IPB

ยินดีต้อนรับ ( เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก )


 
Reply to this topicStart new topic
> แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี
`Zennita
โพสต์ Apr 28 2013, 11:30 AM
โพสต์ #1


ผู้จบการศึกษาฮอกวอตส์

*******




กลุ่ม : อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ
โพสต์ : 4,076
เข้าร่วม : 30-March 10
จาก : คฤหาสน์แฟนธ่อมไฮฟ์
หมายเลขสมาชิก : 7,659
สายเลือด : เกิดจากมักเกิ้ล
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: มะเกลือ | ยาว: 11"
แกนกลาง: ขนหางเธสตรอล
ความยืดหยุ่น: ยืดหยุ่นกำลังดี

สัตว์เลี้ยง








Harry Potter and the Goblet of Fire
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี





เนื้อเรื่องตอนนี้เริ่มต้นที่ความฝันของแฮร์รี่ พอตเตอร์ โดยเห็นในความฝันว่าลอร์ดโวลเดอมอร์ได้พบกับลูกสมุนของเขา ซึ่งหนีจากเงื้อมมือของแฮร์รี่ (รวมถึงซิเรียสและลูปิน) ไปได้ในเล่มที่แล้วก็คือ “หางหนอน” หรือปีเตอร์ เพ็ตติกรูว์ หางหนอนได้รับคำสั่งจากโวลเดอมอร์ให้ลักพาตัวแฮร์รี่มา เพื่อจะกลับคืนสู่อำนาจอีกครั้ง ในฝันแฮร์รี่ยังเห็นลอร์ดโวลเดอมอร์ฆาตกรรมชายแก่มักเกิ้ลผู้โชคร้าย ที่บังเอิญไปแอบได้ยินแผนการนี้เข้า แฮร์รี่สะดุ้งตื่นขึ้นพร้อมกับปวดแสบปวดร้อนที่แผลเป็นรูปสายฟ้ากลางหน้าผากของเขา แฮร์รี่กังวลเกี่ยวกับสิ่งที่ฝันเห็นและการเจ็บของแผลเป็นอีกครั้ง แต่ก็ไม่อยากส่งข่าวไปบอกซิเรียส แบล็ก พ่อทูนหัวของเขา ซึ่งกำลังซ่อนตัวอยู่เพราะกลัวว่าซิเรียสจะเป็นห่วงจนเสี่ยงกลับมาหาตน



หน้าร้อนของแฮร์รี่และควิดดิชเวิลด์คัพ

ควิดดิชเวิลด์คัพ

ปิดเทอมฤดูร้อนนี้ ครอบครัววีสลีย์มารับแฮร์รี่จากบ้านของพวกเดอร์สลีย์ในซอยพรีเว็ต เพื่อไปเข้าชมการแข่งขันควิดดิชเวิลด์คัพ ซึ่งอังกฤษเป็นเจ้าภาพในปีนั้น การแข่งขันชิงแชมป์ระหว่างไอร์แลนด์และบัลแกเรียเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ โดยเฉพาะในตัวผู้เล่นซีกเกอร์ของบัลแกเรีย วิกเตอร์ ครัม หลังการแข่งขันจบลงได้เกิดเหตุร้ายขึ้น เมื่ออดีตกลุ่มผู้เสพความตายออกมาอาละวาด และโจมตีเจ้าของที่ดินผู้เป็นมักเกิ้ลจนต้องหนีไปในเวลาต่อมา และเนื่องจากมีคนเสกตรามาร (สัญลักษณ์ของโวลเดอมอร์และกลุ่มผู้เสพความตาย) จึงทำให้ผู้ที่แตกตื่นอยู่แล้วตื่นตระหนกยิ่งขึ้น เจ้าหน้าที่กระทรวงเวทมนตร์พบว่าผู้ถือไม้กายสิทธิ์คือ วิงกี้ เอลฟ์ประจำบ้านของบาร์ตี้ เคร้าช์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่ง วิงกี้จึงถูกจับพร้อมกับไม้กายสิทธิ์ของแฮร์รี่ ซึ่งแฮร์รี่ให้การว่าเขาทำหล่นหายระหว่างชมการแข่งขัน ทำให้ บาร์ตี้ เคร้าช์ โกรธมากถึงกับไล่เอลฟ์ประจำบ้านของตนออก และทำให้เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์เริ่มโครงการรณรงค์เพื่อสิทธิเอลฟ์



การเปิดปีการศึกษาใหม่ของฮอกวอตส์และการประลองเวทไตรภาคี

บนรถไฟด่วนฮอกวอตส์

แฮร์รี่กลับมาเรียนชั้นปีที่สี่ที่ฮอกวอตส์ในปีการศึกษาใหม่ และพบอาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดคนใหม่คือ อลาสเตอร์ มู้ดดี้ ชายแก่อดีตมือปราบมารซึ่งมีนิสัยบ้าบิ่นแปลก ๆ และมีตาวิเศษที่สามารถมองทะลุผ่านทุกสิ่งได้ รวมถึงการที่เขาไม่ค่อยถูกกับเซเวอร์รัส สเนปเท่าไรนัก และดูจะเอ็นดูแฮร์รี่เป็นพิเศษจากการที่เขาช่วยแฮร์รี่ไว้หลายครั้งจากสเนป และพวกของมัลฟอย มู้ดดี้สอนนักเรียนให้รู้จักกับคำสาปโทษผิดสถานเดียว ได้แก่ คำสาปกรีดแทง คำสาปสะกดใจ และคำสาปพิฆาต หากผู้ใดใช้คำสาปเหล่านี้กับผู้อื่นมีโทษสถานเดียวคือ ถูกจองจำที่อัซคาบันตลอดชีวิต มู้ดดี้เป็นที่ชื่นชอบของนักเรียนมากจากวิธีการสอนที่ท้าทายของเขา


การประลองเวทไตรภาคี

ในปีนี้ไม่มีการแข่งขันควิดดิชระหว่างบ้าน แต่ได้มีการจัดการแข่งขันประลองเวทไตรภาคีขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากระงับไปเป็นเวลานาน เนื่องจากยอดการเสียชีวิตจากการแข่งขันสูงมาก การประลองเวทไตรภาคีเป็นการแข่งขันระหว่างโรงเรียนเวทมนตร์คาถาที่ใหญ่ที่สุด ในยุโรปสามโรงเรียน ได้แก่ ฮอกวอตส์, โบซ์บาตง และเดิร์มสแตรงก์ (จากทั้ง 11 แห่งทั่วโลก) โดยผู้ที่เข้าแข่งขันจะต้องหย่อนชื่อของตนเองลงไปในถ้วยอัคนี และถ้วยจะทำการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมด้วยความเป็นกลางที่สุด ตัวแทนของโบซ์บาตงคือ เฟลอร์ เดอลากูร์ แม่มดสาวหน้าตาสะสวยผู้มีสายเลือดครึ่งวีล่า ส่วนตัวแทนของเดิร์มสแตรงก์คือ วิกเตอร์ ครัม ซีกเกอร์ทีมชาติบัลแกเรียผู้เก่งกาจ และตัวแทนของฮอกวอตส์คือ เซดริก ดิกกอรี่ จากบ้านฮัฟเฟิลพัฟ เด็กหนุ่มหน้าตาดีและนิสัยดี คนสุดท้ายคือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ซึ่งอายุไม่ถึงเกณฑ์และได้รับคัดเลือกด้วย ทำให้ทุกคนพากันคิดว่าเขาใช้กลโกงเพื่อให้ได้เป็นตัวแทน แม้แต่รอน วีสลีย์ เพื่อนรักที่สุดของแฮร์รี่ก็ไม่เว้น เพราะรอนมีปมในใจว่าตนมักจะถูกมองข้าม ไม่เป็นที่สนใจเหมือนแฮร์รี่ ทำให้ทั้งสองโกรธกัน และไม่พูดกันเลยหลังจากนั้น แฮร์รี่ต้องหาหนทางผ่านภารกิจที่ต้องแข่งขันร่วมกับเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ เพื่อนสนิทที่เหลืออยู่ของเขา แฮร์รี่สังเกตเห็นโช แชง ซีกเกอร์จากบ้านเรเวนคลอ และแอบชอบเธออยู่


‘แม้ด-อาย’ มู้ดดี้

ภารกิจแรกปิดเป็นความลับเพื่อทดสอบความกล้าหาญของผู้เข้าแข่งขัน แต่แฮกริดแอบพาแฮร์รี่ไปดูว่าภารกิจแรกของตัวแทน คือการต่อสู้กับแม่มังกร เพื่อชิงไข่ทองคำจากมันมา (ไข่ดังกล่าวอยู่รวมกับไข่มังกรจริง ทำให้มังกรมีลักษณะดุร้ายเป็นพิเศษ) เช่นเดียวกับมาดามมักซีม อาจารย์ใหญ่แห่งวิทยาลัยโบซ์บาตง ไอกอร์ คาร์คารอฟ อาจารย์ใหญ่ของสถาบันเดิร์มสแตรงก์ ก็รู้เห็นถึงภารกิจนี้เหมือนกัน แต่เขาลักลอบเข้าไปดู ทำให้แฮร์รี่ต้องไปบอกรายละเอียดของภารกิจแรกให้เซดริก ดิกกอรี่ ด้วยเพราะคงเหลือเขาคนเดียวเท่านั้นที่ยังไม่ทราบถึงภารกิจ (ค่อนข้างแน่ใจว่า อาจารย์ใหญ่ของทั้งสองโรงเรียนจะต้องนำข้อมูลดังกล่าวไปบอกกับตัวแทนแน่นอน) แฮร์รี่ตกใจเมื่อมู้ดดี้เรียกแฮร์รี่เข้าไปพบหลังจากเห็นแฮร์รี่ทำอย่างนั้น แต่ไม่ใช่เพื่ออบรม กลับชมแฮร์รี่ที่ทำเช่นนั้น นอกจากนั้นเขายังบอกใบ้วิธีให้แฮร์รี่ผ่านภารกิจแรกอีกด้วย


พันธุ์ฮังการีหางหนาม

ก่อนที่ภารกิจแรกจะเริ่มขึ้น ตัวแทนทั้งสี่จะต้องจับฉลากหมายเลข ที่แสดงถึงพันธุ์ของมังกรที่พวกเขาจะต้องสู้จากถุงผ้าไหม แฮร์รี่จับฉลากได้หมายเลขสี่ ซึ่งเป็นมังกรพันธุ์ฮังการีหางหนาม พันธุ์ที่ว่ากันว่าอันตรายที่สุด ด้วยประสิทธิภาพของไม้กวาดไฟร์โบลต์ และความสามารถในการบินของแฮร์รี่ ทำให้เขาสามารถหลอกล่อมังกรและชิงไข่ทองคำมาได้สำเร็จ โดยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ไหล่เท่านั้น ไข่ทองคำนี้มีปริศนาที่ต้องไขเพื่อนำไปสู่ภารกิจที่สอง ภารกิจดังกล่าว สร้างความตื่นตระหนกให้แก่เพื่อนของแฮร์รี่ทั้งสองคนเป็นอย่างมาก และทำให้รอนกลับมาคืนดีกับแฮร์รี่ เพราะเขารู้แล้วว่าการแข่งขันดังกล่าวมีอันตรายต่อแฮร์รี่ขนาดไหน


สกู๊ปข่าวของริต้า สกีตเตอร์

ภารกิจที่ตามมานั้นจะจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ระหว่างนั้น ริต้า สกีตเตอร์ นักข่าวจากหนังสือพิมพ์เดลี่พรอเฟ็ต ผู้ที่ชอบเขียนข่าวบิดเบือนได้ลงข่าวป้ายสี โดยหาว่าแฮร์รี่สติไม่ดี และจับคู่เฮอร์ไมโอนี่กับแฮร์รี่ในทางเสีย ๆ หาย ๆ (เนื่องจากเฮอร์ไมโอนี่ว่ากล่าว ริต้า สกีตเตอร์ ว่าเธอเป็นคนหลอกลวง ทำให้เธอไม่พอใจ) จนทำให้แม้แต่แม่ของรอน มอลลี่ วีสลีย์เกิดความเข้าใจผิด ๆ อยู่นานกว่าความเข้าใจดังกล่าวจะได้รับการแก้ไขให้ถูกต้อง โดยตัวแฮร์รี่เองในเวลาต่อมา ขณะเดียวกันแฮร์รี่ยังไม่ค่อยสนใจจะไขปริศนาของไข่ทองคำ ที่เมื่อเปิดออกมาจะมีเสียงโหยหวนฟังไม่ได้ศัพท์เท่านั้น


ไขปริศนากับตาวิเศษ

ในเทศกาลคริสต์มาส ที่โรงเรียนฮอกวอตส์ได้จัดงานเต้นรำขึ้น แฮร์รี่รวบรวมความกล้าเพื่อขอโช แชงให้ไปงานเต้นรำกับเขา แต่เธอกลับปฏิเสธ เนื่องจากเธอรับคำชวนของเซดริกไปแล้ว แฮร์รี่จึงขอให้ ปาราวตี พาติล ไปงานเต้นรำกับเขาแทน ส่วนรอนชวน ปัทมา พาติล น้องสาวของปาราวตีไป และเฮอร์ไมโอนี่ทำให้ทุกคนประหลาดใจโดยการมากับ วิกเตอร์ ครัม ซึ่งสารภาพว่าแอบชอบและติดตามเธอมานานแล้ว แม้กระนั้น แฮร์รี่ก็ยังไม่ค่อยสนใจที่จะไขปริศนาไข่ทองคำสักเท่าไรนัก เพราะแฮกริดหายตัวไป หลังจากถูกริต้าเปิดโปงว่าเขาเป็นลูกครึ่งยักษ์ และให้ข่าวไปว่าแฮกริดอาจเป็นอันตรายต่อนักเรียนของฮอกวอตส์ ทำให้แฮร์รี่กังวลใจ แต่แฮกริดก็กลับมาทำงานได้โดยคำพูดของอัลบัส ดัมเบิลดอร์ อาจารย์ใหญ่ รวมถึงแฮร์รี่และเพื่อนของเขา แฮกริดยังบอกให้แฮร์รี่ชนะการประลองเวทให้ได้ ทำให้แฮร์รี่เริ่มพยายามไขปริศนาของไข่ทองคำ เนื่องจากไม่อยากทำให้แฮกริดผิดหวัง ระหว่างนั้น เซดริก ดิกกอรี่บอกใบ้วิธีไขปริศนาไข่ทองคำแก่แฮร์รี่ เพื่อตอบแทนที่แฮร์รี่ช่วยเขาในภารกิจแรก โดยแนะนำว่าให้เอาไข่ทองคำไปเปิดใต้น้ำ แฮร์รี่ทำตามจึงรู้ว่าภารกิจที่สองคือตัวแทนแต่ละคนจะต้องไปช่วยตัวประกัน ซึ่งก็คือคนที่ตัวเองรักมากที่สุดซึ่งถูกจับตัวไว้ใต้ทะเลสาบ


ภารกิจที่สอง

ก่อนภารกิจที่สองจะเริ่มต้นแฮร์รี่พบว่าจะต้องไปช่วยรอน ส่วนวิกเตอร์ ครัมต้องจะต้องลงไปช่วยเฮอร์ไมโอนี่ ในขณะที่เซดริกต้องลงไปช่วยโช แชง ส่วนเฟลอร์ เดอลากูร์ต้องลงไปช่วยกาเบรียลน้องสาวของเธอเอง แฮร์รี่ไม่สามารถหาวิธีที่จะลงไปใต้น้ำได้ แต่ด๊อบบี้ เอลฟ์ประจำบ้านที่แฮร์รี่เคยช่วยให้เป็นไท ได้ช่วยแฮร์รี่เอาไว้ด้วยการนำหญ้าเหงือกปลา ที่มีคุณสมบัติทำให้ผู้กินมีครีบ เหงือก และสามารถหายใจใต้น้ำได้เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงให้แก่แฮร์รี่ (ภายหลังแฮร์รี่พบว่ามันถูกขโมยมาจากห้องทำงานของสเนป) แฮร์รี่ดำลงไปช่วยตัวประกันของตัวเอง และของคนอื่นด้วยเนื่องจากคิดว่าคำใบ้ในไข่ทองคำเป็นความจริง แฮร์รี่ได้คะแนนจากกรรมการเป็นที่หนึ่ง ทำให้คะแนนรวมของเขาเท่ากับของเซดริก แม้จะมาเป็นคนสุดท้าย เนื่องจากกรรมการเห็นว่านี่เป็นการแสดงออกถึงคุณธรรม


การกลับมาของเท้าปุย

ภารกิจสุดท้ายคือตัวแทนจะต้องฝ่าด่านต่าง ๆ ในเขาวงกตซึ่งประกอบไปด้วยสัตว์ประหลาดต่าง ๆ แฮร์รี่และเซดริกไปถึงถ้วยไตรภาคีซึ่งอยู่ตรงกลางของเขาวงกตพร้อมกัน ทั้งคู่ตัดสินใจว่าในเมื่อพวกเขาร่วมฝ่าด่าน และภารกิจทั้งสามมาด้วยกัน (โดยแฮร์รี่บอกเซดริกเกี่ยวกับภารกิจแรก และเซดริกบอกใบ้แฮร์รี่เกี่ยวกับภารกิจที่สอง) จึงควรจะจับถ้วยพร้อมกัน และอย่างไรก็ตามชัยชนะก็ยังคงเป็นของฮอกวอตส์อยู่ดี



การเผชิญหน้าในสุสานและการเผยตัวของบาร์ตี้ เคร้าช์ จูเนียร์

เลือด เนื้อ และกระดูก

ถ้วยไตรภาคีนั้น ที่จริงแล้วเป็นกุญแจนำทางซึ่งพาพวกเขาทั้งสองคนไปยังสุสาน ที่ที่พวกเขาพบกับปีเตอร์ เพ็ตติกรูว์ (หรือหางหนอน) และลอร์ดโวลเดอมอร์ เซดริกถูกปีเตอร์สังหารในทันที โดยใช้คำสาปพิฆาต และกรีดเลือดของแฮร์รี่ เพื่อนำไปใช้ในการปรุงน้ำยาปลุกชีพ ทำให้โวลเดอมอร์กลับมามีร่างกายอันสมบูรณ์อีกครั้ง และสามารถจับต้องตัวแฮร์รี่ได้ เนื่องจากเวทมนตร์ป้องกันของแฮร์รี่หมดไป หลังจากที่เลือดของแฮร์รี่ถูกใช้เป็นหนึ่งในส่วนผสมของน้ำยาปลุกชีพ


ผู้เสพความตาย

ต่อมาโวลเดอมอร์เรียกบรรดาผู้เสพความตายมา ด้วยการปลุกรอยตรามารจากตัวของเขา และบังคับให้แฮร์รี่ต่อสู้กับเขาด้วยไม้กายสิทธิ์เพื่อพิสูจน์ว่า “เด็กชายผู้รอดชีวิต” ไม่เป็นอุปสรรคต่อเขาแต่อย่างใด แต่ปรากฏว่าไม้กายสิทธิ์ของทั้งสองคน กลับให้ผลแปลกประหลาดเรียกว่า “ไพรออร์ อินคานตาโต้” เนื่องจากแกนกลางไม้กายสิทธิ์ทำมาจากขนนกฟีนิกซ์ตัวเดียวกันซึ่งก็คือ ฟอกส์ ปรากฏการณ์ดังกล่าว ทำให้ไม้กายสิทธิ์ของแฮร์รี่และโวลเดอมอร์เชื่อมต่อกันด้วยลำแสงสีทอง และบังคับให้ไม้กายสิทธิ์ของโวลเดอมอร์คายคำสาปก่อนหน้าออกมา ทำให้ภาพเงาหรือวิญญาณของผู้ที่ถูกลอร์ดโวลเดอมอร์สังหารปรากฏขึ้น ได้แก่ เซดริก (แม้โรว์ลิ่งจะบอกว่าปีเตอร์เป็นคนฆ่าก็ตาม แต่เชื่อกันว่าปีเตอร์ใช้ไม้กายสิทธิ์ของโวลเดอมอร์) แฟรงก์ ไบรส์ ชายแก่มักเกิ้ลที่แฮร์รี่เห็นในฝันในตอนต้น เจ้าหน้าที่กระทรวงเวทมนตร์ เบอร์ธา จอร์กิ้นส์ รวมถึงพ่อแม่ของแฮร์รี่ ทุกคนช่วยกันบังโวลเดอมอร์เพื่อเปิดทางให้แฮร์รี่หนี แฮร์รี่หนีมาจากบรรดาผู้เสพความตาย พาร่างไร้ชีวิตของเซดริก ดิกกอรี่กลับมาที่ฮอกวอตส์ได้อย่างหวุดหวิด ตามคำขอร้องของวิญญาณของเซดริก


สัจจะเซรุ่ม

เมื่อแฮร์รี่กลับมาที่ฮอกวอตส์อีกครั้ง ท่ามกลางความงงงวยจากการหายตัวไปของเขา อาจารย์สอนวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดและอดีตมือปราบมาร ศาสตราจารย์มู้ดดี้เป็นผู้พาเขาขึ้นไปบนปราสาท แล้วเผยตัวว่าเป็นผู้เสพความตาย และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้ตั้งแต่เอาชื่อแฮร์รี่ไปใส่ถ้วยอัคนี นำแฮร์รี่มาจนถึงภารกิจสุดท้าย และทำให้แน่ใจว่าแฮร์รี่จะได้เผชิญหน้ากับโวลเดอมอร์ ในขณะที่มู้ดดี้กำลังจะสังหารแฮร์รี่นั้น ดัมเบิลดอร์ มักกอนนากัล และสเนป ก็ได้บุกเข้ามาในห้องทำงานของมู้ดดี้และหยุดเขาไว้ ด้วยความช่วยเหลือของสเนป ภายหลังดัมเบิลดอร์จึงสืบสวนมู้ดดี้ที่ถูกจับไว้ด้วยสัจจะเซรุ่ม แฮร์รี่พบว่าแท้จริงแล้วมู้ดดี้ที่อยู่ตรงหน้าเขาคือ บาร์ตี้ เคร้าช์ จูเนียร์ สมุนผู้จงรักภักดีต่อโวลเดอมอร์ และปลอมตัวเป็นมู้ดดี้โดยใช้น้ำยาสรรพรส ส่วนศาสตราจารย์มู้ดดี้ตัวจริงนั้น ถูกบาร์ตี้จูเนียร์ซ่อนเอาไว้ในหีบวิเศษมาตลอดทั้งปี


การเริ่มต้น

หลังจากที่ดัมเบิลดอร์ทราบแน่ชัดแล้วว่าโวลเดอมอร์กลับคืนชีพอีกครั้ง จึงเริ่มรวบรวมสมาชิกและจัดตั้งภาคีนกฟีนิกซ์ขึ้นมาใหม่ ในขณะที่มีการเปิดเผยว่าคาร์คารอฟ อาจารย์ใหญ่ของเดิร์มสแตรงก์ และสเนปเคยเป็นผู้เสพความตายมาก่อน บาร์ตี้ เคร้าช์ จูเนียร์ถูกผู้คุมวิญญาณจุมพิตดูดวิญญาณออกไปเสียก่อน ที่จะให้การอีกครั้งกับรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ คอร์นีเลียส ฟัดจ์ เขาปฏิเสธคำกล่าวของดัมเบิลดอร์และแฮร์รี่ที่ว่าโวลเดอมอร์กลับมาแล้ว แฮร์รี่ถือเป็นผู้ชนะในการแข่งขันประลองเวทไตรภาคี และได้รับรางวัลหนึ่งพันเกลเลียน แต่เขาไม่ยินดีกับมันแม้แต่น้อย เขาพยายามมอบรางวัลทองพันเกลเลียนให้พ่อแม่ของเซดริก แต่ทั้งคู่ไม่รับ แฮร์รี่จึงมอบให้กับเฟร็ดกับจอร์จ วีสลีย์แทน เพื่อเป็นทุนในการตั้งร้านขายของเล่นเกมกลวิเศษวีสลีย์ ส่วนเฮอร์ไมโอนี่ก็จับได้ว่าสกีตเตอร์ที่ลงข่าวให้ร้ายพวกเขามาตลอด แท้จริงแล้วหาข่าวโดยการแปลงเป็นแมลงปีกแข็ง ซึ่งแสดงว่าเธอเป็นแอนิเมจัสที่ไม่ได้จดทะเบียนอันเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เธอจึงขังริต้าไว้ในขวดเป็นการแก้แค้น และขู่ไม่ให้ริต้าเขียนข่าวแลกกับการเก็บความลับเรื่องนี้ และปีการศึกษาของฮอกวอตส์ชั้นปีที่สี่ของแฮร์รี่ก็จบลง ไม่ว่าจะเป็นจากความกลัว หรือโกรธของฟัดจ์ ส่งผลให้ดัมเบิลดอร์ถูกปลดออกจากตำแหน่งสำคัญ ๆ หลายตำแหน่งในโลกผู้วิเศษ และมอบชื่อเสียให้กับแฮร์รี่และดัมเบิลดอร์ในหนังสือเล่มต่อมา...

ข้อมูลจาก Wizarding World และ Wikipedia

รวบรวมโดย ฮอกวอตส์ไทย (http://hogwartsthai.com)
หากนำข้อมูลนี้หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อมูลนี้ไปเผยแพร่ กรุณาให้เครดิตฮอกวอตส์ไทยด้วย

Go to the top of the page
+Quote Post

Reply to this topicStart new topic

 



RSS Lo-Fi ; ประหยัดแบนวิธ,โหลดเร็ว เวลาในขณะนี้: 28th March 2024 - 07:39 PM