IPB

ยินดีต้อนรับ ( เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก )


> ทาสแมว! ย้อนรอยอิทธิพลของแมวที่มีต่อโลกผู้วิเศษ
Credence
โพสต์ Aug 8 2017, 09:50 PM
โพสต์ #1


ผู้ช่วยบรรณารักษ์ | บรรณาธิการเพิงโหยหวน

****




กลุ่ม : บรรณารักษ์
โพสต์ : 447
เข้าร่วม : 13-October 16
หมายเลขสมาชิก : 29,569
สายเลือด : เลือดผสม
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: สน | ยาว: 14"
แกนกลาง: ขนหางเธสตรอล
ความยืดหยุ่น: แข็ง

สัตว์เลี้ยง


ผู้พิทักษ์







ทาสแมว! ย้อนรอยอิทธิพลของแมวที่มีต่อโลกผู้วิเศษ

ถึงแม้พ่อมดแม่มดจะเป็นที่จดจำให้แก่เหล่าพอตเตอร์เฮด
แต่อย่าได้ลืมอีกหนึ่งดาวเด่นของเรื่องอย่าง แมว ไปได้เชียวล่ะ



แม่มดกับแมวนั้นเป็นสิ่งที่คู่กันมานานหลายศตวรรษ และบ่อยครั้งประวัติศาสตร์ก็มักวาดภาพแมวให้เป็นตัวแทนของ 'ครอบครัว' นอกจากนี้พวกมันยังเป็นสิ่งมีชีวิต ที่สามารถช่วยเหลือเจ้านายผู้วิเศษได้เป็นอย่างดี ในหนังสือของ แฮร์รี่ พอตเตอร์ คาแรคเตอร์ที่สำคัญและเรามักพบเห็นบ่อยครั้งของบรรดาเจ้าแมวเหมียว ก็คือ ขนอันนุ่มนิ่ม, เสียงร้อง และ พวกมันก็มักจะขดตัวนอนอยู่เกือบทั้งวัน



มันก็จะแมวหน่อยๆ

ถ้าลองสังเกตุกันให้ดีเราจะพบว่า หลายต่อหลายเหตุการณ์ในเส้นเรื่องของแฮร์รี่ พอตเตอร์ แมว มักเป็นสัตว์ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึง แม้ว่าจะเพียงเล็กน้อยและยิบย่อยก็ตามที ถ้ายังนึกได้เป็นหมอกจางๆ และควัน ลองย้อนหยิบหนังสือขึ้นมาแล้วเปิดไปที่บทแรก ของ หนังสือแฮรี่พอตเตอร์ กับ ศิลาอาถรรพ์ ที่มีชื่อว่า 'เด็กชายผู้รอดชีวิต' เราจะพบว่าในบทนั้นมีการพูดถึง แมวลายตัวหนึ่งยืนอยู่ที่หัวมุมซอยพรีเว็ต ซึ่งแท้จริงแล้วแมวตัวนั้นก็คือ ศาสตราจารย์มิเนอร์ว่า มักกอลนากัล ในร่างแอนนิเมจัส หรือในหนังสือแฮรี่พอตเตอร์ กับ ห้องแห่งความลับ ครั้งที่แม่มดสาว เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ใช้เวลาเกือบครึ่งค่อนเดือนในการปรุงน้ำยาสรรพรส แต่ทว่าเธอกลับสร้างความผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อเธอดันไปเก็บเส้นผมของแมว ของ มิลลิเซนต์ บัลสโตรด นักเรียนบ้านสลิธีริน แทน ทำให้เธอต้องใช้เวลารักษาตัวอยู่ในห้องพยาบาลฮอกวอตส์นานหลายสัปดาห์ และ ต้องขอบคุณมาดามพอมฟรีย์ที่เธอไม่ซักถามอะไรเกี่ยวกับการกลายร่างครั้งนี้





นอกจากนี้เรายังพบว่าในจดหมายของลิลี่ พอตเตอร์ ที่เขียนส่งถึง ซิเรียส แบล็ก มักเป็นจดหมายที่มีเนื้อความเกี่ยวกับลูกชายของเธอ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ซึ่งมีใจความเกี่ยวกับไม้กวาด ซึ่งเป็นของขวัญวันเกิดที่ซิเรียสมอบให้แฮร์รี่ในวันเกิดครบรอบอายุหนึ่งขวบ โดยไม้กวาดดังกล่าวนั้น ลอยสูงจากพื้นเพียงสองฟุตและเกือบจะฆ่าเจ้าแมวของครอบครัวพอตเตอร์ซะแล้ว



ครุกแชงก์

อุ้งเท้าของแมวบางตัวก็มีอิทธิพลโดยตรงต่อโชคชะตาของโลกผู้วิเศษ อย่างเช่น ครุกแชงก์ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจเท่าใดนักที่ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ หนึ่งในแม่มดสาวที่ฉลาดหลักแหลมที่สุดแห่งยุค เป็นผู้ครอบครองแมวแสนพิเศษตัวนี้ ด้วยใบหน้าอันบึ้งตึงและแบนแป้นพิกล ราวกับว่ามันเคยวิ่งเอาหัวพุ่งเข้าชนกำแพงอิฐมาก่อน บวกกับขนสีน้ำตาลอมส้มของมันที่หนาและนุ่มฟู (ก็รู้กันแหละว่า เฮอร์ไมโอนี่เป็นแฟนตัวยงของผู้ที่มีผมสีแดง ครีเดนซ์ก็จะรู้สึกอกหักหน่อยนะครับ พอแปลมาถึงตรงนี้) จึงทำให้เราจะสงสัยครุกแชงก์ ว่าทำไมมันจึงพยายามไล่ล่าสแคบเบอร์ตลอดเรื่อง ซึ่งในตอนท้ายแก่นแท้ของเรื่องก็ได้ถูกเฉลยว่า สแคบเบอร์นั้นแท้จริงแล้วไม่ได้เป็นหนูเลี้ยงธรรมดานั่นเอง

และนั่นอาจจะเป็นเพราะ ครุกแชงก์ เป็นแมวที่ชาญฉลาดมาก หรือไม่อย่างนั้นก็อาจจะเป็นข่าวลือที่บอกว่า ครุกแชงก์นั้นเป็นลูกผสมระหว่างแมวกับตัวเนียเซิล เนื่องจากเนียเซิลเป็นอีกหนึ่งในสัตว์วิเศษที่ฉลาด อีกทั้งมันยังมีความสามารถลึกลับในการระบุตัวคนที่น่าสงสัยหรือไม่น่าไว้วางใจ




ก่อนที่จะออกไล่ล่าเจ้าหนูสแคบเบอร์ หรือก็คือ ปีเตอร์ เพ็ตติกรูว์ ในร่างแอนนิเมจัส ครุกแชงก์ได้มีการสื่อสารกับ ซิเรียส แบล็ก ซึ่งในขณะนั้นเขาได้แปลงร่างเป็นสุนัขสีดำตัวใหญ่ (ร่างแอนนิเมจัส) หลังจากนั้นทั้งสองก็ได้ร่วมมือกันขโมยรหัสผ่านหอพักกริฟฟินดอร์ ส่วนสิ่งที่เราได้รับจากบทเรียนครั้งนี้ ก็คือ อย่าประเมินความสามารถของแมวต่ำเกินไป และในบางครั้งหมากับแมวก็ไปด้วยกันได้นะ แล้วก็ดูจะไปด้วยกันได้ดีมากซะด้วย



คุณนายนอริส

คุณนายนอร์ริส แมวสีฝุ่นผอมกะหร่อง มีตาปูดโปนถลนสีเหลืองฉายออกมาเหมือนตะเกียงไม่ผิดแผกไปจากตาอย่างเจ้าของ คุณอาร์กัส ฟิลช์ นับได้ว่าคุณนายนอร์ริสนั้นเป็นแมวอีกหนึ่งตัวที่มีความสำคัญรองลงมาเลยก็ว่าได้ เพราะเธอสามารถสื่อสารกับฟิลช์ได้อย่างรู้ใจ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ใช้คำพูดโต้ตอบกันก็ตาม พวกเขามักทำงานร่วมกันในการเดินตรวจตามระเบียงทางเดิน และถ้าหากใครทำผิดกฎโรงเรียนให้เจ้าหล่อนเห็น มันก็จะวิ่งไปแจ้นไปตามฟิลช์มาทันที

โชคไม่ดีนักที่ในปี ค.ศ. 1992 ซึ่งเป็นปีที่ห้องแห่งความลับถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง ทำให้บาซิลิสก์หลุดออกมา การปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดกลางดึก จึงทำให้คุณนายนอร์ริสถูกสาปเป็นหิน คุณฟิลช์ที่เชื่อว่าแมวของเขาได้ตายไปเสียแล้ว ก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างบาดอารมณ์ ใบหน้าของเขาซบอยู่บนฝ่ามือ นั่งสิ้นแรงอยู่ในเก้าอี้ และ ไม่อาจมองดูคุณนายนอร์ริสได้ อย่างไรก็ดี ฟ้ามีตา โชคยังเข้าข้าง (แต่คงไม่ใช่กับนักเรียนฮอกวอตส์คนอื่น) เมื่อสุดท้ายแล้วคุณนายนอร์ริสได้รับการรักษา และหายกลับมาเป็นปกติจากสรรพคุณของต้นแมนเดรก และด้วยเหตุการณ์นี้เอง ทำให้เราทุกคนได้มองเห็นอีกด้านหนึ่งที่อ่อนโยนของอาร์กัส ฟิลช์ และบ่อยครั้งที่เขามักจะฮัมเพลงและเรียกคุณนายนอร์ริสว่า หวานใจ






อาราเบลล่า ฟิก กับ แมวของเธอ

เมื่อกล่าวถึง ผู้ที่เป็นสควิบกับแมว นอกจากความสัมพันธ์ระหว่าง อาร์กัส ฟิลช์ กับ คุณนายนอร์ริสแล้ว อาราเบลล่า ฟิก ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน บางทีการออกไปเดินเล่นกับเหล่าสัตว์เลี้ยงที่เกี่ยวข้องกับโลกผู้วิเศษ สามารถทำให้พวกเขารู้สึกถึงความเป็นพ่อมดแม่มดที่มีเวทมนตร์ขึ้นมาได้บ้างก็ได้ ใครจะรู้ล่ะ อย่างไรก็ดี แฮร์รี่ พอตเตอร์ พบว่า อาร์กัส ฟิลช์ นั้นเป็นสควิบเมื่อเขาเรียนอยู่ปีสอง และในช่วงวันหยุดหน้าร้อนก่อนขึ้นปีห้า แฮร์รี่ก็ได้พบว่าเพื่อนบ้านของเขา อย่าง อาราเบลล่า ฟิก นั้นก็เป็นสควิบด้วยเช่นกัน

เรามักได้ยินว่ามิสซิสฟิกเป็นคนที่รักแมวมาก จากคำบรรยายจากแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่มักถูกนำไปฝากอยู่กับมิสซิสฟิกบ่อยครั้ง เมื่อครอบครัวเดอร์สลีย์ต้องออกไปเที่ยวหรือทำธุระ ทุกครั้งที่เราพูดถึงมิสซิสฟิกและการปรากฏตัวของเธอแต่ละฉาก ก็มักจะมาพร้อมเรื่องแมวเสมอ อย่างเช่น ในปีแรก แฮร์รี่ได้บอกว่ามิสซิสฟิกมักจะบังคับให้เขา ดูรูปถ่ายของแมวทุกตัวที่เธอเคยเลี้ยงมา และในปีห้า ก็ได้มีฉากปะทะอารมณ์ระหว่างมิสซิสฟิกกับมันดังกัส เรื่องที่เขาละเลยหน้าที่เฝ้าเวรยามแฮร์รี่ ทำให้เกิดเรื่องผู้คุมวิญญาณขึ้น มิสซิสฟิกได้ต่อว่ามันดังกัสอย่างโกรธเคือง พร้อมกับเหวี่ยงถึงใส่อาหารแมวไปทุกส่วนของมันดังกัสทุกส่วนที่เธอสามารถเขวี้ยงถึง นอกจากนี้ ล่าสุดเธอเลี้ยงแมวไว้ด้วยกันทั้งหมดสี่ตัว ได้แก่ มิสเตอร์ทิปเปิ้ล, สโนว์วี่, มิสเตอร์พอวส์ และ ทัฟฟี




มีข้อสันนิฐานว่า โดโลเรส อัมบริดจ์ (คาดว่าเธอจะแฟนตัวยงของแมว) จะมีส่วนเกี่ยวของในการสั่งให้ผู้คุมวิญญาณโจมตีแฮร์รี่ พอตเตอร์ ในช่วงวันหยุดหน้าร้อนก่อนเปิดเทอม เนื่องจากข่าวที่แฮร์รี่เปิดเผยว่าจอมมารได้กลับมา อย่างไรก็ตาม
มิสเตอร์ทิปเปิล ลูกผสมระหว่างแมวกับตัวเนียเซิลของมิสซิสฟิก ได้เตือนเธอ ทำให้เธอสามารถแจ้งเตือนเหตุการณ์นี้ไปยัง อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ได้ทันท่วงที และด้วยความจริงข้อนี้ที่ทิปเปิลได้ประจำการอยู่ใต้ท้องรถ เพื่อเฝ้าสังเกตุการณ์อยู่ตลอดเวลา แสดงให้เห็นถึงความร่วมมืออันยอดเยี่ยม ระหว่างสควิบและสัตว์เลี้ยงของพวกเขา

เอาเป็นว่า สิ่งที่พวกเรากำลังพยายามจะบอกก็คือ พอตเตอร์น่ะ คงไม่ได้พ่ายแพ้ต่อ จอมมาร เพียงเพราะปราศจาก แมว หรอก





บทความจาก Pottermore แปลผิดพลาดประการใด ขออำไพด้วยนะครับ

Go to the top of the page
+Quote Post

โพสต์ในหัวข้อนี้


Closed TopicStart new topic

 



RSS Lo-Fi ; ประหยัดแบนวิธ,โหลดเร็ว เวลาในขณะนี้: 20th April 2024 - 06:52 AM