IPB

ยินดีต้อนรับ ( เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก )


 
Closed TopicStart new topic
> กฎหมายแรพพาพอร์ต
Credence
โพสต์ Jul 22 2022, 12:10 AM
โพสต์ #1


ผู้ช่วยบรรณารักษ์ | บรรณาธิการเพิงโหยหวน

****




กลุ่ม : บรรณารักษ์
โพสต์ : 447
เข้าร่วม : 13-October 16
หมายเลขสมาชิก : 29,569
สายเลือด : เลือดผสม
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: สน | ยาว: 14"
แกนกลาง: ขนหางเธสตรอล
ความยืดหยุ่น: แข็ง

สัตว์เลี้ยง


ผู้พิทักษ์








Rappaport’s Law
กฎหมายแรพพาพอร์ต เผยแพร่ครั้งแรกบน วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2559




ในปี ค.ศ. 1790 ประธานลำดับที่สิบห้าของสภาเวทมนตร์แห่งสหรัฐอเมริกา (หรือมาคูซา) เอมิลี่ แรพพาพอร์ต ได้ประกาศให้มีการใช้กฎหมายแรพพาพอร์ตที่บัญญัติขึ้น เพื่อแบ่งแยกผู้วิเศษและชุมชนโนแมจ1ออกจากกันอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้มูลเหตุที่ทำให้มีการประกาศใช้กฎหมายดังกล่าว เป็นผลสืบเนื่องมาจากการละเมิดบทบัญญัติปกปิดความลับพ่อมดแม่มดนานาชาติในระดับรุนแรง ทำให้มาคูซาต้องเสียหน้าจากการถูกตำหนิโดยสมาพันธ์พ่อมดนานาชาติ และผลกระทบยิ่งร้ายแรงขึ้นไปอีกเมื่อการละเมิดบทบัญญัติ มีต้นเหตุมาจากเรื่องภายในของมาคูซาเสียเอง

กล่าวโดยสังเขป ความหายนะที่เกิดขึ้นนั้นเกี่ยวข้องกับดอร์คัส ทเวลฟ์ทรีส์ (Dorcus Twelvetrees) บุตรสาวของอริสโตเติล ทเวลฟ์ทรีส์ (Aristotle Twelvetrees) ชายที่ฉลาดรอบรู้มากความสามารถ ผู้ดูแลรักษาสมบัติและดรากอต2 ที่เชื่อถือได้ของประธานแรพพาพอร์ต ดอร์คัสนั้นเป็นพวกสวยแต่ไร้สมอง เธอเคยเป็นนักเรียนรั้งท้ายที่น่าสงสารขณะศึกษาอยู่ที่อิลเวอร์มอร์นี เธอเอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน แทบไม่เคยใช้เวทมนตร์ สนใจอยู่กับการแต่งตัว ทำผมและงานปาร์ตี้ ขณะที่พ่อของเธอกำลังรุ่งโรจน์และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน

วันหนึ่งขณะออกไปปิกนิกในละแวกบ้านดอร์คัสเกิดหลงเสน่ห์โนแมจรูปงามที่ชื่อว่า บาร์โทโลมิว แบร์โบน (Bartholomew Barebone) เข้าอย่างเต็มเปา ดอร์คัสไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วบาร์โทโลมิวเป็นทายาทของสเคาเรอร์3 แม้ครอบครัวของบาร์โทโลมิวจะไม่มีเวทมนตร์เลยก็ตาม แต่ความเชื่อในเรื่องเวทมนตร์ของเขากลับฝังลึกและยากที่จะทำให้สั่นคลอน เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นที่ว่าผู้วิเศษทุกคนล้วนชั่วร้าย

โดยไม่ได้ตระหนักถึงอันตรายที่จะตามมาแม้แต่น้อย ดอร์คัสที่ปลื้มกับการที่บาร์โทโลมิวให้ความสนใจอย่างสุภาพต่อ ‘กลวิเศษเล็ก ๆ’ ของเธอ ได้เปิดเผยที่ตั้งซึ่งถูกปกปิดเป็นความลับของทั้งมาคูซาและอิลเวอร์มอร์นี รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับสมาพันธ์พ่อมดนานาชาติ และมาตรการการป้องกันที่พวกเขาใช้เพื่อปกป้องและปกปิดชุมชนผู้วิเศษ โดยที่บาร์โทโลมิวไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเล่ห์เหลี่ยมใด ๆ ในการหลอกถาม

หลังรวบรวมข้อมูลมากที่สุดเท่าที่จะมากได้จากดอร์คัส บาร์โทโลมิวก็ขโมยเอาไม้กายสิทธิ์ที่เธอนำมาให้เขาดูอย่างเต็มใจไปเร่แสดงต่อสื่อมวลชนให้ได้มากที่สุด จากนั้นก็รวบรวมพรรคพวกออกไล่ล่าและกวาดล้างแม่มดพ่อมดทุกคนในละแวกใกล้เคียง นอกจากนี้ บาร์โทโลมิวยังแจกจ่ายใบปลิวที่ระบุแหล่งชุมนุมและอยู่อาศัยของเหล่าผู้วิเศษ รวมถึงส่งจดหมายไปยังกลุ่มโนแมจที่มีอำนาจ ซึ่งบางคนคิดว่ามีความจำเป็นต้องสืบสวนว่ามี ‘การชุมนุมทางไสยศาสตร์ชั่วร้าย’ เกิดขึ้นในพื้นที่ที่ระบุไว้ในใบปลิวจริงหรือไม่

ด้วยความหมกมุ่นกับภารกิจที่ต้องการเปิดโปงและกำจัดชุมชนผู้วิเศษในอเมริกา บาร์โทโลมิว แบร์โบนได้กระทำเกินกว่าเหตุ ด้วยการใช้อาวุธยิงเข้าใส่กลุ่มคนที่เขาเชื่อว่าเป็นพ่อมดของมาคูซา แต่ปรากฏว่าพวกเขาเป็นกลุ่มโนแมจโชคร้ายที่เดินออกจากอาคารต้องสงสัยระหว่างที่บาร์โ
ทโลมิวกำลังเฝ้าดูอยู่ เคราะห์ดีที่เหตุการณ์ครั้งนั้นไม่มีผู้เสียชีวิต และบาร์โทโลมิวถูกจับกุมตัวและจำคุกในข้อหาก่ออาชญากรรม โดยที่มาคูซาไม่จำเป็นต้องเข้ามาจัดการ นับว่าเป็นความโล่งใจอย่างยิ่งของมาคูซา ที่ต้องพยายามอย่างหนักเพื่อรับมือกับผลกระทบครั้งใหญ่ อันเกิดจากความประมาทเลินเล่อของดอร์คัส

บาร์โทโลมิวได้แจกจ่ายใบปลิวของเขาออกไปมากพอ มีหนังสือพิมพ์สองสามฉบับเชื่อเขาอย่างจริงจังถึงขั้นตีพิมพ์ภาพไม้กายสิทธิ์ของดอร์
คัส พร้อมระบุใต้ภาพว่า ‘ดีดแรงเหมือนตัวล่อ’ ถ้าถูกโบก อีกทั้งที่ตั้งของอาคารมาคูซายังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ทำให้พวกเขาต้องย้ายสถานที่ในเวลาต่อมา ส่วนประธานแรพพาพอร์ตก็ถูกบีบคั้น ให้ต้องแถลงต่อสมาพันธ์พ่อมดนานาชาติในการไต่สวนที่เผยแพร่เป็นสาธารณะ โดยที่เธอเองก็ไม่อาจแน่ใจได้เลยว่า ทุกคนที่ล่วงรู้ข้อมูลเกี่ยวกับดอร์คัสถูกลบความจำหมดแล้วหรือยัง การรั่วไหลของความลับครั้งนี้นับเป็นเรื่องร้ายแรงมาก รวมถึงสร้างผลกระทบที่ตามมาอีกหลายปีนับจากนั้น

แม้จะมีการเรียกร้องมากมายจากชุมชนผู้วิเศษให้ดอร์คัสรับโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือรุนแรงถึงขั้นโทษประหาร ทว่าดอร์คัสติดคุกเพียงปีเดียวเท่านั้น ด้วยความอับอายและช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอจึงปลีกตัวออกไปอาศัยอยู่กับผู้วิเศษในชุมชนต่างถิ่น ใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวไปวัน ๆ มีเพียงกระจกและนกแก้วเป็นสหายที่เธอรักมากที่สุด

ความประมาทเลินเล่อของดอร์คัสนำมาซึ่งการประกาศใช้กฎหมายแรพพาพอร์ต โดยกฎหมายดังกล่าว บังคับให้มีการแยกชุมชนโนแมจและชุมชนผู้วิเศษออกจากกันอย่างสิ้นเชิง พ่อมดแม่มดไม่ได้รับอนุญาตให้ผูกมิตรหรือแต่งงานกับโนแมจอีกต่อไป บทลงโทษของการผูกมิตรกับโนแมจนั้นรุนแรงมาก และการติดต่อสื่อสารกับโนแมจ ยังถูกจำกัดเฉพาะเมื่อยามจำเป็นที่ต้องทำกิจวัตรประจำวันเท่านั้น

นอกจากนี้ กฎหมายแรพพาพอร์ตยังตอกย้ำข้อแตกต่างทางวัฒนธรรมข้อสำคัญ ระหว่างชุมชนผู้วิเศษอเมริกันกับยุโรป ในโลกเก่า รัฐบาลเวทมนตร์มักมีการกำหนดระดับความร่วมมือและการติดต่อสื่อสารกับรัฐบาลโนแมจ ขณะที่มาคูซา (หรือ สภาเวทมนตร์แห่งสหรัฐอเมริกา) ดำเนินการและทำตัวเป็นเอกเทศจากรัฐบาลโนแมจอย่างสิ้นเชิง ต่างจากในยุโรปที่อนุญาตให้พ่อมดแม่มดสามารถสมรสและผูกมิตรกับโนแมจได้อย่างอิสระ ทั้งนี้ เห็นได้ชัดว่าผู้วิเศษชาวอเมริกามองว่าโนแมจเป็นเหมือนศัตรู ที่นับวันจะเป็นภัยคุกคามมากขึ้น หรือกล่าวโดยสรุปได้ว่า กฎหมายแรพพาพอร์ตเป็นกฎหมายที่ผลักดันให้ชุมชนผู้วิเศษอเมริกัน ผู้ซึ่งต้องรับมือกับโนแมจที่ขี้ระแวงอยู่แล้วเป็นทุน ถูกปกปิดซ่อนเร้นมากยิ่งขึ้นไปอีก



เชิงอรรถ
QUOTE
1 โนแมจ คือคำที่ผู้วิเศษชาวอเมริกันใช้เรียกผู้ที่เกิดจากคนธรรมดาที่ไม่มีเวทมนตร์ และไม่มีความสามารถทางเวทมนตร์ทุกประเภท (ในชุมชมผู้วิเศษอังกฤษจะเรียกคนกลุ่มนี้ว่า มักเกิ้ล)

2 ดรากอต คือสกุลเงินของผู้วิเศษชาวอเมริกัน และผู้ดูแลรักษาสมบัติและดรากอต มีตำแหน่งเทียบเท่ากับเลขาธิการกระทรวงการคลัง

3 สเคาเรอร์ คือกลุ่มผู้วิเศษที่รับจ้างล่าผู้วิเศษด้วยกันเอง


ข้อมูลจาก Wizarding World

รวบรวมโดย ฮอกวอตส์ไทย (http://hogwartsthai.com)
หากนำข้อมูลนี้หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อมูลนี้ไปเผยแพร่ กรุณาให้เครดิตฮอกวอตส์ไทยด้วย

Go to the top of the page
+Quote Post

Closed TopicStart new topic

 



RSS Lo-Fi ; ประหยัดแบนวิธ,โหลดเร็ว เวลาในขณะนี้: 28th March 2024 - 11:46 PM