IPB

ยินดีต้อนรับ ( เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก )


> The Maid คุณเมดกับคดีฆาตกรรมปริศนาในโรงแรมหรู
Doyoung
โพสต์ Jan 15 2024, 10:00 PM
โพสต์ #1


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 6

*****




กลุ่ม : รองประธานนักเรียน
โพสต์ : 803
เข้าร่วม : 18-April 10
จาก : 天堂花园
หมายเลขสมาชิก : 7,875
สายเลือด : เกิดจากมักเกิ้ล
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: แอปเปิ้ล | ยาว: 14"
แกนกลาง: ขนยูนิคอร์น
ความยืดหยุ่น: ดีและนุ่ม

สัตว์เลี้ยง


ผู้พิทักษ์






3/4



ชื่อหนังสือ: The Maid คุณเมดกับคดีฆาตกรรมปริศนาในโรงแรมหรู
ผู้เขียน: นิตา โพรส
ผู้แปล: นรา สุภัคโรจน์
ประเภท: วรรณกรรม / เรื่องสั้น (354 หน้า)
ISBN: 9786161859763


ปกหลัง

วันนี้เริ่มต้นเหมือนวันธรรมดาอีกวันที่โรงแรมรีเจนซีแกรนด์ มอลลี เกรย์ เช็ดถูทำความสะอาดห้องพักหรูอย่างตั้งใจเหมือนเช่นเคย

ทว่าเมื่อมาถึงห้องสวีต 401 เธอกลับพบว่ามีแขกคนสำคัญนอนตายอยู่บนเตียง ปริศนาสุดซับซ้อนและปัญหาอันยุ่งเหยิงจึงตามมาอีกเป็นโขยง โดยมีมอลลีเป็นจุดศูนย์กลาง เพราะหากจะมีใครค้นพบความลับซึ่งซ่อนอยู่ใต้กองฝุ่น หรือรอยนิ้วมือที่แอบแฝงในคราบสกปรกแล้วละก็ คนคนนั้นย่อมต้องเป็น “เมดมอลลี” ผู้นี้

พบกับเรื่องราวความสัมพันธ์อันวุ่นวาย การเยียวยารอยร้าวในจิตใจซึ่งแตกสลาย และการเติบโตของตัวละครที่ชวนให้ทุกคนเอาใจช่วยจนหน้ากระดาษสุดท้าย


หนังสือเล่มนี้ถูกทางค่าย Universal ซื้อลิขสิทธิ์ในการสร้างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราอาจได้เห็นหนังที่ทำจากหนังสือเล่มนี้ในอนาคตครับ

ส่วนต่อไปนี้เป็นความเห็นส่วนตัวหลังอ่านครับ

“ชีวิตย่อมมีวิธีของมันเองในการจัดการสิ่งต่างๆ ทุกอย่างจะจบลงด้วยดีในที่สุด ถ้ายังไม่ดี ก็หมายความว่ายังไม่จบ”

เคยได้ยินประโยคอย่างเช่นอะไรที่เป็นของเรา มันจะพยายามหาทางมาเป็นของเราอยู่ยังวันยังค่ำไหมครับ หนังสือเล่มนี้กับผมก็เข้าทำนองเดียวกัน จากที่คิดอยู่ว่าจะซื้อมาวางไว้บนชั้นตอนไหนดี กลับกลายเป็นว่ารู้ตัวอีกทีก็ได้มาอยู่ในครอบครองแบบไม่ทันตั้งตัว

ถึงชื่อหนังสือปกแดงเล่มนี้จะเอนไปแนวสืบสวนสอบสวน แต่เนื้อหาด้านในไม่ได้ชวนระทึกกับการตามหาตัวฆาตกร หรือมีการสืบสวนที่เข้มข้นเอาเป็นเอาตาย กลับกันหนังสือให้พื้นที่เราค่อย ๆ นั่งต่อจิ๊กซอว์ที่กระจัดกระจายเข้าด้วยกันอย่างไม่รีบร้อน จนภาพจิ๊กซอว์เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นทีละนิด พอให้ไต่ระดับความเร้าใจขึ้นมาทีละสเต็ป เรื่องราวระหว่างทางของมอลลี ชวนให้ผมสำรวจชีวิตและบทเรียนในช่วงที่ผ่านมาของตัวเองไปพร้อม ๆ กับเธอ ข้อคิดเล็ก ๆ ที่แทรกตัวเข้ามาระหว่างบรรทัด บางครั้งก็ปลอมตัวซะเนียน บางครั้งก็กระโดดมาตะโกนใส่หน้ากันโต้ง ๆ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ผมเคยผ่านหรืออย่างน้อยก็อยู่ในสถานการณ์คล้ายคลึง เลยได้หยุดนึกถึงเหตุการณ์บางอย่าง มากกว่าหยุดเพื่อตั้งคำถามและหาคำตอบที่ว่า จะว่าไปมันก็เหมาะกับการอ่านในช่วงสิ้นปีหรือต้นปีอยู่เหมือนกันนะครับ จังหวะนี่ลงตัวอย่างกับมีคนปล่อยคิว

หนังสือดำเนินผ่านมุมมองของมอลลี ตัวเอกของเราที่ไม่ถนัดการเข้าสังคมหรือการปฏิสัมพันธ์กับคน และที่สำคัญเธอมีระดับการอ่านสถานการณ์อยู่ในขั้นวิกฤตเลยแหละครับ แม้เรากับมอลลีจะพบเจอสถานการณ์ไปพร้อมกัน (เราจะรู้ข้อมูลเท่าที่เธอรู้) แต่สิ่งที่ต่างกันคือเราจะรู้สึกถึงกลิ่นตุ ๆ เมื่อมีสัญญาณไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นตั้งแต่เนิ่น ๆ อย่างที่มอลลีมีความสามารถในการตรวจจับไรฝุ่นและคราบสกปรก แต่เมื่อเป็นเรื่องของมนุษย์มอลลีกลับไม่เป็นอย่างนั้น บ่อยครั้งเราจะเห็นว่ามอลลีไม่สามารถตีความคำพูด สีหน้า ท่าทางที่แฝงด้วยนัยยะซ่อนเร้นของตัวละครออกมาได้อย่างที่ควรจะเป็น บวกกับการมองโลกแบบคิดบวกไม่เหมือนใคร ทำให้หลายครั้งเธอก็ถูกหลอกใช้ แต่ว่าก็ว่า “สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนสำหรับเรา มันก็ไม่ได้ชัดเจนสำหรับคนอื่นเสมอไป” ข่าวดีก็คือเหตุการณ์วายป่วงที่เกิดขึ้นในหนังสือเล่มนี้ กำลังเสริมสร้างประสบการณ์ให้เธอมีสกิลคัดแยกไข่ดีและไข่เน่าในชีวิต

สิ่งที่ผมค่อนข้างชอบเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้คือไดอะล็อกตัวละครอย่างมอลลี มันเป็นธรรมชาติ ตลกร้ายในบางที อ่านแล้วเผลอหลุดขำได้ยิ้มไปทีสองที (อาจจะเป็นสิ่งที่ผม relate ได้ในชีวิตด้วยแหละมั้ง) แต่ลองนึกในบริบทตัวละครเจอแบบนี้อาจออกอาการเหวอมากกว่า “อะไรของเธอคนนี้เนี่ย”

อีกพาร์ทนึงที่ผมชอบคือพาร์ทของยายมอลลี

“ยายพูดเสมอว่า ‘ชาร้อน ๆ สักถ้วยช่วยเยียวยาทุกสิ่ง ถ้าไม่ ก็อีกถ้วย’ อยากได้สักถ้วยไหมคะ?”
ผมว่าความตายด้วยอายุขัยตามธรรมชาติ เป็นสิ่งที่สุดแสนจะเรียบง่าย เป็นนัดหมายที่จะมาหาเราในสักวันหนึ่ง ผมชอบที่มันเป็นแบบนั้น และหนังสือเล่มนี้แสดงให้เห็นความเรียบง่ายนั้นผ่านตัวละครยายของมอลลี รวมถึงคนที่ยังต้องใช้ชีวิตอยู่หลังจากนั้นอย่างมอลลี ผมว่ามันเป็นสถานการณ์ที่เขาเขียนออกมาแล้วจับต้องได้ โหวงในใจบ้างนิดหน่อยในบางที เท่าที่ตัวอักษรจะทำหน้าที่ของมันได้

สิ่งสุดท้ายคือการที่หนังสือสะท้อนให้เห็นว่ามนุษย์เราเป็นสิ่งที่ซับซ้อน ไม่เว้นแม้แต่มอลลีที่มีบุคลิกซื่อตรงที่สุดในเรื่อง หลายครั้งเราก็ไม่รู้จะแสดงออกหรือพูดอะไรในสถานการณ์บางอย่าง และบางครั้งคนเราก็อยากได้ยินอะไรที่เขาอยากได้ยินหรือคาดหวังไว้ก็เท่านั้น

เป็นหนังสือที่ไว้อ่านเพื่อความเพลิดเพลินก็ดี อ่านเอาข้อคิดก็ไม่เลว แล้วก็อาจจะเหมาะกับการเป็นของขวัญให้ใครสักคนเช่นกัน

ต้องขายหนังสือไหมครับ ถ้าต้องขายงั้นผมจะปิดด้วยประโยคที่ว่า มาเอาใจช่วยมอลลีไปจนจบหน้าสุดท้ายกันครับ เพราะเราอาจจะไม่ได้แค่ความจริงของเบื้องหลังเหตุฆาตกรรม แต่อาจจะได้รอยยิ้มเล็ก ๆ ระหว่างทาง ข้อคิดบางอย่าง หรือความรู้สึกที่เหมือนถูกปลอบอยู่กลาย ๆ แบบบอกไม่ถูก เป็นของฝากติดกลับไปด้วยเมื่อหน้าสุดท้ายของหนังสือถูกปิดลง

Go to the top of the page
+Quote Post

โพสต์ในหัวข้อนี้


Closed TopicStart new topic

 



RSS Lo-Fi ; ประหยัดแบนวิธ,โหลดเร็ว เวลาในขณะนี้: 8th May 2024 - 09:37 PM