Post
Lalynn Lisianthe...
โพสต์ Sep 23 2023, 09:32 AM
โพสต์ #49


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 2

**




กลุ่ม : นักเรียนบ้านเรเวนคลอ
โพสต์ : 58
เข้าร่วม : 17-July 16
หมายเลขสมาชิก : 29,182
สายเลือด : เลือดผสม
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: สพรูส | ยาว: 13"
แกนกลาง: ขนยูนิคอร์น
ความยืดหยุ่น: ไม่ยอมงอ

สัตว์เลี้ยง


ผู้พิทักษ์






RAVENCODE © 2022 __________________________________________⦿ ⦿ ⦿
__ตรอกไดแอกอน | Lalynn Lisianthea Sullivan - #89CFEF


Mission 1


เหล่านักเรียนและผู้ปกครองที่เบียดเสียดยัดเยียด อยู่ในย่านการค้าเลื่องชื่อสำหรับนักเรียนฮอกวอตส์แห่งนี้ ไม่ได้ทำให้เด็กสาวจากตระกูลซัลลิแวนอารมณ์ดีเสียเท่าไหร่ กลับกันมันยิ่งทำให้อารมณ์ขุ่นมัวที่มีมาก่อนหน้านี้นั้นเพิ่มขึ้นไปอีก หากว่าครั้งก่อนเธอซื้อของตามรายการครบล่ะก็ ลลิณคงไม่ต้องกลับมาที่ตรอกไดแอกอนอีกรอบ และต้องเดินทางมาเพียงคนเดียว คนอื่นอาจจะคิดว่าผู้ปกครองที่ไหนใจกล้าให้เด็กวัย 11 ปีเดินทางไปทั่วลอนดอนตัวคนเดียว แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ถ้าผู้ปกครองของเธอคือคุณและอดีตคุณนายซัลลิแวน ผู้ซึ่งยุ่งตลอดเวลาและจะไม่มาเจอหน้ากันเด็ดขาดหากไม่จำเป็น และเรื่องจำเป็นอย่างการพาลูกสาวมาซื้อของก่อนเปิดเทอมนั้น ลลิณก็ใช้หมดไปแล้วเมื่อวานนี้

ร้านตัวบรรจงและหยดหมึกน่าจะเป็นร้านแรก ๆ ที่เมื่อผู้มาเยือนมาถึงจะต้องแวะเข้ามา คนในร้านจึงเยอะเป็นพิเศษ ส่วนเธอก็แวะกลับมาอีกครั้งเพราะดันลืมซื้อตำราเรียน ซึ่งไม่ใช่เพียงหนึ่งแต่มีถึงสองเล่มด้วยกัน ลลิณเดินหลบเลี่ยงบรรดานักเรียนและผู้ปกครองที่เดินเอื่อยเฉื่อยดูของภายในร้าน แล้วตรงไปยังมุมตำราเรียนสำหรับเด็กปีหนึ่ง ซึ่งจัดเซ็ตเอาไว้แล้วให้ง่ายต่อการจับจ่าย พลางหยิบ ทฤษฎีเวทมนตร์ โดย อดัลเบิร์ต วัฟฟลิง และ ตำราคาถาเวทมนตร์พื้นฐาน โดย มิรันดา กอชฮ็อก ราคาเล่มละ 20 เกลเลียนมาอย่างละหนึ่งเล่ม

“ซื้อปากกาขนนกไปเพิ่มด้วยดีกว่า”

ริมฝีปากสีสดพึมพำกับตัวเองเบา ๆ แล้วหยิบปากกาขนนกมาใส่ไว้ในตะกร้าด้วยเช่นเดียวกัน เบ็ดเสร็จทั้งหมด 50 เกลเลียนพอดี ก่อนจะเร่งรีบไปชำระเงินด้วยความไม่อยากอยู่ในร้านนานในทันที


Lalynn Lisianthea Sullivan - #89CFEF



Go to the top of the page
+Quote Post
Penelope Chole L...
โพสต์ Sep 27 2023, 12:58 AM
โพสต์ #50


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 2

***




กลุ่ม : นักเรียนบ้านเรเวนคลอ
โพสต์ : 272
เข้าร่วม : 20-May 23
จาก : Milan, Italy
หมายเลขสมาชิก : 62,686
สายเลือด : เลือดบริสุทธิ์
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ
ล็อกเกอร์

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: โรวัน | ยาว: 13"
แกนกลาง: ขนหางเธสตรอล
ความยืดหยุ่น: ไม่ยืดหยุ่น

สัตว์เลี้ยง


ผู้พิทักษ์









Diagon Alley | Penelope Chole Lombardia #E3CB7B




ทันทีที่เปลวไฟสีเขียวมรกตมอดดับลง ภาพบรรยากาศคุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา ชุมชนที่ผู้วิเศษต่างเดินกันให้กวัดไกว ย่านการค้าชื่อดังยังคงเต็มไปด้วยเสียงโหวกเหวกของผู้คน และนี่คงเป็นอีกคราที่เขาต้องฝ่าเหตุการณ์นี้ไป วันนี้เขามีนัดน่ะสิ เด็กน้อยลอบถอนหายใจให้กับเสียงแสบหู ก่อนจะก้าวเท้าเดินเข้าสู่เส้นทางคดเคี้ยวด้วยใจจำยอม

สถานที่นัดพบธุระของเพเนโลเปในวันนี้คือ หน้าทางเข้าธนาคารกริงกอตส์ ตึกสูงสีขาวตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางตรอก ดูเป็นจุดนัดพบที่ไม่เลว ถึงไอเจ้าเสาคู่เบี้ยว ๆ ที่ประดับอยู่หน้าทางเข้านั่น มันจะขัดใจมากก็เถอะนะ นัยน์ตาสีอำพันเริ่มลอบมองหาคู่นัดหมายเมื่อครั้นใกล้ถึงจุดนัด กิจกรรมปฐมนิเทศที่จบลงไปเมื่อไม่นานมานี้ ต้องยอมรับเลยว่าเขาใช้พลังราวกับ ยืมมาทั้งชีวิตกับกิจกรรมนี้ ถึงกระนั้นความเหน็ดเหนื่อยนั้นได้แลกมากับการได้รู้จักกับสหายใหม่มากมาย พอจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนของเขาในอนาคต

ใช่ เธอผู้นั้นก็เช่นกัน ฮาร์เปอร์ เพจ เรมิงตัน หญิงสาวเพื่อนร่วมรุ่น และยังเป็นคู่นัดหมายของเพเนโลเปในวันนี้ ท่ามกลางเหล่าผู้วิเศษมากมาย ผ้าคลุมของเด็กสาวจากเรมิงตันทำให้เจ้าตัวดูโดดเด่นออกมามากจริง ๆ นั่นแหละ เมื่อพบกับเป้าหมายแล้ว เด็กหนุ่มไม่รอช้าที่จะทักทาย คนที่ดูเหมือนจะมาถึงจุดหมายก่อนเขา พร้อมกับรีบสาวเท้าเดินเข้าไปหา

“ มารอนานรึยังฮาร์เปอร์ ” เพเนโลเปเอ่ยทักทายพลางใช้มือเรียวดึงหมวกเสื้อคลุมของตัวเองลง เพื่อที่จะแสดงตัวตน

Harper Paige Remington

“ ขอโทษทีนะ เหมือนว่าวันนี้เครือข่ายผงฟลูจะแออัดเป็นพิเศษน่ะ ” เด็กหนุ่มไม่ได้โกหกแต่อย่างใด สภาพผู้คนในร้านหม้อใหญ่เป็นพยานชั้นดี แต่แน่นอนว่าสำหรับเขา มันดีกว่าการนั่งรถเป็นราวชั่วโมงเพื่อมาเข้าทางร้านหม้อใหญ่รั่วเป็นไหน ๆ

“ ไปกันเลยดีไหม เราจะเริ่มกันที่ไหนดี ” ไม่ให้เป็นการเสียเวลามากนัก ยามนี้ก็เข้าช่วงสายวันเข้าแล้ว มือเรียวกระชับหมวกเสื้อคลุมสีมุกขึ้นมาคลุมอีกครั้ง เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางทำภารกิจ เดินซื้อของเป็นเพื่อนฮาร์เปอร์

Harper Paige Remington




ไม่นานนัก สองเด็กนักเรียนปีหนึ่งก็สาวเท้ามาถึง จุดหมายปลายทางแห่งแรก ร้านเสื้อคลุมทุกโอกาสของมาดามมัลกินส์ บานประตูไม้เก่าถูกมือสวยของหญิงสาวผลักเข้าเบา ๆ ส่งเสียงเอียดอาด ก่อนจะตามมาด้วยเสียงกระดิ่งแจ้งเตือน การมาเยือนของผู้มาใหม่

ภายในร้านเล็กเต็มไปด้วยผืนผ้าที่ถูกตัดแบ่งหลากสี และชุดสำเร็จที่วางประดับอยู่รอบร้าน ราวกับโชคดี เหมือนว่าวันนี้ลูกค้าของมาดามมัลกินส์ จะไม่ได้ล้นมือดั่งเช่นวันก่อน ๆ เพราะหญิงสาวร่างอวบในชุดสีม่วงอ่อน ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ หากต้องคอยรับลูกค้าล้นร้านเข้าทุกวัน ให้สมมติในใจว่าเขาต้องเป็นมาดาม เพเนโลเปคงต้องสติแตกตายก่อนแน่นอน

“ ฮาร์เปอร์ งั้นเพพขอไปดูผ้าตรงนั้นรอนะ ”

Harper Paige Remington

เพเนโลเปตัดสินใจเดินแยกออกมาจากหญิงสาว เพื่อให้เจ้าตัวสามารถเลือกซื้อของได้ โดยไม่รู้สึกกดดัน แล้วค่อยมาพบกันหลังอีกคนจับจ่ายเสร็จ

หมวกสีสวยใบแล้วใบเล่าถูกลองบนเรือนผมสีบลอนด์ เพื่อฆ่าเวลารอเรมิงตัน ฮาร์เปอร์ไม่ได้ใช้เวลานานมากนักสำหรับการเลือกซื้อของ เสื้อคลุมสีขาวถูกกระตุกเบา ๆ เป็นการบอกถึงสัญญาณว่าเธอเสร็จธุระ ในร้านของมาดามแล้ว

Harper Paige Remington

“ ไปต่อกันเลยไหม อยากแวะหาอะไรทานก่อนรึเปล่า ? ” หากให้บอกว่าภาพจำของฮาร์เปอร์ ในสายตาของเพเนโลเปเป็นอย่างไร ก็คงจะเป็นหญิงสาวที่ออกจากป่ามาพร้อมกับ ห่อขนม และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปล่ะนะ การเดินในตรอกนับได้ว่า แทบจะเทียบกับการเดินทางไกลในแคมป์ปฐมนิเทศได้เลย การหาอะไรมารองท้องก่อน คิดว่าคงจะเป็นความคิดที่ดีสำหรับเราทั้งคู่

Harper Paige Remington




ถึงจะเข้าฤดูสารทแล้ว แต่อากาศที่เย็นลงไม่ได้ทำให้ลูกค้าของ ร้านไอศกรีมของฟลอเรียน ฟอร์เตสคิว ลดลงแต่อย่างใด ร้านไอศกรีมหนึ่งเดียวของย่านการค้าใหญ่ยังคง อัดแน่นไปด้วยลูกค้าผู้วิเศษที่แวะเวียนมาจับจ่าย เช่นเดียวกันกับเพเนโลเป และฮาร์เปอร์ แน่นอนว่ากองทัพต้องเดินด้วยไอศกรีม

“ เอามิ้นช็อค 1 ครับ ฮาร์เปอร์เอาอะไรบ้าง ” การต่อแถวรอคิวร้านไอศกรีมชื่อดัง ไม่ได้กินเวลาของพวกเขามากนัก เด็กหนุ่มบอกความต้องการของตัวเอง ก่อนจะเยื้องไปถามเด็กสาวผมสีน้ำตาลไหม้ ที่ยืนทำตาเป็นประกายอยู่ข้างกายเขา

Harper Paige Remington เพเนโลเปเชื่อแล้วว่าเธอนั้นอยากกินมากจริง ๆ

“ ท็อปขนาดนั้นมันจะไม่ร่วงแน่นะ ” เพเนโลเปเอ่ยแซวเพื่อนสาวของเขาขึ้นมา พร้อมยิ้มขำเบา ๆ

พนักงานร้านฟลอเรียนใช้เวลาไม่มากนักในการจัดตกแต่งไอศกรีมสองโคน ก่อนมันจะถูกส่งมาถึงทางเพเนโลเป มือเรียวรับไอศกรีมทั้งสองโคนเอาไว้ ไอศกรีมโคนที่ดูสูงกว่าอีกโคนถูกส่งไปให้หญิงสาวข้างกาย ดูเหมือนว่าฮาร์เปอร์จะอารมณ์ดีเป็นพิเศษเมื่อได้เห็นไอศกรีมของเธอ แมคคาเดเมีย บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก อีกลูก เด็กหนุ่มคิดว่ามันเป็นมัทฉะ ท็อปปิ้งจัดเต็มด้วยเกล็ดน้ำตาล ทรงสูงแข่งกับหมวกคัดสรรเลยนะนั่น




ไม่ถึงสิบนาทีไอศกรีมโคนทั้งสองโคนถูกจัดการจัดจนหมด เบื้องหน้าของเขาทั้งคู่คือ ร้านตัวบรรจงและหยดหมึก นับว่ามันถือเป็นร้านยอดฮิตของเหล่านักเรียนใหม่ แน่นอนว่าต้องเป็นเพราะปากกาขนนกนั่น เสียงเอียดของบานประตูยามถูกผลักเข้าดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนเด็กน้อยทั้งสองจะพากันเดินเข้าร้านเก่าแก่แห่งนี้

“ คนเยอะมากเลยนะเนี่ย ”

Harper Paige Remington

อาจจะเพราะเริ่มเข้าช่วงใกล้เที่ยง ผู้คนต่างเริ่มรีบเร่งที่จะซื้อของ เพื่อจะได้ไปทานมื้อเที่ยงหลังจับจ่ายกันเสร็จสิ้น นาฬิกาพกเรือนเล็กถูกหยิบออกมาเช็คเวลา

“ เดี๋ยวเราไปรออยู่ฝั่งนู้นนะ ” ลอมบาร์เดียพยักพเยิดเป็นสัญญาณให้อีกคนรับรู้ตำแหน่งนัดหมาย ให้กับเด็กสาวนัยน์ตาสีเดียวกับเส้นผม ที่กำลังมองหาสินค้าที่เป็นจุดประสงค์ ของการเดินเข้าร้านนี้อยู่

Harper Paige Remington

เมื่อได้รับสาส์นตรงกัน เพเนโลเปจึงเดินหลบไปยืนรอสาวเจ้าอยู่ข้างผนังร้านเล็ก ปล่อยให้เหล่าลูกค้า ที่มีธุระเดินจับจ่ายเลือกของกันได้อย่างไม่เบียด พลางยืนมองหน้าสือเรียนที่จำเป็นต้องใช้ ในอนาคตไว้เป็นการล่วงหน้า ยังไม่ทันผ่านชั้นปีแรกเลย ล่วงหน้าเกินไปมั้ยนะ เรือนผมสีบลอนด์ถูกเสยขึ้นไล่เม็ดเหงื่อที่เกาะอยู่บนกรอบหน้าสวยครั้งนึง

คงเป็นเพราะการเปิดภาคเรียนใหม่กำลังจะมาถึงในเวลาไม่อีกกี่วัน การเปิดลงทะเบียนเรียนเดินทางมาถึงครึ่งทางแล้ว รายการของจำเป็นต้องซื้อถูกกำหนดออกมา เหล่านักเรียนบางคนที่ยังไม่ได้เตรียมตัว จึงต้องรีบกุลีกุจอออกมาเดินซื้อของกันให้กวัดไกว อืม เพื่อนเขาด้วยรึเปล่านะ ? พลางทำให้เขานึกถึงไม่กี่วันก่อนที่นกฮูกสีขาวของเขา ดันไปคาบจดหมายสีสะอาดตามาจากที่ไหนไม่รู้ ความในจดหมายมีอยู่ว่า

‘ ไปซื้อของด้วยกันทีได้ไหม ’


เจ้าของจดหมายไม่ใช่ใครอื่น เป็นเด็กสาวเพื่อนร่วมบ้านที่เขาได้ทำความรู้จัก ไปเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้า ซึ่งเขาเองไม่ได้แล้งน้ำใจขนาดจะปฏิเสธเรื่องแบบนี้ จึงตอบรับคำชวนไป ถือเสียว่าได้มาเดินเล่นกับเพื่อใหม่ล่ะนะ และดูเหมือนว่าถึงเวลาที่เราทั้งคู่จะได้หมดธุระกับตรอกไดแอกอนแล้ว

Harper Paige Remington

ฮาร์เปอร์เดินหน้ามุ่ยออกมาจากความแออัดกลางร้าน พร้อมกับถุงกระดาษใบนึงที่ดูเหมือนจะใส่ของใช้ ที่เป็นจุดประสงค์ที่มาร้านนี้ไว้ สาเหตุหน้ามุ่ยแบบนั้นคงจะเป็นเพราะบรรยากาศภายในความแออัดนั่นแหละนะ

“ พลังงานจากไอศกรีมหมดแล้วหรือ ”

Harper Paige Remington

เด็กหนุ่มหัวเราะออกมาเบา ๆ ให้กับเธอ ดูเหมือนว่าวันนี้จะได้หมดธุระกับย่านการค้าใหญ่แล้วจริง ๆ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ฮาร์เปอร์เองก็ดูเหมือนเรี่ยวแรง จากการฝ่าฝูงซอมบี้ผู้วิเศษเข้าไปซื้อปากกาขนนกด้ามเดียวด้วยแล้ว แวะอีกสักนิดก่อนกลับคงไม่เป็นอะไร

“ ไปนั่งจิบบัตเตอร์ กับพายอุ่น ๆ กันก่อนที่ร้านหม้อใหญ่รั่วกันก่อนกลับเถอะ ” เพเนโลเปเอ่ยปากชวน

Harper Paige Remington

จบทริปตรอกไดแอกอนเสียที จากนี้คงได้นอนรอเปิดภาคเรียนกันจริง ๆ แล้ว





Penelope Chole Lombardia #E3CB7B
Harper Paige Remington #C6DEFF
copyright © 2021, ravenclaw house




คุณ Penelope Chole Lombardia ได้แก้ไขข้อความนี้ ครั้งล่าสุดเมื่อ Sep 27 2023, 01:40 AM
Go to the top of the page
+Quote Post
Renesmee Winfiel...
โพสต์ Sep 27 2023, 04:12 AM
โพสต์ #51


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 4

*****




กลุ่ม : พรีเฟ็ค
โพสต์ : 794
เข้าร่วม : 11-August 22
จาก : Bunny Den
หมายเลขสมาชิก : 60,533
สายเลือด : เลือดผสม
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ
ล็อกเกอร์

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: เกาลัด | ยาว: 14"
แกนกลาง: ขนยูนิคอร์น
ความยืดหยุ่น: ไม่ยอมงอ

สัตว์เลี้ยง


ผู้พิทักษ์






DIAGON ALLEY
11.26 AM | London, England
Mission 1



"โอ้ ขอบคุณนะครับ เกือบไปแล้วเชียว ของสำคัญเลยนะนิ"

"เอางี้ไปกับพี่ตรงสำนักพิมพ์เดลี่พรอเฟ็ตสักแปป เดี๋ยวพี่ขอไปส่งเอกสาร แล้วจะพาไปซื้ออุปกรณ์การเรียนให้เป็นการตอบแทนน้องนะครับ"

อันที่จริงเป้าหมายของเรเนสเม่สิ้นสุดไปตั้งแต่ตอนที่ผู้ใหญ่ตรงหน้ารับของกลับไป ข้อเสนอที่ถูกหยิบยื่นให้มาหลังคำขอบคุณ จึงเป็นสิ่งที่เมตามอร์ฟเมกัสสาวไม่ได้คาดคิดเอาไว้เลยสักนิด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านั่นเป็นวิธีการตอบแทนที่น่าสนใจทีเดียว

. . . โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์นี้ ตอนที่เธอพกเงินมาไม่พอซื้ออุปกรณ์การเรียนให้ครบ แถมยังถูกจับตามองโดยเด็กแปลกหน้าจากตรอกน็อกเทิร์นเมื่อครู่ ที่ดูเหมือนจะพุ่งตัวเข้ามาหยุมหัวแก้แค้นเธอได้ทุกเมื่อ

"งั้นขอรบกวนพี่หน่อยนะคะ"

ตัดสินใจได้ดังนั้นทายาทตระกูลวินฟิลด์ก็พยักหน้าหนึ่งจังหวะเพื่อตอบรับ สองเท้าเล็กใต้ผ้าใบคู่โปรดก้าวตามอีกฝ่าย ที่เริ่มเคลื่อนตัวไปทางสำนักพิมพ์เดลี่พรอเฟ็ต ทว่าไม่วายหมุนตัวไปแลบลิ้นปลิ้นตาเยาะเย้ยคนดักรอเอาเรื่องอยู่ตรงมุมหนึ่งรอบ

ถ้ากล้าก็เข้ามาสิ ตอนนี้เธอมีผู้ใหญ่มาร่วมทีมแล้วนะ !

ทันทีที่เยือนถึงอาคารสำนักพิมพ์ เรเนสเม่เลือกปลีกตัวออกไปจับจองที่นั่งแถวล็อบบี้ เนื่องเพราะมองว่าการให้พื้นที่ระหว่างคนอื่นสะสางธุระเป็นสิ่งพึงกระทำ ปลายสายตาจับจ้องไปยังผู้คนที่เดินกวักไกว่ด้านนอกหน้าต่างบานใหญ่ใกล้เบาะนั่ง

ครู่นึงดวงเนตรทรงเมล็ดอัลมอนด์ฉายความตื่นเต้นเสียเต็มประดา เกือบจะผุดลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งตรงไปออกทักทายคนที่คุ้นหน้าคร่าตา ทว่าแปรเปลี่ยนเป็นความสงสัยปนสับสน เมื่อพบว่ายังมีชีวิตอื่น ๆ ที่ใช้ลักษณะทางกายภาพแบบเดียวกันเข้ามาสู่ครรลองสายตา

ทำไมถึงมีโยลันดาตั้งหลายคน เดินยั้วเยี้ยเต็มถนนทางเดินเต็มไปหมด ?

แม่มดเด็กทำหน้าเหยเก เธอตัดสินใจว่าจะไม่เอาตัวเองเข้าไปยุ่งในเรื่องดังกล่าว เหตุผลส่วนหนึ่งเพราะยังไม่อาจทราบได้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น แม้คลังความรู้ของเธอจะคิดถึงน้ำยาสรรพรสเป็นสิ่งแรกก็ตาม ทั้งยังมีเหตุผลอีกส่วนที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของเรเนสเม่ยิ่งกว่า

— มีแค่คนเดียวเธอก็ปวดหัวจะแย่แล้ว จะให้รับมือกับโยลันดาหลายคนน่ะ เธอทำไม่ไหวหรอก

ฝ่ายวินฟิลด์ไม่ได้รู้หรอกว่าคุณเพอร์ซิอุสมีธุระอะไร หรือซองเอกสารที่เธอเก็บมาได้นั้นมีความสำคัญมากน้อยแค่ไหน ทราบก็แต่ว่าธุระที่ว่านั่นไม่ได้กินเวลาไปมากนัก เพราะยังไม่ทันหาคำตอบให้ภาพที่เห็น คนพี่ก็พาเธอเดินต้อย ๆ ตามออกไปยังร้านตัวบรรจงและหยดหมึกเสียแล้ว

เรเนสเม่รู้จากกระดาษรายชื่ออุปกรณ์ที่จำเป็น ซึ่งแนบมากับจดหมายแจ้งเตือนกำหนดการเปิดเทอมจากฮอกวอตส์มาเกือบเดือนเห็นจะได้ ว่าเธอควรจะหยิบในร้านแห่งนี้อะไรไปจ่ายเงินบ้าง ทว่าเป็นราคาของหนังสือเรียนทั้งสี่วิชาต่างหากที่เป็นเหตุให้เธอต้องคิดหนัก

. . . ภายใต้งบประมาณ 50 เกลเลียน อย่างมากเธอก็ซื้อได้แค่หนังสือเรียนถูก ๆ สักสองเล่ม กับปากกาขนนกใหม่หนึ่งชุดเท่านั้นแหละ

ในตอนที่กำลังยืนขมวดคิ้วอยู่ตรงหน้าชั้นหนังสือสำหรับขายนั้นเอง ที่พ่อมดจากตระกูล เดล คาลเซอร์ ถามถึงสิ่งที่อยากได้ เอสเม่ทำเพียงกระพริบตาปริบ ๆ อย่างงุนงงในตอนแรก เพียงครู่เดียวก็ระลึกได้ว่าเธอควรจะตอบอะไรสักอย่าง

"ถ้าตอนนี้ก็เป็น . . . หนังสือพลังมืด คู่มือป้องกันตนเองค่ะ"

เลือกที่จะไม่ได้บอกรายชื่อหนังสือทั้งหมดที่ต้องใช้ เนื่องเพราะไม่อยากรบกวนอีกฝ่ายมากนักแค่เพียงเพราะเธอช่วยเก็บของมาคืน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเลือดนักธุรกิจที่เธอได้รับมาจากฝั่งบิดา ทำให้ริมฝีปากอิ่มเอ่ยชื่อหนึ่งในอุปกรณ์การเรียนที่มีราคาสูงที่สุดของรายการออกมา

ก็มันตั้ง 40 เกลเลียนนี่นา ถ้าได้เล่มนี้ฟรี ๆ ถึงจะไม่พอซื้อหนังสือครบทุกเล่มอยู่ดี แต่ก็ช่วยให้สบายกระเป๋าไปเยอะเลยล่ะ !

หากมีใครกำลังจับตามองอยู่คงสังเกตถึงความดีอกดีใจที่แสดงออกผ่านแววตาของเด็กสาว เมื่อเห็นคนโตกว่าหยิบหนังสือเล่มดังกล่าวไปจ่ายเงินได้ไม่ยาก พนันได้เลยว่าหากเหตุการณ์นี้อยู่ในหนังสือคอมมิกสักเล่มหนึ่ง นักวาดคงจะเติมประกายดาววิบวับให้เธอ ในตอนที่มือบางยื่นออกไปรับของตอบแทนที่คุณเพอร์ซิอุสกำลังยื่นมาให้ตรงหน้าเป็นแน่

"ขอบคุณนะคะ โล่งใจไปเยอะเลย ! เม่จะจดจำพระคุณครั้งนี้ไปตลอดชีวิ๊ตตตตต"

เจ้าของร่างเล็กคลี่ยิ้มกว้าง ครั้นได้รับหมากฝรั่งดรูเบิลเบสต์โบลอิ้งเพิ่มมาอีก เสียงนุ่มก็พร่ำบอกขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่าดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ บทสนทนาดำเนินไปอย่างเรียบง่ายระหว่างที่เมตามอร์ฟเมกัสเด็กเลือกหยิบของที่จะซื้อ ซึ่งส่วนมากเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลของกันและกัน ตามประสาคนเพิ่งเคยพบหน้าเป็นครั้งแรก จนได้ทราบถึงชื่อเสียงเรียงนามของอีกฝ่ายในที่สุด

เพอร์ซีอุส วิสแทน เวสต์บรูก เดล คาลเซอร์ — ยาวม๊าก ! แต่กลับคุ้นหูอย่างบอกไม่ถูก

กว่าจะระลึกได้ว่านั่นเป็นชื่อของปลัดอาวุโสที่เพิ่งได้รับตำแหน่งเมื่อไม่นานมานี้ ตามรายงานจากประกาศของกระทรวงมนตร์แห่งสหราชอาณาจักร ก็ตอนที่เรเนสเม่นำเอา หนังสือลูกแก้วสลาย : เมื่อโชคลาภกลายเป็นภาพลวง ราคา 20 เกลเลียน กับปากกาขนนกและหมึกอีก 10 เกลเลียน ไปจ่ายเงินให้เรียบร้อย รวมถึงบอกลาและแยกทางกันจนเสร็จสรรพ

สารภาพตามตรงว่าฝ่ายวินฟิลด์ยืนอ้าปากพะงาบ ๆ อย่างไม่รู้จะทำอย่างไรต่ออยู่หน้าร้านอยู่พักใหญ่ สุดท้ายจึงตัดสินใจว่าควรปล่อยเรื่องที่ไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้แล้วให้ผ่านไป ภาวนาในใจว่าเธอไม่ได้เผลอไปทำอะไรให้คุณปลัดอาวุโสไม่พอใจเข้า แล้วเคลื่อนตัวต่อไปยังร้านไอศกรีมของฟลอเรียน ฟอร์เตสคิว เพื่อซื้อของอย่างอื่นแทน

ไหน ๆ ก็ไม่ได้มีเงินเหลือพอให้จ่ายกับหนังสือเรียนเล่มที่ขาดไปอยู่แล้ว ก็ขอถลุงเงิน 20 เกลเลียนสุดท้ายไปกับขนมบิสกิต และไอศกรีมช็อคโกแล็ตอย่างละชิ้นเลยแล้วกัน !




#A3CCC9 : RENESMEE WINFIELD
#A2C8C9 : PERSEUS WYSTAN WESTBROOKE DEL KALZER
RENESMEE WINFIELD
Go to the top of the page
+Quote Post
Harper Paige Rem...
โพสต์ Sep 27 2023, 11:51 AM
โพสต์ #52


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 2

**




กลุ่ม : นักเรียนบ้านเรเวนคลอ
โพสต์ : 58
เข้าร่วม : 8-May 23
จาก : Russia
หมายเลขสมาชิก : 62,635
สายเลือด : เลือดบริสุทธิ์
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: ปอปล่าร์ | ยาว: 10"
แกนกลาง: ขนนกฟีนิกซ์
ความยืดหยุ่น: ไม่ยืดหยุ่น

สัตว์เลี้ยง


ผู้พิทักษ์






RAVENCODE © 2022 __________________________________________⦿ ⦿ ⦿
__Diagon Alley | Harper Paige Remington - #C6DEFF


Mission 1
“แนวตั้งสาม แนวนอนสอง ก่อนอื่นมองหาถังขยะทางซ้าย เคาะอิฐเหนือถังขยะขึ้นไปสามก้อนแนวตั้ง ทางขวาอีกสองก้อนแนวนอน”

สิ้นเสียงและปลายไม้ที่จรดลงบนก้อนอิฐสีมอซอนั้น แนวอิฐที่เรียงเป็นกำแพงก็ค่อยขยับเคลื่อนออกเป็นซุ้มประตูให้หญิงสาวใต้เสื้อคลุมสี
น้ำเงินเข้ม ชายผ้ากุนด้ายทองและหน้าอกปักตัวอักษรย่อ H.R.M. ด้วยด้ายสีเดียวกันนั้นคือฮาร์เปอร์ เพจ เรมิงตัน นักเรียนใหม่ที่ต้องเตรียมตัวมาซื้อของใช้จำเป็นสำหรับภาคการศึกษาใหม่นี้

แต่กระนั้นจะมาเดินคนเดียวแบบครั้งก่อนก็คงจะน่าเบื่อเอาการ หญิงสาวจึงตัดสินใจเขียนจดหมายด้วยข้อความสั้น ๆ ‘ ไปซื้อของด้วยกันทีได้ไหม ’ ฝากไปกับนกฮูกของเพเนโลเป โคล ลอมบาร์เดีย เพื่อนร่วมบ้าน ร่วมต้นไม้(?) ที่ฝ่าฝันวันปฐมนิเทศมาด้วยกัน และดูเหมือนเรมิงตันจะมาก่อนเวลานัดเล็กน้อย ระหว่างรอเพื่อนร่วมทางเรมิงตันไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่าหยิบรายการที่ต้องซื้อขึ้นม
าตรวจสองบรอบที่สามของวัน อาจจะเพราะนิสัยย้ำคิดย้ำทำนี้ทำให้บางครั้งหญิงสาวมักเสียเวลาไปกับการทำอะไรซ้ำแล้
วซ้ำอีกจนต้องเผื่อเวลาไว้มากกว่าคนอื่น ๆ

“มารอนานรึยังฮาร์เปอร์” เสียงทุ้มนุ่มจากเจ้าของเรือนผมสีบลอนด์เอ่ยทักพร้อมปลดเสื้อคลุมสีขาวเผยให้เห็นใบห
น้าที่ยิ้มแย้ม

“สวัสดีคุณเพพ เปอร์พึ่งถึงได้..อืม.. ห้านาทีเอง วันนี้เข้าทางหลังร้านหม้อใหญ่รั่วน่ะ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นทักทายพร้อมรอยยิ้ม เหตุที่เรมิงตันมาทางด้านหลังร้านหม้อใหญ่รั่วนั้นก็เพราะครั้งก่อนเครือข่ายผงฟลูค่
อนข้างมีคนใช้อย่างหนาแน่น เบียดเสียดเสียจนเรมิงตันเแทบจะเป็นลม

“ขอโทษทีนะ เหมือนว่าวันนี้เครือข่ายผงฟลูจะแออัดเป็นพิเศษน่ะ” ไม่ผิดที่เรมิงตันคาดการณ์ไว้ โดยปกติตรอกไดแอกกอนก็คึกครื้นอยู่แล้ว ประจวบเหมาะกับการเปิดภาคเรียนที่จะถึงยิ่งทำให้ทั้งนักเรียนและผู้ปกครองต่างแห่แหน
กันมาจับจ่ายเนื่องแน่น

“ไปกันเลยดีไหม เราจะเริ่มกันที่ไหนดี” ชายหนุ่มเข้าประเด็นได้ดีก่อนที่จะยืนเหม่อกันไปมากกว่านี้

“เปอร์ว่านะ.. ร้านคุณโอลลิแวนเดอร์คงจะวุ่นวายน่าดู เราไปร้านมาดามมัลกินส์กันดีกว่า ครั้งก่อนยังไม่ได้ซื้อเสื้อคลุมเลยด้วย” ลอมบาร์เดียพยักหน้าก่อนจะกระชับเสื้อขึ้นคลุมอีกครั้งรวมถึงตัวของเรมิงตันเองด้วย

การเดินจากหน้าธนาคารกริงกอตส์ไปยังร้านเสื้อคลุมทุกโอกาสของมาดามมัลกินส์ไม่ได้ไกล
กันมากแต่ก็แอบกินแรงของหญิงสาวไม่น้อย เมื่อถึงหน้าร้านมือเรียวก็ดันบานประตูเข้าไปเบา ๆ พร้อมกับเสียงกระดิ่งที่มีกลไว้ใช้เตือนว่ามีผู้มาเยือนใหม่ เรมิงตันคิดถูกที่เลือกมาร้านของมาดามมัลกินส์เป็นที่แรก ผู้คนบางตากว่าที่คิด และนั่นอาจจะทำให้เจ้าของร้านดูยิ้มแย้มอารมณ์ดีกว่าปกติ

“ฮาร์เปอร์ งั้นเพพขอไปดูผ้าตรงนั้นรอนะ” ลอมบาร์เดียเอ่ยขึ้นพร้อมเอียงหน้าไปทางมุมขวาของร้าน

“ได้เลยคุณเพพ เปอร์จะ..พยายามไม่ใช้เวลานานนะ” คำว่าพยายามของหญิงสาวนั่นเสียงเบากว่าคำไหน ๆ ในประโยค เพราะเรมิงตันรู้ดีว่าหากไม่ถูกใจก็จะไม่ตัดสินใจซื้อเด็ดขาด

หลังจากเพเนโลเปแยกตัวไปอีกมุมของร้าน เรมิงตันก็หันมาสนใจกับเสื้อคลุมประจำบ้านเรเวนคลอที่ถูกแขวนเรียงไว้เป็นระเบียบ ไล่ระดับขนาดและความยาว มือเรียวเลือกหยิบมาลองสองถึงสามตัวก่อนจะตัดสินใจเลือกมาหนึ่งตัว เพราะไม่ว่าจะตัวไหนก็ใส่สบายแถมคล่องตัว ไม่อึดอัด สมกับเป็นร้านเสื้อคลุมหนึ่งเดียวในตรอกนี้จริง ๆ

ไม่กี่นาทีเสื้อคลุมก็ถูกห่อใส่ถุงอย่างดี เรมิงตันหยิบ 50 เกลเลียนในถุงสีเดียวกับผ้าคลุมออกมาจ่ายก่อนจะเดินไปหาลอมบาร์เดียที่ยืนลองหมวกที่
ถูกใจอยู่แล้วกระตุกชายเสื้อคลุมของเขาแทนการเรียก

“คุณเพพ เปอร์เรียบร้อยแล้วละ” เรมิงตันว่าพลางชูถุงเสื้อคลุมขึ้นอย่างภูมิใจ

“ไปต่อกันเลยไหม อยากแวะหาอะไรทานก่อนรึเปล่า ?” เหมือนเพื่อนร่วมชั้นคนนี้จะรู้ใจเรมิงตันคนนี้เป็นอย่างดี หรือไม่ก็เป็นเพราะวีรกรรมบะหมี่ถ้วยร้อนของเจ้าหล่อนที่ตอนนี้ล่ำลือในหมู่ของเด็กป
ีหนึ่งบ้านเรเวนคลอไปแล้ว

ถ้าหากจะโดนเบียดเสียดไปทั้งวันเช่นนี้ เรมิงตันขอแวะเติมน้ำตาลเข้าร่างกายเสียหน่อย ถึงอากาศจะเริ่มเย็นลงบ้างแล้วก็เถอะ

“เปอร์ว่านะ.. เราไปเติมน้ำตาลที่ร้านคุณฟอร์เตสคิวกันเถอะ เพราะจุดหมายต่อไปของเราอาจทำให้เราโดนอัดจนเป็นลมตายแน่ ๆ” หญิงสาวไม่รอให้หนุ่มของกายตอบตกลงก็สาวเท้าเดินนำไปที่ร้านไอศกรีมของฟลอเรียน ฟอร์เตสคิวทันที ดูเหมือนมีใครอีกหลายคนจะไม่กลัวความหนาว คิวหน้าร้านจึงค่อนข้างยาว แต่ด้วยความเชี่ยวชาญของเจ้าของร้านที่ตักไอติมได้รวดเร็ว ไม่นานก็ถึงคิวของเรมิงตันและลอมบาร์เดีย

“เอามิ้นช็อค 1 ครับ ฮาร์เปอร์เอาอะไรบ้าง ?” ลอมบาร์เดียสั่งไอติมรสประจำของเขาจบก็หันมาถามเรมิงตันที่ขณะนั้นยืนเกาะตู้ไอติมตา
วาวเป็นประกาย ถ้าคุณอยากกินไอติมอร่อย ๆ สักสองสามลูกละก็แนะนำที่นี่เลย

“ขอแมคคาเดเมีย บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก แล้วก็อื้ม.. เจ้านั่นค่ะ! เพิ่มขนมปังกรอบรสขิงแล้วก็โรยเกล็ดน้ำตาลเยอะ ๆ เลยนะคะ” ไม่ทันสิ้นคำของคนข้างกายเรมิงตันก็รัวสั่งไอติมรสโปรดถึงสามสคูป ใช่ และท็อปปิ้งด้วยขนมปังกรอบรสขิงชิ้นใหญ่ ไหนจะเกล็ดน้ำตาลสีสันสดใสอีก เห็นทีว่าฉายาเด็กอ้วนผู้หิวโหยจะเป็นเรื่องจริง

“ท็อปขนาดนั้นมันจะไม่ร่วงแน่นะ” ลอมบาร์เดียเอ่ยแซวแกมขำเบา ๆ แต่หญิงสาวได้แต่ทำหน้ายู่ใส่ ไม่นานเรมิงตันก็รับไอติมของเธอจากมือชายหนุ่ม ไอติมโคนใหญ่พิเศษนี้เหมือนจะเติมพลังกาย พลังใจให้กับเรมิงตันไม่ว่าจะสีสัน รสชาติ ช่วยให้วันนี้ดีขึ้นอีกหนึ่งร้อยเท่าเลยก็ว่าได้

สถานีต่อไป ‘ร้านตัวบรรจงและหยดหมึก’ เดินจากตรงนี้ไปไม่ถึงสิบนาทีก็จะเจอร้านสุดฮอตของชาวปีหนึ่ง ตามภาษาที่มักเกิ้ลใช้กับร้านที่คุณจะพลาดไม่ได้หากมาที่ตรอกแห่งนี้ และเป็นอีกครั้งทั้งสองเดินเข้าร้านหากแต่ผู้คนวุ่นวายกว่าร้านมาดามมัลกิ้นส์เป็นไห
น ๆ

“คนเยอะมากเลยนะเนี่ย”

“มาซื้อกันโดยมิได้นัดหมายละนะ”
นอกจากปากกาขนนกที่จำเป็นสำหรับเด็กปีหนึ่งอย่างเรมิงตันและลอมบาร์เดียแล้ว ตำรับตำราต่าง ๆ ก็หาได้จากที่นี่เช่นกัน

“เดี๋ยวเราไปรออยู่ฝั่งนู้นนะ”

“โอเค ๆ เดี๋ยวเปอร์ลุยเดี่ยวเอง” เรมิงตันพยักหน้าคำตาคู่สวยกวาดมองไปรอบร้านก่อนจะหยุดลงที่เป้าหมายพลางถกแขนเสื้อค
ลุมขึ้นให้ดูทะมัดทะแมงเพื่อที่จะลุยเข้าไปหยิบตำราเรียนสามสี่เล่มในฝูงชนตรงชั้นหนั
งสือนั้น

ยิ่งกว่าลดแลกแจกแถมทั้งผู้ปกครอง รุ่นพี่ ไหนจะเพื่อนร่วมรุ่นคนอื่น ๆ ก็ต่างลุยเข้ามาแย่งกับหยิบจับตำรา เรมิงตันที่โดนเบียดเสียดจนหัวยุ่งเหยิงก็ได้หนังสือที่ต้องการรวมทั้งปากกาขนนกที่ต
ัดสินใจซื้อมาไว้สำรอง จากงบที่ตั้งไว้ก็เกินมาเล็กน้อยแต่เรมิงตันก็เตรียมเกลเลียนมาสำรองไว้แล้วจึงหายห่
วง ก่อนจะเดินโซเซไปหาลอมบาร์เดียที่ยืนรอไม่ไกลนัก

“พลังงานจากไอศกรีมหมดแล้วหรือ ?”

“ตอนนี้ต่อให้เป็นโทลร์เปอร์ก็จะจับมาปิ้งกินให้เกลี้ยงเลย” คิ้วสวยขมวดหากันพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหลุดขำกับคำพูดของตัวเอง

“ไปนั่งจิบบัตเตอร์ กับพายอุ่น ๆ กันก่อนที่ร้านหม้อใหญ่รั่วกันก่อนกลับเถอะ” คำว่าบัตเตอร์เบียร์ และ พาย เหมือนมนตร์วิเศษที่ทำให้เรมิงตันที่ดูล่อแล่กลับฮึกเหิมขึ้น

“วันนี้คุณเพพพูดแต่คำน่าฟังทั้งนั้นเลย ไปกันเถอะค่ะ! บัตเตอร์เบียร์และพายแสนอร่อยรอเราอยู่” ว่าพรางกอดแขนของชายหนุ่มร่างสูงข้างกายมุ่งตรงไปศูนย์รวมผู้วิเศษ ร้านหมอใหญ่รั่ว เพื่อจบทริปแสนเหนื่อยนี้








Penelope Chole Lombardia | #E3CB7B
Harper Paige Remington | #C6DEFF

Go to the top of the page
+Quote Post
Cruise Cartellis...
โพสต์ Oct 1 2023, 10:00 PM
โพสต์ #53


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 3

***




กลุ่ม : นักเรียนบ้านเรเวนคลอ
โพสต์ : 178
เข้าร่วม : 1-September 21
จาก : Switzerland
หมายเลขสมาชิก : 57,655
สายเลือด : เลือดบริสุทธิ์
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: ซิลเวอร์ไลม์ | ยาว: 14"
แกนกลาง: ขนนกฟีนิกซ์
ความยืดหยุ่น: แข็งเล็กน้อย

สัตว์เลี้ยง


ผู้พิทักษ์






Cruise Cartellist Cruise Cartellist #4F80C0
Qarez Kruz Fières #669CCC
Julienne De Pelissier#D8BFD8

Diagon Alley

เสียงนาฬิกาที่ร้องเตือนผู้ตั้งว่าครบกำหนดเวลาที่ตั้งแล้ว
" ดังนานเกินไปแล้ว ฉันรู้แล้วน่า "
ชายหนุ่มแอบบ่นนิดหน่อยก่อนจะเดินไปกดปิดเสียงมัน เมื่อเสียงสงบลง เขาหมุนตัวเพื่อกลับไปแต่งตัวให้เรียบร้อย วันนี้เขานั้นมีนัดไปช้อปปิ้งกับ คาเรส คลัซ ฟิแอร์ เมื่อเรียบร้อยทุกอย่างแล้ว เขาเลือกเดินออกไปรออีกคนที่หน้าบ้าน ผ่านไปครู่เดียว บุคคลที่นัดไว้ก็ปรากฏตัว
"มาแล้วพร้อมหรือยัง"

"พร้อมนานแล้ว"
เขาไม่ปล่อยเวลาที่รอคาเรสให้เสียเปล่าหรอกนะ เขาคิดพร้อมหมดแล้วว่าจะไปช้อปที่ไหนบ้างในตรอกไดแอกอน

"แล้วคิดไว้ยังว่าจะไปไหน" เป็นตัวเขาที่เอ่ยปากถามคาเรส ก่อน

"วันนี้ว่าจะไป ร้านตัวบรรจงกับร้านนกฮูกอายล๊อปส์ไปไหม"

" ไปดิ แต่หลังไปร้านตัวบรรจง เราจะแยกไปร้านขายของตลกกัมเบิลกับเจปส์"
แผลนของเขานั้นไม่เหมือน คาเรส เราจึงเลือกไปร้านตัวบรรจงกันก่อน เพื่อจะได้ไปรอแยกตามแผลนของตนเองทีหลัง ตกลงกันเสร็จสรรพ จึงเริ่มทางไปที่ตรอกได้แอกอน


ระหว่างที่กำลังเดินไปอยู่นั้น เขาเห็นคาเรสหยุดนิ่งกับที่พร้อมมองอีกทาง เขาจึงพลางไปมองทิศเดียวกัน จึงได้เห็นเพื่อนสนิทของเขาอีกคน จูลีเอน เดอ เปลิซิเยร์ หรือนามว่า เจอร์ลีน ก่อนทั้งสอง จะเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้า ก่อนจะเป็น คาเรส ที่เอ่ยทักทาย

"สวัสดีทำไรอยู่ ทำไหมทำหน้าตาแบบนั้น ไปโกรธใครมา" คาเรสกล่าว ก่อนจะเอ่ยประโยคถัดไป

"หน้าแบบอยากเข้าห้องน้ำตลอดเวลา" สิ้นสุดคำทักทาย เขาก็หันมามองหน้าของลีนทันที

Julienne De Pelissier

" นั้นสิเป็นอะไร ทำหน้าอย่างกับยักษ์ เหมือนไปโกรธใครมาเลย " พลางป้องปากไปกับคาเรส พร้อมกับสายตาขวางที่มองมาทางที่เราทั้งสองคน

Julienne De Pelissier

" แน่นอนว่าเราหล่อ และหน้าตาดี ไม่ต้องชมหรอก พอดีเรารู้ตัวเองอยู่แล้ว " ครูซว่าพลางเสยผมโชว์ พร้อมกับหน้าหล่อๆของเขาให้เจอร์ลีนได้ดู

Julienne De Pelissier

ก่อนที่สงครามจะเกิดขึ้นไปมากกว่านี้ ก็มีเสียงของคาเรสที่เข้ามาห้ามพวกเขาทั้งสองคนไว้ หลังจากที่เงียบไป เพราะมองพวกเราถกเถียงกัน

"พอๆเลิกเถียงกัน ไปด้วยกันหมดนี่แหละ" คาเรสได้เอ่ย ก่อนจะลากพวกเราทั้งสองเดินไปด้วยกัน แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ยังเถียงกับเจอร์ลีนไปตลอดทาง

"เราหล่อกว่า"

Julienne De Pelissier

"เราต่างหากล่ะที่เท่ห์ มีเสน่ห์ และหล่อมากๆ"

Julienne De Pelissier

Qarez Kruz Fieres








Go to the top of the page
+Quote Post
Madelynn Donahue...
โพสต์ Oct 11 2023, 11:36 AM
โพสต์ #54


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 1

***




กลุ่ม : นักเรียนบ้านฮัฟเฟิลพัฟ
โพสต์ : 232
เข้าร่วม : 2-April 13
จาก : โลกเเห่งมักเกิ้ล
หมายเลขสมาชิก : 20,626
สายเลือด : เกิดจากมักเกิ้ล
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: เชอร์รี่ | ยาว: 12"
แกนกลาง: ขนยูนิคอร์น
ความยืดหยุ่น: แข็ง

สัตว์เลี้ยง


ผู้พิทักษ์






Mission 1

ลมหายใจที่สม่ำเสมอ สายตาที่ทอดมองยาวไปไกลสุดสายตา ลูกตากลมน้ำเงินเทาดุจดั่งหวงมิติที่เร้นลับที่มองลงไปแล้วรู้สึกเย็นยะเยือกเลื่อนม
องซ้ายแลขวา ท่ามกลางผู้คนที่เร่งรีบมุมหนึ่งมีป้าแก่คนหนึ่งกำลังจ้องมองหม้อใบใหญ่ที่กองอยู่หน
้าร้าน ที่เดินสวนกันกับชายร่างยักษ์ที่ใส่เสื้อตัวหนาพร้อมแบกสัมภาระขนาดใหญ่กว่าตัวเองเท
่าหนึ่ง ถัดไปมีเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังกำลังเดินไปอีกร้านที่อยู่ใกล้กันร้านตัวบรรจงและหยดหมึก สายลมที่มีร่องรอยของการโหยหาบางอย่างปะทะเข้าใบหน้าที่ซีดลงเล็กน้อย เขาเงยหน้ามองท้องฟ้า พร้อมนึกเหตุการณ์ก่อนหน้าที่ผ่านมาไม่นานอย่างนึกพิศวง


นับจากที่ได้รับจดหมายเข้าเรียนและรายการของใช้ต่างๆที่แนบมาพร้อมกับจดหมายฉบับนั้น เขาได้ขอเงินจำนวนหนึ่งมาเพื่อซื้อของที่จำเป็นต่อการเข้าเรียนที่จะถึงอีกไม่นาน ตามห้วงคะนึงคิดเขา เขาเดินตามลายแทงแห่งอักษรที่เคยจรดจดจำ ที่ซึมซับเข้าไปในจิตใจ ปรากฏรอยยิ้มสายหนึ่งที่แผ่วเบา เขามั่นใจมากขณะเดียวกันก็อดสงสัยไม่ได้ นี้คือดินแดนที่มหัศจรรย์ แผ่นหลังชื้นเหงื่อพิงกับกำแพงที่ก่อด้วยอิฐสีแดงที่บัดนี้สีซีดและลอกเกือบหมดมุมหน
ึ่ง ข้างๆเขามีกองอุปกรณ์บ้างอย่างพร้อมกับเศษไม้ยาวเหมือนไม้กวาดและซี่ด้ามที่ชี้โด่อย
ู่กองหนึ่ง มีลูกแมวสีขาวที่เขาเพิ่งได้รับมันมาเมื่อสิบนาทีที่แล้วด้วยราคาที่หนักหนาสำหรับเข



เขาปล่อยให้มันสนุกอยู่กับกองเศษไม้นั่น พร้อมมองเลยไปยังแมวขาวตัวจิ๋ว ข้างกายขนนุ่มมีถุงอาหารสำหรับเจ้าตัวเล็กและอุปกรณ์ความสะอาดของเจ้าตัว มือขวาของเขากำกระดาษรายการที่ต้องซื้อ ในนั้นมีรายการขีดฆ่าสำหรับที่ได้ซื้อเรียบร้อยแล้ว อุปกรณ์การเขียน การเรียน หนังสือ เสื้อผ้า เขากวาดสายตาอย่างรีบร้อนอึดใจหนึ่งก็ถอนหายใจช้าๆพลางขย้ำกระดาษใส่กระเป๋ากางเกงแล
ะอุ้มเจ้าตัวจิ๋วสีขาวที่ท่าทางกำลังจะคุ้ยขยะกองนั่นขึ้นมาซุกไว้ในเสื้อโค้ดจับมันย
ัดใส่กระเป๋า มือซีดที่มีร่องรอยไออุ่นจากการสัมผัสหยิบไม้ที่มีขนาดเรียวยาว มีความยาวโดยประมาณ ๙ นิ้วตัวไม้มีการแกะสลักลายวิจิตจับตาต้องใจ แรกสัมผัสทั้งลื่นมือทั้งนุ่มและมีกลิ่นหอมอ่อนๆเมื่อเขาจรดมันไว้ใต้จมูก เขาเหลือเงินอีกจำนวนหนึ่ง มารดาให้เงินเขาและเขานำไปเปิดบัญชีรวมทั้งแลกเป็นเงินตราเพื่อซื้อของที่จำเป็นในตร
อกแห่งนี้ ท้ายสุดในกระเป๋ากางเกงอีกข้างและซิบด้านในสุดยังปรารฏเศษเหรียญและเงินที่เหลือจากก
ารจ่ายซื้อรายการในกระดาษยับนั้น


อัล ไม่ว่าอย่างไร ก็ขอให้กลับบ้านมาบ้างนะจ้ะอัล
อยู่โรงเรียนประจำคิดถึงพี่บ้างละ
ให้พ่อไปส่งมั้ย


หวงเวลาคะนึกหาของคำกล่าวของครอบครัวยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น รสหวานล้ำที่ได้สัมผัสกลมกล่อมด้วยสายใยแห่งรัก ยังติดตรึงในใจดังเชือกที่บีบรัดหัวใจพลอยให้คะนึงนิจ กระพริบตาเล็กน้อยพางลอบถอนหายใจ สายตาที่มองไปยังฝั่งตรงข้าม มันคือร้านที่เขาเพิ่งจากมา ร้านสัตว์วิเศษ เขาหมดเงินอย่างมากกับร้านดังกล่าว แปดเกลเลียน สิบซิกเกิ้ล สามคนุต อัลถอนหายใจแผ่วเบาพลางหยิบถุงสีขาวสะอาดใส่ในกระเป๋าที่ถูกปรับแต่งให้ขนาดพื้นที่ข
้างในใหญ่กว่ารูปร่างจริง เป็นกระเป๋าหนังจากตัวอะไรสักอย่างที่ถูกซื้อมาเป็นอย่างแรกด้วยราคา หนึ่งเกลเลียน ถุงสีขาวที่บรรจุเต็มไปด้วยเสื้อคลุมสีเรียบ หมวกแหลมไม่มีลายเป็นเงา ถุงมือที่ีทำจากหนังมังกร ละเสื้อคลุมหน้าหนาวพร้อมสายรัดเอว รวมราคาแล้วไม่แพงมากมายนัก สามเกลเลียน เจ็ดซิกเกิ้ล สิบคนุต เมื่อยัดถุงขาวใส่ได้เรียบร้อย ปรากฏว่าข้างในกระเป๋ามีของหนักล่วงหล่นซ้อนทับ เสียงหนักๆคาดว่าเป็นหนังสือเรียนที่เขาเพิ่งซื้อมาจากร้านตัวบรรจงและหยดหมึก หนังสือใหม่เอี่ยมเล่มหนาเหมือนนำไปก่อการร้ายได้หลายเล่มราคาส่วนทางจากรูปลักษณ์ สิบสองเกลเลียน สามคนุต ลึกลงไปในกระเป๋าหนังมีหม้อดีบุกผสมตะกั่ว ขนาดมาตรฐานเบอร์ สอง ขวดแก้ว กล้องสองทางไกล และตาชั่งรวมราคาแล้วเกือบสามเท่าของราคาหนังสือ อัลตัดสินใจนำเงินที่เหลือเข้าสู่ธนาคารกริงกอตส์ อาคารสีขาวเหมอนหิมะที่ตั้งโดนเด่นเหนือร้านรวงทั้งหลาย อัลฝากเข้าไปทั้งหมด ยี่สิบสองเกลเลียน และนำเงินติดตัวไปเพียง สามเกลเลียนกับเศษที่เหลือ อัลสะบัดใบหน้าเบาๆ พร้อมเก็บสัมภาระเพื่อก้าวเดินต่อไป มุ่งหน้าไปที่แห่งหนึ่ง อีกครึ่งเข็มนาฬิกา ชานชาลาเก้าเศษสามส่วนสี่ แววตาชะรอยมีอดีตนั้นได้หายไปกลับกล้าแกร่งขึ้นเตรียมต้อนรับโลกอีกใบที่ไม่อาจทราบไ
ด้เลยว่า หนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร



คุณ Madelynn Donahuesa ได้แก้ไขข้อความนี้ ครั้งล่าสุดเมื่อ Oct 26 2023, 04:10 PM


ณ หอนอนชาย หลังจากฝึกซ้อมควิดดิชก็ต้องเร่งรีบอ่านหนังสือเตรียม เพื่อนเตียงข้างๆที่ยืนอ่านหนังสือแอบมองด้วยความเป็นห่วง
Go to the top of the page
+Quote Post
Erekia Seere Alm...
โพสต์ Oct 12 2023, 02:00 PM
โพสต์ #55


พ่อมด

********




กลุ่ม : พ่อมดแม่มด
โพสต์ : 6,378
เข้าร่วม : 22-January 09
จาก : 서울특별시
หมายเลขสมาชิก : 1,758
สายเลือด : เลือดบริสุทธิ์
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: ไพน์ | ยาว: 11"
แกนกลาง: เอ็นหัวใจมังกร
ความยืดหยุ่น: ดีดตัว

สัตว์เลี้ยง


ผู้พิทักษ์






● THE ALMAECIOUS ●



Erekia Seere Almaecious


Mission ...? !!!!
แต่งจนจบแล้วเพิ่งเห็นว่ายังไม่ได้ทำมิชชั่น


ตรอกไดแอกอน

อีกฝ่ายรู้ตัวเร็วกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้มากสมกับเป็นผู้ติดตามที่ เอียน โดโนแวน อัลแมเชียส ไว้ใจ เจ้าของความสูงหนึ่งร้อยแปดสิบเซนฯ เศษ รูปร่างกำยำสูงใหญ่ภายใต้ชุดสูทสีดำสนิท ทำให้อารากอนดูโดดเด่นกว่าผู้วิเศษคนใดในย่านนี้ ซึ่งมันช่วยให้เอเรเคียมองเห็นอีกฝ่ายได้ตั้งแต่อยู่ไกล ๆ เพราะความได้เปรียบทางรูปร่างที่คล่องตัวกว่า ชั่วอึดใจเดียวทายาทแห่งโลหิตธาตุก็เดินฝ่าผู้คนมาถึงกลางตรอก สายตามองร้านรวงไปตลอดสองข้างทาง แต่ไม่มีร้านใดน่าสนใจไปกว่าความสนุกในการเล่นวิ่งไล่จับกับผู้ติดตามหนุ่ม อุปสรรคใหญ่หลวงคือผู้คนจำนวนมากมายต่างเดินสวนกันขวักไขว่น่าเวียนหัว แม้สายตามองเห็นผู้เป็นนายอยู่เบื้องหน้า ทว่าก็มิอาจพาตัวเองให้ไปถึงดั่งใจนึก เพราะมัวแต่ยกความสนใจทั้งหมดอยู่ที่เอเรเคียอารากอนจึงไม่ทันระวัง เผลอเดินชนสตรีรายหนึ่งที่กำลังเดินสวนมา
"ตาบอดรึไงยะ! เกิดฉันล้มแข้งขาหักขึ้นมาจะทำยังไง รุ่นนี้ยิ่งไม่มีอะไหล่ให้เปลี่ยนอยู่ด้วย"หญิงวัยกลางคนในชุดเสื้อคลุมสีน้ำเงินสดใส ส่งเสียงแหวทันทีที่ถูกคนร่างสูงชนเข้าอย่างจัง
"ขอโทษครับคุณผู้หญิง"อารากอนค้อมศีรษะพร้อมกับกล่าวคำขอโทษ เพียงได้พบประสบพักตร์ชายหนุ่มเต็มสองตา เจ้าหล่อนถึงกับเผลอครางเสียงเบาหวิว
"อื้อฮือ ...หล่อจัง!"
"บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่าครับ"
"ทางกายน่ะไม่เท่าไหร่ แต่มันเจ็บตรงที่ใจอ่ะจ๊ะ แบบว่าความหล่อมันบาดใจ"หล่อนว่าพร้อมกับชม้อยชะม้ายชายตาไปยังผู้ติดตามหนุ่ม บิดกายขวยเขินประหนึ่งดรุณีพบรักครั้งแรก
"..."คนที่ไปต่อไม่เป็นเห็นจะเป็นอารากอน เมื่อแน่ใจว่าถูกสตรีวัยเดียวกับแม่จู่โจมชนิดไม่ทันตั้งตัว ก็ถึงกับต้องมองหาทางหนีทีไล่ แม้มีตำแหน่งเป็นถึงผู้ติดตามแห่งอัลแมเชียสที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างโชกโชน จิตใจแข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้า ทว่าชายหนุ่มไม่เคยถูกฝึกให้รับมือกับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า 'ผู้หญิง' โดยเฉพาะมารยาหญิงนั้นสามารถทลายใจชายให้อ่อนยวบราวกับขี้ผึ้งลนไฟได้เลยทีเดียว
คนที่ยืนมองดูเหตุการณ์มาตั้งแต่ต้นอย่างเอเรเคีย ถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ ตั้งแต่รู้จักกันมาเขาไม่เคยเห็นอารากอนเสียอาการเท่านี้มาก่อน มือเรียวล้วงมือถือขึ้นบันทึกภาพ ขณะที่หญิงวัยกลางคนรายนั้นโถมกายเซถลาไปยังผู้ติดตามหนุ่ม ทำให้ดูเหมือนว่าทั้งคู่กำลังตระกองกอดกัน ราวกับพระเอกนางเอกในซีรีส์เกาหลีโรแมนติกน้ำเน่ายุงบินชุม
"อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกหน้ามืด สงสัยความดันจะตก ขืนเดินกลับเองคนเดียวคงไม่พ้นต้องเป็นลมล้มหัวฟาดพื้นเป็นผีเฝ้าตรอกแน่ ๆ วานพ่อหนุ่มช่วยพยุงพาไปที่ร้านได้มั้ยจ๊ะ เดินถัดจากนี่ไปอีกหน่อยก็ถึงแล้วล่ะ"หล่อนว่าเสียงออดอ้อนขุดจริตมารยาหญิงร้อยแปดกระบวนท่า หวังพิชิตชายตรงหน้าไม่มากก็น้อย พลางชี้นิ้วไปยังร้านเป้าหมายที่ตั้งอยู่ไม่ไกล
เพียงละสายตาจากเอเรเคียไม่ถึงสองนาที ครั้นเมื่อหันกลับไปมองอีกครั้งก็พบว่าผู้เป็นนายหายไปกับฝูงชนเสียแล้ว ท้ายที่สุดอารากอนจำต้องช่วยพยุงพาสตรีนางนั้นเดินทางกลับร้านตามคำขออย่างรีบเร่ง เพราะหน้าที่ที่สำคัญของเขาคือการติดตามบุตรชายคนโตของนายเหนือชีวิต ที่บัดนี้หลบลี้หนีหายไปจากสายตา ซึ่งคาดว่าคงยังไปไหนได้ไม่ไกลนัก


ร้านขายของทิ้งแล้ว

เสียงกระดิ่งหน้าร้าน ปลุกให้ชายชราที่กำลังนั่งสัปหงกอยู่หลังเคาน์เตอร์สะดุ้งตื่น มือเหี่ยวย่นรีบกวาดหนังสือสำหรับผู้ใหญ่ ที่เปิดค้างไว้ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อนไปให้พ้นจากสายตาผู้มาเยือน ก่อนจะฉีกยิ้มมองเห็นฟันไม่กี่ซี่ในปาก
"โอ้! ลูกค้าคนแรกของวัน The Junk Shop ยินดีต้อนรับพ่อหนุ่ม"ชายชราเอ่ยเชื้อเชิญด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ดวงตาฝ้าฟางตามวัยไล่มองลูกค้ารายแรกตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพินิจพิเคราะห์ การแต่งตัวแม้เรียบง่าย แต่บ่งบอกถึงรสนิยมของผู้สวมใส่ อีกทั้งผิวพรรณสว่างสดใสราวกับว่าทั้งชีวิตไม่เคยเจอแสงแดด รอยยิ้มเล็ก ๆ ปรากฏบนวงหน้าของผู้มาเยือนแทนคำพูดตอบรับ ขัดกับท่าทางถือตัวอยู่ในที
หลังทักทายกันตามมารยาท ชายชราเจ้าของร้านจึงปล่อยให้ลูกค้าเดินชมสิ่งที่น่าสนใจตามอัธยาศัย ด้วยของภายในร้านไม่มีค่ามีราคาอะไรมากนัก ไม่จำเป็นต้องเดินตามประกบเฉกเช่นร้านอื่น ๆ จึงมีเวลาให้ได้ทำเรื่องส่วนตัวอย่างการหยิบหนังสือเล่มเดิม ที่เปิดค้างไว้ขึ้นมาอ่าน สลับกับส่งสายตาจับจ้องไปที่ลูกค้าหนุ่มเป็นครั้งคราว ไม่บ่อยนักที่จะมีลูกคุณหนูผู้ลากมากดีจากตระกูลใดสักตระกูล ให้เกียรติเหยียบเข้าร้าน เพราะส่วนใหญ่แล้วร้านของชายชรามักเป็นเป้าหมายสุดท้ายที่คนจะเลือกเดิน หากไม่ใช่ผู้ที่ชื่นชอบของทิ้งแล้ว หรือต้องการตามหาอะไรสักอย่าง ก็มักเป็นคนนำของนั้นมาขายให้กับเขาสียเอง
สิ่งของมากมายกองสุมรวมกันอย่างง่าย ๆ แยกเป็นประเภทมากบ้างน้อยบ้าง ดูคล้ายกับกองขยะขนาดย่อม ระหว่างสาวเท้าก้าวเดินไปยังด้านหนึ่งของร้าน พลันสายตาเอเรเคียเห็นวัตถุอะไรบางอย่างวางอยู่ท่ามกลางกองหนังสือ สะท้อนกับแสงอาทิตย์ที่กำลังส่องทะลุบานหน้าต่างสว่างเรื่อเรือง
คิ้วเรียวเลิกขึ้นด้วยความสงสัย พร้อมกับเหลียวกายบ่ายหน้าไปยังสิ่งนั้นราวกับถูกชักนำจากอำนาจบางอย่าง มันคืออาวุธชนิดหนึ่งที่เรียกกันว่า กริช จากด้ามจรดปลายคะเนจากสายตายาวประมาณหนึ่งฟุตเห็นจะได้ ตัวฝักและด้ามจับมีสีเงินสะท้อนแสงอาทิตย์มันปลาบ ประดับด้วยทองคำสีสุกปลั่งสลักลวดลายวิจิตรบรรจงเป็นรูปขนนกซ้อนทับกัน ทันทีที่มือของเขาสัมผัสเจ้าสิ่งนั้น เอเรเคียก็รับรู้ถึงพลังงานบางอย่างที่กำลังไหลเวียนอย่างรุนแรง ก่อนที่มือของเขาจะถูกแผดเผาด้วยพลังที่ซ่อนอยู่ในกริช ไวเท่าความคิดมือเรียวชักไม้กายสิทธิ์พร้อมกับเอ่ยคาถาเฉพาะในตระกูล มันเป็นคาถาหักล้างอำนาจเทวะที่ยังหลงเหลืออยู่ สิ้นคำร่ายลำแสงสีดำสนิทก็พุ่งตรงไปยังกริช ผลของคาถาบันดาลให้สิ่งของที่อยู่รอบบริเวณนั้นลอยเคว้ง ก่อนจะถูกเหวี่ยงไปมาราวกับพายุโหมกระหน่ำ หนังสือเล่มหนาหลายกองถูกฉีกกระชากออกจากกันเป็นเพียงเศษกระดาษปลิวว่อน รวมทั้งบรรดาสิ่งของต่าง ๆ บัดนี้ไม่เหลือเค้าของเดิม จากสิ่งที่เกือบคล้ายขยะได้แปรสภาพเป็นเศษขยะอย่างสมบูรณ์
เสียงอื้ออึงจากแรงลม และบรรดาข้าวของพัดกระจุยกระจายจากทางด้านหนึ่งของร้าน ปลุกให้คนที่กำลังนั่งสัปหงกเป็นรอบที่สองของวันสะดุ้งตื่นอีกครั้ง
"หมดกันร้านฉัน! พินาศหมดแล้ว!"ชายชราหายง่วงเป็นปลิดทิ้งพลางส่งเสียงโหวกเหวกหน้าตาตื่น ก่อนจะพาร่างอันผ่ายผอมเดินกระย่องกระแย่งจากเคาน์เตอร์ มายังจุดเกิดเหตุด้วยความตกใจ ไม่ทันที่เจ้าของร้านจะได้อ้าปากพูดประโยคต่อไป บรรดาเศษสิ่งของภายในร้านที่ย่อยยับจากน้ำมือเอเรเคียก็ค่อย ๆ ประกอบคืนเป็นรูปร่างดังเดิม มือเรียวคว้ากริชชูขึ้นข้างตัว ยิงคำถามไปยังเจ้าของผมสีดอกเลาทันที
"คุณได้เจ้านี่มาจากไหน ? ใครขายมันให้คุณ! ?"
ชายชราเจ้าของร้านเลิกคิ้ว มือหยาบกร้านคว้ากริชจากมือลูกค้าหนุ่มขึ้นพิจารณาอย่างถี่ถ้วน
"ถึงร้านฉันมีของกองเป็นพะเนิน แต่ฉันก็จดจำพวกมันได้ทุกชิ้น ฉันมั่นใจว่าไม่เคยมีกริชเล่มนี้อยู่ในร้าน โดยเฉพาะของมีค่า โอ้! ดูนี่สิ ตัวฝักจรดปลายด้ามทำด้วยทองคำกับทองคำขาวทั้งเล่มสินะ ลวดลายงดงามอย่างกับไม่ใช่ฝีมือมนุษย์สร้างแหน่ะ ช่างน่าอัศจรรย์จริง ๆ"ชายชราตาลุกวาว รู้สึกทึ่งกับอาวุธปริศนาที่อยู่ในมือ พยายามชักกริชออกจากฝักเพื่อดูเนื้อมีดภายใน ทว่าออกแรงดึงเท่าไรก็ไม่เป็นผล จึงถอดใจยอมแพ้
"แล้วมันอยู่ในร้านคุณได้ยังไง ?"เอเรเคียถามเสียงเครียด การพบของของฝ่ายศัตรูทำให้เขาเริ่มไม่ไว้ใจ แม้กระทั่งคนตรงหน้า หากแต่ความรู้สึกเบื้องลึกก็ได้บอกเขาว่าชายผู้นี้เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา
"ฉันไม่รู้ อาจจะเป็นของลูกค้าคนใดลืมไว้ก็ได้"
"ใคร!!!?"
"ก็บอกว่าไม่รู้ไง"
จากพลังงานมหาศาลที่แผ่ออกมา เอเรเคียมั่นใจว่ากริชเล่มนี้จะต้องเป็นของอัครเทวะคนใดคนหนึ่ง และของสำคัญขนาดนี้ คงไม่มีใครหลงลืมทิ้งไว้ ยกเว้นเพียงแต่อีกฝ่ายจงใจทิ้งมัน นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มกวาดสำรวจทั้งด้านในและด้านนอกของร้าน เพื่อจับสัมผัสกลิ่นอายของอะไรบางอย่าง เวลาผ่านไปราวครึ่งนาทีสิ่งที่เขาสัมผัสได้มีแต่ความว่างเปล่า น่าแปลก…ไม่มีการเคลื่อนไหวของพวกมันแม้เพียงสักคน
"เฮ้! นั่นมันของในร้านฉัน คิดจะขโมยกันรึไง"เจ้าของร้านวัยชราร้องห้าม เมื่อเห็นว่าเอเรเคียคว้ากริชจากมือกำลังจะยัดมันลงกระเป๋าขยายขนาด มือเหี่ยวยื้อแย่งอาวุธมีค่ากลับมาอยู่กับตัวอีกครั้ง
"คุณบอกเองว่าลูกค้าลืมไว้ มันเป็นการขโมยตรงไหนไม่ทราบ"ร่างโปร่งสวนกลับทันทีอย่างคนหัวเสีย ชายชรานิ่งไปเล็กน้อย ทำท่าครุ่นคิดสักพักพลางเผยรอยยิ้ม
"ก่อนหน้านั้นมันเป็นของใครฉันไม่สน แต่ตอนนี้มันอยู่ในร้านฉัน ฉันเป็นเจ้าของมัน อยากได้ก็เอาเงินมาแลก ห้าพันเกลเลียนสำหรับงานปราณีตที่หาได้ยากในยุคนี้"คนเจ้าเล่ห์ฉีกยิ้มเห็นเหงือกประดับฟันสองสามสี่ พลางคิดกระหยิ่มในใจเดาจากอาการคนตรงหน้าคงต้องยอมจ่ายอย่างไม่มีข้อกังขา
เอเรเคียจ้องมองกริชสลับกับหน้าชายชราอยู่ชั่วครู่
"แค่มีดปอกผลไม้โง่ ๆ เล่มเดียวคิดตั้งห้าพัน เชิญเก็บไว้ปาดคอรีดเลือดตัวเองเถอะ"ไม่ใช่เขาไม่มีปัญญาจ่าย หากแต่รู้สึกไม่พอใจอีกฝ่ายที่แสดงอาการโลภอย่างออกหน้าออกตา เอเรเคียทำท่าหันหลังเตรียมออกจากร้าน จากคนที่ดูเป็นต่อเริ่มตกเป็นรอง ชายชราท่าทางร้อนรนกังวลว่าเงินจำนวนมากกำลังจะปลิวไปจากมือ
"เดี๋ยวก่อน!"เจ้าของร้านทัก เรียกให้ผู้กำลังเดินจากไปต้องเหลียวกายกลับมาอีกครั้ง "ในฐานะลูกค้าคนแรก ฉันจะลดราคาให้เป็นพิเศษแล้วกัน"
"สามพัน—-"ยังไม่ทันที่ชายชราพูดจบ เอเรเคียก็ชิงตัดบทขึ้นมาเสียก่อน
"พันห้า"
"ของมูลค่าขนาดนี้เทียบกันตามท้องตลาดถือว่าถูกซะยิ่งกว่าถูก ฉันให้ได้แค่สามพันถ้วนเท่านั้น"ชายชราแย้งประหนึ่งเสียผลประโยชน์จากการค้าครั้งนี้ ทั้งที่ตัวเองมีแต่ได้กับได้ เอเรเคียไม่พูดอะไรเตรียมหันหลังกลับเป็นครั้งที่สอง
"ดะ..ได้ พันห้าก็พันห้า"
"ตกลง"ทายาทแห่งโลหิตธาตุกระตุกยิ้มที่มุมปาก "ขอตัวไปถอนเงินที่กริงกอตส์สักครู่"

.
.
.
.
.


ถุงบรรจุเงินจำนวนหนึ่งพันห้าร้อยเกลเลียน ถูกส่งให้กับเจ้าของใหม่ของมัน ชายชรายิ้มรับด้วยความลิงโลด แต่คนที่ยิ้มกว้างมากกว่าเห็นจะเป็นเอเรเคีย เงินทุกเหรียญต้องคำสาปหากสัมผัสโดนมันแม้เพียงปลายนิ้ว คำสาปก็จะสัมฤทธิ์ผลภายในไม่กี่นาที การแก้ไขมีทางเดียวซึ่งเขาได้เมตตาเขียนวิธีการแก้คำสาปไว้ที่ใต้ถุงเงิน


ยินดีด้วย! คุณได้รับสิทธิ์ต้องคำสาป

ไม่ต้องตกใจไป ทุกปัญหามีทางออก เพียงแค่คุณแก้ผ้าวิ่งรอบตรอกไดแอกอนจากฝั่งใต้จรดฝั่งเหนือครบจำนวนสามรอบ คำสาปจะคลายฤทธิ์ทันที เห็นไหม...ไม่ต้องเสียเงินรักษาสักเกลเลียนเดียว แถมได้สุขภาพดีอีกด้วย คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม อ้อ! คุณมีเวลาตัดสินใจภายในสิบห้านาทีนี้เท่านั้น อย่ามัวยึกยักชักช้า เวลาของคุณมีไม่มากแล้ว อยากอยู่โลกนี้หรือไปต่อโลกหน้าก็เลือกเอา

คำเตือน : การเล่นตุกติกไม่ช่วยให้ฤทธิ์คำสาปสลายไป
อนุญาตให้นุ่งชั้นในระหว่างปฏิบัติภารกิจได้เพียงตัวเดียวเท่านั้น



"ขอบคุณพ่อหนุ่ม โอกาสหน้าเชิญแวะมาใหม่อีกนะ"เสียงของชายชราเจ้าของร้านดังไล่หลังผู้ที่กำลังเดินล้วงกระเป๋ากางเกง ก้าวออกจากร้านด้วยสีหน้าแช่มชื่น เอเรเคียแสร้งกุเรื่องถอนเงินที่กริงกอตส์ ความจริงแล้วเขาหายไปร่ายคำสาปบวกกับเขียนข้อความส่งถึงตาแก่หน้าเงินนั่นต่างหาก ร่างโปร่งพาตัวเองเดินเรื่อยไปตามถนนพลางมองหาที่เหมาะ ๆ เพื่อรอชมการแสดงอันน่าตื่นตาจากเจ้าของร้าน The Junk Shop ที่กำลังเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า
.
.
.
.
.


ภาพของชายชราสวมชั้นในตัวเดียวกำลังวิ่งโขยกเขยกไปตามทางสายหลัก บนตัวเต็มไปด้วยปุ่มปมคล้ายฝีหนองพุพองไปทั่วมองดูน่าสยดสยองปนขยะแขยง เรียกเสียงหวีดร้องตกใจให้กับผู้พบเห็นไปตลอดทาง ไม่รู้ตกใจที่เห็นคนแก้ผ้าวิ่งโทง ๆ หรือเห็นร่างกายที่เต็มไปด้วยแผลเน่าเฟะของตาแก่นั่นกันแน่
"ทำกันแสบมาก อย่าให้ฉันเจอหน้าแกอีกนะไอ้เด็กเวร! พ่อจะสาปให้เป็นกิ้งกือไส้เดือนไปตลอดชีวิตเลยทีเดียว นี่ก็อีกคนยืนเกะกะขวางทางอยู่ได้ หลบไป!"ชายชราเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น และพาลไปถึงคนรอบข้างที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ สองขาพาร่างกายที่ไม่สมประกอบวิ่งมุ่งหน้าไปยังทิศเหนืออย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เหนือขึ้นไปบนหลังคาร้านค้าแห่งหนึ่ง เป็นที่เอเรเคียอาศัยนั่งชมภาพการวิ่งแก้คำสาป มองดูแล้วตลกปนน่าสมเพชในสายตา หลังนั่งดูชายชราวิ่งผ่านหน้าไปมาจนครบรอบที่กำหนด เอเรเคียจึงลุกขึ้นยืนสูดอากาศหายใจเข้าจนเต็มปอด พลางบิดขี้เกียจเพื่อขับไล่ความเมื่อยขบ ครั้นหันหลังเหลียวกายใบหน้าเนียนก็ปะทะเข้ากับอะไรบางอย่าง มันเป็นร่างของคนที่เขาเพิ่งสลัดหลุดไปเมื่อชั่วโมงก่อนนั่นเอง
"ได้เวลากลับแล้วขอรับ"น้ำเสียงนุ่มทุ้มดังมาจากปากเจ้าของร่างสูงใหญ่ กว่าจะพาตัวเองหลุดพ้นจากสตรีวัยกลางคนรุ่นเพื่อนแม่ได้ ก็ทำเสียเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมง ครั้นเดินตามหาผู้เป็นนายอยู่สักพักเห็นอีกฝ่ายกำลังย้ายตัวเอง ขึ้นมานั่งชมบรรยากาศอยู่บนหลังคา ชายหนุ่มจึงปล่อยให้เอเรเคียได้ดื่มด่ำกับภาพตรงหน้าได้ตามที่ต้องการ โดยมีสายตาคู่คมเฝ้ามองอยู่ไม่ห่าง จวบจนถึงแก่เวลาต้องเดินทางกลับสู่ราชบัลลังก์นิรยภูมิ ร่างสูงจึงได้ปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าผู้เป็นนาย สังเกตว่าสีหน้าเอเรเคียดูผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด
"รถม้าที่กำลังมารับประสบอุบัติเหตุระหว่างทาง คาดว่าต้องใช้เวลาในการซ่อมแซมสักพักใหญ่ อาจทำให้นายท่านต้องเสียเวลาคอยนานโดยเปล่าประโยชน์ ฉะนั้น…"เจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลค้อมศีรษะลงเล็กน้อย
"ขออนุญาตขอรับ"สิ้นคำพูด แขนแกร่งทำหน้าที่โอบร่างผู้เป็นนายแนบชิดกับตนเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้เกิดช่องว่างระหว่างกันน้อยที่สุด และเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่ทำเอเรเคียหล่นหายระหว่างทาง มันเป็นวิธีเฉพาะที่สะดวกและรวดเร็วสำหรับผู้ติดตามในการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ โดยไม่ต้องพึ่งผงฟลู หรือกุญแจนำทางที่น่าเวียนหัว มือที่ว่างอีกข้างล้วงไม้กายสิทธิ์ชูขึ้นเหนือศีรษะพลางเอ่ยคาถาในใจ เพียงสิ้นคำร่ายพยางค์สุดท้ายก็เกิดควันสีดำพวยพุ่งจากปลายไม้ฯ พร้อมกับร่างทั้งสองหายวับไปในพริบตา เหลือเพียงหลังคาที่ว่างเปล่าและเสียงจอแจจากผู้คนเดินสวนกันไปมาอยู่เบื้องล่าง



#990000 / Erekia Seere Almaecious
Aragon
หญิงวัยกลางคนเจ้าของร้านรับตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี
ชายชราเจ้าของร้านขายของทิ้งแล้ว (เรื่องจริงใครขายไม่รู้ แต่เรื่องนี้มโนตัวละครขึ้นเอง 100%)
Photo : Lucifer appeals for permission to return to heaven, Midjourney by SimpCommando , @JHANA





Go to the top of the page
+Quote Post
Julienne De Peli...
โพสต์ Oct 17 2023, 03:34 PM
โพสต์ #56


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 5

****




กลุ่ม : นักเรียนบ้านเรเวนคลอ
โพสต์ : 452
เข้าร่วม : 19-October 20
หมายเลขสมาชิก : 50,865
สายเลือด : เลือดบริสุทธิ์
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: ไพน์ | ยาว: 12"
แกนกลาง: ขนยูนิคอร์น
ความยืดหยุ่น: ดีและนุ่ม

สัตว์เลี้ยง


ผู้พิทักษ์






Julienne

Julienne De Pelissier #D8BFD8
Qarez Kruz Fières #669CCC
Cruise Cartellist #4F80C0

Diagon Alley

จูลีเอนเข้ามายังตรอกไดแอกอน ย่านการค้าอันโด่งดังของเหล่าผู้วิเศษ วันนี้ผู้คนก็ยังคงครึกครื้นเช่นเคย ขายาวสับเท้ามุ่งหน้าไปสู่ร้านไอศกรีมของฟลอเรียน ฟอร์เตสคิว ซึ่งคือเป้าหมายเดียวที่เขามาเยือน ณ ตรอกนี้ จนกระทั่ง

"สวัสดีทำไรอยู่ ทำไหมทำหน้าตาแบบนั้น ไปโกรธใครมา" เด็กหนุ่มสองคนที่มาจากไหนไม่รู้มาทักจูลีเอนด้วยท่าทีที่สนิทสนม นี่เขาไปทำความรู้จักคนแบบนี้ตอนไหนเนี่ย ถึงสองคนนี้จะหน้าตาคุ้นอยู่ก็เถอะ “หน้าแบบอยากเข้าห้องน้ำตลอดเวลา”

“ฮะ” ร่างสูงตอบไปอย่างงงงวยเล็กน้อย

“นั้นสิเป็นอะไร ทำหน้าอย่างกับยักษ์ เหมือนไปโกรธใครมาเลย” เด็กหนุ่มอีกคนพูด และแล้วเขาก็จำได้ คนนี้นี่เองที่ลื่นล้มในร้านหม้อใหญ่รั่วเมื่อกี้นี้

“หน้าปกติเราก็เป็นแบบนี้ นายล่ะ ไม่ลองดูหน้าตัวเองหน่อยเหรอ” จูลีเอนตอบกลับไปพร้อมฉีกยิ้มธุรกิจใส่ คนพวกนี้ทำรสชาติบัตเตอร์เบียร์ที่ยังคงติดอยู่ในปากของเขาเสียหมด

“แน่นอนว่าเราหล่อ และหน้าตาดี ไม่ต้องชมหรอก พอดีเรารู้ตัวเองอยู่แล้ว” ได้ยินคำตอบแล้วเขาถึงกับขมวดคิ้ว เขายังไม่ได้ทันพูดอะไรให้สื่อว่าเขาชมเลยด้วยซ้ำ คน ๆ นี้เริ่มทำให้เขามีน้ำโห เป็นใครก็ไม่รู้จัก แต่ไม่รู้จักต่อไปจะดีกว่า

"พอๆเลิกเถียงกัน ไปด้วยกันหมดนี่แหละ" เด็กหนุ่มคนแรกที่ทักจูลีเอนตัดบทสนทนาเข้ามา ไปไหน ใครจะไปกับพวกนาย

จูลีเอนที่ตั้งใจจะไปร้านไอศกรีมจึงคิดจะแยกตัวออกมา แต่พวกเขากลับเดินไปทางเดียวกันเสียนี่ เสียงที่น่ารำคาญพูดขึ้นมาอีกครั้ง

"เราหล่อกว่า" ทำไมคน ๆ นี้ถึงไม่ยอมจบง่าย ๆ นะ พูดมากเสียจริง

"นายไม่ดูเลยเนอะว่ากำลังพูดแบบนั้นต่อหน้าใครอยู่"

“เราต่างหากล่ะที่เท่ห์ มีเสน่ห์ และหล่อมากๆ”

เสียงทุ้มถึงกับถอนใจ สงสัยนักว่าทำไมเขาถึงต้องมาทำอะไรแบบนี้กับคนที่เขาไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อด้วย แต่ก็นะ เรื่องที่มีหลายคนมาทักเขาทั้ง ๆ ที่เขาไม่รู้จักก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยอยู่เอาการ เขาชินแล้วล่ะ

“เฮ้อ”







✧ THE WILINESS OF PÉLISSIER ✧
CÉLINE ⠀•⠀ ÉTIENNE ⠀•⠀ JULIENNE ⠀•⠀ OBERON
Go to the top of the page
+Quote Post
Onyx Morrel
โพสต์ Dec 1 2023, 11:04 PM
โพสต์ #57


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 6

*****




กลุ่ม : นักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์
โพสต์ : 1,124
เข้าร่วม : 20-February 20
หมายเลขสมาชิก : 33,963
สายเลือด : เลือดบริสุทธิ์
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ
ล็อกเกอร์

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: แอปเปิ้ล | ยาว: 13"
แกนกลาง: ขนยูนิคอร์น
ความยืดหยุ่น: ยืดหยุ่นกำลังดี

สัตว์เลี้ยง


ผู้พิทักษ์






Mission 1

ธนาคารกริงกอตส์ ตรอกไดแอกอนฝั่งเหนือ
1 ธันวาคม 2023

อาคารสีขาวที่มีเสาสองต้นหน้าประตูเอียงแทบจะล้ม เป็นจุดสังเกตได้ดีเมื่อเข้ามายังตรอกไดแอกอนแห่งนี้

‘ธนาคารกริงกอตส์ ธนาคารของพ่อมดแม่มด’
โอนิกซ์ต้องการมาถอนเกลเลียนของเขาออกไปซื้อของจึงจำเป็นต้องมายังธนาคารแห่งนี้ เมื่อเข้าไปภายในในอาคาร สองฝั่งก็ยังมีก็อบลินใส่สูทนั่งทำงานเหมือนเดิม

“โอนิกซ์ มอร์เรล มาถอนเงินห้องนิรภัยหมายเลข 33963 ครับ” ชายหนุ่มเดินไปแจ้งความประสงค์กับก็อบลินที่นั่งอยู่โต๊ะตรงกลางของห้องโถง ใบหน้าเหี่ยวย่นเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารที่กำลังขีดเขียน เพื่อมาพิจารณาลูกค้าที่อยู่ตรงหน้า

“กุญแจ” เสียงแหลมของก็อบลินเอ่ยถามหากุญแจสำหรับใช้เปิดประตู ซึ่งโอนิกซ์ก็ได้หยิบกุญแจดอกหนึ่งขึ้นมาให้อีกฝ่ายดูทันที

“เชิญได้ จะมีคนพานายไป” มือเล็กผายไปทางหนึ่งที่มีก็อบลินอีกตัวรออยู่แล้ว โอนิกซ์จึงเดินตามไป แม้มักเกิ้ลจะพัฒนาเทคโนโลยีไปไกลแล้ว แต่กริงกอตส์ก็ยังคงความดั้งเดิมไว้อย่างเช่นการนั่งรถรางขนาดเล็กลงไปยังห้องนิรภัย ที่ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งรถไฟเหาะในสวนสนุกอย่างไรอย่างนั้น

ใช้เวลานั่งมาหลายนาทีในที่สุดรถรางก็จอดอยู่หน้าห้องนิรภัย 33963 กุญแจดอกเล็กถูกก็อบลินนำไปไขประตูเปิด เมื่อบานประตูเปิดออก ชายหนุ่มก็เข้าไปหยิบสิ่งที่ต้องการทันที เงินเกลเลียนที่ใช้เวลาเก็บออมตั้งแต่เขาเข้าเรียนฮอกวอตส์ตอนปีหนึ่ง จนปัจจุบันก็ไม่ได้มีจำนวนเยอะขึ้นมากเท่าไหร่ และตอนนี้เขาก็นำมันออกมาอีกสองร้อยเกลเลียน

ตุบ!

“หืม?” เสียงของตกดังเล็กน้อยเรียกความสนใจของชายหนุ่มให้หันกลับไปมอง สายตาก็พบกับแมวเซรามิกตัวหนึ่ง ที่เขาได้มันมาตอนไปเที่ยวต่างประเทศ

“เอาไปด้วยดีกว่า” โอนิกซ์หยิบแมวนั้นติดมือมาด้วย ในใจก็วางแผนว่าจะใช้แมวตัวนี้ทำอะไรดี เพราะมันไม่ใช่แมวเซรามิกธรรมดาน่ะสิ แต่สิ่งอื่นใดเขาขอไปหาซื้อของก่อน ด้วยเนคไทกริฟฟินดอร์ของเขาหายไปไหนไม่รู้เสียแล้วจึงจำเป็นต้องมาซื้อใหม่ เดี๋ยวตอนเปิดเทอมจะไม่มีใส่กับเขา

ร้านเสื้อคลุมของมาดามมัลกิ้นส์

แม้จะไม่ใช่ช่วงเทศกาลเปิดเทอมภายในร้านมาดามมัลกิ้นส์ก็ยังมีลูกค้าเข้าเต็มร้าน ชุดนักเรียนชายลายสก็อตบ้านกริฟฟินดอร์ ที่สวมลงบนหุ่นลองเสื้อตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่มุมหนึ่งของร้าน โอนิกซ์เห็นหลายคนใส่เดินสวนกันไปมาตรงห้องโถงบ้างเหมือนกัน

“สนใจชุดนักเรียนตัวนี้หรือคะ” พนักงานภายในร้านออกมาต้อนรับโอนิกซ์ และเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มยืนมองเสื้อตัวนี้

“ใช่ครับ มีขายมั้ย”

“ตอนนี้ยังไม่มีขายค่ะ ทางเรากำลังสั่งผ้าสำหรับตัดเข้ามาอยู่ สามารถมาซื้อได้อีกครั้งตอนเปิดเทอมนะคะ” โอนิกซ์ถอนหายใจออกมาอย่างเสียดาย มีเงินแต่ก็ซื้อไม่ได้สินะ

“เข้าใจแล้วครับ ถ้าอย่างนั้นผมซื้อผ้าพันคอกับเนคไทของกริฟฟินดอร์แล้วกันครับ” โอนิกซ์เลือกซื้อผ้าพันคอกับเนคไทที่มีราคาชิ้นละ 30 เกลเลียน รวมสองชิ้นก็ 60 เกลเลียนพอดี พนักงานที่ได้ยินอย่างนั้นก็รีบไปจัดเตรียมของแล้วใส่ถุงให้ชายหนุ่มเรียบร้อย เมื่อจ่ายเงินเสร็จโอนิกซ์ก็หาซื้อของสำหรับเทศกาลคริสต์มาสเล็กน้อยจากนั้นก็กลับบ้านของเขาทันที

*********************
Onyx Morrel #BD8334


คุณ Onyx Morrel ได้แก้ไขข้อความนี้ ครั้งล่าสุดเมื่อ Dec 1 2023, 11:13 PM


Go to the top of the page
+Quote Post
Rael Cavendish
โพสต์ Dec 3 2023, 10:44 PM
โพสต์ #58


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 1

*




กลุ่ม : นักเรียนบ้านเรเวนคลอ
โพสต์ : 38
เข้าร่วม : 6-April 23
หมายเลขสมาชิก : 62,542
สายเลือด : เลือดบริสุทธิ์
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: บีช | ยาว: 12"
แกนกลาง: ขนนกฟีนิกซ์
ความยืดหยุ่น: ดัดโค้งงอเล็กน้อย

สัตว์เลี้ยง


ผู้พิทักษ์






Mission 1




ไม่รู้ว่าผ่านไปกี่ปีหรือกี่หนแล้วพี่ราเอลไม่ได้ออกมาเดินที่แถวตรอกไดแอนกอน เพียงเพราะค่อนข้างยุ่งในชีวิต วันนี้หล่อนจึงถือโอกาส เพื่อที่จะมาสำรวจสิ่งของที่ต้องใช้ สำหรับการทำงานสักหน่อย จักได้นำราคากลับไปคำนวณค่าเสียหาย ที่ต้องจ่ายไปเพื่อความคุ้มค่ากับงานที่ได้รับกลับมา ทว่าว่าวันมีเงินติดกระเป๋ามาเพียง 50 เกลเลียนเท่านั้น

หากจะนำมันไปใช้จ่ายให้เกิดผลประโยชน์ก็ย่อมได้หรอกนะ แต่ด้วยอาการตื่นโลกภายนอก เห็นอะไรก็อยากได้หมดนี่สิมันหยุดไม่ได้เลยจริง ๆ ว่าแล้วหล่อนจึงดูดลมหายใจเข้าเต็มปอด เพื่อเดินเบียดแทรกฝูงชนเข้าไปด้านในตรอกเสียที

“อู้วววว ดูนั่นสิ” ราเอลร้องออกมาด้วยเสียงหลงวันนี้มีของน่าซื้อ น่ากินเยอะแยะเต็มไปหมด หล่อนหันไปพูดกับเพื่อนคู่ขาที่มาด้วยกันวันนี้ พร้อมทั้งชี้ไปยังร้านที่บัดนี้มีหนังสือทฤษฎีเวทมนตร์ป้องกันตัววางขายอยู่เด่นหรา

“ทฤษฎีเวทมนตร์ป้องกันตัว 20 เกลเลียน” ราเอลและเพื่อนหยิบกันมาคนละเล่ม พร้อมกับ ปากกาขนนกและหมึกราคา 10 เกลเลียนขึ้นมา ของมันต้องคู่กันเพราะมีหนังสือแล้วต้องมีปากกาไว้จดบันทึกด้วย ส่วนตอนนี้เข้าเพื่อนตัวดีเริ่มเดินหาสิ่งของที่ต้องการ เราใช้เวลาในร้านค่อนข้างนานและตอนนี้คอแห้งมาก จากนั้นจึงมุ่งตัวไปหาอะไรกินกัน

เมื่อเดินกันไปได้สักพักก็ได้พบร้านไอศกรีมเล็กเป็นรถเข็นตั้งอยู่มีเด็ก ๆ ต่อแถวยาวเหยียดเพื่อลิ้มรสของมัน รวมไปถึงราเอลและเพื่อนด้วย

“เอาวนิลาและมะนาวค่ะ” เสียงใสกล่าวออกไป

“เอ่อ แต่ฉันไม่มีเกลเลียนแล้วนะ ซื้อไปหมดแล้ว” เพื่อนของราเอลพูดพลางชูสิ่งของในมือ

“อืมมม งั้นแบ่งกันกินก็ได้”ว่าแล้วไอศกรีมสองโคนถูกยื่นมาข้างหน้า จากนั้นราเอลจึงส่งให้เพื่อนเพื่อนแบ่งกันกิน จากนั้นจึงยื่นค่าไอศกรีมให้พ่อค้า 20 เกลเลียนพอดี หลังจากนั้เงินก็หมดเกลี้ยงกระเป๋า ราเอลและเพื่อนเดินสำรวจอีกสักพักก่อนที่จะชักชวนกันบ้านด้วยความสุข สนุกสนาน

_________________________________________________

Rael Cavendish #63d8ff
NPC เพื่อนสนิท #EEEEEE

Go to the top of the page
+Quote Post
Guifei Li
โพสต์ Dec 11 2023, 05:16 PM
โพสต์ #59


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 1

**




กลุ่ม : นักเรียนบ้านฮัฟเฟิลพัฟ
โพสต์ : 69
เข้าร่วม : 27-November 23
จาก : 'Nobody Knows'
หมายเลขสมาชิก : 63,325
สายเลือด : เลือดบริสุทธิ์
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: เอล์ม | ยาว: 13"
แกนกลาง: ขนยูนิคอร์น
ความยืดหยุ่น: แข็งเล็กน้อย

สัตว์เลี้ยง


ผู้พิทักษ์






Guifei Li ตรอกไดแอกอนฝั่งเหนือ#e0df84

สูดลมหายใจเข้าลึก และผ่อนปรนลมหายใจออกอย่างเชื่องช้า

ความคิดประโยคเดิมวนเวียนไปมาอยู่ในห้วงคำนึง เรียวขายาวของเด็กสาวก้าวเดินเลียบไปตามทางถนนตรอกไดแอกอนฝั่งเหนืออย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ไม่ใช่เรื่องปกตินักที่หลี่กุ้ยเฟยจะมาที่นี่ด้วยตัวคนเดียว หากจะให้นึกโทษอย่างอื่นก็คงไม่ได้ สุดท้ายมันก็เป็นเพราะความดื้อด้านของตัวเธอเองอยู่วันยังค่ำ

เงินติดกระเป๋าเพียง 50 เกลเลียนไม่ได้ทำให้เธอนึกกังวลนักแม้ควรจะรู้สึกถึงมันสักหน่อย หล่อนรู้อยู่แล้วว่าตัวเองต้องการจะมาซื้ออะไรที่นี่ ขาดเพียงความรู้ว่าร้านไหนอยู่ที่ใดเท่านั้นที่ไม่หลงเหลืออยู่เลยในหัวของเธอ เรียวขาที่ยาวเกินมาตรฐานตามอายุที่ยังน้อยไม่ได้ช่วยให้กุ้ยเฟยก้าวเดินเร็วขึ้นจาก
ที่เป็นอยู่ เธอผินใบหน้ามองไปตามร้านรวงที่ไม่ยักคุ้นเคยนัก แม้เคยมากับพ่อแม่แล้วครั้งหนึ่งก็ไม่ได้ช่วยให้อะไร ๆ ที่เป็นอยู่ดีขึ้นเท่าที่ควร

ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน เธอกลับมาสูดลมหายใจอุ่นร้อนแล้วผ่อนปรนออกมาแผ่วเบาอีกครั้ง เรียวขาทั้งสองหยุดนิ่งแล้วหันหลังมองกลับไปตามทางที่เดินมาก่อนหน้า งุนงงยิ่งกว่าเดิมเพราะเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน โชคยังดีที่เธอไม่ได้เดินเตร่กลางถนน เพียงแค่เดินเลียบทางเท่านั้นทำให้ไม่หลงพัดพาไปกับผู้คนหลากหลายกลุ่มภายในตรอก ถ้ามันเกิดขึ้นจริงคงไม่มีเวลาให้เธอได้ผ่อนลมหายใจเข้าออกแบบนี้แน่

จากส่วนสูง 170 เซนติเมตรคล้ายว่ามันจะลดลงเหลือ 140 ทันใด
Go to the top of the page
+Quote Post
Charming Winters
โพสต์ Dec 11 2023, 05:22 PM
โพสต์ #60


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 7

****




กลุ่ม : นักเรียนบ้านสลิธีริน
โพสต์ : 645
เข้าร่วม : 15-October 20
จาก : Wonderland
หมายเลขสมาชิก : 39,496
สายเลือด : เลือดผสม
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ
ล็อกเกอร์

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: แอสเพน | ยาว: 12"
แกนกลาง: ขนนกฟีนิกซ์
ความยืดหยุ่น: ดัดโค้งงอเล็กน้อย

สัตว์เลี้ยง


ผู้พิทักษ์









Noah
Quinter Winters #CA0123
ตรอกไดแอกอนฝั่งเหนือ



‘ ตาแก่เฮอร์มิสงี่เง่า มีอย่างที่ไหนผลักออกจากประตูแล้วส่งมายังตรอกแบบนี้ ’

เสียงในหัวของโนอาห์ดังขึ้นทันที หลังจากสัมผัสเย็น ๆ จากบาทาผู้เป็นพ่อหายไปจากแผ่นหลังของตน ใบหน้าคมงองุ้มลงไม่ต่างจากในทีแรก ก็คนมันกำลังเล่นกับแมว จู่ ๆ มาดึงคอเสื้อแล้วถีบมาเลยแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน

เสียงลมหายใจของเด็กหนุ่มดังขึ้นยาวเหยียดหลัง พบว่าตาแก่นั่นหย่อนใส่กระเป๋าเสื้อมาตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่ทราบ ม้วนกระดาษเหยียดตัวยาวลงจากมือสู่พื้น ทั้งที่มันก็มีแค่ไม่กี่รายการ แต่คนเขียนมันคงจะแค่อยากกวนประสาทโนอาห์เฉย ๆ หรือไม่ก็โดนเชสเชียร์เป่าหูเล่นมาอีกนั่นแหล่ะ

“ ถ้าจะเขียนมาแค่นี้ก็ไปซื้อเองเหอะ ” สิ้นเสียงบ่นอุบม้วนกระดาษถูกเก็บลงสู่กระเป๋าอีกครั้ง ก่อนที่เด็กหนุ่มจะหันไปเจอกับอะไรบางอย่างที่ดูน่าสนใจในเวลานี้ มากกว่ารายการสิ่งของกวนประสาทเหล่านั้น ไหนจะหนังสือที่ต้องเตรียมซื้อไว้สำหรับเปิดเทอมสุดท้ายของชีวิตนักเรียนฮอกวอตส์ อันน่าใจหายนั่นอีก มีเพื่อนร่วมทางซักหน่อยคงไม่เสียหายอะไร

ฝีเท้าก้าวเข้าไปใกล้ยังเด็กสาวที่คาดเดาว่าเป็นรุ่นราวคราวเดียวกัน หากดูจากความสูงที่เธอนั้นมีติดตัวมา แต่หากดูจากพฤติกรรมที่แสดงออกตอนนี้ ก็ไม่ต่างกับเด็กเด็กสาวปีหนึ่งที่กำหลังหลงทางเพราะเพิ่งเคยมาที่นี่คนเดียว รอยยิ้มก้าวถูกส่งนำออกไปก่อนที่จะเอ่ยอะไรออกไป เพื่อให้สัญญาณว่าตนนั้นมาอย่างสันติ ไม่คิดจะจี้ปล้นหรือทำร้ายร่างกายเด็กสาว ถึงเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ตอนนี้มันจะดูรุ่งริ่งไปหน่อย เพราะว่าเอากรรไกรมาตัดมันด้วยตัวเองก็เถอะ

“ นี่น้อง หลงทางหรอ ? จะไปร้านเสื้อคลุมของมาดามมัลกิ้นส์ ไปป่ะ ?”






คุณ Charming Winters ได้แก้ไขข้อความนี้ ครั้งล่าสุดเมื่อ Dec 11 2023, 06:48 PM
Go to the top of the page
+Quote Post

5 หน้า V  < 1 2 3 4 5 >
Reply to this topicStart new topic

 



RSS Lo-Fi ; ประหยัดแบนวิธ,โหลดเร็ว เวลาในขณะนี้: 28th April 2024 - 06:35 AM