IPB

ยินดีต้อนรับ ( เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก )


 
Reply to this topicStart new topic
> [FIC HARRY] Forbidden Love รักต้องห้ามของคุณชายเลือดบริสุทธิ์, Dramione [Draco x Hermione]
Nithinggle
โพสต์ Apr 23 2016, 12:02 AM
โพสต์ #1


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 1

**




กลุ่ม : นักเรียนบ้านสลิธีริน
โพสต์ : 56
เข้าร่วม : 10-April 16
จาก : อังกฤษ
หมายเลขสมาชิก : 28,748
สายเลือด : เลือดผสม
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: -- | ยาว: --
แกนกลาง: --
ความยืดหยุ่น: --

สัตว์เลี้ยง






Title: Forbidden Love
Author: Nithingle [oporiscomming]
Category: Romantic
Pairing: Dramione





[FIC HARRY] Forbidden Love รักต้องห้ามของคุณชายเลือดบริสุทธิ์


"ความรักของเรามันเป็นไปไม่ได้หรอก เดรโก"
"ต้องได้สิ เพราะฉันรักเธอไงละ เฮอร์ไมโอนี่"

TALK TALK ..... *
สวัสดีค่า ปอเองนะคะ เป็นคนเขียนเรื่องนี้เองค่า เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เขียนนะคะ
ลงไว้ทั้งในเด็กดีแล้วก็ในนี้ค่ะ จะอัพเหมือนกันนะคะแต่ถ้าตอนไหนอัพในเด็กดีไม่ได้ก็จะอัพแต่ในนี้นะคะ
ยังไงก็ขอฝากฟิคนี้ด้วยนะคะ <3

ลิ้งค์ในเด็กดี >> http://my.dek-d.com/oporiscomming/writer/view.php?id=1458144


OPEN 8/04/16
CLOSE ???

*ฟิคเรื่องนี้ไม่ได้อ้างอิงจากในหนังสือ*



Dramione Love it <3

รักพี่เฟ ปานจะกลืนกิน (?)
Go to the top of the page
+Quote Post
Nithinggle
โพสต์ Apr 23 2016, 12:05 AM
โพสต์ #2


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 1

**




กลุ่ม : นักเรียนบ้านสลิธีริน
โพสต์ : 56
เข้าร่วม : 10-April 16
จาก : อังกฤษ
หมายเลขสมาชิก : 28,748
สายเลือด : เลือดผสม
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: -- | ยาว: --
แกนกลาง: --
ความยืดหยุ่น: --

สัตว์เลี้ยง






First Day


.
.
ชานชาลาที่เก้าเศษสามส่วนสี่



ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมวันนี้ที่ชานชาลาที่เก้าเศษสามส่วนสี่คนถึงได้เยอะขนาดนี้ เพราะตอนนี้ได้ถึงเวลาในการเปิดภาคเรียนของ ‘ฮอกวอตส์’ แล้วนั้นเอง

นักเรียนบางคนดีใจที่ได้เปิดเรียน บางคนก็เสียใจที่ต้องมาเรียน

หนึ่งในกลุ่มที่ดีใจก็คงไม่พ้นกลุ่มของเด็กชายผู้รอดชีวิต ‘แฮร์รี่ พอตเตอร์’

“แฮร์รี่!!” เด็กชายเจ้าของเรือนผมสีแดงเพลิงตะโกนขึ้น แต่ตอนนี้คงจะเรียกว่าเด็กอีกต่อไปไม่ได้แล้วเพราะความสูงของเขา เขาคือ ‘รอน วีสลี่ย์’ และแน่นอนเขาเป็นเพื่อนสนิทของ ‘แฮร์รี่ พอตเตอร์’ นั้นเอง

“ไง รอน แล้วเฮอร์ไมโอนี่ละ” เด็กชายเจ้าของแผลเป็นรูปสายฟ้าบนหน้าผากเอ่ยถาม ซึ่งแน่นอนเขาคือ ‘แฮร์รี่ พอตเตอร์’

“แฮร์รี่! รอน!” เสียงหวานของสาวผู้เป็นมักเกิ้ลและนางเอกของเรื่องดังขึ้น จะเป็นใครที่ไหนได้ เธอคือ ‘เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์’ นั้นเอง

ตอนนี้พวกเขาได้อยู่ปีที่หกกันแล้ว ด้วยความที่ไม่ได้เจอกันตั้งนานทำให้พวกเขาเริ่มพูดคุยกัน

“รอน แฮร์รี่ พวกนายได้คะแนนเท่าไหร่กันน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามเกี่ยวกับการสอบว.พ.ร.ส. ของเพื่อนทั้งสอง

“ของฉันได้ดีเยี่ยมน่ะ” แฮร์รี่ตอบกลับ

“ฉันได้แค่พอรับได้เอง” รอนตอบเสียงจ๋อย

“ทีหลังก็หัดอ่านหนังสือ เข้าห้องสมุด ตั้งใจเรียนบ้างสิยะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดให้กำลังใจรอน แต่สำหรับรอนมันเหมือนว่าเธอกำลังบ่นอะไรให้เขาฟังมากกว่า

“เธอก็พูดได้นิ เธอได้ตั้งเกินความคาดหมาย” รอนเอ่ยขึ้นก่อนที่จะเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น

พวกเขาคุยกันไปเรื่อยๆ จนเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะลืมไปว่าตัวเองยังไม่ได้อยู่บนรถไฟ

เฮอร์ไมโอนี่เหลือบไปมองนาฬิกาที่ติดอยู่บนผนังทางด้านซ้ายของเธอ



10.58





“รอน! แฮร์รี่! พวกเรามีเวลาสองนาทีในการหาตู้นั่งนะ” เธอรีบบอกพวกเขาก่อนที่พวกเขาทั้งสามจะไปสาย

“อะไรนะ!?” พวกเขาทั้งสองพูดพร้อมกันก่อนที่จะรีบวิ่งเข้าไปในรถไฟเพื่อหาตู้ว่างที่จะเข้าไปนั่
ง ซึ่งพวกเขาทั้งสองก็ทำสำเร็จภายในเวลาไม่ถึงสองนาที แต่เหมือนพวกเขาจะลืมอะไรไว้


.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เฮอร์ไมโอนี่ ยังไงละ


***


ตึ้กๆ





เสียงฝีเท้าของเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังวิ่งอย่างสุดความสามารถเพื่อที่จะตามหาเพื่อนสอง
คนที่ทิ้งเธอไปง่ายๆ เธอวิ่งมาถึงตู้ๆหนึ่งที่เหมือนว่าจะเป็นตู้ของเพื่อนทั้งสอง แล้วเธอก็เจอแล้วด้วย

เธอรีบวิ่งเข้าไปและปิดประตูทันที พร้อมหย่อนตัวนั่งลงบนเบาะเพราะความเหนื่อยที่ได้จากการวิ่ง

แต่เธอก็ไม่ทันจะได้สังเกตว่าในตู้นี้ไม่มีเพื่อนของเธอ มีเพียงแต่บุคคลที่เธอไม่อยากเจอมากที่สุด…






“เธอมาทำอะไรที่ตู้ของฉัน ยัยเลือดสีโคลนโสโครก” เสียงยานคางที่คุ้นเคยดังขึ้น ทุกคนคงเดากันไม่ผิด เขาคือเจ้าของดวงตาสีฟ้าอ่อนซีดและพระเอกของเรื่อง นั้นคือ ‘เดรโก มัลฟอย’

แต่วันนี้เขามาแบบแปลกๆ สมุนทั้งสอง แครบกับกอยล์ ไม่ได้อยู่กับเขา

“มัลฟอย!?” เฮอร์ไมโอนี่ถึงกับตกใจจนอ้าปากค้าง ที่เห็นเด็กผู้ชายที่ไม่น่าจะสามารถเรียกว่าเด็กได้อีกต่อไปแล้ว เพราะเขาดูโตขึ้น สูงขึ้น หล่อขึ้น มาอยู่ตรงหน้าของเธอ

“ตกใจอะไร คิดว่าฉันเป็นพอตตี้หรือวีเซิ่ลงี่เง่างั้นเรอะ” เขาพูดด้วยเสียงยานคางพร้อมมองเธอด้วยสายตาเย้ยหยัน

“นาย! วิงกาเดีย เลวิโอซา!!” เธอร่ายคาถาใส่เขาทันที ทำให้ตัวของเขาลอยขึ้นจากพื้น

“ ทำอะไรของเธอน่ะ! เกรนเจอร์!” เขาพูดพร้อมมองหน้าเธอด้วยความแค้น

“ไม่เรียกว่า ‘ยัยเลือดสีโคลนโสโครก’ แล้วหรอ มัลฟอย” เธอพูดพร้อมกับฉีกยิ้มอย่างมีความสุขที่ได้จัดการคนตรงหน้าได้ แต่หารู้ไม่ความสุขอยู่กับเธอได้ไม่นานหรอก

“หน๊อย!! เอกซ์เปลล์ลิอาร์มัส!” เขาร่ายคาถาปลดอาวุธใส่เธอ ทำให้ไม้กายสิทธิ์ของเธอกระเด็นจากมือของเธอตกไปอยู่บนพื้น

ในเมื่อไม้กายสิทธิ์ไม่ได้อยู่ในมือเธอแล้ว จึงทำให้มัลฟอยที่ลอยอยู่ตกลงมาเช่นกัน แต่ไม่ทันที่เธอจะเก็บไม้กายสิทธิ์ของตัวเอง มัลฟอยก็ได้จับข้อมือเธอไว้ก่อนที่จะคร่อมเธอไว้

“จะทำอะไรของนายน่ะ มัลฟอย!” เธอร้องลั่นพร้อมกับดิ้นไปมา เพื่อที่จะได้หลุดพ้นจากเงื้อมือของผู้ชายคนนี้ แต่ก็ไม่เป็นผล

“แก้แค้นยังไงละ” เขาพูดพร้อมก้มหน้าลงมาประกบปากสีชมพูอ่อนของเธออย่างหนักแน่น เธอพยายามขัดขืนเขาโดยการดันเขาออกด้วยแรงของเธอ แต่ก็ไม่เป็นผลอยู่ดี

จูบของเขาทำให้สติของเธอกระเจิงเลยทีเดียว เรี่ยวแรงที่มีก่อนหน้านี้หายไปหมด เธอเผลอจูบเขากลับอย่างไม่รู้ตัว พวกเขาจูบกันนานจนเธอหายใจไม่ออก เขาจึงผละตัวออกมา

“หน้าอย่างเธอจูบเป็นด้วยหรอ” เขาเอ่ยถามพร้อมแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์

ใครจะไปรู้ละว่าหนอนหนังสือ อย่าง ‘เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์’ จะจูบเป็นด้วย

“ไปจูบกับเจ้าพอตตี้ หรือว่า เจ้าวีเซิ่ลกันละ” เขาถามขึ้น

“ฉันไม่ได้ไปจูบกับใครทั้งนั้น!!” เฮอร์ไมโอนี่ตอบกลับทันที
สิ่งที่เธอพูดเป็นความจริงเพราะตลอดระยะเวลาสิบหกปีที่ผ่านมาเธอยังไม่เคยคิดจะจูบใค
รเลย


ใช่แล้ว ‘เดรโก มัลฟอย’ คือจูบแรกของเธอ


เมื่อเธอพูดจบ เธอก็ได้ไปหยิบไม้กายสิทธิ์ของเธอที่ตกอยู่บนพื้นแต่ก่อนที่เธอจะได้หยิบ ก็ถูกมัลฟอยฉุดเข้าไปในอ้อมกอดของเขาเสียก่อน

“ปล่อยนะ! มัลฟอย!” เธอตะโกนลั่น ก่อนที่จะดิ้นอีกรอบแต่ก็ไม่เป็นผล มัลฟอยกอดรัดเธอแน่นขึ้นกว่าเดิม เธอเลยจัดการใช้’ฟัน’ให้เป็นประโยชน์โดยการกัดที่แขนของเขาอย่างแรง

“โอ๊ย!” มัลฟอยร้องออกมา ทำให้เธอสังเกตที่แขนมัลฟอย ก็พบว่าแขนของมีเลือดออกซิบๆ

“ขอโทษ” เธอเอ่ยอย่างแผ่วเบา ถึงมัลฟอยจะเป็นศัตรูของเธอแต่เธอก็ไม่อยากให้ใครมาเจ็บเพราะเธอ

“ไม่ต้องมาขอโทษ คำว่าขอโทษเธอควรไปใช้กับ รอน วีสลี่ย์ คนรักของเธอดีกว่านะ เกรนเจอร์!” อยู่ๆมัลฟอยก็เกิดอารมณ์ฉุนเฉียว ให้รอนเป็นคนรักของเธอซะงั้น

เธอเลือกที่จะอธิบายให้เขาฟังว่าเธอกับรอนไม่ได้เป็นอะไรกัน เป็นการเข้าใจผิดและเธอก็ไม่ชอบให้คนมาเข้าใจผิดเรื่องเธอด้วยเนี่ยละสิ

“ไม่ต้องมาอธิบาย! ออกไป ฉันไม่อยากฟังคำแก้ตัวของเธอ!!” เขาตะโกนไล่เฮอร์ไมโอนี่ออกไป ซึ่งเธอก็ออกไปด้วยสีหน้ารู้สึกผิดและเป็นกังวลเกี่ยวกับเขา

เมื่อเธอออกไปแล้วเขาก็กระตุกยิ้มมุมปากเป็นอันพอใจ สิ่งที่เขาทำมันคือ ‘การแสดง’น่ะสิ

ทั้งหมดเป็นแผนของเขา ถึงเขาจะเจ็บจริง แต่เขาก็รู้อยู่แล้วว่าเธอจะเป็นยังไง ทำไมเขาถึงทำแบบนี้น่ะหรอ

เขาเกิดสนใจ ‘เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์’ ขึ้นมายังไงละ

***



ทางด้านเฮอร์ไมโอนี่





เธอกำลังเดินหาตู้ของเพื่อนรักทั้งสองคนที่ทิ้งเธอไปอยู่ ในระหว่างทางเธอก็ยังคงรู้สึกผิดที่ทำให้มัลฟอยบาดเจ็บจากการใช้ ‘ฟัน’ ของเธอ






‘ฉันควรขอโทษดีไหมนะ’





‘แต่เขาเป็นศัตรูกับฉันนิ’





‘ถึงเป็นศัตรูแต่ฉํนก็ไปทำร้ายเขานะ…’





‘โอเค ฉันจะไปขอโทษเขา’






เธอคิดในหัวของเธอว่าจะทำยังไงกับมัลฟอย สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะขอโทษเขา

เธอมองเข้าไปในตู้ๆหนึ่ง ก็พบว่ามันเป็นตู้ของเพื่อเธอ เธอจึงเปิดประตูและเข้าไปนั่งทันที

“เฮอร์ไมโอนี่ เธอหายไปไหนมา” รอนถามเธอด้วยสีหน้าสงสัย แต่จะให้เธอตอบเรื่องจริงคงไม่ได้ ขืนเธอบอกเรื่องจริงไป รอนต้องตามไปฆ่ามัลฟอยแน่ๆ เธอยังไม่อยากให้ใครมาตายเพราะเธอหรอกนะ

“ฉันหลงทางน่ะ พวกเธอเล่นวิ่งมาก่อนขนาดนั้น” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ แต่มันก็จริงที่พวกเขาวิ่งไม่รอเธอเลย

“พวกเราขอโทษ” แฮร์รี่เอ่ยขอโทษด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่รู้สึกผิด ซึ่งก็สมควรที่จะรู้สึกแหละ พวกเขาทำให้เธอต้องไปอยู่กับศัตรูของเธอ เป็นเวลาเกือบครึ่งชม แล้วเขายังขโมย ‘จูบแรก’ของเธอไปอีก

“ทำไมหน้าแดงละ ไม่สบายหรอ เฮอร์ไมโอนี่ แฮร์รี่เอ่ยถามเมื่อเขาเห็น หน้าของเธอเริ่มมีสีแดงจางๆ เมื่อเธอคิดถึงเรื่อง ‘จูบ’ ของ ’มัลฟอย’

“ป่าวหรอก อากาศมันร้อนน่ะ” เธอพูดพร้อมเบือนหน้าหนีไปทางอื่น

“นี่ฉันต้องบ้าแน่ๆเลย” เธอสถบกับตัวเองเบาๆ อย่างเธอเนี่ยนะ จะนึกถึงมัลฟอย ไม่มีทาง!

“ใส่เสื้อคลุมเถอะ ถึงฮอกวอตส์แล้ว” รอนเอ่ยขึ้นหลังจากเงียบมานาน



สวัสดี ‘ฮอกวอตส์’

***


คุณ Nithinggle ได้แก้ไขข้อความนี้ ครั้งล่าสุดเมื่อ May 2 2016, 03:38 AM



Dramione Love it <3

รักพี่เฟ ปานจะกลืนกิน (?)
Go to the top of the page
+Quote Post
Nithinggle
โพสต์ Apr 23 2016, 12:28 AM
โพสต์ #3


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 1

**




กลุ่ม : นักเรียนบ้านสลิธีริน
โพสต์ : 56
เข้าร่วม : 10-April 16
จาก : อังกฤษ
หมายเลขสมาชิก : 28,748
สายเลือด : เลือดผสม
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: -- | ยาว: --
แกนกลาง: --
ความยืดหยุ่น: --

สัตว์เลี้ยง






Banquet


.
.
.
.
.
ฮอกวอตส์





“ถึงซักที” รอนเอ่ยขึ้นพร้อมกับบิดตัวไปมาเพื่อคลายความเมื่อยจากการนั่งรถยาวนานถึงห้าชั่วโมง

ตอนนี้พวกเขาได้นั่งรถไฟมาถึง ฮอกวอตส์ กันแล้ว บรรยากาศที่นี่ยังคงไม่เปลี่ยน ยังคงอบอุ่นเหมือนบ้านของพวกเขา เพราะว่าโรงเรียนคือบ้านหลังที่สองยังไงละ!

พวกเขาทั้งสามมองนักเรียนชั้นปีหนึ่งที่กำลังทำความรู้จักกัน พร้อมกับอมยิ้มไปด้วย มันทำให้พวกเขานึกถึงตอนที่ตัวเองอยู่ปีหนึ่ง

“ไปกันเถอะ” แฮร์รี่โพล่งขึ้นพร้อมกับกอดคอเพื่อนทั้งสองเดินเข้าไปในฮอกวอตส์และตรงดิ่งไปที่หอพ
ักของบ้านกริฟฟินดอร์ เพื่อที่จะไปเก็บของกัน พวกเขาเดินไปส่งเฮอร์ไมโอนี่ที่หอหญิง ก่อนที่จะไปหอของตัวเองเพื่อ

เก็บของเช่นกัน

“เฮอร์ไมโอนี่!” เสียงของเด็กสาวผมบลอนด์ดัดลอนดังขึ้น เธอคือ ‘ลาเวนเดอร์ บราวน์’ รูมเมทของเธอนั้นเอง

“ว่าไงลาเวนเดอร์” เธอเอ่ยพร้อมยิ้มให้

“วันนี้มีพิธีคัดสรรบ้านละ เธออย่าลืมลงไปนะ งานเรื่มห้าโมงนะ” ลาเวนเดอร์บอกเฮอร์ไมโอนี่อย่างรวดเร็วก่อนที่จะสะบัดตัวลงบันไดไป

“รีบไปไหนกันนะ..” เธอเอ่ยเบาๆ ก่อนที่จะจัดแจงตัวเอง และคิดในหัวว่าวันนี้เธอจะปล่อยผมหรือไปล่อยผมดี เธอเหลือบมองนาฬิกา อีกครึ่งชั่วโมงก็จะเป็นเวลาห้าโมงแล้ว

เธอจำได้ว่าเธอมาถึงตอนสี่โมงตรงนะ เธอใช้เวลาไปกับการเดินและการเก็บของตั้งครึ่งชั่วโมงเลยหรอ

“ปล่อย ไม่ปล่อย...” เธอเริ่มทำการจ้ำจี้ว่าเธอจะปล่อยผมหรือไม่ปล่อยผมดี สุดท้ายผลก็มาอยู่ที่

‘ปล่อย’

เธอค่อยๆแกะผมของเธอที่รวบอยู่ออก ผมเธอช่างงดงามและเป็นลอนสลวย เธอหันไปมองตัวในกระจก ก่อนที่จะยิ้มให้กับตัวเองและลงมา ห้องโถงใหญ่

เมื่อเธอลงมาก็ไม่เห็นแฮร์รี่กับรอน เธอเลยเดินเล่นใกล้ๆเพื่อฆ่าเวลา ในระหว่างนั้นสายตาเธอก็ได้ไปสบตากับเจ้าของผมสีบลอนด์ที่เธอพึ่งกัดเขาไปเมื่อเช้าน
ี้

เธอคิดได้ว่าเธอจะไปขอโทษเขา เธอจึงเดินไปหาชายผู้ถูกเธอทำร้ายทันที

“มัลฟอย!” เธอเรียกชายตรงหน้า

“อะไร” เขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ขอโทษนะเรื่องเมื่อเช้าน่ะ”

“ตามมานี่ เกรนเจอร์” เขาไม่ได้ให้คำตอบเธอ แต่เขากลับดึงเธอให้ตามเขามาแทน

“ พาฉันไปไหนเนี่ย” เธอถามด้วยความงุนงง

“มาเถอะน่า ฉันไม่อยากเจอพวกนั้น” เขาพูดอย่างไม่ใส่ใจ

“พวกนั้นหมายถึง แครบกับกอยล์หรอ?” เธอถาม

แต่ดูจากสีหน้าของเขาแล้วก็คงใช่ เธอเลยไม่ปริปากถามอะไรอีก

เขาพาเธอมาที่ห้องนอกโถงทางเดิน ตรงข้ามกับห้องโถงใหญ่ มันคือ ห้องเรียนหมายเลขสิบเอ็ดนั้นเอง

“เธอนี่หลอกง่ายจังนะ” อยู่ๆมัลฟอยก็ดันเธอไปติดกันผนังของห้องก่อนจะเชยคางของเฮอร์ไมโอนี่ขึ้น

“หลอกอะไร?” เธอถามเขาพร้อมกับสะบัดหน้าให้มือของเขาออกไปจากหน้าของเธอ

“เรื่องบนรถไฟเป็นแผนของฉันไง รวมถึงเรื่องที่ฉํนพาเธอมาที่ห้องนี้ด้วย” เขาฉีกยิ้มก่อนจะมองเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลเฮเซลนัทของเธอ

เขามองเข้าไปในดวงตาของเฮอร์ไมโอนี่นานจนมันทำให้เธอใจเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ

“ขอจูบอีกได้มั้ย” เขาถามขึ้น ไม่รู้เพราะว่าเขาอยากจูบเธอจริงๆ หรือว่าต้องการแก้แค้นเธอกันแน่ ข้อแรกน่าจะเป็นไปได้กว่านะ

คำตอบของเฮอร์ไมโอนี่ก็จะคงจะเดาได้ไม่ยาก เพราะคำตอบของเธอคือ

“ไม่!” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างหนักแน่น

มัลฟอยค่อยๆยื่นหน้าไปใกล้ๆ ตัวของเธอแข็งทื่ออัตโนมัติทันที

“ไม่คิดจะใช้ไม้กายสิทธิ์ช่วยหน่อยไหม” เธอรีบคลำหาไม้กายสิทธิ์ที่อยู่ใต้ผ้าคลุมของเธอทันที เธอคลำหาเท่าไรก็ไม่เจอ เธอนึกขึ้นได้ว่าเธอลืมหยิบมาจากหอพัก

“ชิ” เธอสถบเบาๆกับตัวเอง

เขาเข้ามาใกล้จนเธอได้กลิ่นหอมมาจากเขา เป็นกลิ่นน้ำหอมจางๆ

ร่างสูงจัดการบรรจงประกบริมฝีปากของเธออย่างรวดเร็วก่อนที่จะสอดลิ้นเข้ามา เธอจึงกัดลิ้นของเขาเข้าอย่างจัง

“โอ๊ย!!” เขาร้องขึ้นเป็นรอบที่สอง รอบแรกคือเมื่อเช้า เขาไม่คิดด้วยซ้ำว่าเธอจะกัดลิ้นเขา

เลือดสีแดงสดเริ่มไหลออกมาจากปากของเขาเล็กน้อย เฮอร์ไมโอนี่เรื่มรู้สึกผิดที่ไปทำร้ายเขาอีกรอบ

“ขอโทษ” เธอพูดขึ้น เขาจับปากของตัวเองเอาไว้แต่ไม่ได้ตอบอะไร

“ตามฉันมาสิ” เธอทำหน้าเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ก่อนที่จะจับมือของเขาไปที่แห่งหนึ่ง

อยู่ๆเขาก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนเขาได้รับความอบอุ่นผ่านมือของเธอ

มันเป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อน

เธอพาเขาขึ้นมายังชั้นสอง สถานที่ที่เธอพาเขามาก็คือห้องพยาบาล เธอเปิดประตูเข้ามาภายในห้องก่อนที่จะกวาดสายตาไปรอบๆก็ไม่พบ มาดามพรอมฟรีย์ เฮอร์ไมโอนี่คาดว่าเธอน่าจะลงไปที่ห้องโถงใหญ่แล้ว

“นั่งลงตรงนี้นะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดก่อนที่จะเดินไปหยิบยา

มัลฟอยนั่งลงอย่างว่าง่าย โดยที่ไม่ได้พูดอะไรได้แต่เลิกคิ้วสงสัยกับการกระทำของเธอ

“อ้าปาก” เธอบอกเขาก่อนที่จะเอายามาทาตรงลิ้นของเขา

“โอ๊ย!” เขาร้องออกมาด้วยความแสบ ตอนนี้เขายังพูดไม่ได้เพราะเดี๋ยวยาจะหายไปหมดเขาคงต้องรอประมาณห้านาที

“อย่าพูดนะเดี๋ยวจะแสบ ไหนดูแขนซิ” เธอพูดพร้อมกับทำตัวเป็นพยาบาลโดยการจับแขนเสื้อของเขาขึ้น

“ยังไม่ทำแผลอีกหรอ” เธอถามขึ้น เลือดยังคงไหลซิบๆที่แขนของเขาอยู่ เขาส่ายหน้าเบา สำหรับเขาแค่นี้ไม่จำเป็นต้องทำแผลก็ได้

“อยู่นิ่งๆนะ ถ้านายไม่ปิดแผลเชื้อโรคก็จะเข้ามาได้ อาจจะทำให้นายตายเลยก็ได้ และถ้านายตายพ่อของนายจะต้องมาบอกว่าฮอกวอตส์แย่แน่ๆ แล้วอัมบริดจ์ก็จะมาที่นี้อีกเหมือนปีที่แล้ว แต่เธอก็คงมาไม่ได้แล้วละมั้ง ถ้าเธอ
มาอีกฉันจะทำกับเธอเหมือนที่ทำในปีที่แล้ว” เธอบ่นก่อนที่จะทำแผลให้เขา

เขามองเธอโดยไม่ได้ใช้สายตาดูถูกอะไรเลย ความคิดของเขาที่จะแก้แค้นเธอได้หายไปครู่หนึ่ง

“เสร็จแล้ว” เธอพูดพร้อมยิ้มเล็กๆ

นี่เฮอร์ไมโอนี่กำลังยิ้มให้กับเขาหรอเนี่ย ? ตอนนี้หน้าของเขาเรื่มเป็นสีชมพูนิดๆ

“ขอบใจ..” เขาเอ่ยเบาๆ แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ได้ยินชัดแจ๋ว

“ไปกันเถอะ!” เธอพูดพร้อมดึงให้เขาลุกขึ้นเพื่อที่จะไปร่วมงาน

“นายก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดนะ” เธอพูดในระหว่างเดินไปที่ห้องโถงใหญ่ มัลฟอยไม่ได้ตอบอะไร ทั้งสองกำลังเข้าสู่โหมดเงียบ

พวกเขาใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีในการมาที่ห้องโถงใหญ่

“ไม่โกรธฉันหรอ เกรนเจอร์” เขาเอ่ยถาม

“ก็โกรธนะ แต่ฉันทำนายเจ็บนี่นา แล้วเจอกันนะ!” เธอตอบกลับโดยไวก่อนที่จะวิ่งไปหาเพื่อนรักทั้งสอง

“ถ้าเกิดเธอไม่ได้ทำฉันเจ็บ เธอคงไม่ดูแลฉันหรอก..” เขาบอกกับตัวเองเบาๆก่อนที่จะเดินไปที่โต๊ะของสลิธิรีนที่อยู่ตรงขวามือและเข้าไปนั่
งที่ๆแครบกับกอยล์จองไว้ให้

สายตาของเขาจ้องไปที่เด็กสาวที่นั่งอยู่โต๊ะกริฟฟินดอร์ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์

น่าแปลกใจที่เขามองไปที่เธอ



น่าแปลกใจที่เขาไม่ชอบให้เธออยู่กับแฮร์รี่และรอน



น่าแปลกใจที่เขาไม่อยากแก้แค้นเธออีกต่อไป




เขาคงไม่ได้รักเธอใช่ไหม ?

***

งานเลี้ยงเริ่มขึ้นพร้อมกับเสียงดนตรีที่เรื่มบรรเลง ทุกอย่างยังคงเหมือนเมื่อก่อนถ้าไม่นับความรู้สึกแปลกๆของ เฮอร์ไมโอนี่

ตลอดเวลาเธอได้แต่จ้องมองแผ่นหลังของมัลฟอย เหมือนกับว่าแผ่นหลังของเขาเป็นหนังสือวิธีการปรุงยาสูตรต่างๆที่เธอชอบและไม่เคยคิด
จะเบื่อเมื่ออ่านมัน

“เฮอร์ไมโอนี่ มองอะไรน่ะ” รอนถามก่อนที่จะหันไปมองตามสายตาของเธอ แต่เขาก็ต้องชะงักเมื่อเขาได้ยินเสียงหวานของน้องสาวผู้เป็นที่รักของเขา จินนี่ วีสลี่ย์

“พี่แฮร์รี่ นี่มันห้องโถงนะ” จินนี่พูดขึ้นด้วยท่าทีเขินอาย เพราะตอนนี้แฮร์รี่เพื่อนตัวดีของเขากำลังกอดน้องสาวผู้เป็นที่รักของเขาอยู่

“แฮร์รี่!” รอนหันไปตวาดใส่พร้อมกับบ่นอีกยาว

นับเป็นโชคดีของเฮอร์ไมโอนี่ที่รอนไม่หันไปมอง แต่ก็คงต้องขอบคุณรอนที่ทำให้เธอละสายตาจากมัลฟอยออกมาได้

เมื่องานจบทุกคนต่างแยกย้ายกันขึ้นห้องรวมถึงเฮอร์ไมโอนี่ด้วย

เธอได้พาจินนี่มาส่งที่ห้องก่อนที่จะขึ้นไปบนห้องตัวเองก็พบว่า ลาเวนเดอร์ รูมเมทของเธอได้หลับไปแล้ว เธอเห็นอย่างนั้นจึงจัดการไปอาบน้ำก่อนที่จะทิ้งตัวลงไปนอน และพยายามที่จะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ แต่เหมือนว่า

เธอจะลืมได้ไม่ง่ายเลย










หรือบางทีเธออาจจะตกหลุมรักเขากันนะ ?
***


คุณ Nithinggle ได้แก้ไขข้อความนี้ ครั้งล่าสุดเมื่อ May 2 2016, 03:39 AM



Dramione Love it <3

รักพี่เฟ ปานจะกลืนกิน (?)
Go to the top of the page
+Quote Post
Nithinggle
โพสต์ Apr 23 2016, 09:44 PM
โพสต์ #4


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 1

**




กลุ่ม : นักเรียนบ้านสลิธีริน
โพสต์ : 56
เข้าร่วม : 10-April 16
จาก : อังกฤษ
หมายเลขสมาชิก : 28,748
สายเลือด : เลือดผสม
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: -- | ยาว: --
แกนกลาง: --
ความยืดหยุ่น: --

สัตว์เลี้ยง






Prefect ?






8.00


เฮอร์ไมโอนี่ตื่นขึ้นมาด้วยท่าทางงัวเงีย เธอกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับโฟกัสสายตาของเธอ จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว เมื่อเธอทำธุระเสร็จเธอก็เรียกลาเวนเดอร์มาอาบต่อจากเธอ

“ลาเวนเดอร์ ไปอาบน้ำได้แล้วนะ” เธอพูดพร้อมกับเช็ดผมของตัวเอง

“จ้า” ลาเวนเดอร์ตอบก่อนที่จะวางเครื่องสำอางที่เธอกำลังอ่านสรรพคุณของมันลงบนโต๊ะข้างๆเธ
อและเดินไปเข้าห้องน้ำ

หลังจากที่ลาเวนเดอร์ไปอาบน้ำเธอก็จัดการแต่งตัวและไดร์ผมของตัวเองให้เรียบร้อยก่อน
ที่จะม้วนผมของเธอขึ้นไป

“ฉันไปละนะ!” เธอตะโกนบอกลาเวนเดอร์ที่อยู่ในห้องน้ำก่อนที่จะเดินลงมาที่ห้องนั่งเล่น

“แฮร์รี่ รอน!” เธอตะโกนเรียกเพื่อนทั้งสองที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟา

“ลงมาช้าจังนะ เธอน่ะ” รอนพูดเหน็บ เฮอร์ไมโอนี่หันมามองแรงใส่รอน จากนั้นสงครามสายตาจึงเรื่มขึ้น

“เอาหน่าพวกนาย ไปกินข้าวกัน”n แฮร์รี่พูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มก่อนที่จะกอดคอเพื่อนๆของเขาทั้งสองและเดินไปที่ห้อ
งโถงใหญ่เพื่อที่จะทานข้าวเช้ากัน

ในระหว่างที่พวกเขาทานข้าวอยู่นั้น ก็มีจรวดกระดาษพุ่งเข้ามาปักที่หัวเฮอร์ไมโอนี่

“โอ๊ย!” เธอร้องออกมา ก่อนที่จะหันไปมองว่ามันมาจากทางไหน

และมันก็คงจะเป็นทางไหนไปไม่ได้นอกจากทางโต๊ะข้างๆเธอ ‘โต๊ะสลิธิรีน’

มัลฟอยยักคิ้วให้เธอ เธอทำหน้าบึ้งใส่มัลฟอยทันทีทำให้มัลฟอยหลุดขำออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาหลุกขำ ตั้งแต่เธอมาเรียนที่นี้เธอก็ไม่เคยเห็นเขาหลุดขำออกมาเลย

เธอหยิบกระดาษที่ถูกพับเป็นจรวดก่อนทีจะคลี่มันออกมา



‘ว่าไง ยัยบ้า’



เธอขยำมันทิ้งก่อนที่จะหันไปมองแรงใส่มัลฟอย เขาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ก่อนที่จะหันกลับไปคุยกับแครบและกอยล์

เมื่อพวกเขากินทานข้าวเสร็จ พวกเขาทั้งสามคนก็พากันไปเรียนวิชาแรก นั้นก็คือ วิชาปรุงยา นั้นเอง

ในระหว่างที่เดินไปที่คุกใต้ดิน แฮร์รี่ก็พูดอะไรบางอย่างขึ้น

“วันนี้กริฟฟินดอร์กับสลิธีรีน เรียนด้วยกันนะ เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่เอ่ยบอกเพื่อนสาวของเขา

“สงสัยศาสตราจารย์ดับเบิ้ลดอร์ อยากจะเห็นเด็กทะเลาะกัน ที่ให้พวกเราไปเรียนกับพวกนั้น” รอนพูด

“ศาสตราจารย์ดับเบิ้ลดอร์ เขาคงมีเหตุผลนั้นแหละ” เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้น ทำให้รอนรู้สึกเหมือนเขาไปใส่ร้ายดับเบิ้ลดอร์ยังไงอย่างนั้น

“เหตุผลก็คือ มันใกล้จะถึงการแข่งควิดดิชแล้ว ศาสตราจารย์ดับเบิ้ลดอร์เลยอยากให้รีบเรียน เดี๋ยวจะเรียนไม่ทันในการสอบเลื่อนชั้นน่ะสิ” แฮร์รี่เอ่ย

เธอพยักหน้าตอบเขา ถึงเธอจะคิดว่าเหตุผลมันไม่ได้เกี่ยวกันก็เถอะ

เมื่อถึงห้องเรียนวิชาปรุงยา ทั้งสามคนก็ได้เลือกที่จะนั่งแถวหน้าสุด ซึ่งเป็นที่ประจำของพวกเขา

“อะแฮ่ม! ก่อนเรียนวันนี้ฉันมีสารจากศาสตราจารย์ดับเบิ้ลดอร์” สเนปกระแอมที่นึงก่อนที่จะพูดต่อไป

“จะมีการเปลี่ยนพรีเฟ็คของบ้านเล็กน้อย พรีเฟ็คของบ้านกริฟฟินดอร์ คือคุณเกรนเจอร์และคุณวีสลี่ย์”

นักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์ต่างปรบมือแสดงความยินดีให้กับรอนและเฮอร์ไมโอนี่ ส่วนรอนกับเฮอร์ไมโอนี่ถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกใจ แต่เมื่อสเนปประกาศของทางบ้านสลิธีรีนก็ต้องตกใจยิ่งกว่า

“ส่วนบ้านสลิธิรีนคุณมัลฟอยและคุณพาร์กินสัน”

เฮอร์ไมโอนี่ตกใจมากกว่าเมื่อกี้นี้อีก เมื่อรู้ว่า ‘เดรโก มัลฟอย’ ได้ถูกเลือกให้เป็นพรีเฟ็ค

“เดรโก เราได้อยู่ด้วยกันแล้วนะ” แพนซี่เรียกมัลฟอยเสียงแหลมพร้อมมาเกาะแกะ

“เธอไม่มีสิทธิ์มาเรียกฉันว่าเดรโก เอามือของเธอออกไปซะ” มัลฟอยพูดอย่างเบื่อหน่าย เขาไม่ชอบให้ใครมาเรียกเขาด้วยชื่อถ้าไม่สนิทกับเขาจริงๆ

“คุณพาร์กินสัน ฉันยังพูดไม่จบ” สเนปหันไปจิกแรงใส่แพนซี่ ก่อนที่เขาจะพูดต่ออีกรอบหนึ่ง

“สาเหตุของการเปลี่ยนพรีเฟ็คของแต่ละบ้านก็เพราะพรีเฟ็คคนเก่าทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ศาสตราจารย์ดับเบิ้ลดอร์อยากให้พวกเธอรู้โดยทันที ทำให้ฉันต้องมาบอกพวกเธอ เพราะคาบของฉันอยู่คาบแรกของวันนี้ และก็…”

“เพื่อเป็นกระชับมิตรของบ้านจะมีการจับคู่พรีเฟ็คต่างบ้านมาทำงานร่วมกันด้วยกัน คุณมัลฟอยและคุณเกรนเจอร์ต้องทำงานร่วมกันกัน รวมถึงคุณวีสลี่ย์และคุณพาร์กินสันด้วย” เสนปเอ่ยเรียบๆ

การพูดของสเนปเรียกเสียงฮือฮาภายในห้องได้มากกันทีเดียว

เฮอร์ไมโอนี่ได้แต่อ้าปากค้างกับการที่เธอต้องอยู่กับมัลฟอย มัลฟอยก็ยังคงช็อกเช่นกัน ส่วนแพนซี่ก็กรีดร้องโหยหวนออกมา รอนได้แต่ทำหน้าหยี้ไปประมาณ788รอบได้

“เอาละ เริ่มเรียนได้” สเนปพูดก่อนที่จะเริ่มสอน เฮอร์ไมโอนี่ถึงกับเรียนไม่รู้เรื่องกันเลยทีเดียว

‘นี่ฉันต้องอยู่กับเขาจริงๆหรอเนี่ย’ เธอคิดในใจ

“ฉันต้องอยู่กับแพนซี่จริงๆหรอ..” รอนกระซิบกับเฮอร์ไมโอนี่ด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าเขาไม่โอเค เธอได้แต่ยิ้มแหยะๆตอบเขาไป

“คุณเกรนเจอร์คุยทำไม ไปนั่งข้างๆคุณมัลฟอยซะ ก่อนที่ฉันจะหักคะแนนบ้านเธอ” สเนปหันมาพูดกับเฮอร์ไมโอนี่ด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ต-แต่” ก่อนที่เธอจะได้ปริปากพูดอะไร สเนปก็ได้ตะคอกใส่เธอจนเธอต้องเดินไปนั่งอย่างโดยดี

“ว่าไงเกรนเจอร์ ชอบจดหมายที่ฉันให้ไหม” เขาถามเธอพร้อมยิ้มกวนบาทาเล็กๆ

“ชอบบ้าอะไรล่ะ….” เธอเอ่ยเบาๆตอบเขาไป เพราะกลัวสเนปจะหักคะแนนบ้านเธอ

“ต่อไปฉันจะให้พวกเธอปรุงน้ำยาตามสูตรนี้ ฉันจะให้ทำงานเป็นคู่ๆ คู่ของเธอคือคนที่นั่งอยู่ข้างๆของพวกเธอ เริ่มทำได้”สเนปเอ่ยอย่างเรียบๆก่อนที่เดินไปรอบๆห้องเพื่อเช็คว่าแต่ละคนทำถูกต้องร
ึเปล่า

ในระหว่างที่เธอตั้งใจใส่สวนผสมและคนส่วนผสมให้เข้ากัน โดยให้มัลฟอยบอกของที่ต้องการจะใส่ น้ำยาที่เธอกำลังทำก็เริ่มเดือดปุดๆและกระเด็นมาใส่มือของเธอ

“โอ๊ย!” เธอร้องก่อนที่จะจับมือตัวเอง

“เป็นอะไรรึเปล่า” มัลฟอยเบิกตาโพลงก่อนที่จะรีบเข้ามาดูมือเธอด้วยความเป็นห่วง

“เจ็บมากมั้ย” เขาถามเธอ เธอพยายามทำสีหน้าปกติเพื่อไม่ให้หน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่ก็ไม่ได้บอกอะไรออกไป

“ซีคเคอร์ซี่…” เขาร่ายคาถารักษาบาดแผลใส่เธอเบาๆกันคนอื่นได้ยิน เมื่อเขาร่ายเสร็จบาดแผลพุพองก็หายไปในพริบตา

“ขอบคุณ…” เธอเอ่ยอย่างแผ่วเบา แต่เขาก็ได้ยินชัด แจ๋ว

ไม่รู้ว่าเธอจะรู้สึกเหมือนเขารึเปล่า ?







หลายๆวันที่ผ่านมา







เขาใจเต้นทุกครั้งที่อยู่ใกล้เธอ











นั้นเรียกว่า ความรัก รึเปล่า ?


















เมื่อส่งงานให้สเนปกันเสร็จ คาบต่อไปของพวกเขาคือคาบว่าง รอนกับแฮร์รี่ตกลงกันว่าจะไปซ้อมควิดดิชกัน เธอพยักหน้ารับก่อนที่จะไปที่ห้องสมุด เพื่อที่จะค้นคว้าในเรื่องต่างๆที่เธอสนใจ ซึ่งนั้นก็เป็นปกติของเธออยู่แล้ว

แต่เธอก็ต้องเจอกับศัตรูเธออีกครั้ง

“มาทำอะไรที่นี่น่ะ มัลฟอย” เธอเอ่ยถาม

“มาตามเธอไง ศาตราจารย์บอกให้พวกเราไปแลกกันตรวจเอกสาร” มัลฟอยพูดก่อนที่จะดึงข้อมือของเธอให้ไปที่ห้องทำงานของพรีเฟ็ค เขาเดินต่อไปโดยที่ไม่ได้หันมามองหน้าที่ขึ้นสีของเธอเลย

***

เขาพาเธอมาถึงห้องทำงานของพรีเฟ็คแต่เขาก็ยังคงไม่ปล่อยมือเธอ

“มัลฟอย มือ..” เธอเอ่ยอย่างแผ่วเบาบอกเขา โดยยังคงก้มหน้าเพื่อปกปิดใบหน้าที่แดงก่ำ

“ขอโทษ” มัลฟอยรีบปล่อยอย่างเร็ว นี่เป็นครั้งแรกอีกแล้วที่เธอเห็นเขาขอโทษใครเป็นด้วย

“นายไม่ใช่มัลฟอยใช่ไหม” เธอเอ่ยถามพร้อมจับหน้าเขาให้หันมา แต่เธอก็ต้องตกใจกับใบหน้าเขาที่แดงไปถึงหู

“ฉันคือมัลฟอย เกรนเจอร์ เอามือโสโครกออกไป จากหน้าฉันเลย!” ด้วยความเขินของมัลฟอยเขาเลยตวาดใส่เธอไป ซึ่งเธอก็ไม่ได้รู้สึกอะไร จากนั้นพวกเขาเริ่มแลกกันตรวจเอกสารจนดึกดื่น

“เสร็จแล้ว” มัลฟอยพูดก่อนจะเหยียดกายนอนตรงโซฟา เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมาก่อนที่จะถาม

“นายไม่กลับหอหรอ” เธอหยุดทำงานตรงหน้าก่อนถามขึ้น

“รอเธอน่ะสิ หาว” เขาพูดพร้อมเอามือปิดปากที่กำลังหาวของเขา ใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่แดงขึ้นทันที เขาเห็นดังนั้นจึงลุกจากโซฟาเดินตรงไปที่โต๊ะที่เฮอร์ไมโอนี่ นั่งทำงานอยู่ก่อนที่จะจ้องหน้าที่แดงของเธอ แล้วค่อยๆ

เลือนไปจ้องริมฝีปากอันอวบอิ่มของเธอ

“กลับไปก่อนก็ได้” เธอพูดพร้อมก้มหน้าทำงานก่อน เธอพยายามทำเสียงปกติที่สุด

แต่เธอก้มหน้าได้ไม่นานก็โดนเขาจับคางเธอก่อนที่เขาจะบรรจงจูบเธออย่างแผ่วเบา ซึ่งมันแปลกเพราะครั้งนี้มันดูอ่อนโยนจนทำให้เธอจูบตอบกลับเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ ใจของเธอและเขาแทบจะเต้นพร้อมกันเลยทีเดียว

“ฉันรักเธอ” เขาพูดพร้อมกับบรจรงจูบอีกรอบ คำพูดของเขาทำให้เธอตกใจ จนผละเขาออก หน้าของเขาดูผิดหวังอย่างมาก

“นายชอบฉันหรอมัลฟอย!?” เธอถามอย่างตกใจ

“ฉันมีชื่อน่ะ เฮอร์ไมโอนี่” เขาไม่ได้เรียกเธอว่า เลือดสีโคลน’ หรือ ‘เกรนเจอร์’แต่เขากลับเรียกชื่อเล่นของเธอ แถมยังพูดประมาณให้เธอเรียกชื่อเขาด้วย

“อย่างที่ฉันพูดเมื่อกี้ ฉันรักเธอ” เขาพูดขึ้นและพยายามทำสีหน้าปกติที่สุดเพราะนี้เป็นครั้งแรกที่เขาสารภาพรักกับใครซั
กตน

“แล้วเธอละรักฉันไหม” เขาถามก่อนที่จะมองเข้าไปในดวงตาของเธอ

เขามองเธอแบบนี้ อีกแล้ว มองแบบทะลุปรุโปร่งนั้นทำให้เธอเขินขึ้นไปอีก

“ไม่รู้..” เธอพูดก่อนที่จะเบือนหน้าหนี เธอคิดว่ายังไงเขาก็คงต้องตวาดใส่เธอแน่เลย แต่เธอกลับคิดผิด เขาไม่ได้ตวาดใส่เธอ

“งั้นถามใจเธอก่อนแล้วกัน ฉันให้เวลาหนึ่งเดือน” เขาพูดขึ้นอย่างเรียบๆ ทำให้เธอตกใจในคำพูดของเขา

“แต่ฉันก็จะทำทุกทางให้เธอมารักฉัน” เขาพูดทิ้งท้ายพร้อมแสยะยิ้มก่อนจะเดินออกจากห้องไป

เหลือเพียงเธอที่ยังอยู่ในห้องกับงานที่ยังไม่เสร็จ







“บ้าที่สุด…” เธอสถบกับตัวเองเบาๆก่อนที่จะเอาหัวแนบโต๊ะแล้วเผลอหลับไป

***



คุณ Nithinggle ได้แก้ไขข้อความนี้ ครั้งล่าสุดเมื่อ May 3 2016, 08:09 AM



Dramione Love it <3

รักพี่เฟ ปานจะกลืนกิน (?)
Go to the top of the page
+Quote Post
Nithinggle
โพสต์ Apr 25 2016, 03:12 AM
โพสต์ #5


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 1

**




กลุ่ม : นักเรียนบ้านสลิธีริน
โพสต์ : 56
เข้าร่วม : 10-April 16
จาก : อังกฤษ
หมายเลขสมาชิก : 28,748
สายเลือด : เลือดผสม
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: -- | ยาว: --
แกนกลาง: --
ความยืดหยุ่น: --

สัตว์เลี้ยง






Field Trip ?

เช้าวันรุ่งขึ้น











เธอตื่นขึ้นมาในห้องๆเดิม ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอหลับไปตั้งแต่ตอนไหน

เธอขยี้ตาตัวเองสองสามทีก่อนจะเหลือบไปมองนาฬิกาที่แสดงถึงเวลาเก้าโมงครึ่งโชคดีที่
วันนี้เธอมีเรียนแค่คาบบ่าย

ด้วยความที่เธอขี้เกียจกลับหอ เธอเลยเดินตรงไปที่หอพักของพรีเฟ็คที่ห่างจากห้องทำงานของพรีเฟ็คไปไม่กี่ก้าว

เมื่อถึงหอพักเธอเหลือบมองป้ายเล็กน้อย เพื่อดูว่าเธอมาถูกที่รึเปล่า ก็มันเป็นครั้งแรกที่เธอมานี่นา


‘หอพักพรีเฟ็คหญิง’



เธอโล่งใจที่เธอมาถูก ก่อนที่จะเดินไปเข้าไปเข้าไปในหอพักและตรงดิ่งไปที่ห้องพรีเฟ็คหญิงบ้านกริฟฟินดอร์ท
ันที

ห้องของเธอถูกตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่น ภายในห้องมีเตียงที่ไม่มีลวดลายขนาดใหญ่กว่าตัวเธอ มีโต๊ะไม้สีเข้มกับเก้าอี้ไม้สีเข้มเช่นกัน พร้อมโคมไฟที่ทำมาจากไม้ตั้งอยู่บนโต๊ะ และยังมีสิ่งที่เธอโปรดปรานมากที่สุดนั้นก็

คือ ชั้นวางหนังสือ ที่มีหนังสือมากมายเรียงราย เธอเดินสำรวจห้องของเธอก่อนที่จะทบทวนว่าเมื่อวานเกิดอะไรขึ้นบ้าง

เมื่อวานนี้เธอได้เรียนไปคาบเดียว คาบเดียวจริงๆ เหมือนว่าเธอจะลืมเข้าเรียนเพราะเธอมั่วแต่ตรวจเอกสารกับมัลฟอยจนดึกดื่น

อยู่ๆเสียงของมัลฟอยก็ดังเข้ามาในหัวของเธอ














‘ฉันรักเธอ’











‘ฉันจะทำให้เธอรักฉัน’










เธอเริ่มหน้าขึ้นสีจากการนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เธอส่ายหัวเบาๆเพื่อไล่ความคิดนั้นออกไปก่อนที่จะเดินไปอาบน้ำ

เธออาบน้ำเสร็จก็เป็นเวลาสิบโมงพอดี เธอตัดสินใจลงไปกินข้าวที่ห้องโถงใหญ่ ซึ่งตอนนี้คนค่อนข้างจะเยอะเลยทีเดียว เพราะเป็นเวลาปกติของคนทั่วไปในการกินข้าว ส่วนมากคลาสปีอื่นจะเริ่มช้ากว่าปีเธอ มีแต่ปีเธอที่เรียน

เร็วกว่าชาวบ้านเขา แต่กลุ่มของเธอจะออกแนวเป็นพวกรักสุขภาพเลยมากินข้าวกันเช้าๆ

เธอลงมาไม่เห็นแฮร์รี่กับรอน เธอคาดว่าพวกเขาคงไปซ้อมควิดดิชกัน เธอก็ไม่ได้เอะใจอะไร

เธอเดินเข้าไปนั่งตรงโต๊ะกริฟฟินดอร์ มันไม่ใช่ครั้งแรกหรอกนะที่เธอมากินข้าวคนเดียวเนี่ย

ในระหว่างที่กำลังจะกัดขนมปังคำแรก เธอก็ต้องหยุดชะงักเสียก่อน เพราะผู้ชายที่พึ่งสารภาพรักกับเธอเมื่อวานได้เข้ามานั่งตรงข้ามเธอ พร้อมกับลูกสมุนทั้งสอง

“นี่มันโต๊ะกริฟฟิรนดอร์นะมัลฟอย” เธอเอ่ยบอกเขา แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สนใจคำพูดเธอแม้แต่น้อย

“ว่าไง เฮอร์ไมโอนี่ สองตัวนั้นไม่อยู่หรอ” เขาพูดน้ำเสียงยานครางใส่เธอ

วันนี้เขามีแครบกับกอยล์มาด้วย แต่เหมือนแครบกับกอยล์จะตกใจชื่อที่มัลฟอยเรียกเธอมาก

“มัลฟอย ทำไมถึงเรียกด้วยชื่อละ ทำไมไม่ด่ามันละ มันเป็นเลือดสีโคลนนะ!” แครบพูดขึ้นก่อนที่กอยล์จะเสริมต่อ

“ใช่ๆ ยัยเลือดสีโคลนโสโครก !”

“พวกแกไม่มีสิทธิมายุ่งเรื่องของฉัน!” มัลฟอยพูดพร้อมหันไปมองค้อนเพื่อนที่ลักษณะคล้ายลูกสมุนที่อยู่ข้างหลัง

“และไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกเธอด้วย! ไสหัวไป!!!” มัลฟอยพูดทิ้งทายก่อนที่จะหันกลับมาหา เฮอร์ไมโอนี่

กอยล์กับแครบก็ไปโดยดี แต่ก็ยังไม่วายสงสัยในการเรียกชื่อของมัลฟอย

“มัลฟอยพูดแรงไปรึเปล่า” เธอถามขึ้น

“เรียกเดรโกสิ” เขาพูดพร้อมมองหน้าเธอด้วยสายตาแป๋วๆ

“ทำไมฉันต้องเรียกชื่อนายด้วยละ” เธอถามเขา

“เพราะถ้าเธอไม่เรียกชื่อฉัน ฉันจะจูบเธอตรงนี้ไง” เขายิ้มเจ้าเล่ห์

“ก็ได้ ด-เดรโก…” เธอเอ่ยอย่างแผ่วเบา ก่อนจะรู้สึกว่ามีอะไรมาสัมผัสที่หัวของเธอ

“ดีมาก คำพูดของฉันมันไม่แรงไปสำหรับพวกนั้นหรอก” เขาลูบหัวเธอเบาๆก่อนจะพูด






นี่มันไม่ใช่เขาแล้ว !








‘เอ็งเป็นไผฟระเนี่ย’ เฮอร์ไมโอนี่กรีดร้องในใจ








“ฉันนั่งเป็นเพื่อนละกัน เป็นแฟนก็ได้นะฉันไม่ว่า” เขายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

เฮอร์ไมโอนี่นั่งก้มหน้ากินข้าวอย่างเงียบๆไม่ปริปากพูดอะไร ขืนเธอพูดไปเรื่อยๆเขาอาจจะหาอะไรมาอุดปากเธอแน่ๆ

ถึงเธอไม่เห็นว่าเขาทำอะไร แต่เธอก็สัมผัสได้ว่าเขากำลังจ้องเธอแน่ๆ

“มัลฟอย ไม่ไปกินข้าวหรอ “เธอถามทั้งๆที่ก้มหน้าอยู่

“ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าฉันมีชื่อ แล้วเวลาจะคุยนี่เขาก้มหน้าคุยกันหรอ” เขาพูดแซะเธอ

“เดรโก พอใจนายยัง” เธอพูดชื่อเขาพร้อมเงยหน้าขึ้น เธอสบตากับดวงตาสีฟ้าอ่อนซีดเข้าอย่างจัง

มัลฟอยมองเฮอร์ไมโอนี่แบบที่ไม่เคยมองใครมาก่อน ดวงตาของเขาบอกความรู้สึกได้มากมายทีเดียว










ที่เขาบอกว่า ‘ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ’ นี่ก็คงเป็นเรื่องจริงสินะ








“เธอฟังฉันอยู่รึเปล่า” เขาถามขึ้นหลังจากเห็นเธอจ้องหน้าเขาอยู่นาน

“ไม่ได้ฟังอ่ะ หูอื้อนิดหน่อย” เธอโกหกเขาไป

“ไม่ใช่เพราะ จ้องหน้าฉันอยู่หรอ” เขายิ้มเจ้าเล่ห์อีกรอบ ก่อนที่จะยื่นหน้ามาใกล้ๆ

“เดรโก นี้มันห้องโถงนะ” เธอบอกกับเขาก่อนจะดันเขาออกไป

ถ้ามีคนเห็นอาจจะมีเรื่องได้ เผลอๆโดนหักคะแนนอีกต่างหาก และอาจโดนปลดจากพรีเฟ็คก็เป็นได้

มัลฟอยยักไหล่ประมาณว่า แล้วไง

“มัลฟอย ไปซ้อมควิดดิชได้แล้ว!!” เสียงของหนุ่มผู้เป็นกัปตัน ที่มีชื่อว่า มาร์คัสฟลินต์ ตะโกนขึ้น

มัลฟอยหัวเสียนิดๆ ที่ต้องไปซ้อมควิดดิชในตอนนี้

ถ้าเป็นตอนอื่นเขาคงจะไปซ้อมง่ายๆ แต่ตอนนี้เขากำลังอยู่กับผู้หญิงที่เขารักยังไงละ

“ เดี๋ยวผมไปครับ” เขาตอบเสียงเรียบๆ

“แล้วเจอกันนะ เฮอร์ไมโอนี่” เขาพูดพร้อมหอมแก้มเธออย่างรวดเร็วจนไม่มีใครสังเกต


เธอแทบจะตะโกนด่าเขาพร้อมกับใบหน้าที่แดงของเธอ ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้ถึงเวลาเรียนแล้ว เธอรีบวิ่งไปที่ห้องเรียนของเธอ ขืนเธอไม่รีบ เธอคงจะไม่ผ่านชั้นปีที่หกเป็นแน่แท้

***



เมื่อเธอเรียนเสร็จ ศาสตราจารย์ดับเบิ้ลดอร์ก็ได้ประกาศเรียกทุกคนไปที่ห้องโถงกลาง

“มีเรื่องอะไรอีกเนี่ย” แฮร์รี่เอ่ยขึ้น

“สงสัยเรื่องที่นายลวนลามน้องสาวฉัน” รอนตอบกลับไปพร้อมมองที่มือของแฮร์รี่ที่จับมือจินนี่อยู่

เมื่อแฮร์รี่ได้ยินดังนั้น เขาจึงจับมือจินนี่แน่นกว่าเดิม จินนี่ได้แต่ยิ้มเขินกับการกระทำของแฟนหนุ่มของเธอ

“ร้ายกาจ!” รอนพูดคำประจำตัวของเขา เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะเล็กๆ

“เงียบก่อน” ดับเบิ้ลดอร์พูด ทำให้เสียงคุยเงียบลงทันที

“ทางโรงเรียนฮอกวอตส์ จะพาพวกเธอไปทัศนศึกษาที่โลกมักเกิ้ล ประเทศไทย เพื่อไปศึกษาวิถีชีวิต และประเพณี ที่สามารถนำมาเป็นประโยชน์ได้ ขอให้ทุกคนเตรียมเก็บของสัมภาระ ทุกอย่าง ให้เรียบร้อย เราจะเริ่มเดิน

ทางในวันพรุ่งนี้ ตอนเก้าโมง กรุณาอย่ามาสาย เราจะนัดพบกันที่ชานชาลาที่เก้า เศษสาม ส่วนสี่ ขอบคุณ”


หลังจากที่ดับเบิ้ลดอร์ประกาศเสร็จทำให้เด็กทุกบ้านส่งเสียงเฮขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่ไ
ด้นัดหมายการไปทัศนศึกษาที่โลกมักเกิ้ลดูเป็นเรื่องที่น่าตื้นเต้นสำหรับบางคน แต่ที่ทุกคนตื่นเต้นเป็นพิเศษนั้นคือการไปที่ ‘ประเทศไทย

แดนสยาม’

“เห็นช่วงนี้ประเทศไทย เขากำลังมีสงกรานต์ด้วยนะ” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ย

“คืออะไรอ่ะ” รอนถามขึ้น

“เป็นประเพณีหนึ่งของไทยไง ฉันไม่ค่อยแน่ใจเรื่องความเป็นมา แต่ที่ฉันรู้ก็มีการสาดน้ำใส่กันด้วยละ”

“มีการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ด้วยนะคะ” จินนี่เสริม

“ร้ายกาจ ในความรู้!!” แฮร์รี่และรอนพูดพร้อมกัน

“ไปเรียนในคาบที่เหลือต่อได้!” มักกอนนากัลพูดขึ้นเพื่อให้ม๊อปฮอกวอตส์ สลายไป

เมื่อได้ยินดังนั้นทั้งสี่หน่อก็ได้ไปเรียนตามคลาสของตัวเอง ก่อนที่จะกลับหอกัน แล้วนอนกันอย่างมีความสุข















รึเปล่านะ ?

***


คุณ Nithinggle ได้แก้ไขข้อความนี้ ครั้งล่าสุดเมื่อ May 4 2016, 01:35 AM



Dramione Love it <3

รักพี่เฟ ปานจะกลืนกิน (?)
Go to the top of the page
+Quote Post
Nithinggle
โพสต์ Apr 25 2016, 03:57 PM
โพสต์ #6


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 1

**




กลุ่ม : นักเรียนบ้านสลิธีริน
โพสต์ : 56
เข้าร่วม : 10-April 16
จาก : อังกฤษ
หมายเลขสมาชิก : 28,748
สายเลือด : เลือดผสม
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: -- | ยาว: --
แกนกลาง: --
ความยืดหยุ่น: --

สัตว์เลี้ยง






Let's go to Thailand

วันรุ่งขึ้น












มัลฟอยได้เก็บสัมภาระของเขามาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เขาจึงไม่จำเป็นที่ต้องรีบมากนัก แตกต่างกับเฮอร์ไมโอนี่ ที่มัวแต่คิดเรื่องของมัลฟอยจนไม่ได้นอน ทำให้เธอต้องมาเร่งรีบในตอนเช้า

“เฮอร์ไมโอนี่ เร็วๆสิ เดี๋ยวเธอจะสายเอานะ!” ลาเวนเดอร์ตะโกนบอกเฮอร์ไมโอนี่ที่เก็บของอยู่ในห้องน้ำ

“ฉันเสร็จละเนี่ย” เธอรีบตอบกลับไป ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำ พร้อมสัมภาระของเธอ

“ลืมอะไรรึเปล่า มานี่ฉันเช็คให้” ลาเวนเดอร์เอ่ยก่อนที่จะหยิบกระเป๋าเป้สีแดงเลือดหมูของเฮอร์ไมโอนี่มาเช็ค

“ทำตัวเป็นแม่ฉันเลยนะ” เฮอร์ไมโอนี่บ่นอุบอิบ

“ที่ทำเพราะฉันเป็นห่วงเธอนะยะ” ลาเวนเดอร์พูด ทำให้เฮอร์ไมโอนี่หลุดยิ้มออกมาให้กับความน่ารักของเพื่อนสาว

“เธอไม่เอาเครื่องสำอางไปหรอ” ลาเวนเดอร์ถาม

“ไม่อ่ะ ไปทัศนศึกษาไม่ต้องเอาไปหรอก เครื่องสำอางเอาไว้ใช้ตอนมีงานก็พอไม่ใช่หรอ” เธอเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ


ฟึ้บ


“อ่ะ” ลาเวนเดอร์หยิบเครื่องสำอางที่เธอซื้อมาจากห้องมี้ดคราวล่าสุดให้เฮอร์ไมโอนี่

มันประกอบไปด้วย ลิปสติกสีชมพูอ่อนหนึ่งแท่ง หลอดรองพื้นหนึ่งหลอด พร้อมกับแปรงเกลี่ยอีกหนึ่งอัน ไฮไลท์หนึ่งตลับ และสุดท้ายน้ำยาล้างเครื่องสำอางแบบหมดจด

เฮอร์ไมโอนี่รับมาอย่างงงๆ ก่อนที่จะถามว่า

“เอามาให้ฉันทำไมเนี่ย เยอะไปรึเปล่า” เธอถาม

“เธอเป็นผู้หญิงนะเฮอร์ไมโอนี่ รู้จักรักสวยรักงามซะบ้าง และที่ฉันให้ไปนั่นน้อยไปด้วยซ้ำ” ลาเวนเดอร์ตอบกลับ

“แต่ฉันแต่งไม่เป็น…” เธอพูดตามความจริง เพราะเธอไม่ไดแต่งหน้า แล้วการแต่งหน้ามันก็ไม่จำเป็นสำหรับเธอเท่าไหร่ เมื่อลาเวนเดอร์ได้ยินดังนั้นจึงเหลือบไปมองนาฬิกา


8.50



“โอเค ฉันจะสอนเธอแต่งหน้าภายในห้านาที” ลาเวนเดอร์พูดก่อนที่จะค่อยๆอธิบายว่าอะไรเป็นอะไรอย่างรวบรัด


‘ลาเวนเดอร์ ผู้มีจุดมุ่งหมายให้เพื่อนรักสวยรักงาม’ ฉายา By เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์


ลาเวนเดอร์หยิบหลอดรองพื้นมาบีบใส่มือเล็กน้อยก่อนที่จะป้ายไปยังจุดต่างๆของใบหน้าเ
ฮอร์ไมโอนี่ หลังจากนั้นจึงค่อยๆ ใช้แปรงเกลี่ยทั่วๆใบหน้า แล้วจึงหยิบแปรงที่อยู่ในตลับไฮไลท์มาบรรจงไฮไลท์ตรงจมูกของเธอ ด้วย

ความที่เฮอร์ไมโอนี่เป็นคนคิ้วสวยจึงไม่จำเป็นต้องเขียนคิ้ว และลาเวนเดอร์ก็จบการแต่งหน้าให้เพื่อนรักของเธอด้วยการทาลิปสีชมพูอ่อน

“เสร็จล่ะค่ะ คุณเกรนเจอร์” ลาเวนเดอร์พูดพร้อมชื่นชมผลงานตัวเอง เฮอร์ไมโอนี่ถึงกับตกใจกับหน้าเธอ เพราะมันดูดีขึ้นทันที แถมดูเป็นธรรมชาติมากกว่าที่จะดูเหมือนแต่งหน้าอีก เธอเหลือบไปมองที่นาฬิกาเพื่อเช็คเวลา


8.55


“เป็นไง ฉันบอกแล้วว่าเป๊ะ! ไปกันเถอะ” ลาเวนเดอร์หันมาขยิบตาก่อนจะฉุดเธอไปโดยที่ไม่ลืมจะยัดเครื่องสำอางในกระเป๋าเธอ


***

.

.

.

.

.

.

ชานชาลาที่เก้าเศษสามส่วนสี่

.

.

.

.

.



ลาเวนเดอร์และเฮอร์ไมโอนี่ พากันมาถึงที่หมาย จากนั้นลาเวนเดอร์จะขอแยกตัวไปหาเพื่อน เช่นเดียวกับเฮอร์ไมโอนี่ที่จะไปหาแฮร์รี่ด้วยเช่นกัน

“ว้าว! สวยจัง” รอนพูดในสิ่งที่ตาตัวเองเห็นเมื่อเฮอร์ไมโอนี่เดินมา

“ใช่ค่ะ พี่เฮอร์ไมโอนี่สวยมากเลย” จินนี่เสริมพร้อมยิ้มหวานให้เฮอร์ไมโอนี่ แฮร์รี่ก็ได้ชูนิ้วเยี่ยมให้เธอเป็นการบอกว่า ‘ดูดี’



ดูท่าทุกคนจะตกใจกับเธอนะ เฮอร์ไมโอนี่......



“เอาละทุกคน! เชิญเข้ารถไฟประจำบ้านของตัวเองได้ยกเว้นพรีเฟ็คของทุกบ้าน ให้มาเข้ารถไฟส่วนตัวของพรีเฟ็ค และแน่นอนตู้ละ ‘คู่’ ” มักกอนนากัลพูดก่อน ที่อาจารย์คนอื่นจะพาเด็กๆขึ้นรถไฟ

‘นี่ฉันต้องอยู่กับมัลฟอยอีกแล้วเรอะ!?’ เฮอร์ไมโอนี่คิด

เธอเดินไปที่รถไฟของพรีเฟ็ค เมื่อเธอไปถึงก็พบสเนปยืนอยู่

“ตู้ของเธออยู่ตู้ที่8ท้ายสุด คุณเกรนเจอร์” เสนปเอ่ยอย่างเรียบๆ

“ค่ะ” เธอตอบกลับไป

“ขอให้สนุกกับการเดินทาง” เขาอวยพรก่อนจะเดินจากไป แต่เธอไม่ได้สนใจอะไรกับคำพูดของสเนปมากนักจึงไปที่ตู้ของเธอทันที

เมื่อเธอไปถึงก็พบว่ามัลฟอยนั่งอยู่ที่นั้นก่อนแล้ว

“สวัสดี เฮอร์ไมโอนี่” เขาทักทายเธอด้วยยิ้มเล็กๆ เล็กจนไม่มีใครสังเกตุได้


“สวัสดี มั- เอ้ย! เดรโก” เธอเกือบหลุดพูดนามสกุลของเขาไปซะแล้ว นั้นทำให้ใจเธอล่นไปที่ตาตุ่มเลยทีเดียว

วันนี้เขาใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวไม่ได้ติดกระดุมบนกับกางเกงยีนส์ขาดๆแบบมีสไตล์ รองเท้าผ้าใบสีแดงสด ผมถูกเสยขึ้นมาทำให้เห็นหน้าเขาได้เต็มที่

ส่วนเฮอร์ไมโอนี่ใส่เสื้อกล้ามสีดำที่มีเสื้อยีนส์แขนยาวม้วนแขนขึ้นไปถึงข้อศอกทับอ
ยู่ กับกางเกงขาสั้นสีขาวเผยให้เห็นขาเรียวยาวของเธอ รองเท้าของเธอเป็นผ้าใบสีแดงเหมือนของเขา วันนี้เธอปล่อยผมให้เห็นผมสลวย

เป็นลอนของเธอและเธอก็ได้ถักเปียข้างหนึ่ง

ถ้าไม่มีใครรู้จักเฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอย คงต้องคิดว่าพวกเขาเป็นคู่รักกันแน่ๆ เพราะการแต่งกายของทั้งสองคนไปในแนวเดียวกัน ออกจะเหมือนกันโดยซ้ำ

“วันนี้เธอสวยมากๆเลยนะ” เขาพูดขึ้น

สีหน้าของเฮอร์ไมโอนี่เริ่มเปลี่ยนเพราะความเขิน มัลฟอยดูมีความสุขดีกับการแกล้งเธอ

“เธอใส่ขาสั้นแบบนี้…. ไม่กลัวฉันทำอะไรหรอ” มัลฟอยพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะเขยิบเข้ามาใกล้เธอ

“หยุดความคิดนั้นไว้เลยนะ มัลฟอย!” เธอรีบพูดก่อนที่เขาจะทำอะไรเธอ

“มัลฟอยอีกแล้วนะ” เขาพูด สีหน้าเขาแตกต่างจากเมื่อกี้โดยสิ้นเชิง สีหน้าของเขาตอนนี้ดูน้อยอกน้อยใจ

“นายงอนหรอ” เธอถามขึ้น แต่เขาไม่ตอบอะไร

“ฉันขอโทษ” เธอเอ่ยพร้อมทำหน้ารู้สึกผิดทั้งๆที่เธอไม่ควรจะรู้สึกผิดเลย

“ขอโทษทำไม เดี๋ยวเธอก็ทำอีก” เขาพูดก่อนที่จะหันหลังให้เธอนั้นทำให้เธอรู้สึกผิดเข้าไปอีก

“ฉันจะไม่ทำอีกแล้วฉันสัญญา” เธอพูดพร้อมเอานิ้วก้อยไปจิ้มแก้มเขา

“ฉันไม่เชื่อเธอหรอก ถ้าอยากให้ฉันเชื่อเธอต้องทำตามข้อตกลงของฉัน ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ก่อนหันมาทางเธอ

“อะไรละ” เธอถาม

“ถ้าเธอเรียกฉันว่ามัลฟอย เธอต้องให้ฉันจูบทีนึง ห้ามขัดขืน!” เขาพูดเองเออเองก่อนที่จับนิ้วก้อยของเธอมาเกี่ยว โดยไม่ถามสุขภาพเธอซักคำ หลังจากนั้นเขาก็โน้มตัวไปนอนตักเธออย่างรวดเร็ว

“ทำอะไรน่ะ มัลฟอย!” เธอพูดด้วยท่าทีตกใจ

“เดรโกสิเดรโก” เขาพูดก่อนที่จะดึงเธอลงมาจูบ เธอสตั้นไปสามวิก่อนที่หน้าจะแดง เขายิ้มอย่างมีความสุข

“ฉันขอนอนก่อนนะง่วง หาว” เขาพูดก่อนเอามือปิดปากที่หาวของเขา แล้วหลับไปทันที

เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าเขาแล้วส่ายหัวเบาๆ

“ตอนนายหลับก็น่ารักเหมือนกันนะ....” เธอเอ่ยยังแผ่วเบา

ดวงตาสีน้ำตาลช็อกโกแลตจ้องไปยังใบหน้าขาวซีด หน้าของมัลฟอยตอนนี้เหมือนคนที่ไม่มีพิษมีภัยอะไรเลย ผมของเขาที่ถูกเสยเอาไว้ในตอนแรกก็ตกลงมาเล็กน้อย เธอลูบหัวเขาเบาๆก่อนที่จะหยิบหนังสือในกระเป๋ามา
อ่าน

***

ด้วยความที่รถไฟของฮอกวอตส์มีสถานีอยู่ที่สนามบิน ทำให้พวกเธอไม่ต้องไปพบปะกับฝูงมักเกิ้ล

“ขณะนี้เราได้เดินทางมาถึงสนามบินลอนดอนแล้วค่ะ ขอให้นักเรียนทุกท่านลงจากรถและไปขึ้นเครื่องที่เกด62442 อาคารที่4ด้วยนะคะ จะมีอาจารย์ค่อยเช็คชื่ออยู่ที่นั้น ขอบคุณค่ะ”

เมื่อสิ้นเสียงประกาศของใครก็ไม่รู้ เฮอร์ไมโอนี่ได้วางหนังสือก่อนที่จะปลุกมัลฟอยให้ตื่น

“เดรโก ตื่นได้แล้ว” เธอบอกเขาก่อนจะสั่นตัวเขาเบาๆ แต่เขาก็ยัง ไม่ตื่น

เพียะ!

เธอตบหน้าเขาเบาๆ แต่เขาก็ยังคง ‘ไม่ตื่น’

“ฉันสาดน้ำใส่นายดีไหม ต้อนรับสงกรานต์” เธอถามคนที่หลับตาตรงหน้าก่อนที่จะหยิบน้ำเย็นมาเตรียมสาด

“นี่เธอเอาจริงดิ” เขาลืมตาขึ้นมามองหน้าเธอแบบเหวอๆ ทำเอาเธอหลุดขำออกมา

“ก็นายไม่ยอมตื่นนี่นา” เธอพูดพร้อมยิ้มสะใจ

“ไปขึ้นเครื่องกันเถอะ ป่านนี่เราเป็นคู่สุดท้ายแล้วละมั้ง” เธอพูดก่อนที่จะหยิบกระเป๋าของเธออกไปโดยที่มีมัลฟอยหิ้วเป้สีดำสนิทตามหลัง

“ใช้คำว่าเป็นคู่ด้วยหรอ” เขาพูดแซะ

“นายนี่มัน....เฮ้อ! หยุดกวนพระบาทาซักวันจะได้ไหม” เธอสถบเบาๆ ก่อนที่ทั้งคู่จะไปที่เกด62442 อาคารที่4

***



คุณ Nithinggle ได้แก้ไขข้อความนี้ ครั้งล่าสุดเมื่อ May 5 2016, 02:21 AM



Dramione Love it <3

รักพี่เฟ ปานจะกลืนกิน (?)
Go to the top of the page
+Quote Post
Nithinggle
โพสต์ Apr 25 2016, 08:53 PM
โพสต์ #7


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 1

**




กลุ่ม : นักเรียนบ้านสลิธีริน
โพสต์ : 56
เข้าร่วม : 10-April 16
จาก : อังกฤษ
หมายเลขสมาชิก : 28,748
สายเลือด : เลือดผสม
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: -- | ยาว: --
แกนกลาง: --
ความยืดหยุ่น: --

สัตว์เลี้ยง






Dramione Thailand !?

.
.
.
.
.
.
.

ตอนนี้พวกเขาทั้งสองก็มาถึงเกด62442 กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ภายในนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคนที่มี สายเลือดบริสุทธิ์ สายเลือดผสม หรือแม้แต่มักเกิ้ล ซึ่งส่วนใหญ่คนที่จะใช้เกดนี้ก็จะเป็นผู้ใช้เวทย์มนต์กันทั้งนั้น ชื่อเกดก็บอกอยู่แล้วว่า

M A G I C

6 2 4 4 2



“เฮอร์ไมโอนี่!!” แฮร์รี่ตะโกนเรียกเพื่อนสาวของเขา

“ไง พอตตี้” มัลฟอยทัก ด้วยสีหน้ากวนพระบาทาอย่างมาก

“สวัสดีมัลฟอย ช่วยกรุณาหยุดเรียกชื่อฉันแบบนั้นด้วยนะ” เขาเอ่ยอย่างเรียบๆ ถึงแม้ว่าในใจเขาจะไม่สบอารมณ์อย่างมากที่ถูกเรียกว่า พอตตี้

“นี่ นายได้ทำอะไรเฮอร์ไมโอนี่รึเปล่า” รอนที่พึ่งวิ่งมาถึงเอ่ยถามก่อนที่จะหันไปมองหน้ามัลฟอยด้วยสายตาจับผิดสุดๆ

“ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย ใช่มั้ยเกรนเจอร์” มัลฟอยตอบก่อนที่จะหันไปทางเฮอร์ไมโอนี่



นี่เธอต้องโกหก เพื่อนรักของเธอหรอเนี่ย….



“จริงหรอ เฮอร์ไมโอนี่” รอนหันไปถามเฮอร์ไมโอนี่ทันที

“มัลฟอยไม่ได้ทำอะไรฉันหรอ” เธอพูดขึ้น ด้วยความที่เธอไม่อยากเจอดี เลยทำให้เธอต้องโกหกเพื่อเอาชีวิตรอด








แต่เดี๋ยวนะ….











เมื่อกี้….








เธอไม่ได้เรียกชื่อเขาใช่ไหมนั้น ?





จุ๊บ!


มัลฟอยคว้าเธอไปจูบอย่างรวดเร็ว แต่ไม่เร็วพอที่จะทำให้เพื่อนๆของเธอไม่เห็น

“มัลฟอยแกทำอะไรน่ะ!!!!” แฮร์รี่และรอนถามด้วยสาตาอาฆาต

“ลงโทษ เด็กไม่ดี” เขาพูดอย่างไม่ใส่ใจ

“แก!!!!” รอนแทบจะเข้าไปต่อยมัลฟอย ถ้าไม่มีเสียงประกาศของใครไม่รู้ดังขึ้นเสียก่อน

“ประกาศ นักเรียนฮอกวอตส์ทุกท่าน ขณะนี้เครื่องบินจากลอนดอน-กรุงเทพมหานคร กำลังจะออกแล้ว ขอให้ผู้โดยสารทุกท่านขึ้นเครื่องโดยเร็วค่ะ”

สิ้นเสียงประกาศมัลฟอยก็หันหลังให้กับพวกเขาทันทีโดยไม่ลืมที่จะฉุดเฮอร์ไมโอนี่มาด้
วย

“อ้อ! วีเซิ่ล อย่าลืมคู่ของนายละ!” มัลฟอยหันมาตะโกนบอก ทำให้รอนหน้าซีดทันที เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาต้องอยู่กับคู่ของเขา เขาจึงโบกลาแฮร์รี่แล้วเดินแบบหงอยๆกลับไปหาคู่ของเขา แฮร์รี่รู้สึกโชคดีทันทีที่ไม่

ต้องมาจับคู่ให้วุ่นวาย

***


เฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยเดินมาถึงตรงที่เขาจะให้เช็คอิน จากนั้นจึงเดินตรงดิ่งไปที่แถวพรีเฟ็คที่มักกอนนากัลยืนอยู่

“สำหรับพรีเฟ็คนั้นจะได้นั่งเฟิร์สคลาส แต่เฟิร์สคลาสของสายการบินเจ.เค โรว์ลิ่งจะเป็นเบาะคู่กัน ขอให้พวกเธอกรุณาอย่าหลงกับคู่ของเธอ และที่สำคัญของการเป็นพรีเฟ็คอย่าทำอะไรชักช้า และ อย่าผิด

พลาด”

มักกอนนากัลประกาศก่อนที่จะให้ทุกคนเข้าไป โดยที่คนบอกที่นั่งนั้นก็คือ ‘สเนปคนเดิม เพิ่มเติมจะเปลี่ยนอาชีพแล้ว’ (ไม่ใช่ละ)

“สวัสดีคุณเกรนเจอร์ คุณมัลฟอย ที่นั่งของพวกเธอคือD16 และ H16 อยู่หลังสุด” เขาพูดก่อนที่จะให้มัลฟอยและเฮอร์ไมโอนี่เข้าไป แต่ทำไมพวกเขาต้องได้นั่งหลังสุดตลอดด้วยนะ

“ฉันจะนั่งริมหน้าต่าง!” เฮอร์ไมโอนี่พูดทันทีที่ถึงที่นั่งของพวกเขา เธอชอบที่จะมองวิวสวยๆข้างนอกนี่นา

“ทำตัวเหมือนเด็กเลยนะ” เขาอมยิ้มนิดๆก่อนที่จะเหน็บเธอ แต่เขาก็ไม่ได้เกี่ยงเรื่องที่นั่งอยู่แล้วแต่ขอให้นั่งกับเธอก็พอ

“เรื่องของฉันน่า” เธอพูดพร้อมทำแก้มป่อง มัลฟอยลูบหัวเธอเบาๆ ก่อนที่หน้าของเฮอร์ไมโอนี่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพู

หลังจากนั้นก็มีเสียงประกาศจากนักบินให้ทุกคนรัดเข็มขัดให้เรียบร้อย ก่อนที่จะพูดถึงความเป็นมาของสายการบิน อุณภูมิข้างนอก ความกดอากาศ และอื่นๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องรู้สำหรับพวกเขาเลย

จากนั้นแอร์โฮสเตสจึงมาสอนวิถีการใช้เสื้อชูชีพซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้สนใจมากนัก


หมับ


เมื่อเครื่องเริ่มขึ้นจนสูงรู้สึกได้ เฮอร์ไมโอนี่ก็ได้คว้ามือของมัลฟอยเข้ามาจับทันที

“อยากจับมือฉันหรอ” เขาเอ่ยถามก่อนที่ทำสีหน้าเจ้าเล่ห์ใส่เธอ

“ป่าวซักหน่อย ฉันกลัวความสูงต่างหาก!” เธอรีบปฏิเสธ

เหตุผลของเธอทำให้เขาเกือบหลุดขำออกมา

“ชอบดูวิวข้างนอกเครื่องบิน แต่กลัวความสูง สมเหตุสมผลจังเลยเนอะ” เขาพูดเหน็บเธอ ทำให้เธออยากต่อยเขาแรงๆซักที กับการที่เขาเป็นคนขี้เหน็บแบบนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงจับมือเขาต่อไป

แต่มันก็จริงอย่างที่เขาบอก ในเมื่อเธอชอบดูวิวข้างนอกเครื่องบินแต่กลับกลัวความสูง มันไม่สมเหตุสมผลเลย

เมื่อเครื่องขึ้นพอดีกับชั้นบรรยากาศแล้ว หน้าของเธอก็กลับมาเป็นปกติแต่ก็ยังคงผวาเล็กน้อย และมือของเธอก็ยังคงจับมือของเขาไม่ปล่อย

“เธอจะจับมือของฉันไปจนถึงเมื่อไหร่เนี่ย” เขาถามเธอ ทำให้ใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่เริ่มชมพูก่อนที่จะปล่อยมือออก

“ขอโทษ” เธอเอ่ย ก่อนจะโดนมัลฟอยคว้ามือเข้าไปจับอีกครั้ง

“ไม่ต้องขอโทษ จับต่อก็ได้” เขาเอ่ยอย่างเรียบๆก่อนที่จะเสียบหูฟังกับหน้าจอทีวีเล็กๆที่เก็บอยู่ทางด้านขวามือข
องเขา เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้ปริปากพูดอะไรพลางเหลือบมองนาฬิกาก็เป็นเวลาสองทุ่มเป๊ะ

ด้วยความที่เป็นเฟิร์สคลาสทำให้มีบาร์ส่วนตัวเล็ก มีอ่างล้างหน้า ผ้าห่ม หมอน เก้าอี้ที่เอียงได้ หน้าจอทีวีที่สามารถทำอะไรก็ได้ เธอจึงไม่แปลกใจที่มีคนอยากจะเป็นพรีเฟ็ค

เธอเช็ดเครื่องสำอางที่อยู่บนหน้าของเธอ ก่อนจะเลือกหยิบขนมในบาร์มานั้นก็คือ ช็อกโกแลต ยี่ห้อเจ.เค เป็นยี่ห้อที่มีคนรับประกันความอร่อยมากที่สุดในโลกมักเกิ้ล

หลังจากที่เธอกินเสร็จแล้วเธอก็หันไปทางมัลฟอยเพื่อที่จะถามอะไรบางอย่าง แต่ก็พบว่าเขาหลับไปอีกแล้ว แต่มือเขาก็ยังไม่ปล่อยเธออยู่ดี

‘อะไรจะขี้เซาขนาดนี้’ เธอคิด ก่อนที่จะปิดปากตัวเองที่หาวเพราะเธอก็เริ่มง่วงเหมือนกัน

เธอค่อยๆปิดเปลือกตาลง แต่หารู้ไม่ มัลฟอยที่เธอคิดว่าหลับแล้ว ‘เขา ยัง ไม่ หลับ’

เขาลืมตาขึ้นมาก่อนที่จะมองที่เฮอร์ไมโอนี่ด้วยสายตาอ่อนโยน เขาจับหัวของเธอให้เอ็นมาทางไหล่เขาเพื่อให้เธอซบก่อนที่เขาจะหลับตามเธอไป

***


12 ชม.ต่อมา เป็นเวลา 9 โมง





“ขณะนี้เราได้ถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว ขอให้นักเรียนฮอกวอตส์ทุกท่านตรวจสัมภาระให้เรียบร้อยก่อนออกจากเครื่องค่ะ เมื่อลงออกจากเครื่องขอความกรุณา เดินไปผ่านตม. ด้วยตนเอง พาสปอร์ตและเอกสา

รอื่นๆ ถูกเตรียมไว้ให้ในกระเป๋าด้านซ้ายมือของท่านค่ะ ขอบคุณค่ะ”

เมื่อได้ยินเสียงประกาศพวกเขาทั้งสองค่อยๆปรือตาขึ้นมา ก่อนที่พวกเขาทั้งสองจะเหลือบไปมองกระเป๋าสีดำสนิทที่อยู่ทางด้านซ้าย และตรวจเช็คเอกสารภายในกระเป๋า

“ไปกันเถอะ” เขาพูดก่อนที่จะจับมือเธอเดินลงออกมาจากเครื่อง เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้ขัดแต่อย่างใด หัวใจเธอเรื่มเต้นเร็วเรื่อยๆ

“เดรโก ฉันขอไปล้างหน้าก่อนนะ” เธอพูด

“เดี๋ยวเธอก็หนีฉันไป” เขาพูดพร้อมทำหน้าบึ้งตึงใส่เธอทันที

“แค่ไปแปรงฟันล้างหน้าแปปเดียวเองน่า นายก็ต้องไปด้วยไม่ใช่รึไง” เธอตอบกลับ

“สัญญาก่อนว่าจะไม่หนี” เขาพูดพร้อมยื่นนิ้วก้อยมาให้เธอเกี่ยว โดยที่หน้าของเขายังคงบึ้งอยู่

“สัญญา” เธอพูดพร้อมเกี่ยวก้อยกับเขาก่อนที่จะแยกตัวไปที่ห้องน้ำ

“พี่เฮอร์ไมโอนี่ สวัสดีค่ะ” จินนี่ที่อยู่ในห้องน้ำก่อนหน้านี้เอ่ยทักอย่างเป็นมิตร

“สวัสดีจ่ะ เมื่อคืนเป็นไงบ้าง” เธอยิ้มรับก่อนเอ่ยถาม

“ก็ดีค่ะ พี่แฮร์รี่เขาจับมือหนูตลอดเลย” จินนี่พูดอย่างเขินอาย

เฮอร์ไมโอนี่ลูบหัวจินนี่ทีนึงก่อนที่จะหยิบแหรงสีฟันและยาสีฟันออกมาจากกระเป๋าของเ
ธ และบีบยาสีฟันใส่แปรงสีฟันของเธอและแปรงฟัน ในระหว่างที่เธอแปรงอยู่นั้นจินนี่ก็เอ่ยถามอะไรบางอย่าง

“พี่เฮอร์ไมโอนี่กับพี่มัลฟอยเป็นแฟนกันหรอคะ” คำถามของจินนี่ทำให้เธอแทบสำลักยาสีฟัน

“ม-ไม่ใช่นะ!” เธอรีบปฏิเสธโดยไว

“เห็นพี่ทั้งสองแต่งตัวแนวเดียวกันก็นึกว่าจะแต่งเป็นคู่ซะอีก” จินนี่หัวเราะเล็กน้อยกับปฏิกิริยาของรุ่นพี่ ก่อนที่จะพูด

“หนูไปก่อนนะคะ เดี๋ยวพี่แฮร์รี่จะรอนาน” เธอพูดก่อนที่จะเดินออกไปด้วยรอยยิ้ม

เฮอร์ไมโอนี่จึงรีบล้างหน้าล้างตาให้เสร็จก่อนที่จะออกไป



ตึ้ง!



เสียงข้อความเด้งขึ้นทำให้เธอต้องหยิบโทรศัพท์มาเปิดอ่าน

‘สวัสดี เพื่อนสาว อย่าลืมแต่งหน้านะยะ ถ้าไม่แต่งได้เห็นดีกัน จาก ลาเวนเดอร์สุดสวย’

“เฮ้อ” เธออ่านข้อความนั้นก่อนที่จะถอนหายใจเฮือกใหญ่และกลับไปในห้องน้ำอีกรอบเพื่อแต่งหน้
า เธอทำตามคำสอนในการแต่งหน้าของลาเวนเดอร์ทุกอย่าง ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะทำออกมาได้เป๊ะและทำเสร็จ

ภายในห้านาที



“เดรโก ฉันมาแล้ว” เธอเอ่ยให้กับมัลฟอยที่อยู่ข้างหน้าเธอ

“นานจังเลยนะเธอ” เขาบ่นอุบอิบก่อนที่จะพาเธอเดินไปที่ ตม.

เขายื่นเอกสารให้ตรวจเช็คก่อนจะผ่านไปอย่างง่ายดาย แตกต่างจากเธอที่โดนตรวจแล้วตรวจอีก แต่เธอก็ผ่านไปได้ด้วยดี

“นี่เราจะไปไหนกัน” เธอเอ่ยถามเขา

“ไปเก็บของที่โรงแรมไง ฮอกวอตส์ไม่ได้ส่งข้อความมาบอกเธอหรอ” เขาตอบและถามในคราเดียวกัน ทำให้เธอต้องเปิดโทรศัพท์อีกรอบ

‘สวัสดี คุณเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์



จุดประสงค์ในการทัศนศึกษาครั้งนี้คือการให้คุณึกษาวิถีชีวิตของมักเกิ้ล

สังเกตประเพณีต่างๆ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในภายภาคหน้า

จึงทำให้คุณต้องออกเดินทางเองโดยทางโรงเรียนได้จองโรงแรมไว้ให้แล้ว

โรงแรมชื่อว่า J.K Hotel เมื่อคุณไปถึงแล้วให้บอกชื่อกับพนักงานต้อนรับเขาจะให้คียการ์ดคุณมาเอง

ส่วนเงินบาทไทยได้ทำการแลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เงินนั้นจะอยู่ในกระเป๋าใส่เอกสารที่เราได้ให้ไว้ในทีแรกกรุณาเก็บไว้ให้ดี




จึงเรียนมาเพื่อทราบ

ฮอกวอตส์’

หลังจากเธออ่านข้อความจบเธอก็เปิดกระเป๋าเอกสารดูก็พบว่ามีเงินจำนวนสองหมื่นบาทอยู่
ในนั้นทั้งที่ตอนแรกมันไม่มี สองหมื่นบาทเป็นจำนวนเงินไม่น้อยเลยทีเดียว

จากนั้นได้เธอก็ได้มาตกลงกับมัลฟอยว่าจะเดินทางยังไงดี และทั้งสองตกลงได้ว่าจะนั่งแท็กซี่ไปกัน

เมื่อพวกเขาเดินออกมาจากสนามบินก็พบกับใครก็ไม่รู้

“สวัสดีจ้า!” อยู่ๆสาวนิรนามผมสั้นสีน้ำตาลเข้มก็เข้ามาทักทายพวกเขา

“คุณเป็นใครกัน” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยถาม

“ลืมแนะนำตัวไปเลย! เราชื่อปอนะ หรือที่รู้จักในนาม ปอ เดอะ ไรท์เตอร์! พอดีศาสตราจาร์ยดับเบิ้ลดอร์ให้เรามารอพวกเธอเพื่อที่จะให้ยาอันนี้” ปอพูดก่อนที่จะหยิบขวดยาสีน้ำเงินขึ้นมา

“มันคืออะไรน่ะ” มัลฟอยถามขึ้น

“มันคือยาที่ทำให้เข้าใจภาษาไทยยังไงละ” ปอตอบกลับด้วยรอยยิ้มก่อนจะยื่นขวดยาให้เขาทั้งสอง

“มีอะไรไม่เข้าใจหรือต้องการความช่วยเหลือ โทรหาเราได้เลยนะ” ปอพูดก่อนที่จะให้เบอร์โทรศัพท์ พร้อมโบกแท็กซี่ให้

“กรี้ด!!!!!!!!!!!!!! นั้นมันเดรโก มัลฟอย กับ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์นี่นา!!!!!!!” จู่ๆก็มีกลุ่มผู้หญิงและผู้ชายพุ่งเข้ามาล้อมพวกเขา ทำให้พวกเขาไปไหนไม่ได้

“Who are you ?” มัลฟอยพูดขึ้นเป็นภาษาอังกฤษก่อนที่จะพวกเขาจะตอบกลับว่า


























“We are Dramione Thailand!!!!”

***


คุณ Nithinggle ได้แก้ไขข้อความนี้ ครั้งล่าสุดเมื่อ May 6 2016, 01:49 AM



Dramione Love it <3

รักพี่เฟ ปานจะกลืนกิน (?)
Go to the top of the page
+Quote Post
Nithinggle
โพสต์ Apr 27 2016, 01:17 AM
โพสต์ #8


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 1

**




กลุ่ม : นักเรียนบ้านสลิธีริน
โพสต์ : 56
เข้าร่วม : 10-April 16
จาก : อังกฤษ
หมายเลขสมาชิก : 28,748
สายเลือด : เลือดผสม
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: -- | ยาว: --
แกนกลาง: --
ความยืดหยุ่น: --

สัตว์เลี้ยง






Spacial Songkranday

“We are Dramione Thailand !!!!!”









หลังจากที่พวกเขาได้ยินอย่างนั้นก็พร้อมใจเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย เพราะคำว่า Dramione[เดรไมโอนี่] มันเหมือนเอาชื่อของพวกเขามารวมกันนี่น่ะสิ

“พวกเธอจะยืนทำสากกะเบืออะไรเล่า! ขึ้นรถไปสิ!!” ปอตะโกนบอกพวกเขาทั้งสอง

พวกเขาจึงรีบขึ้นรถทันทีโดยไม่ลืมที่จะกระดกยาที่ปอให้เข้าไป

“ไปไหนจ๊ะ” ลุงคนขับรถแท็กซี่ที่ติดป้ายชื่อว่า ‘สมเกียรติ’ เอ่ยถาม

ด้วยความที่พวกเขาดื่มยาแล้วจึงทำให้พวกเขาเข้าใจในภาษาไทย แต่เวลาพวกเขาพูดก็ยังคงเป็นภาษาอังกฤษซึ่งไรท์ปอสุดสวย(?)แปลให้แล้ว

“ไปJ.K Hotel ครับ” มัลฟอยบอกคุณลุงคนขับรถก่อนที่ลุงจะทำมือโอเค

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยถามมัลฟอยอย่างสงสัย

“เธอก็ลองโทรถามแม่นั้นดูสิ ปอเป๋อ อะไรนั้นน่ะ” เขาบอก

เฮอร์ไมโอนี่จัดการหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาและกดโทรหาปอทันที

“ฮัลโหล” เสียงปลายสายรับ

“เดรไมโอนี่นั้นมันอะไรกันน่ะ!!” เฮอร์ไมถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“เฮ้! ใจเย็นก่อน เธอรู้จักเจ.เค โรว์ลิ่ง ผู้สนับสนุนโรงเรียนของเธอไหม”

“รู้จักสิ ที่ทำทุกสิ่งทุกอย่างบนทุกโลก”

“นั้นแหละ เจ.เค โรว์ลิ่ง เขาเขียนเรื่องราวของพวกเธอทุกคนในฮอกวอตส์มาลงในหนังสือ”



นี่พวกเขากลายเป็นบุคคลสำคัญที่ต้องเอาลงหนังสือแล้วหรอ ?



“มันเกี่ยวอะไรกับเดรไมโอนี่ล่ะ”

“ก็นั้นทำให้มีคนรู้จักพวกเธอสองคนไง แถมยังมีคนอยากให้เธอกับมัลฟอยคู่กันด้วยจนมีฟิค แล้วก็มีเป็นกองกำลังเลยนะ”


เมื่อเธอได้ยินดังนั้นก็ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ มีคนเชียร์ให้เธอกับเขารักกันด้วยหรอเนี่ย !?


“ฉันต้องไปปั่นฟิค เอ้ย ทำงานก่อนนะ ไว้เจอกัน” ปอรีบตัดบทก่อนจะตัดสายไป

“ว่าไงมั่ง” มัลฟอยเอ่ยถาม

“เดรไมโอนี่ คือกองกำลังที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเชียร์ให้นายกับฉันรักกัน” เธอพูด

แต่จู่ๆมัลฟอยก็ฉุดเธอเข้าไปจูบซะงั้น แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะโดนเฮอร์ไมโอนี่เตะ ตื๊ด [เซนเซอร์] ซะก่อน

“นี่มันในแท็กซี่นะ..” เธอกระซิบเบาๆใส่เขาเพราะมันจะดูไม่ดี ซึ่งแน่นอนเขาทำหน้าประมาณว่า’แล้วไง’

“ในเมื่อมีคนเชียร์ให้เรารักกัน ทำไมเราไม่รักกันเลยละ” เขาเอ่ยถามก่อนที่จะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ

เอี้ยด!

“อะแฮ่ม! ถึงแล้วจ่ะ คุณลุงคนขับกระแอมทีนึงก่อนจะพูดพร้อมชำเหลืองสองคนข้างหลังที่หวานกันจนมดขึ้นรถ

“เท่าไหร่คะ” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยถาม

“คิดฟรีละกันจ่ะ เห็นว่าฟังไทยออกหนุ่มสาวสมัยนี้น้า อย่าลืมป้องกันด้วยละ” คุณลุงคนขับรถพูดพร้อมขยิบตาให้

“ขอบคุณครับ” มัลฟอยพูดพร้อมยิ้มให้ ส่วนเฮอร์ไมโอนี่ก็หน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศเพราะคำว่า ‘อย่าลืมป้องกัน’ ซะแล้ว

พวกเขาเดินลงจากรถก่อนที่จะเดินเข้าไปในตัวโรงแรมเพื่อที่จะเช็คอิน

ภายในโรงแรมตกแต่งด้วยโทนสีขาวสว่างสดใส เฟอร์นิเจอร์สีขาวดูเรียบง่ายและหรูหราในเวลาเดียวกัน โคมไฟห้อยสีครีมสบายตา และมีกลิ่นหอมของดอกไม้ โรงแรมนี่จัดว่าตกแต่งได้ดีมากเลยทีเดียว

“มาเช็คอินครับ เดรโก มัลฟอย กับ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์” เขาพูดกับพนักงานโดยที่ไม่มีท่าทางรังเกียจในความเป็นมักเกิ้ลเลย ซึ่งมันน่าแปลกใจมากเลยทีเดียว

“นี่ค่ะคียการ์ด ห้องของพวกคุณเป็นห้องที่641นะคะ มีอะไรกด0ที่โทรศัพท์ได้เลยค่ะ” พนักงานสาวยื่นคียการ์ดก่อนที่จะพูด

“ห้องเดียวหรอคะ” เฮอร์ไมโอนี่โพล่งขึ้น

“ใช่ค่ะ คุณอัลบัส ดับเบิ้ลดอร์ได้แจ้งมาแบบนี้ มีปัญหาอะไรรึเปล่าคะ” พนักงานต้อนรับเลิกคิ้วสงสัย

‘มันไม่ควรจะเป็นห้องเดียวสิ มันควรจะเป็นสองห้องต่างหาก’ เธอคิดในหัว

“ไม่มีอะไรครับ” มัลฟอยตอบแทนเธอ เผื่อสิ่งที่เธอกำลังจะพูดจะเป็นการเปิดศึกระหว่างพวกเขา

พวกเขาเดินมาที่ลิฟต์และตรงไปชั้นที่64 ห้องของพวกเขาอยู่สูงมากเลยทีเดียว

ห้องของพวกเขาถูกตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นโดยใช้สีดำและสีขาว ภายในห้องของพวกเขาประกอบไปด้วย โต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะทำงานสีขาวครึ่งสีดำครึ่ง พร้อมโคมไฟที่เข้ากับโต๊ะ ภายในห้องน้ำก็มีอ่างจากุซซี่

ขนาดกลาง

เมื่อเหลือบไปมองที่เตียงเฮอร์ไมโอนี่รู้สึกโล่งใจอย่างมากที่ไม่ได้มีแค่เตียงเดียว

เธอหย่อนร่างกายเธอลงบนเตียงเบาๆก่อนที่จะกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง ส่วนมัลฟอยก็กำลังนั่งมองเธอที่กำลังกลิ้งเหมือนเด็กๆ

“ไปเล่นสงกรานต์กัน” จู่ๆเฮอร์ไมโอนี่ก็โพล่งขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ดูร่าเริง ก็ในเมื่อจุดประสงค์ของดับเบิ้ลดอร์คือมาสังเกตสิ่งที่มีประโยชน์ ถ้าพูดถึงตอนนี้ที่เป็นประโยชน์ก็คือ ‘การเล่นน้ำสงกรานต์’ยังไงละ

“ทำตัวเหมือนเด็กจังเลยนะเธอน่ะ” เขาพูดจากนั้นเธอก็หยิบไม้กายสิทธิ์เตรียมสาปเขา ข้อหาล้อในการกระทำของเธอ

“อย่าลืมสินี่โลกมักเกิ้ล อย่าใช้คาถาเลยดีกว่าน่า” เขาพูด ทำให้เธอคิดได้ก่อนจะเก็บไม้เข้ากระเป๋า

“จะไปไม่ไปละฮะ!” เธอเริ่มหงุดหงิด

“ไปครับๆ” เขากล่าวตอบก่อนจะยิ้มเล็กๆ และไปเปลี่ยนรองเท้าเป็นรองเท้าแตะก่อนจะพากันลงไปซื้อซองกันน้ำเพื่อใส่โทรศัพท์และ
ปืนฉีดน้ำข้างๆโรงแรม

***


“ป้าคะ ขอปืนฉีดน้ำซองกระบอก แล้วก็ขอซองกันน้ำด้วยค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้น

“นี่จ่ะ” ป้าขายปืนฉีดน้ำตอบก่อนที่จะให้ปืนฉีดน้ำและซองกันน้ำ

“220 จ่ะ” เมื่อได้ยินอย่างงั้นเฮอร์ไมโอนี่จึงยื่นเงินให้ป้า

ปืนฉีดน้ำของมัลฟอยเป็นปืนฉีดน้ำกระบอกใหญ่สีน้ำเงิน ส่วนของเฮอร์ไมโอนี่เป็นปืนฉีดน้ำกระบอกเล็กที่มีกระเป๋าเก็บน้ำให้เป็นลายปิกาจู

“เดี๋ยวค่อยเอาเงินนายก็ได้” เธอหันไปเก็บเงินเข้ากระเป๋า

“เปลี่ยนจากเอาเงินเป็นเอาจูบได้ไหม” เขาพูดก่อนที่จะจับเธอให้หันมาทางเขา

“ฝันไปเถอะย่ะ” เธอสะบัดหน้าหนี

เธอสะพายกระเป๋าก่อนที่จะใส่แว่นตากันแดดเช่นเดียวกับมัลฟอย ใครๆก็รู้ว่าแดดประเทศร้อนแรงขนาดไหน

“ไปเล่นน้ำกัน!” เธอพูดอย่างร่าเริงก่อนที่จะจับมือมัลฟอยออกมา ซึ่งเข้าก็ไม่ได้สะบัดมือออกแต่อย่างใด

พวกเขาเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานเป็นเวลานาน บางคนก็เข้ามาปะแป้งบ้างอะไรบ้าง เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่อยู่ๆก็มีชายกลุ่มหนึ่งเข้ามา

“น้องสาวจ๊ะ พี่ขอปะแป้งหน่อยได้ไหมจ๊ะ แฮ่กๆ” ชายตัวประกอบคนที่หนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงหื่นกระหายก่อนที่จะให้ชายตัวประกอบคนอื่นๆเข
้าไปยื่นขนาบข้าง แต่ว่าส่วนที่ชายตัวประกอบจะขอปะให้เธอนั้นมัน

ไม่ใช่หน้านี่นะสิ

“ช-ช่วย อุ้ป!” ก่อนที่เธอจะพูดก็โดนหนึ่งในนั้นปิดปากซะก่อน น้ำตาเธอเริ่มที่จะไหลลงมาเล็กน้อยเพราะความกลัว ด้วยความที่เธอเป็นผู้หญิงทำให้ร่างกายเธออ่อนแอกว่าเขา แถมไม้กายสิทธิ์ก็อยู่ที่โรงแรมซะ

ด้วย

‘เดรโก ช่วยฉันด้วย’ เธอร้องชื่อเขาอยู่ในใจ ทั้งที่ปกติแล้วเธอต้องเรียกชื่อแฮร์รี่ไม่ก็รอนสิ



ผลัก!



จู่ๆก็มีชายผมบลอนด์กระโจนมากลางวงพร้อมกับต่อยปากชายตัวประกอบคนที่หนึ่ง ถ้าสังเกตข้างหลังก็จะเห็นว่ามีหนุ่มชาวไทยอีกสองคนเข้ามาช่วยด้วย

“เฮอร์ไมโอนี่ ไม่เป็นไรใช่ไหม!?” เมื่อเขาจัดการเสร็จแล้วเขาก็เข้ามาหาเธอทันที เขาสังเกตที่หน้าเธอเห็นคราบน้ำตาของเธอเขารีบโผเข้ากอดเธอทันทีด้วยความเป็นห่วง น้ำตาเธอเริ่มไหลอีกครั้ง เธอไม่ได้

ทุกข์เมื่อเห็นเขา แต่เธอรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นเขามากกว่า

พวกเขากอดกันเนิ่นนานก่อนที่จะมีเสียงๆหนึ่งมาขัด

“เอ่อ….พี่ฮะ อย่าพึ่งหวานได้มั้ยฮะ มาช่วยกันคิดเรื่องนี่กันก่อนดีกว่าฮะ” ชายหนุ่มผิวแทนดวงตาสีเขียวกรกตพูดขึ้น

“แจ้งตำรวจไง” จู่ๆก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา เสียงนั้นคือเสียงของปอนั้นเอง

“เจ้!?/ ปอ !?” พวกเขาพูดพร้อมกัน

“ก็ฉันไงเล่า จะใครอีก” ปอพูดขึ้น

“รู้จักกันหรอ” มัลฟอยถามชายหนุ่มทั้งสอง

“ใช่ครับ เจ้เขาเป็นทูตระหว่างโลกมักเกิ้ลกับโลกเวทย์มนต์น่ะครับ” ชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะเป็นพี่ของคนเมื่อกี้ตอบกลับไป ทำให้มัลฟอยเลิกคิ้วขึ้นเพราะไม่คิดว่าคนที่เขาขอให้มาช่วยตามหาเฮอร์ไมโอนี่จะรู้จั


โลกเวทย์มนต์ด้วย เฮอร์ไมโอนี่ก็คิดอย่างนั้นเช่นกัน

“พวกคุณคงตกใจสินะครับ งั้นผมขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการนะครับ ผมชื่อ ธนกร ครับ เรียกว่า กายก็ได้ครับ เป็นมนุษย์หมาป่า”

ชายหนุ่มผิวแทนดวงตาสีฟ้าเข้ม เอ่ยขึ้น

“ส่วนเจ้านี่ชื่อ ทศกัณฑ์ เรียกว่าทศก็ได้ครับ เป็นมนุษย์หมาป่าเหมือนกัน” เขาจับชายหนุ่มอีกคนที่สีผิวเหมือนกันแต่แตกต่างกันที่ดวงตาของเขาเป็นสีเขียวกรกตมา
แนะนำตัว

เฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยดูแปลกใจไม่น้อยเลยที่พวกเขาเป็นมนุษย์หมาป่า เธอและเขาไม่เคยเห็นมนุษย์หมาป่า ที่เป็นคนไทยเลย

“ผมแนะนำตัวเองได้น่าพี่” ทศพูดก่อนที่จะโดนกายยีหัวเบาๆ

“งั้นพวกผมไปก่อนนะครับ” พวกเขายกมือไหว้ก่อนที่จะวิ่งจากไป

“เรื่องนี้ให้จ่าเฉยจัดการละกัน พวกเธอก็กลับได้แล้วนะ จะหกโมงแล้ว เราไปก่อนนะ” ปอเอ่ยก่อนที่จะเดินหายลับไปจากฝูงชน จริงๆก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอต้องแทนตัวกับพวกเขาว่า ‘เรา’

“ไปกันเถอะ” มัลฟอยพูดก่อนที่จะจับมือเฮอร์ไมโอนี่ เดินเข้าไปในโรงแรมและตรงไปที่ห้องของพวกเขา

แต่เหมือนเฮอร์ไมโอนี่จะพึ่งสังเกตว่าเขาใส่เสื้อเชิตสีขาว ด้วยความที่มันเปียกน้ำจึงทำให้เห็นเนื้อของเขาชัดขึ้น เฮอร์ไมโอนี่จึงหน้าขึ้นสีทันที

“ไม่สบายหรอ หน้าแดงเชียว”เขาถามขึ้นก่อนที่จะเอามือแปะหัวเธอ ทำให้เธอหน้าแดงกว่าเก่า

“ไข้ก็ไม่มี” เขาพูดต่อ

“ไม่ได้ไม่สบาย แต่ส-เสื้อ น-นาย..” เธอพูดอย่างตะกุกตะกัก

“อยากเห็นหรอ รอแปปนะ” เขาพูดล้อก่อนจะปลดกระดุมอออกแต่ก็โดนเธอห้ามไว้ซะก่อน

“หยุดเลยนะ! ไม่อยากเห็นซะหน่อย ฉันไปอาบน้ำละ” เธอพูดอย่างรวบรัดก่อนที่จะเข้าห้องน้ำไป

“น่ารักจริงๆนะ…” เขาพูดเบาๆก่อนที่จะเช็ดผมหรอเธอ


15 นาทีต่อมา


เธอใช้เวลาสิบห้านาทีในการอาบน้ำแต่เธอก็ลืมบางสิ่งบางอย่าง









นั้นคือ









ผ้าเช็ดตัว!!!



“เดรโก!!” เธอตะโกนขึ้น

“มีอะไร” เขาถามอย่างห้วนๆ

“ห-หยิบผ้าเช็ดตัวให้หน่อย” เธอพูดอย่างตะกุกตะกัก หน้าค่อยๆเริ่มขึ้นสี

“นี่เธอลืมหรอ ยัยบ๊องเอ้ย” เขาบ่นแต่ก็ไปหยิบให้เธออย่างโดยดี

“ขอบคุณนะ…” เธอแง้มประตูออกมาเพียงเล็กน้อยทำให้เห็นรูปร่างของเธอเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก่อนจะพูดแล้วปิดประตูลงทันที

การที่เขาเห็นร่างเธอในสภาพไม่ใส่เสื้อผ้านั้นทำให้เขานอนตายจมกองเลือดอย่างสงบสุข

















อาเมน

***



เมื่อเธอจัดการเช็ดตัวแล้ว ก็เดินออกมาจากห้องน้ำ

“เดรโก ฉันอาบเสร็จนะ” เธอเอ่ยขึ้น

“อ่า..” มัลฟอยตอบอย่าเหม่อลอยก่อนที่จะดึงสติตัวเองให้ไปอาบน้ำโดยไม่ลืมดึงทิชชู่ที่อุดจมู
กของเขาไว้ แต่เมื่อเขาหันมาก็พบว่า
















เฮอร์ไมโอนี่ นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว !!!!




เขารู้สึกว่าหน้าตัวเองเริ่มร้อนผ่าว เขาจึงพยายามทำสีหน้าปกติและตรงดิ่งไปที่ห้องน้ำ

“เป็นอะไร หน้าแดงเชียว” เธอล้อเลียนเขา ก็เขาหน้าแดงจริงๆนี่นา

“ดูตัวเองก่อนเถอะ ยัยบ้า!” เขาพูดก่อนที่จะวิ่งเข้าห้องน้ำโดยที่ไม่ลืมหยิบผ้าเช็ดตัวไป

เฮอร์ไมโอนี่ก้มลงมองตัวเองก็รู้ถึงสาเหตุว่าทำไมเขาถึงหน้าแดง ก็เพราะว่าเธอนุ่งแค่ ‘ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว’นี่ไง

เธอรีบจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจึงเป่าผม ตอนนี้เธอใส่เสื้อสีเทากับกางเกงยีนส์ขาสั้นสีเข้ม ที่เข้ากัน

ในระหว่างที่เธอเป่าผมนั้นมัลฟอยก็อาบน้ำเสร็จพอดี เขาเดินออกจากห้องน้ำด้วยสภาพปิดแค่ท่อนล่าง เค้าได้ใส่กางเกงบอลแค่ตัวเดียว เผยให้เห็นหุ่นซิกแพ็คของเขาทำให้เธอต้องละสายตาจากกระจกมามอง

เขาทันที

“โรคจิต” เขาบอกเธอก่อนที่จะใส่เสื้อสีเทาลงไป เธอแทบจะเอาไดร์มาปาใส่เขาถ้าไม่ติดว่าเธอเสียดายของ

“ไปกินข้าวกัน ทศบอกว่ามีร้านอร่อยๆอยู่ตรงข้ามโรงแรม” เขาพูดก่อนที่จะคีบอีแตะและออกจากห้องไป โดยมีเธอเดินตามไปติดๆ เพราะเธอก็หิวเหมือนกัน แต่ว่าเขาไปมีเบอร์กันตอนไหนนะ

***
พวกเขาเดินออกจากโรงแรมมายังร้านข้าวที่มีชื่อเสียงมากในขณะนี้


DM KITCHEN


พวกเขาเหลือบมองชื่อร้านก่อนจะคิดพร้อมกันว่า ทำไมมันเหมือนมีชื่อของพวกเขากันนะ

ภายในร้านถูกตกแต่งด้วยไม้ให้ความรู้สึกคลาสสิค แสงไฟสลัวๆก็ช่วยสร้างบรรยากาศได้ดีเช่นกัน

เด็กเสริฟหยิบเมนูให้ก่อนที่จะรับออเดอร์

“เอาอะไรดีฮะ” เด็กเสริฟถามขึ้น

เฮอร์ไมโอนี่ครุ่นคิดอยู่นานเพราะเธออยากกินอะไรเบาๆ สุดท้ายเธอก็เลือกสั่งก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ และน้ำแตงโม ส่วนมัลฟอยก็สั่ง ราดหน้าทะเลมากิน กับชามะนาว

“ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ที่นึง แล้วก็น้ำแตงโมงค่ะ” เธอเอ่ยอย่างเรียบๆ

“ราดหน้า กับ ชามะนาว” เขาเอ่ยอย่างเย็นชาและมีออร่าว่า อย่ามายุ่งกับเธอ สูงมาด จนคนอื่นต้องถอยห่าง

เมื่อพวกเขาได้อาหารแล้วก็ตั้งหน้าตั้งตากิน เพราะความหิว

“อร่อยเนอะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางยิ้ม ทำให้มัลฟอยเผลอยิ้มตามไปด้วย

“ชิมหน่อยสิ” เขาพูดขึ้น เฮอร์ไมโอนี่ได้ยินอย่างนั้นจึงตักก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ของเธอให้พอดีคำก่อนที่จะ ‘ป้อน’ เขา

มัลฟอยตกใจไม่น้อยเลยทีเดียวตอนแกรเขาคิดว่าเธอจะให้เขาทำเองซะอีก แต่ว่าเขากลับโดนป้อนซะงั้น มันทำให้หน้าของเขาชมพูนิดๆ แต่เธอก็ไม่ได้สังเกตอะไร

เมื่อพวกเขากินกันเสร็จแล้วก็ได้เช็คบิลแล้วกลับมาที่ห้องของตัวเองก่อนที่จะหย่อนกา
ยลงไปที่เตียงนุ่มๆ

เธอหันมามองเขาอีกทีก็พบว่าเขาหลับซะแล้ว เธอเดินไปใกล้ๆเตียงเขาก่อนที่จะหอมแก้มเขาเบาๆ

“ขอบคุณสำหรับวันนี้นะ.. มัลฟอย..” เธอเอ่ยอย่างแผ่วเบา ก่อนที่จะกลับไปเตียงตัวเองแต่ก็โดนมือของชายผู้ที่เธอหอมแก้มเมื่อกี้ฉุดไปซะก่อน

“จะลักหลับฉันหรอ” เขาถาม

“ป-ป่าวนะ” เธอปฏิเสธ

“อ้อหรอ แล้วเธอเรียกฉันว่ามัลฟอยใช่ไหม เจอดีแน่” เขาถามเธอก่อนจะเลียริมฝีปากตัวเองและพุ่งเข้ามาบรรจงจูบเฮอร์ไมโอนี่ทันที่ด้วยความ
อ่อนโยนทำให้เธอจูบตอบเขาโดยไม่ขัดขืน ก่อนที่เขาจะห้ามตัวเอง

ไม่ให้ทำอะไรเธอไม่ไหวจึงทำให้เขาก็ผละออก มีอยู่แว๊บนึงที่สายตาของเธอดูเหมือนจะเสียดายมาก

“ราตรีสวัสดิ์นะ” เขาพูดก่อนที่จะอุ้มร่างเล็กไปที่เตียงของเธอ

“ราตรีสวัสดิ์ เดรโก” เธอพูดพร้อมเอาผ้าห่มมาปิดหน้าด้วยความเขิน เขาเดินกลับเตียงตัวเองก่อนทั้งสองจะหลับไป





























ตอนนี้เธอเริ่มรักเขารึยังนะ ?

***


คุณ Nithinggle ได้แก้ไขข้อความนี้ ครั้งล่าสุดเมื่อ May 7 2016, 01:33 AM



Dramione Love it <3

รักพี่เฟ ปานจะกลืนกิน (?)
Go to the top of the page
+Quote Post
Nithinggle
โพสต์ Apr 30 2016, 09:43 PM
โพสต์ #9


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 1

**




กลุ่ม : นักเรียนบ้านสลิธีริน
โพสต์ : 56
เข้าร่วม : 10-April 16
จาก : อังกฤษ
หมายเลขสมาชิก : 28,748
สายเลือด : เลือดผสม
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: -- | ยาว: --
แกนกลาง: --
ความยืดหยุ่น: --

สัตว์เลี้ยง






The Disappearance of Draco Malfoy


















9.00



“นี่! ตื่นได้แล้ว” เสียงของมัลฟอยดังขึ้นเพื่อปลุกเฮอร์ไมโอนี่

เฮอร์ไมโอนี่ยันตัวเองขึ้นมาด้วยสภาพที่ผมยุ่งเหยิงก่อนที่จะครางออกมาเบาๆ

“อือ… ขออีก2นาทีนะ…” เธอพูดเบาๆก่อนที่จะทิ้งตัวนอนอีกรอบ มัลฟอยได้แต่ส่ายหัวเบาๆก่อนที่จะให้เวลาเธอนอนต่อและเดินไปอาบน้ำ

เมื่อผ่านไปสองนาทีเฮอร์ไมโอนี่ก็ลุกขึ้นก่อนที่จะขยี้ตาตัวเองสองสามที และกระพิบตาถี่ๆ เพื่อปรับโฟกัสของสายตา จากนั้นเธอก็เดินตรงไปห้องเพื่อที่จะไปอาบน้ำ โดยที่ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในห้องน้ำ

ตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่กำลังแปรงฟันแบบครึ่งหลับครึ่งตื่น ก่อนที่จะล้างหน้าแบบครึ่งหลับครึ่งตื่นเช่นกัน แต่แล้วจู่ๆก็มีใครซักคนเลื่อนม่านออกมา

“มัลฟอย! กรี้ด!!!” เธอกรี้ดลั่นเมื่อเห็นชายคนหนึ่งที่สะท้อนอยู่ในกระจก เขาจะเป็นใครที่ไหนไม่ได้นอกเสียจาก ‘เดรโก มัลฟอย’

“เธอมาทำบ้าอะไรเนี่ย!!? หันไปทางอื่นเดี๋ยวนี้นะ!!!” เขาสะดุ้งขึ้นก่อนที่จะใช้นิ้วชี้ให้เธอหันไปทางอื่น ความจริงเขาจะไม่ให้เธอหันไปก็ได้ เขาจะแกล้งเธอด้วยสภาพนี้ก็ยังได้ แต่ที่เขาไม่ทำเพราะเขินด้วย

ส่วนหนึ่ง แต่เหตุผลหลักๆก็คือ

เขานุ่งแค่ ‘ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว’ น่ะสิ

แถมผ้าก็จะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่ซะด้วย !!

“ทำไมนายไม่บอกฉันว่าอยู่ในห้องน้ำละ!” เธอถามโดยที่ยังไม่หันไปมอง

“ก็เธอมัวแต่นอนน่ะสิ” เขาพูดก่อนที่จะหยิบกางเกงมาใส่

“ แล้วทำไมไม่ปลุกฉันละ!” เธอเถียง

“ฉันปลุกเธอไปแล้ว!” เขาตอกกลับ

พวกเขาเถียงไปเรื่อยๆอย่างไม่หยุดหย่อน นับว่าเป็นสงครามขนาดย่อมเลยก็ได้

“นายนั้นแหละผิด!!” เธอยังคงยัดเหยียดความผิดให้เขา

“โอเค! ฉันผิด! พอใจเธอยัง!?” เขาพูดอย่างเหลืออดก่อนที่จะเดินจากห้องน้ำไป

“ยอมรับก็ดี!” เธอพูดก่อนที่จะเดินไปอาบน้ำ โดยที่ไม่รู้เลยว่า

เธอจะได้เจอเขาไหม หลังจากออกจากห้องน้ำไปแล้ว



***


เมื่อเธออาบน้ำเสร็จ เธอกวาดสายตามองรอบห้องก็ไม่พบกับมัลฟอย

เธอจัดการแต่งตัวอย่างลวกๆก่อนที่จะกดเบอร์หามัลฟอยทันที



‘เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ขณะนี้ค่ะ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ’



เธอค่อนข้างจะตกใจเลยทีเดียวที่มัลฟอยกดปิดเครื่องไป

‘ปกติเขาไม่เคยปิดนี่นา’ เธอคิด

‘เดี๋ยวก็คงโทรกลับนั้นแหละ’ เธอบอกกับตัวเอง

‘ หรือเขาจะไปกินข้าวนะ’ เธอคิดก่อนที่จะเดินไปหยิบการ์ดรับประทานอาหารเช้าบนโต๊ะเครื่องแป้ง บนโต๊ะเครื่องแป้งยังคงปกติทุกอย่างไม่มีร่องรอยการแตะต้องการ์ดทั้งสองใบเลย

‘อาจจะไปกินข้าวข้างนอกก็ได้’ เธอพยายามไม่ใส่ใจอะไรก่อนที่จะหยิบการ์ดหนึ่งใบและลงไปกินข้าวเช้า แต่ความคิดก็ยังมีมาอยู่เรื่อยๆ

เธอลงลิฟท์มาจนถึงชั้นที่มีห้องอาหาร ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม และมีกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆโชยมา จริงๆเธอควรจะรู้สึก ‘โล่งใจ’ ไม่ก็ ‘ดีใจ’ ที่เขาไม่อยู่ นี่นาแต่กลายเป็นว่า เธอรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก

เธอเดินไปจองโต๊ะนั่ง ก่อนที่จะเดินไปตักอาหารมากิน วันนี้เธอเลือกที่จะกินข้าวต้ม เพราะเธอไม่ค่อยหิวมากนัก แต่กินไปแค่สองสามคำเธอก็รู้สึกไม่อยากกินต่อซะแล้ว ในระหว่างที่เธอจะกลับไปที่ห้องของตัวเอง

เธอก็พบกับเพื่อนรักทั้งสองคนของเธอ แพนซี่กับจินนี่ก็อยู่กับพวกเขาด้วย

“เฮอร์ไมโอนี่!!” เพื่อนรักของเธอตะโกนเรียกเธอก่อนที่พวกเขาจะเดินมาพร้อมสาวๆอีกสองคน เธอจึงยิ้มรับให้

“เป็นอะไรรึเปล่า?” รอนถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงเพราะเห็นเธอไม่ได้พูดอะไร เธอส่ายหัวเบาๆเป็นการบอกว่าเธอ ‘โอเค’



แค่ในตอนนี้น่ะนะ

“พวกเธอจะไปไหนกันต่อเนี่ย” เธอถามขึ้น เพื่อไม่ให้ดูแปลกไปในสายตาพวกเขา

“เดี๋ยวฉันว่าจะพาจินนี่ไปซื้อของ ส่วนรอนก็คงจะไปสวนสนุกกับแพนซี่น่ะ” แฮร์รี่ตอบกลับ เธอเข้าใจนะที่แฮร์รี่ไปกับจินนี่ แต่เธอไม่เคยคิดว่า แพนซี่จะไปกับรอน เนี่ยละสิ

“ดีจังเลยนะ” เธอยิ้มให้

“แล้วพี่เฮอร์ไมโอนี่จะทำอะไรหรอคะ” จินนี่ถามขึ้น

นั้นน่ะสิเธอจะทำอะไรดีนะ…?

“ไม่รู้สิ เดี๋ยวฉันคิดดูก่อน” เธอตอบไป

“ถ้าไม่มีไรทำก็ไปกับพวกเราได้นะ ฉันไปก่อนนะ ไว้เจอกัน” แฮร์รี่พูดก่อนที่จะแยกตัวออกไป

“ไว้เจอกันนะ” เฮอร์ไมโอนี่ รอนบอกลาก่อนที่จะจับมือแพนซี่เดินออกไป











เดี๋ยวนะ….














เธอไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม….























‘รอน วีสลี่ย์’ กำลังจับมือ ‘แพนซี่ พาร์กินสัน’ !!!!??




***


เธอกลับมาถึงห้องของเธอ เธอค่อยๆหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟาก่อนที่จะโทรหามัลฟอยอีกรอบ



‘เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ขณะนี้ค่ะ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ’



เขายังคงไม่เปิดเครื่อง มันทำให้เฮอร์ไมโอนี่กังวลขึ้นเรื่อยๆ

เธอจึงตัดสินใจที่จะโทรหาทูตระหว่างโลกมักเกิ้ลกับโลกเวทย์มนต์

“ฮัลโหล” เสียงปลายสายพูด

“เธอรู้ไหมว่ามัลฟอยอยู่ไหน” เธอถามขึ้น

“อ่าว! ไม่ได้อยู่อยู่กับเธอ” ปลายสายตอบด้วยน้ำเสียงตกใจ



แล้วเขาจะไปอยู่ที่ไหนกัน ถ้าไม่ได้อยู่กับปอ หรือว่า!?





เขาจะอยู่กับสองพี่น้องนั้นนะ ?

“ขอเบอร์พี่น้องมนุษย์หมาป่าหน่อยสิ” เธอเอ่ยก่อนที่ปอจะตอบกลับมา

“เดี๋ยวเราส่งให้ทางแชทละกัน “

“ขอบคุณมากนะ” เธอพูดก่อนจะตัดสายไป แล้วกดเบอร์ของหนึ่งในพี่น้องมนุษย์หมาป่าทันที



“ฮัลโหลฮะ” เสียงปลายสายพูดซึ่งคาดว่าน่าจะเป็น ‘ทศ’ ดูจากลักษณะการพูด

“ทศใช่ไหมคะ” เธอถามเพื่อความแน่ใจ

“ใช่ฮะ มีอะไรรึเปล่า” เขาถามด้วยเสียงแปลกใจ

“มัลฟอยอยู่ไหนหรอ”

“เห็นบอกว่าจะไปผับน่ะ” เขาเอ่ย



คนอย่างมัลฟอยเนี่ยนะจะไปผับ !?



“ผับชื่ออะไรหรอ” เธอถามคำถามเขาอีกครั้ง



“ผมไม่รู้ฮะ” เขาตอบ



‘สตอเบอร์รี่…..’ เธอคิดในใจ



“จะบอกฉันดีๆไหม?” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา นั้นทำให้เธอดูหน้ากลัวขึ้นทันตาเห็น

“ผมจำไม่ได้ว่าชื่ออะไร เดี๋ยวผมส่งไปตำแหน่งไปให้ละกันนะฮะ” เขาพูดอย่างลวกๆก่อนที่จะตัดสายไป

เธอล้มตัวลงนอนก่อนที่จะรอตำแหน่งจากทศอย่างใจจดใจจ่อ



ตึ้ง!



เสียงข้อความเด้งขึ้นมาทำให้เธอรีบเปิดอ่านแต่โดยไว

‘สวัสดี คุณเกรนเจอร์

ขออภัยที่ต้องแจ้งกำหนดการกลับอย่างเร่งด่วน เนื่องจาอทางฮอกวอตส์เกิดปัญหาขึ้นเล็กน้อย จึงต้องขออนุญาตให้นักเรียนทุกคนกลับอย่างเร่งด่วน เครื่องจะออกในเวลาเที่ยงตรง ขอให้นักเรียนทุกคนอย่ามา

สาย เพื่อผลดีของตัวเอง



เรียนมาเพื่อทราบ

ฮอกวอตส์’

เธอผิดหวังเล็กน้อยที่ไม่ใช่ข้อความจากทศหรือจากมัลฟอย

เธอเหลือบไปมองนาฬิกาเล็กน้อยก็พบว่าสิบเอ็ดโมงครึ่งแล้ว เธอมีเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง ที่จะตามหาเขางั้นเรอะ !?



ตึ้ง



เสียงข้อความเด้งอีกรอบก่อนที่เธอจะเปิดดู

‘ทศกัณฑ์ งุงิๆ ได้แชร์ตำแหน่งที่ตั้งให้คุณ

ซอย สุขุมวิทย์ 49 10110 กรุงเทพ’



เมื่อเห็นดังนั้น เธอก็รีบเด้งตัวออกจากเตียงก่อนที่จะรีบลงไปโบกแท็กซี่โดยไว









แต่ว่านะ







ชื่อจะไม่ดูมุ้งมิ้งไปหน่อยหรอ….

“ไปสุขุมวิทย์ไหมคะ” เธอเอ่ยถาม

“ไม่ไป ส่งรถ” คุณลุงที่มีป้ายชื่อติดว่า ‘ชัยยศ’ บอกก่อนที่จะเบ้ปากใส่เธอรัวๆ มันทำให้เธออยากที่จะเข้าไปต่อยซักที แต่ก็ทำได้แค่คิดน่ะนะ

ตอนนี้เธอเหลือเวลาไม่ถึงชั่วโมงแล้วนี่ละสิ…








แต่เดี๋ยวนะ….








ประเทศไทยมี “วินมอไซค์นรก” อยู่นี่นา

เธอโดนตรงไปที่วินมอไซค์ทันที

“ไปสุขุมวิทย์ไหมคะ” เธอเอ่ยถาม

“ไปจ้าน้อง เอาคันไหนดีเอ่ย” หัวหน้าวินที่คาดว่าน่าจะเป็นเพศที่สามขยิบตาใส่เธอและพูด

“คันเร็วๆ มีไหมคะ” เธอพูดอย่างรวบรัด

“งั้นไปกับพี่แป๊ะเลยจ้า ‘หัวหน้าวินพูดก่อนที่จะผายมือไปทางวินมอไซค์คนหนึ่งที่มีชื่อติดว่า


‘แป๊ะๆ แว๊นมาราธอน’

“ไปเลยไหมฮะ” แป๊ะถาม ก่อนที่จะเอาหมวกกันน็อคมาปิดหน้าไว้


“ไปเลย ขอเร็วหน่อยนะ” เธอพูดก่อนที่จะขึ้นไปนั่งบนมอเตอร์ไซค์



แว๊น!



พวกเขาใช้เวลาเพียงสามนาทีเท่านั้นในการมาถึง นับว่าเป็นประสบการณ์นั่งมอเตอร์ไซค์เร็วที่สุดที่เธอเคยนั่งมา

“ใกล้แค่นี้ผมคิดฟรีละกันฮะ” เขาพูดก่อนที่จะขับรถไปออกไป

คนไทยนี่ใจดีแบบนี้ทุกคนเลยรึเปล่านะ..?

ในตอนที่เธอกำลังจะเดินเข้าไปนั้น ก็มีการ์ดคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเธอ

“ขอดูบัตรด้วยครับ” เขาเอ่ยแบบนิ่งๆ

“ฉันลืมไว้อยู่ที่โรงแรมน่ะค่ะ” เธอพยายามพูดโกหกอยู่ ก็เธอดันอายุไม่ถึงที่จะเข้าผับได้น่ะสิ เธอโกหกได้เนียนเลยทีเดียวก็เพราะเธอเคยถูกมัลฟอยบังคับให้โกหกยังไงละ

“เข้าไม่ได้ครับ” เขาพูดเหมือนรู้ทันเธอ

“คนนี้เขามากับผมฮะ” เสียงของชายไทยคนนึงดังขึ้น เขาคือ ‘ทศกัณฑ์ งุงิๆ’ นั้นเอง

“งั้นก็เชิญครับ” การ์ดพูดก่อนที่จะผายมือให้เข้าไป

“มาทำไมน่ะ” เธอถามพร้อมกับกวาดสายตามองหามัลฟอย

“พาพี่เข้าไงฮะ” เขาพูดขึ้นก่อนที่จะหายไปในไม่กี่วินาที

ถ้าจำไม่ผิดทศอายุน้อยกว่าเธอ แต่ทำไมเข้าผับได้ละ…? ช่างไม่ยุติธรรม…

เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ ผับนี้มีอยู่สี่ชั้นตอนนี้เธอ อยู่ที่ชั้นแรกชั้นนี้ดูเหมือนจะเป็นร้านอาหารทั่วไป เมื่อเธอหาเขาไม่เจอจึงขึ้นไปหาอีกที่ชั้นสอง

ชั้นสองมันคือผับจริงๆ เสียงเพลงแนวEDM แสงไฟหลากสี เรียกว่าครบเลยทีเดียว เธอเดินมองรอบๆก่อนที่จะเห็นชายผมสีบลอนด์ที่กำลังนั่งอยู่ที่บาร์ ต้องใช่คนที่เธอตามหาแน่ๆ

เธอวิ่งเข้าไปหามัลฟอยก่อนที่จะ ‘กอด’ เขา

“หายไปไหนมา เดรโก!!!” เธอตะโกนบอกเขาโดยที่ยังคงกอดไม่ปล่อย เขายังคงเกิดอาการ ‘ช็อค’ กับการที่เธอกอดเขาอยู่

“ก-ก็เธอพูดอย่างนั้นนี่นา ฉันเลยออกมา...” เขาพูดตะกุตะกักก่อนที่เสียงของเขาเริ่มเบาลง

“ฉันเป็นห่วงนายนะ รู้ไหม..” เธอเอ่ยอย่างแผ่วเบา

ใช่ เธอห่วงเขาเทียบเท่ากับแฮร์รี่และรอน อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ

“เฮ้อ เธอนี่นะ เพราะอย่างนี้ไงฉันถึงชอบแกล้งเธอ” เขาพูดก่อนที่จะบรรจงจูบเธออย่างนุ่มนวล ซึ่งเธอไม่ได้ผลักออก แต่เธอกลับจูบตอบเขา



แช๊ะ!



อยู่ๆก็มีเสียงกดชัตเตอร์ของใครบางคนทำให้เธอต้องหันไปมอง เธอก็พบว่า สองพี่น้องหมาป่า กับทูตระหว่างโลก กำลังรัวชัตเตอร์ถ่ายรูปเธอกับเขาอยู่

“นี่พวกนายทำอะไรน่ะ!!!” เธอพูดพร้อมกับหน้าที่แดงขึ้นไม่รู้เพราะความโกรธหรือเขินกันแน่

“โดนจับได้ซะแล้ว” พวกเขาพูดอย่างเสียดาย

“นี่รวมหัวกันแกล้งฉันหรอ!!!” เธอพูด ทั้งสี่คนก็พยักหน้ากันอย่างเพียบพร้อม

“ฉันก็อุสาห์เป็นห่วง” เธอพูดพร้อมส่ายหัวเบาๆ

“รักฉันก็บอก” เขาเอ่ยขึ้นก่อนที่จะโดนเฮอร์ไมโอนี่ตีไปทีนึง เขายิ้มก่อนที่จะจูบเฮอร์ไมโอนี่อีกที แต่ครั้งนี้เธอผละออก

“ผละฉันออกทำไม” มัลฟอยพูดก่อนที่จะแก้มเขาจะป่องนิดๆ

เธอไม่ได้ตอบเขาก่อนที่จะหันไปถามแผนการว่าแผนทั้งหมดมันเป็นแบบไหนจากสามคนที่เหลือ

“วินมอไซค์คือทศ!? ส่วนการ์ดคือกายหรอ!?” เธอพูดอย่างตกใจเพราะเธอไม่รู้เลย ทำให้มัลฟอยหลุดหัวเราะออกมา เขาคิดว่าแผนจะแตกด้วยซ้ำนะนั้น

พวกเขาเริ่มคุยกันอย่างสนุกสนานก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะนึกขึ้นได้ว่าต้องกลับฮอกวอตส์

“กี่โมงแล้ว เดรโก” เธอถามมัลฟอย

“บ่ายโมงน่ะ”เขาเอ่ยอย่างสบายใจก่อนที่จะยกแก้วแชมเปญมาดื่ม





เดี๋ยวนะ….









เขานัดให้ขึ้นเครื่องเที่ยงตรง……


















นี่บ่ายโมง….















ฉิบหายแล้วละค่ะ….





“เดรโก พวกเราตกเครื่อง...”

***


คุณ Nithinggle ได้แก้ไขข้อความนี้ ครั้งล่าสุดเมื่อ May 8 2016, 01:59 AM



Dramione Love it <3

รักพี่เฟ ปานจะกลืนกิน (?)
Go to the top of the page
+Quote Post
Nithinggle
โพสต์ May 9 2016, 01:21 AM
โพสต์ #10


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 1

**




กลุ่ม : นักเรียนบ้านสลิธีริน
โพสต์ : 56
เข้าร่วม : 10-April 16
จาก : อังกฤษ
หมายเลขสมาชิก : 28,748
สายเลือด : เลือดผสม
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: -- | ยาว: --
แกนกลาง: --
ความยืดหยุ่น: --

สัตว์เลี้ยง






Miss The Flight


“เดรโก พวกเราตกเครื่อง....”
.
.
.
.
.
.

“อะไรนะ!!” มัลฟอยโพล่งออกมาด้วยความตกใจ ส่วนสามคนที่เหลือก็มีการยิ้มกรุ่มกริ่มเกิดขึ้น

“ตกเครื่องไงละ เจ้าบ้า!” เธอพูดอย่างหัวเสีย เป็นพรีเฟ็คแท้ๆ ไหงมาตกเครื่องได้เนี่ย

“ศาสตราจารย์ดับเบิ้ลดอร์ยังไม่ได้บอกให้กลับไม่ใช่หรอ” เขาถามขึ้นด้วยความสงสัย

“ดูในโทรศัพท์นายสิ” เธอพูดก่อนที่จะกุมหัวตัวเอง

“ไม่มี” เขาตอบกลับก่อนที่จะยื่นโทรศัพท์ให้เธอดู

“อย่ามาล้อฉันเล่น เขาส่งให้ทุกคน” เธอเลิกคิ้วอย่างสงสัยก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของเขามาดู

“นี่นายลบมันเพื่อจะมาหลอกฉันใช่ไหม!” เธอพูดเสียงดังขึ้น เพราะคิดว่าเขาต้องแกล้งเธอแน่ๆ

“ฉันจะลบทำไมละ หัดฟังฉันบ้างสิ!” เขาตอบกลับ

“นายแกล้งฉัน!” เธอเริ่มเถียง

“ฉันไม่ได้แกล้งเธอ!” เขาเถียงเธอกลับ



พวกเขาเริ่มเถียงกันอีกครั้งแล้วสินะ…



“เดี๋ยวก่อนสิครับ เขาส่งให้หมดทุกคนแหละครับแต่ผมไปลบของคุณมัลฟอยทิ้งแค่นั้นเอง” กายที่ เงียบอยู่นานเอ่ยขึ้น

“อะไรนะ!!” มัลฟอยพูดก่อนที่จะลุกขึ้นและเข้าไปกระชากคอเสื้อกายทันที



‘เดรโก มัลฟอย’ขี้โมโหกลับมาแล้ว…
.

.

.

.


ย้อนกลับไปตอนที่เดรโก มัลฟอย พึ่งมาถึงผับ







“สวัสดี กาย” มัลฟอยทักทายก่อนที่จะเดินไปจับมือกับเพื่อนคนไทยของเขา

“สวัสดีครับ” กายทักทายกลับก่อนที่จะมีปอและทศมาสมทบด้วย

“ชอบประเทศไทยรึเปล่าเอ่ย” ปอถามขึ้นก่อนก่อนที่จะหยิบเทไวน์ลงในแก้วให้พวกเขา

“ก็ชอบอยู่นะ” เขาตอบกลับไป

“ไม่อยากให้พี่มัลฟอยกลับเลยฮะ” ทศพูดก่อนจะทำหน้าเศร้าทันที

“เดี๋ยวก็ได้เจอกัน” มัลฟอยตอบ

“คุณมัลฟอยครับ ขอโทรศัพท์แปปนึงได้ไหมครับ ผมจะให้เบอร์ผม” กายโพล่งขึ้นมา เขายื่นให้โดยที่ไม่ปริปากพูดอะไร

มันแปลกเหมือนกันนะที่คนอย่าง ‘เดรโก มัลฟอย’ จะสนิทกับพวกมักเกิ้ลที่เป็นมนุษย์หมาป่า แถมยอมให้โทรศัพท์อย่างโดยดีด้วย

ในระหว่างที่กายกำลังกดเบอร์ของตัวเองนั้น ข้อความของฮอกวอตส์ก็เด้งมาทันที

‘คุณได้รับข้อความใหม่’

กายเผลอกดเข้าไปดูข้อความอย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่การกดเข้าไปดูของเขาทำให้เขารู้ว่า มัลฟอยจะต้องกลับเสียแล้ว

‘ไม่อยากให้พี่มัลฟอยกลับเลยฮะ’ เขานึกถึงคำพูดของน้องเขาที่ไม่อยากให้มัลฟอยกลับ เขาเลยจัดการลบข้อความนั้นทันที เพื่อที่ว่ามัลฟอยจะมีเวลาอยู่กับพวกเขาเยอะขึ้น

“เสร็จละครับ” เขาพูดก่อนที่จะยื่นโทรศัพท์คืนมัลฟอย และสรรหาเรื่องคุยกับมัลฟอยต่อไป


จบการย้อนความ


“เดี๋ยว ใจเย็นๆก่อน ก็พวกผมอยากให้คุณอยู่ต่อนี่นา” เขาพูดพร้อมกับชูมือขึ้น

“ส่งข้อความหากันก็ได้ไม่ใช่เรอะ นี่นายทำบ้าอะไรของนายเนี่ย!!?” เขายังคงตะคอกอัดหน้ากายก่อนจะปล่อยมือที่กระชากคอเสื้อกายอย่างรุนแรงแล้วเดินออกไป

“เดรโก รอด้วย!” เฮอร์ไมโอนี่พูดก่อนที่จะวิ่งตามไปติดๆ

“นี่ฉันทำเกินไปหรอ” กายพูดก่อนที่จะหันมามองหน้าเพื่อน+น้องทั้งสอง ซึ่งสองคนนั้นก็พร้อมใจพยักหน้า


***


“เดรโก นายเป็นบ้าอะไรน่ะ!” เฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมวิ่งตามเขาไปด้วย เมื่อเขาได้ยินดังนั้นก็หยุดเดินก่อนที่จะพูดว่า

“ก็พวกมันทำแบบนี้ไง ทำให้พวกเราไม่ได้กลับ”

“ฉันไม่ควรจะไปยุ่งกับมักเกิ้ลพวกนั้นเลย!”เขาพูดต่อด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น

“แค่ไม่ได้กลับเอง ไม่เห็นต้องหัวเสียขนาดนี้เอง เดี๋ยวเราก็ได้กลับนี่นา” เธอพูดพร้อมเดินมาข้างๆเขา

“ฉันเป็นพรีเฟ็คนะ เธอเองก็ด้วย ถ้าโดนปลดละจะทำยังไง?!” เขาพูดพร้อมหันมามองหน้าเธอ

“ยังไงนายก็ไม่สนใจอยู่แล้วไม่ใช่หรอ” เธอเลิกคิ้วขึ้นหร้อมพูดตามความคิดของเธอ

คนอย่างเดรโก มัลฟอยไม่น่าจะมาสนใจในการเป็นพรีเฟ็คมากขนาดนี้นี่นา

“เธอไม่เข้าใจฉัน” เขาพูดอย่างเรียบๆ ก่อนที่จะโบกแท็กซี่และขึ้นไปโดยทันที ทิ้งให้เฮอร์ไมโอนี่ยืนอยู่ที่เดิม





ย้อนไปตอนที่เดรโก มัลฟอยรู้ว่าตัวเองเป็นพรีเฟ็ค





มัลฟอยได้กดเบอร์โทรหาพ่อของเขาทันทีหลังรู้ข่าว

“พ่อครับ ผมได้เป็นพรีเฟ็ค” เขาพูด

“เก่งมากเดรโก สมกับเป็นตระกูลมัลฟอย” เสียงปลายสายตอบมา นั้นก็คือ พ่อของเขา ‘ลูเซียส มัลฟอย’ นั้นเอง

“ครับ” เขาตอบกลับ

“อย่าทำให้ฉันผิดหวังละกัน แกรู้ใช่ไหมถ้าแกทำผิดพลาดจะเป็นยังไง” ลูเซียสพูดด้วยเสียงเรียบเฉย ออกจะเย็นชาด้วยซ้ำ

“ครับ” เขาตอบอีกครั้งก่อนที่จะตัดสายไป

เขาไม่อยากทำพลาด เพราะเขารู้ดีถ้าทำพลาดเขาจะเป็นอย่างไร

ใครๆก็รู้ว่า ลูเซียส มัลฟอย พ่อของเขา ‘เป็นคนยังไง’



จบการย้อนความ



เขานั่งแท็กซี่มาจนถึงโรงแรม เมื่อถึงห้องเขาก็หย่อนตัวนอนลงบนเตียงอย่างแรง ก่อนที่จะมีเสียงเปิดประตูของเฮอร์ไมโอนี่ เธอค่อยๆเดินเข้ามาหาเขา

“นายเป็นอะไร” เธอหย่อนตัวข้างๆเขาก่อนถาม เขาไม่ได้ตอบเธอแต่เปลี่ยนไปท่าในการนอนไปนอนตะแคงแทน

“ ให้ฉันอยู่คนเดียวเถอะ เกรนเจอร์” เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ครั้งนี้เขาไม่ได้เรียกเธอด้วยชื่อแต่กลับเรียกเธอด้วยนามสกุลแทน



ฟึ้บ



เธอคว้ามือของเขามากุมไว้ มันทำให้เขาตกใจไม่น้อยเลยทีเดียว

“ทำอะไรน่ะ!” เขาหันมาและพูดกับเธอขึ้นแต่ก็ไม่ได้สะบัดมือออก

“อย่าเก็บไว้คนเดียวสิ นายกลัวอะไรอยู่หรอ…?” เธอเอ่ยถามเขาเรียบๆพร้อมจ้องเข้าไปในดวงตาของเขา แก้มของเธอชมพูขึ้นนิดๆ การที่เธอทำแบบนี้ทำให้เขาหัวใจเขาพองโตไม่น้อยเลยทีเดียว

“ฉันมองคนออกนะ” เธอบอกเขาก่อนที่จะจ้องเข้าไปในตาของเขาลึกมากขึ้นนั้นทำให้รู้ว่า เขากำลัง ‘กลัว’ อะไรบางอย่าง

“โอเค…ฉันจะบอกเธอ” เขาพูดก่อนที่จะเล่าเรื่องที่พ่อของเขาฝากความหวังไว้ที่เขามากเท่าไหร่

.

.

.

.

.

.

“นายกลัวเรื่องแค่นี้เนี่ยนะ” เธอพูดขึ้นหลังเขาเล่าจบ สำหรับเธอแล้วมันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยจริงๆ

“เขาเป็นพ่อเราก็ต้องเข้าใจเหตุผลน่า อีกอย่างแค่ตกเครื่องเอง ศาสตราจารย์ดับเบิ้ลดอร์คงไม่ว่าอะไรหรอก” เธอพูดปลอบใจเขาก่อนที่จะยิ้มบางๆให้เขา







ถึงมันจะเป็นยิ้มบางๆ











แต่มันเป็นยิ้มที่อบอุ่น









ซึ่งเขาเคยได้รับเมื่อ ‘นาน’ มาแล้ว....










มันช่าง ‘นาน’ จนเขาจำแทบไม่ได้เลยละ



เขายิ้มบางๆให้เธอ ก่อนที่เขาจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อไปอาบน้ำ ปล่อยให้เธอนั่งอยู่บนตียงโง่ๆ

ตอนนี้เธอเริ่มคิดเรื่องของเขา ทึกเรื่องที่เกี่ยวกับเขา





บางทีเขาอาจจะต้องการคนอยู่ด้วยก็ได้…?







เขาเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับสวมชุดนอนสีน้ำเงินเข้ม

“เธอไปอาบน้ำได้แล้วนะ” เขาพูดก่อนที่จะหย่อนตัวเองลงบนเตียง

“นายไม่ออกไปหาไรกินข้างนอกหรอ” เธอถามขึ้น

“ฉันไม่อยากออกไปไหนน่ะ ฉันเลยสั่งขึ้นมากิน เธอจะไปก็ไม่ว่านะ” เขาพูดก่อนที่จะมองไปยังหน้าต่าง ถ้าเธอไปเขาคงน้อยใจน่าดูเลย

“ฉันไม่ออกไปไหนทั้งนั้นแหละ ฉันจะอยู่กับนาย” เธอพูด โดยที่ไม่รู้เลยว่านั้นทำให้แก้มของเขาชมพูขึ้นมานิดๆ

เธอเดินไปตรงโทรศัพท์ของห้องก่อนที่จะกดเบอร์ไปหาเชฟเพื่อจะสั่งอาหาร พวกเขาได้รับสิทธิพิเศษจึงไม่ต้องโทรบอกเค้าเตอร์ก่อน สามารถสายตรงหาเชฟได้เลย นั้นเป็นข้อดีของพรีเฟ็คอีกข้อหนึ่ง

“นายกินอะไรอ่ะ” เธอถามเขา หน้าของเขายังคงชมพูนิดๆอยู่

“ผัดไทย” เขาเอ่ยเรียบๆ

“เอาผัดไทยจานนึงค่ะ ขอบคุณค่ะ “เธอบอกกับปลายสายก่อนจะตัดสายทิ้งทันทีที่พูดจบ

“นึกยังไง อยากอยู่กับฉันเนี่ย” เขาถามขึ้นด้วยความอยากรู้

“ไม่รู้สิ” เธอบอกกับเขาก่อนจะพูดต่อ

“ ฉันจะบอกกับฮอกวอตส์ก่อนว่าพวกเราตกเครื่อง แล้วนายไม่ต้องกลัวไปละ”

เธอพูดดักทางเขาไว้ ทำให้เขาหันมามองเธอทันที

“ฉันหยอกเล่นน่า” เธอพูดก่อนที่จะขำเล็กน้อย เมื่อเห็นแบบนั้นเขาก็หลุดยิ้มออกมา

การที่เฮอร์ไมโอนี่เห็นรอยยิ้มนั้น















มันทำให้เธอใจสั่นอีกแล้วละ…

***




Dramione Love it <3

รักพี่เฟ ปานจะกลืนกิน (?)
Go to the top of the page
+Quote Post
Nithinggle
โพสต์ May 10 2016, 01:35 AM
โพสต์ #11


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 1

**




กลุ่ม : นักเรียนบ้านสลิธีริน
โพสต์ : 56
เข้าร่วม : 10-April 16
จาก : อังกฤษ
หมายเลขสมาชิก : 28,748
สายเลือด : เลือดผสม
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: -- | ยาว: --
แกนกลาง: --
ความยืดหยุ่น: --

สัตว์เลี้ยง






Drunk















ตึ่ง


“ฮอกวอตส์ตอบกลับมาแล้ว” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยก่อนที่จะเปิดข้อความดู

‘สวัสดี คุณเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์

ทางฮอกวอตส์ได้รับข้อความจากคุณแล้ว เราได้ทำการจองตั๋วเครื่องบินให้พวกคุณแล้ว โดยพวกคุณต้องขึ้นเครื่องเดียวกับมักเกิ้ล และจะได้นั่งชั้นธรรมดาเป็นการลงโทษเล็กๆน้อยๆ

เที่ยวบินของคุณคือ เที่ยวบินที่788 สายการบินเจ.เค. โรวลิ่ง เวลา 8.00 น.

ขอความกรุณาอย่ามาสาย


จึงเรียนมาเพื่อทราบ

ฮอกวอตส์’

“พรุ่งนี้เราต้องตื่นเช้านะ เดรโก” เธอพูดก่อนที่จะหย่อนตัวลงบนโซฟา

“โอเค” มัลฟอยเอ่ยเรียบๆ



ก๊อกๆ



เสียงเคาะประตูของใครบางคนดังขึ้น

“ฉันเปิดเอง” เขาพูดก่อนที่จะไปเปิดประตู

“เอาอาหารมาเสิร์ฟครับ” พนักงานเสิร์ฟเดินเข้ามาในห้องก่อนที่จะวางผัดไทยสองจาน และว้อดก้าหนึ่งขวด ถังน้ำแข็งและแก้วอีกสองใบ

“ฉันไม่ได้สั่งว้อดก้านะคะ” เธอพูดพร้อมขมวดคิ้ว

“ฉันสั่งเอง” เขาพูดเรียบๆก่อนที่จะเดินมานั่งที่โต๊ะ ตรงข้ามกับเธอ

“สั่งมาทำไมเนี่ยฉันไม่กินเหล้านะ” เธอพูด เธอไม่เคยคิดจะดื่มแอลกอฮอล์

“เธอไม่กินแต่ฉันกินนิ” เขาพูดพร้อมกับยักไหล่นั้นทำให้เธอหมั่นไส้มากเลยทีเดียว แต่เธอก็ทำได้แค่หมั่นไส้ต่อไป

“ แต่ถ้าเธอไม่ดื่มมัน…” เขาเอ่ยก่อนที่จะพูดต่อว่า

“ ฉันจะเปลี่ยนจากกินผัดไทย มา ‘กินเธอ’ แทน” มัลฟอยกระตุกยิ้มมุมปากเบาๆ

“โอเค ฉันดื่มก็ได้” เธอรีบตอบกลับทันที เธอยังไม่อยากให้เขา ‘กินเธอ’ ตอนนี้หรอก (แสดงว่าตอนหน้าอยากใช่ไหมหนูเฮอร์//โดนตบ)



ว้อดก้ากับผัดไทย.....













ช่างเข้ากันจริงๆ......




พวกเขากินอาหารข้างหน้าพวกเขาให้หมดก่อนที่จะดื่มว้อดก้า ถ้ากินผัดไทยกับว้อดก้าควบคู่กันน่าจะรสชาติแย่พอสมควร

มัลฟอยจัดการเทว้อดก้าเพียวๆลงไปในแก้วของเขาและเฮอร์ไมโอนี่


แกร๊ง


“ดื่ม” เขายกแก้วของตัวเองขึ้นมาเช่นเดียวกับเฮอร์ไมโอนี่ก่อนที่จะชนแก้วและดื่มทันที

“ขมคออ่ะ” เธอบ่นอุบอิบและทำท่าทีแหยะๆ เธอค่อนข้างจะไม่ชอบมันเลยทีเดียว

“งั้นฉันเอาไปผสมให้ละกัน” เขาเดินไปหยิบน้ำส้มในตู้เย็นออกมาก่อนที่จะ ใส่ว้อดก้าไปหนึ่งส่วนแล้วตามด้วยน้ำส้มอีกสองส่วน เขาเขย่าเบาๆเพื่อให้เข้ากันก่อนที่จะส่งให้เธอดื่มมัน

“อร่อยอ่ะ” เธอพูดออกมาหลังดื่มมันเสร็จ มันไม่ได้ขมแบบเมื่อกี้ แต่กลับหวานอร่อยแบบแปลกๆ ?

ด้วยความอร่อยนั้นเธอเลยจัดการดื่มหมดภายในรวดเดียว

“ใจเย็นๆสิ เฮอร์ไมโอนี่” เขาห้ามเธอ การที่เธอดื่มเร็วขนาดนั้นมันอาจจะเป็นอันตรายสำหรับเธอก็ได้

“ฉันโอเคน่า” เธอพูดขึ้นก่อนที่ชงดื่มเองอีกแก้ว ตอนนี้หน้าของเธอก็เริ่มแดงเพราะฤทธิ์เหล้าแล้ว

พวกเขาเริ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีต สมัยที่พวกเขายังคงเกลียดกัน

“นาย… มาชอบฉันได้ไง?” เธอถามขึ้นก่อนที่จะดื่มว้อดก้าไปอีกแก้ว

“ ฉันก็ไม่รู้สิ คงชอบเพราะเธอเป็นเธอละมั้ง” เขาพูดขึ้นก่อนจะจิบว้อดก้าในแก้วตัวเองเล็กน้อย

หน้าของมัลฟอยยังคงปกติ ดูเหมือนว่า ‘เดรโก มัลฟอย’ คนนี้จะคอแข็งนะเนี่ย

“ถ้านายบอกว่าชอบแฮร์รี่ ฉันจะเชื่อมากกว่านะ ฮะๆ” เธอพูดพร้อมกับขำเล็กๆ

เขารู้สึกแปลกใจที่เธอพูดมาแบบนั้น ทำไมเขาต้องชอบศัตรูของเขาด้วยละ ?

“ฉันรักเธอนะ ยัยบ้า ฉันจะไปรักพอตตี้ทำไมละ” เขาเลิกคิ้วถามเธอ

“ไม่รู้สิ ฮะๆ” เธอพูดพร้อมขำ ดูท่าเฮอร์ไมโอนี่น่าจะเมาหนักแล้ว

หลังจากนั้นความเงียบค่อยๆปกคลุมพวกเขา

เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าของมัลฟอยที่กำลังมองไปนอกหน้าต่างก่อนที่เธอจะลุกขึ้น และค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปหาเขา จากนั้นก็จับหน้าเขาให้หันมาทางเธอก่อนที่เธอจะ





























อ้วก!

“แหวะ!!” เธออ้วกออกมาใส่มัลฟอยเต็มที่ แต่โชคดีไม่โดนหน้าเพราะว่าก่อนหน้านั้นเธอไปซบอกของเขาพอดี

“ทำอะไรของเธอน่ะ!?” เขาพูดขึ้น เฮอร์ไมโอนี่ไม่มีท่าทีที่จะตอบเขาเลย เขาจึงเรียกเธอ

“เฮอร์ไมโอนี่?” เฮอร์ไมโอนี่ยังคงไม่ตอบเขาเหมือนเดิม

“เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์?” เขาเอ่ยเรียกเธออีกรอบก่อนที่จะดันตัวเธอขึ้นมาก็พบว่า

เธอ ‘สลบ’ ไปซะแล้ว

“ให้ตายสิ…” เขาสถบกับตัวเองเบาๆก่อนที่จะถอดเสื้อของตัวเองที่เต็มไปด้วยอ้วกออกและอุ้มเฮอร์ไมโ
อนี่ไปที่เตียงและห่มผ้าให้เธอ

“น้ำก็ไม่อาบยัยบ้า…” เขาพูดเบาๆก่อนที่จะเดินไปที่ห้องน้ำเพื่อที่จะอาบน้ำใหม่อีกรอบ

เขาเดินออกมากับกางเกงนอนสีน้ำเงินเข้มตัวเดิมและเขาก็ไม่ได้ใส่เสื้อ

เขาเหลือบมองนาฬิกาก่อนที่ตัวเองจะเดินไปที่เตียงเฮอร์ไมโอนี่แล้วแทรกตัวเข้าไปในผ้
าห่ม

“ฉันขอลงโทษที่เธออ้วกใส่หน่อยละกัน..” เขาเอ่ยเบาๆก่อนที่จะดึงเฮอร์ไมโอนี่เข้าสู่อ้อมกอดเขาแล้วก็หลับไป

***


วันรุ่งขึ้น



เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่ามีอะไรแข็งๆอยู่ข้างหน้าเธอทำให้เธอต้องลืมตามาดู ก็พบว่าเธอกำลังนอน ‘ซบ’ กล้ามอกของ มัลฟอย อยู่

“กรี๊ดด!!!!” หน้าของเธอเริ่มแดงขึ้นไม่รู้ด้วยสาเหตุเพราะอะไร

“เบาๆหน่อยสิ…” มัลฟอยเอ่ยเบาๆก่อนที่จะลุกขึ้นมาอย่างัวเงีย

“นายทำอะไร!?” เธอถาม

“เธอลืมหรอเมื่อคืนเธอยังบอกว่า ‘มีความสุข’ อยู่เลย” เขายิ้มมุมปาก นั้นทำให้เธอหน้าแดงไปอีก

“นายมันบ้า!!! กล้าได้ยังไง!!!” เธอพูดก่อนที่จะหยิบแจกันเตรียมปาใส่เขา

“เฮ้ย! แค่พูดเล่น ฉันไม่ได้ทำอะไร ดูตัวเองสิ!” เขารีบพูดก่อนที่เธอจะปาแจกันมา

เธอก้มมองสำรวจตัวเธอเอง เสื้อผ้าของเธอไม่ได้ถูกเปลี่ยน ไม่มีร่องรอยการถอดเสื้อใดๆ เธอรู้สึกโล่งอกที่เขายังไม่ได้ทำอะไรเธอ

“แล้วทำไมนายมานอนกับฉัน” เธอถามทั้งที่หน้ายังคงแดงระเรื่ออยู่

“ความสุขฉันไง” เขายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

“เหอะ!” เธอสถบก่อนหันหลังให้เขาก็เจอกับเสื้อที่เปื้อนอ้วก

“นี่นายอ้วกหรอ” เธอถาม

“เธอต่างหาก หาว” เขาพูดก่อนที่จะยกมือขึ้นมาปิดปาก

“ฉันไม่ได้อ้วก อย่ามาแกล้งฉัน” เธอพูดขึ้น เขาถอนหายใจก่อนที่จะเล่าเรื่องเมื่อคืนให้เธอฟัง

.

.

.

.

.

“ฉันจะไม่ดื่มเหล้าอีกแล้ว....” เธอพูดพร้อมปิดหน้าตัวเองด้วยความอาย

“ไปอาบน้ำเถอะ เน่าหมดแล้ว” เขาพูดแซะเธอ ทำให้เธอนึกขึ้นได้ว่าตั้งแต่เมื่อคืนเธอยังไม่ได้อาบน้ำเลย เธอจึงเดินไปอาบน้ำโดยไว

“เชิญนายอาบต่อ” เธอพูดพร้อมกับออกมาจากห้องน้ำด้วยกางเกงยีนส์สีเทาและเสื้อสีแดงเลือดหมูเขาพยักหน้
ารับเธอก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป เธอจึงไปทำผมตรงโต๊ะเครื่องแป้ง

“เดี๋ยวนะฉันยังไม่ได้จัดการกับอ้วกเลยนี่นา…”เธอเอ่ยเบาๆก่อนที่จะลุกไปหยิบไม้กายส
ิทธิ์

“สเกอจิฟาย!” เธอร่ายคาถาทำความสะอาดใส่เสื้อของมัลฟอยทำให้อ้วกหายไปในทันทีก่อนที่เธอจะเดินไปที
่โต๊ะเครื่องแป้งอีกครั้งเพื่อม้วนผมของเธอเก็บขึ้นไป

มัลฟอยเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยกางเกงขายาวสีดำและเสื้อคอวีสีเทาพร้อมผมที่เสยขึ้น

“นี่เธอลงทุนร่ายคาถาเองเลยหรอ” เขาถามเมื่อเห็นเสื้อของเขาที่สะอาดเอี่ยมอ่อง

“ใช่ ซึ้งใจละสิ" เธอยิ้มให้เขาก่อนจะเหลือบไปมองนาฬิกา



7.30



“เก็บของเถอะ” เธอพูดก่อนที่จะจัดการเก็บของเช่นเดียวกับมัลฟอย ก่อนที่จะพากันลงไปเช็คเอ้าท์และนั่งแท็กซี่ไปที่สนามบินสุวรรณภูมิ

***





คุณ Violet. ได้แก้ไขข้อความนี้ ครั้งล่าสุดเมื่อ May 12 2016, 06:17 PM



Dramione Love it <3

รักพี่เฟ ปานจะกลืนกิน (?)
Go to the top of the page
+Quote Post
Nithinggle
โพสต์ May 11 2016, 12:21 AM
โพสต์ #12


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 1

**




กลุ่ม : นักเรียนบ้านสลิธีริน
โพสต์ : 56
เข้าร่วม : 10-April 16
จาก : อังกฤษ
หมายเลขสมาชิก : 28,748
สายเลือด : เลือดผสม
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: -- | ยาว: --
แกนกลาง: --
ความยืดหยุ่น: --

สัตว์เลี้ยง






Airplane

สนามบินสุวรรณภูมิ
.
.
.
.
.
.
.
.

พวกเขาทั้งสองกำลังเดินเข้าไปในตัวสนามบิน โดยที่ไม่รู้เลยว่าพวกเขาต้องไปเอาตั๋วของพวกเขาที่ไหน ?



“ทำไมตอนเธอส่งข้อความไป เธอไม่ถามละ” เขาเอ่ยอย่างหัวเสีย

“ก็ตอนนั้นฉันนึกไม่ถึงว่าต้องพิมพ์ไอเรื่องนี้ถามลงไปด้วยนี่นา” เธอพูดอย่างรู้สึกผิดก่อนที่จะพูดต่อไปอีกว่า

“ลองไปถามตรงที่เขาเอากระเป๋าไปเก็บไหมละ” เธอเอ่ยขึ้น มัลฟอยเห็นว่าเป็นความคิดที่ดี เลยพยักหน้ารับไป

พวกเขาเดินมาตรงที่สายการบินเจ.เค. โรวลิ่งทันที

“ขอโทษนะคะ ฮอกวอตส์ได้ฝากตั๋วมารึเปล่าคะ” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยถามพนักงานสาว

“ฝากมาค่ะ คุณผู้หญิงคงจะเป็นคุณเกรนเจอร์ ส่วนคุณผู้ชายคงจะเป็นคุณมัลฟอยสินะคะ นี่ค่ะ”

พนักงานสาวยิ้มให้ก่อนที่จะยื่นตั๋วให้พวกเขา

“ขอบคุณค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบและรับตั๋วก่อนที่จะตรงไปที่เครื่องทันที ถ้าไม่มีเสียงหนึ่งขัดซะก่อน

“เกรนเจอร์ มัลฟอย!!” เสียงห้าวที่คุ้นของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น ไม่ผิดแน่นอน ปอยังไงละ

“มาทำอะไรที่นี่น่ะ” มัลฟอยถามเมื่อเขาเห็นชายฝาแฝดข้างหลังตามมา

“พวกผมอยากขอโทษ” กายเอ่ยขึ้นพร้อมทำหน้ารู้สึกผิด

มัลฟอยไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพียงแต่เขามองด้วยสายตาเย็นชา

“พี่/นายคนเดียวต่างหากละ” สองคนที่เหลือเอ่ยพร้อมกัน พวกเขาคงไม่อยากจะเข้ามาเกี่ยวในเรื่องนี้เป็นแน่แท้

“ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้พวกคุณตกเครื่อง ผมขอโทษจริงๆ” กายพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด

ถ้าเป็นเฮอร์ไมโอนี่ป่านนี้เธอคงจะใจอ่อนแล้วให้อภัยเขาไปแล้ว แต่คนที่โกรธเขาคือมัลฟอยน่ะสิ

“ผมเลยเอาสิ่งๆนี้มาไถ่โทษ” เขาพูดก่อนที่จะยื่นกล่องบางอย่างให้มัลฟอย ทำให้เขาเลิกคิ้วอย่างสงสัย

“อะไรน่ะ” มัลฟอยถามเสียงเรียบๆ

“เอาไว้เปิดบนเครื่องเถอะครับ” กายเอ่ยพร้อมยิ้มให้

“ว่าแต่…. ให้อภัยผมไหมครับ” กายถามต่อ มัลฟอยยังคงไม่ตอบ จนเฮอร์ไมโอนี่คิดว่าต้องทำอะไรซักอย่าง

“เดรโก อย่าเล่นตัวสิ รีบๆให้อภัยเขาสิ ฉันรู้นายเก๊กอยู่” เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้น แต่ดูเหมือนมันจะไม่ช่วยซักเท่าไหร่

“นี่เธอเข้าข้างหมอนั้นหรอเนี่ย” เขาพูดขึ้น

“ไม่ใช่แบบนั้นสิ เดี๋ยวก็ตกเครื่องอีกไง” เธอบอกปัด การที่เธอพูดแบบนั้น ทำให้เขายิ่งไม่อยากให้อภัยกาย

“เฮ้อ เดรโกให้อภัยนายแล้วกาย ขอบคุณที่ผ่านมานะ ขอโทษถ้าทำเรื่องไม่ดีใส่นะ พวกเราไปก่อนนะ ทักมาหาได้นะ” เฮอร์ไมโอนี่จัดการพูดเองเออเอง แล้วรีบดึงตัวมัลฟอยไปทันที

“นี่เธอทำอะไรเนี่ย!?” เขาพูดขึ้นในขณะที่เธอกำลังลากเขาไปอยู่

“นายกลัวตกเครื่องไม่ใช่หรอ” เธอตอบ

ก่อนที่มัลฟอยจะได้เอ่ยตอบเธอ พวกเขาก็มาถึงทางขึ้นเครื่องแล้ว เฮอร์ไมโอนี่ยืนตั๋วเครื่องบินให้แอร์โฮสเตสก่อนที่มัลฟอยจะยื่นตามทีหลัง

“ที่นั่งของพวกคุณคือ 42D กับ 42E นะคะ อยู่ตรงกลางริมซ้ายค่ะ” แอร์โฮสเตสบอกพวกเขา แปลกดีเหมือนกันพวกเขาไม่ได้นั่งข้างหลังแต่กลับได้นั่งตรงกลาง

พวกเขาพากันเดินมาถึงที่นั่งมันไม่ได้เป็นแบบที่นั่งสามคนแต่มันเป็นที่นั่งแบบสองคน เพราะเครื่องบินลำนี้เล็กกว่าตอนที่พวกเธอมาตอนแรกทำให้มันเป็นที่นั่งแบบ 2-3-2

พวกเขานั่งเหมือนตอนขามานั้นก็คือให้เฮอร์ไมโอนี่นั่งริมหน้าต่างและมัลฟอยนั่งข้างเ
ฮอร์ไมโอนี่ ระหว่างที่รอคนขึ้นเครื่องครบ มัลฟอยก็พูดว่า

“ฉันยังไม่ได้บอกจะให้อภัยมันซักหน่อย ทำไมเธอต้องบอกแบบนั้นกับมันด้วย!” เขาถามคำถามเดิมกับเธอ

“นายคงไม่อยากตกเครื่องอีกรอบใช่ไหมละ” เธอตอบไป

“แต่เธอเข้าข้างมัน!” เขาตอบด้วยเสียงไม่พอใจ

“ฉันไม่ได้เข้าข้างเขา!”

“เธอเข้าข้าง!” เขายังคงพูดแบบนั้นอีกครั้ง นี่พวกเขาจะเถียงกันอีกแล้วงั้นหรอ ?

“อย่าหาเรื่องทะเลาะเดรโก ฉันไม่คุยกับนายแล้ว” เธอตอบก่อนที่จะหันไปอีกทาง

“แน่ใจ?” เขาถามเธอ

“แน่ใจ!” เธอตอบด้วยเสียงหนักแน่น

“เห็นไหม เธอตอบฉันแล้ว” มัลฟอยพูดด้วยเสียงยานครางพร้อมยักไหล่ของเขา

“หึ้ย!” เธอหันมาฟึดฟัดก่อนที่จะมองไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง

ตอนนี้ผู้คนเริ่มทยอยขึ้นเครื่องกันแล้ว เมื่อผู้คนขึ้นเครื่องมาครบกันแล้ว ตามฉบับการอยู่ในเครื่องบินแล้ว นักบินก็ต้องพูดในสิ่งที่พวกเราไม่จำเป็นต้องรู้อยู่แล้ว รวมถึงแอร์โฮสเตสที่จะมาสาธิตการใช้ร่มชูชีพ เฮ
อร์ไมโอนี่กับมัลฟอยก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่



กึ๊ก



ตอนนี้เครื่องบินกำลังขึ้น เฮอร์ไมโอนี่ก็เกิดการสะดุ้งทันที เหตุผลเดิมก็คือ ‘เธอกลัวความสูง’ ปกติเธอจะจับมือมัลฟอย ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้เธอกำลัง ‘งอน’ มัลฟอยอยู่น่ะสิ

“เป็นอะไรไป” มัลฟอยถามขึ้นเพราะหน้าของเฮอร์ไมโอนี่เริ่มซีดลง ถึงแม้เขาจะเห็นแค่ด้านข้างของเธอ แต่เธอก็ไม่ได้ตอบอะไร



ฟึ้บ



เขาดึงมือเธอเข้ามากุม เธอบีบมือเขาโดยอัตโนมัติ การที่ได้จับมือเขามันทำให้หน้าของเธอค่อยๆกลับมาเป็นปกติ

“ขอบคุณ” เธอเอ่ยขึ้นอย่างโล่งอก ถึงแม้เธอจะบอกว่าจะไม่คุยกับเขาก็เถอะ

“ก่อนที่จะเธอจะงอนฉันควรคิดดีๆก่อนนะ” เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี นั้นทำหน้าของเธอบึ้งโดยทันที

“แล้วกายให้อะไรมาน่ะ” เธอถาม

“เรื่องของมันอยากรู้จังนะ” เขาพูด

“ฉันอยากรู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างในเฉยๆ” เธอตอบ เขาจึงค่อยๆแกะกล่องนั้นออกมาก็พบกับลูกอมเพียงเม็ดเดียวที่เขียนว่า



‘SuperLemon Limited Edition เปรี้ยวจนต้องร้องขอชีวิต’



“อะไรกันเนี่ย?” เขาพูดออกมาอย่างสงสัย ไม่ต่างกับเฮอร์ไมโอนี่

“ลูกอมแหละมั้งนายลองกินสิ” เฮอร์ไมโอนี่เสนอทางออกก็คือการกินมันซะ

มัลฟอยค่อยๆแกะถุงลูกอมสีเหลืองด้วยความระมัดระวัง เผื่อจะมีระเบิดอยู่ข้างใน จากนั้นเขาจึงยัดเข้าปากของ



















เฮอร์ไมโอนี่ :)

“อายอำอ้าอะไอเอี้ย!!(นายทำบ้าอะไรเนี่ย)” เธอพยายามพูดกับเขา

“ไม่เห็นเธอจะเป็นอะไรเลย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวัง

“อื๊ม!!”แต่จู่ๆเฮอร์ไมโอนี่ก็ร้องออกมา

“เป็นอะไรน่ะ” เขาถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

“อันเอรี้ยว(มันเปรี้ยว)” เธอพยายามที่จะพูดออกมาเป็นคำอีกรอบ

“ไหนขอชิมหน่อย” มัลฟอยพูดก่อนที่เขาจะประกบริมฝีปากของเขาลงไปอย่างนุ่มนวลและค่อยๆสอดลิ้นเข้าไปเพื
่อที่จะเอาลูกอมมาอยู่ในปากเขาแทน

“หวานดีนิ” เขาพูดพร้อมอมลูกอมไปด้วยอย่างอารมณ์ดี เฮอร์ไมโอนี่หน้าขึ้นสีทันที

“อยากกินอีกหรอ” เขาถามก่อนที่จะยื่นหน้ามาใกล้ๆเธอ

“ไม่!” เธอตอบอย่างเฉียบขาด มัลฟอยจึงหุบยิ้มทันที

“หาว ฉันง่วงแล้วอ่ะนอนก่อนนะ” เธอปิดปากตัวเอง

“นี่เธอไม่คิดจะกินข้าวเช้าก่อนหรอ” มัลฟอยพูด แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้ตอบอะไร เพราะเธอ ‘หลับ’ซะแล้ว

“จริงๆเลย…” เขาพูดเบาๆ ก่อนที่จะเสียบหูฟังเพื่อฟังเพลง

หลังจากนั้นก็มีแอร์โฮสเตสมาถามเรื่องอาหารการกิน มัลฟอยจึงสั่งไข่อบชีสมาสองที่ เผื่อเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังหลับอยู่ในตอนนี้ด้วย

เมื่ออาหารเช้าของพวกเขามาถึง มัลฟอยจึงจัดการปลุกเฮอร์ไมโอนี่ทันที

“เฮอร์ไมโอนี่ ตื่นได้แล้ว” เขาพูดพร้อมเขย่าตัวเฮอร์ไมโอนี่เบาๆ

“ปลุกฉันทำไมเนี่ยพึ่งหลับได้สองวิเอง” เธอพูดก่อนที่จะขยี้ตาตัวเอง

“สองชั่วโมง ยัยบ้า!” เขาพูดก่อนที่จะดันหัวเธอเบาๆ ทำให้เธอหน้ามุ่ยทันที

“ฉันปลุกเธอมากินข้าว” เขาพูดก่อนที่จะลงมือกินไข่อบชีสตรงหน้าของเขา

“ว้าว ฉันชอบกินไข่อบชีส!” เธอพูดก่อนที่จะลงมือกินอย่างมีความสุข ทำให้มัลฟอยอดยิ้มไม่ได้

เมื่อพวกกินเสร็จเฮอร์ไมโอนี่ก็หลับต่อทันที ส่วนมัลฟอยก็เลือกที่จะฟังเพลงตลอดการเดินทางนี้ ก่อนที่เขาจะฟังเพลง เขาก็ได้ส่งข้อความหา พี่น้องมนุษย์หมาป่าและทูตระหว่างโลก

‘สวัสดี

ขอบคุณสำหรับของขวัญ ฉันมีความสุขมาก ถ้าฉันมีเรื่องอะไรฉันจะขอความช่วยเหลือจากพวกนายนะ ไว้เจอกัน 



เดรโก มัลฟอย’



นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพิมพ์อะไรแบบนี้


























ดูเหมือนว่าเขาจะได้เรียนรู้ในหลายๆเรื่องที่พ่อของเขาไม่เคยบอกนะ :)

***




Dramione Love it <3

รักพี่เฟ ปานจะกลืนกิน (?)
Go to the top of the page
+Quote Post
Nithinggle
โพสต์ Feb 25 2017, 02:07 PM
โพสต์ #13


นักเรียนฮอกวอตส์ปี 1

**




กลุ่ม : นักเรียนบ้านสลิธีริน
โพสต์ : 56
เข้าร่วม : 10-April 16
จาก : อังกฤษ
หมายเลขสมาชิก : 28,748
สายเลือด : เลือดผสม
เหรียญตรา


หีบสัมภาระ

ไม้กายสิทธิ์
ไม้: -- | ยาว: --
แกนกลาง: --
ความยืดหยุ่น: --

สัตว์เลี้ยง






WHO HAVE GF ?








10 ชั่วโมงต่อมา



20.00 น.



“ขณะนี้เราได้ลงจอดที่สนามบินลอนดอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กรุณาตรวจดูสัมภาระของท่านให้เรียบร้อยก่อนลงจากเครื่องค่ะ ทางสายการบินต้องขอขอบพระคุณผู้โดยสารทุกท่านที่ใช้บริการค่ะ”

สิ้นเสียงของแอร์สาว เฮอร์ไมโอนี่ก็ค่อยๆปรือตาของเธอขึ้น เธอค่อยๆเหลือบไปมองมัลฟอยที่หลับปุ๋ยอยู่ข้างๆเธอ

“หลับเป็นตายเลยนะ…” เธอเอ่ยอย่างเบาๆพลางอมยิ้มอย่างเอ็นดู

“เดรโก ถึงแล้วละ” เฮอร์ไมโอนี่พยายามปลุกคนข้างๆ แต่ก็ไร้วี่แววที่มัลฟอยจะตื่น

“เดรโก!” เธอเขย่าตัวเขาแรงๆ แต่เขายังคงไม่ตื่น

“ให้ตายสิ คนเขาจะลงจากเครื่องหมดแล้วนะ” เธอพูดอย่างหัวเสียก่อนที่จะตบหน้าเขาเต็มแรง

เพียะ!

“โอ๊ย! ทำอะไรของเธอเนี่ย” มัลฟอยมองเธอด้วยสายตาอาฆาตพร้อมลูบหน้าตัวเอง

“ฉันก็แค่จะปลุกนายแค่นั้นเอง คนเขาลงกันไปหมดแล้วเนี่ย” เธอตอบ

“บอกดีๆก็ได้” เขาตอบอย่างหัวเสีย ก็มันเจ็บนี่นา

“ฉันบอกดีๆแล้วไง นายไม่ยอมตื่นเอง” เฮอร์ไมโอนี่พูดก่อนที่จะลุกออกจากที่นั่งและเดินออกไปจากตัวเครื่องบิน แต่ก็โดนมัลฟอยฉุดให้นั่งลงมาซะก่อน

“ไม่คิดจะรอกันหน่อยหรอฮะ” เขาพูดทั้งทียังจับมือเธออยู่

“เดี๋ยวนายก็ตามมาไง!” เธอพูดก่อนหันไปอีกทาง

มัลฟอยเห็นอย่างนั้น จึงจับหน้าเธอหันมาหาเขาและบรรจงจูบอย่างอ่อนโยน

“คุณคะ เครื่องลงจอดนานแล้วนะคะ” แอร์โฮสเตสสาวคนหนึ่งเดินมาบอกพวกเขา เฮอร์ไมโอนี่หน้าขึ้นสีทันทีก่อนที่จะกล่าวคำขอโทษและเดินออกไปจากเครื่องโดยที่ไม่ล
ืมดึงมัลฟอยไปด้วย

***

“เมื่อกี้นายทำอะไรน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด

“ลงโทษที่เธอตบฉันไง” มัลฟอยพูดพร้อมแสยะยิ้มเล็กๆ

“เอะอะๆจะลงโทษฉันอย่างเดียวรึไง” เธอพูดพร้อมทำหน้ามุ่ย

มัลฟอยเข้ามาลูบหัวเธอเบาๆอย่างเอ็นดู ก่อนที่จะพาเธอไปที่รถไฟของฮอกวอตส์

ตอนนี้พวกเขาทั้งสองได้มาอยู่ในตู้ของรถไฟเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ทั้งสองกำลังตกอยู่ในความเงียบสงัดดั่งป่าช้า

“นายรีบกลับหอไหม” เฮอร์ไมโอนี่เริ่มบทประโยคสนทนาอย่างแผ่วเบา

“ก็ไม่นะ ทำไมหรอ” เขาถามอย่างสงสัย

“ฉันว่าจะไปยืมหนังสือที่ห้องสมุดหน่อยน่ะ” เธอตอบไป

“แล้ว?” เขาถามด้วยเสียงยานคาง

“ฉันกลัว...” เสียงของเธอแผ่วเบาลงอย่างเห็นได้ชัด

“อะไรกันเธอกลัวงั้นหรอ?”

“ป-ป่าวซักหน่อย”

“ไม่ยักรู้ว่า คนอย่างเธอก็กลัวผีเป็นกับเขาด้วย ฮะๆ” เขาพูดกวนประสาทกลับไปพร้อมหัวเราะเล็กๆ

“ขำบ้าไรยะ! ถ้านายไม่ไปฉันไปคนเดียวก็ได้” เธอพูดพร้อมทำหน้ามุ่ย

“อย่างอนสิ แค่แกล้งเล่นนิดหน่อยเองน่า” มัลฟอยยื่นนิ้วก้อยไปหาเฮอร์ไมโอนี่

“จะไปมั้ยยะ!” เธอเกี่ยวก้อยกับเขาแต่หน้าก็ยังคงมุ่ยอยู่

“ไปครับไป” เขาตอบกลับอย่างโดยดี

***


ตอนนี้พวกเขามาถึงที่ฮอกวอตส์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งสองรีบจัดแจงตัวเองก่อนที่จะลงจากรถไฟ และมุ่งหน้าไปที่ห้องสมุดทันที

“ช่วงนี้แลหงุดหงิดบ่อยจังนะ” มัลฟอยเอ่ยระหว่างทาง

“ก็นายขำฉัน” เธอตอบ

“นิดหน่อยเองน่าาา” เขาลากเสียงยาว

พวกเขาพูดคุยกันมาเรื่อยๆจนถึงตรงหน้าห้องสมุด แต่ก็พบว่ามัน



‘ปิด’



“อ่าว ทำไมมันปิดแล้วละ” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยขึ้นอย่างสงสัย

“นี่เธอไม่รู้หรอว่ามันปิดตั้งแต่สองทุ่ม” มัลฟอยเอ่ยอย่างเนื่อยๆ

“ให้ตายเถอะ ฉันลืมว่ามันมีเวลาปิดด้วย” เธอเอ่ยอย่างสิ้นหวัง นักเรียนที่เข้าห้องสมุดบ่อยจนห้องสมุดเป็นบ้านหลังที่สอง ดันมาลืมเวลาปิดเนี่ยนะ

“แล้วฉันจะทำยังไงดีละ ฉันต้องสรุปหนังสือส่งนะ” เธอเอ่ยอย่างสลดใจ

“เธอควรจะมาให้เร็วกว่านี้” เขาตอบขึ้น

“ฉันมาเร็วกว่าวันนึงยังได้ ถ้าไม่ติดเพราะนาย” เธอพูดอย่างหัวเสีย

“ก็มันเป็นเพราะฉันไง ใช่ไหมละฮะ!” มัลฟอยเริ่มโวกเวกโวยวาย

ตึกๆ

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนดังขึ้น เฮอร์ไมโอนี่ก็ได้ดึงมัลฟอยเข้าซอกใกล้ๆกับห้องสมุด และทำเหมือนกับว่าก่อนหน้านี้ทั้งสองไม่ได้เถียงกัน

“นี่จะฉุดฉันก็ฉุดกันง่ายๆแบบนี้เลยหรอ” มัลฟอยกระซิบ

“อย่าเสียงดังสิ” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยอย่างแผ่วเบา

“ขอโทษครับคุณเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์” มัลฟอยเอ่ยตอบแบบเบาๆ

“พูดเพราะกับเขาเป็นด้วยหรอ” เธอแซะ

“เอาไว้พูดกับคนที่รักไงครับ “เขาตอบ เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้ตอบโต้อะไร แต่หน้าของเธอค่อยๆขึ้นสีแดงระเรื่อจนทำให้เธอต้องหันหน้าหลบเขาไป แต่ก็ไม่ทันระวังหัวของเธอก็โขกกับผนังเข้าอย่างจัง

ปึ้ก!

“ใครอยู่ตรงนั้นน่ะ” เสียงของชายแก่ดังขึ้น เขาคือ ‘อาร์กัส ฟิลช์’ นั้นเอง

เมื่อสิ้นเสียงของฟิลช์ มัลฟอยก็รีบดึงตัวเฮอร์ไมโอนี่เข้ามาในอ้อมกอดเขาทันที

ตึ้กๆ

เสียงฝีเท้าของเข้าใกล้ขึ้นมาเรื่อยๆ หัวใจเธอเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าเพราะเสียงฝีเท้าหรือเพราะเธออยู่ใกล้กับมัลฟอยมากจนได้ยินเสียงหัวใจของเข
าเต้นเป็นจังหวะ ทำให้เธอซุกหน้าเข้าสู่อ้อมอกของเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ตัดมาที่มัลฟอย เขากำลังตั้งใจดูต้นทาง โดยไม่ได้สนร่างเล็กในอ้อมกอดเขาเลย

“ม๊าวว” เสียงร้องของแมวตัวหนึ่งดังขึ้นคงเป็นแมวตัวไหนไม่ได้ถ้าไม่ใช่ คุณนายนอริส แมวสุดรักของฟิลช์นั้นเอง

“คุณนายนอริส..” เขาพูดกับตัวเองเบาๆก่อนที่จะเดินตามหาแมวสุดรักของเขา

ตึกๆ

เสียงฝีเท้ากับแสงไฟของตะเกียงเริ่มไกลออกไปเรื่อยๆ จนไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าและไม่เห็นแสงไฟจากตะเกียง

“เฮ้อ” มัลฟอยถอนหายใจเบาๆ

“เขาไปแล้วละ” เขาเอ่ยก่อนที่จะปล่อยเธอจากอ้อมอกเขา แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ยอมออกจากอ้อมอกเขานี้ละสิ

“เฮอร์ไมโอนี่” เขาเรียกชื่อเธอ แต่ก็ไร้วี่แววการตอบกลับ

“เกรนเจอร์” ยังคงไร้วี่แววตอบกลับจากคนในอ้อมอกเขา

“เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์!”

“ฮะ? ว่าไง” เมื่อเขาเอ่ยเป็นรอบที่สามก็ดูเหมือนว่าเฮอร์ไมโอนี่จะดึงสติกลับมาได้ เธอผละตัวเองออกจากเขาทันที หน้าของเธอค่อยๆระเรื่อขึ้น

“เป็นอะไรของเธอน่ะ” มัลฟอยเอ่ยถาม

“ป-ป่าว” เธอพูดอย่างตะกุกตะกัก

“ฉันไปก่อนนะ” เธอพูดอย่างรวบรัดก่อนที่จะเอาตัวเองออกจากซอกมา โดยมีมัลฟอยตามมาติดๆ

“เธอจะไปไหนน่ะ”เขาเอ่ยถาม

“ฉันจะกลับหอกริฟฟินดอร์ไง” เธอพูดโดยไม่หันไปมองเขา

“หอกริฟฟินดอร์ อยู่ทางนั้นต่างหากยัยบื้อ” เขาเอ่ยก่อนที่จะชี้ไปอีกทาง ทำให้เฮอร์ไมโอนี่รีบเปลี่ยนทิศทางและวิ่งไปในทันที ใบหน้าของเธอขึ้นสีกว่าเดิมเพราะความอาย

“เป็นอะไรกันนะ..” มัลฟอยพึมพำเบาๆก่อนที่จะกลับไปที่หอสลิธิรีน



***




“กลับมาแล้วหรอ เฮอร์ไมโอนี่” เสียงของลาเวนเดอร์เอ่ยขึ้นอย่างงัวเงีย

“กลับมาแล้วละ” เธอเอ่ยตอบอย่างเบาๆ แต่ก็ไร้เสียงตอบรับจากเพื่อนสาว



‘อะไรจะหลับไวอย่างนี้’



เธอคิดในใจก่อนที่จะจัดแจงของและอาบน้ำ แต่จู่ๆเธอก็นึกถึงเรื่องของชายหนุ่มผมบลอนด์กวนประสาทขึ้นมา



‘หยุดคิดเรื่องหมอนั่นซักทีสิโว้ย’



เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหัวอย่างหัวเสียก่อนที่จะอาบน้ำต่อไป แต่ยิ่งพยายามไม่คิดมันก็ยิ่งคิด





นี่เรียกว่า ‘ความรัก’ รึเปล่านะ



***




เมื่อคืนนี่เฮอร์ไมโอนี่แทบไม่ได้นอนเพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องมัลฟอยตลอดทั้งคืน

เธอตื่นขึ้นมาทำกิจวัตรตามปกติ แต่ในหัวก็ยังคงคิดถึงแต่เรื่องของมัลฟอย

เฮอร์ไมโอนี่ตัดสินใจที่ไปปรึกษาเพื่อนสาวของเธอ ขืนเธอไปปรึกษารอนกับแฮร์รี่มีหวังได้โดนด่าเละแน่ๆ

“ลาเวนเดอร์ ตอนพักเที่ยงว่างไหม” เธอเอ่ยถามเพื่อนสาวที่กำลังหวีผมอยู่

“ก็ว่างนะ ทำไมหรอ” ลาเวนเดอร์เอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ฉันมีเรื่องจะปรึกษาน่ะ” เธอตอบกลับไป

“ตอนนี้เลยก็ได้นะ” ลาเวนเดอร์หยุดการกระทำทุกอย่างทันทีหลังพูดจบ

“มันยาวน่ะ” เธอตอบตัดบท ทำให้ลาเวนเดอร์ต้องหยุดอารมณ์ความอยากรู้ก่อนที่จะเดินลงไปกินข้าว โดยที่เฮอร์ไมโอนี่ตามมาติดๆ

“เฮอร์ไมโอนี่!!” เสียงของแฮรรี่ตะโกนเรียกชื่อเธออย่างเป็นมิตร

“สวัสดี” เธอเอ่ยทักทายอย่างเป็นมิตร แต่สายตาของรอนกลับไม่เป็นมิตรนี่ละสิ

“ทำไมมัลฟอยถึงจูบเธอวันนั้นฮะ!” รอนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงโมโห

“คือ...” ก่อนที่เธอจะพูดจบก็โดนรอนถามอีกครั้งนึง

“ทำไมเธอถึงยอมมันละฮะ!”

“มันได้ทำอะไรเธออีกมั้ย ฮะ!!”

รอนยังถาทมคำถามใส่เธอ จนไม่สามารถให้เธอมีโอกาสปริปากพูดแม้แต่วินาทีเดียว

“ใจเย็นๆน่ารอน เฮอร์ไมโอนี่พึ่งกลับมาถึงนะ” แฮร์รี่พูดห้ามเพื่อนของเขา

“แล้วถ้าฉันทำอะไรเฮอร์ไมโอนี่ จะทำไมหรอเจ้าวีเซิ่ล” อยู่ๆมัลฟอยเดินออกจากโต๊ะของสลิธีรีนมุ่งมาที่โต๊ะของพวกเขา ก่อนที่จะเอ่ยขึ้น พวกเขาคงไม่แปลใจว่าทำไมมัลฟอยถึงรู้เรื่องนี้ ก็รอนเล่นพูดซะดังเชียว ไม่มีใครรู้สิแปลก

“แกไม่มีสิทธิ์จะมาเรียกเธอว่าเฮอร์ไมโอนี่ หรือแตะตัวเฮอร์ไมโอนี่ทั้งนั้น!!” รอนเอ่ยด้วยน้ำสียงโมโห

“งั้นแกก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาแตะตัวแพนซี่นะ” มัลฟอยยิ้มแสยะมุมปากก่อนที่จะเดินไปหอมแก้มเฮอร์ไมโอนี่และเดินกลับโต๊ะไปอย่างสบาย
ใจ ทำเอาเฮอร์ไมโอนี่อึ้งไปเลยย้ง

“หมายความว่าไงน่ะ รอน” เธอเอ่ยถามเพื่อนชาย

“ม-ไม่มีอะไร” รอนเอ่ยกลับไป จากน้ำเสียงที่โมโหกลับกลายเป็นน้ำเสียงที่ดูกังวลแทน นี่มีเรื่องที่เธอยังไม่รู้อีกหรอเนี่ย

“รอน” เธอเอ่ยชื่อเขาอีกครั้ง

“บอกไปเถอะ” แฮรรี่เอ่ย

“ฉันกับแพนซี่...”































“กำลังคบกันอยู่”































“ฮะ!?”





***



Dramione Love it <3

รักพี่เฟ ปานจะกลืนกิน (?)
Go to the top of the page
+Quote Post

Reply to this topicStart new topic

 



RSS Lo-Fi ; ประหยัดแบนวิธ,โหลดเร็ว เวลาในขณะนี้: 10th June 2024 - 03:18 AM