Leaky Cauldron
เมื่อคุณถามพ่อมดขาประจำถึงร้านอาหารดี ๆ สักร้านในตรอกไดแอกอน หนึ่งในนั้นย่อมมีร้านหม้อใหญ่รั่วติดอันดับต้น ๆ อยู่แน่นอน ร้านหม้อใหญ่รั่วเป็นผับเก่าแก่ที่สุดในกรุงลอนดอน ตั้งอยู่ระหว่างร้านหนังสือและร้านแผ่นเสียงบนถนนชาริงครอส ตัวร้านมีขนาดเล็กซอมซ่อแต่ดูน่าอบอุ่น น่าเสียดายที่มักเกิ้ลไม่มีโอกาสได้มาเยือน แม้ว่าพวกเขาจะสัญจรไปมาบนถนนสายนี้อยู่เป็นนิจ ทว่าในสายตาของมักเกิ้ลนั้น ก็จะพบเพียงแค่ความว่างเปล่าราวกับมันไม่เคยมีอยู่เลย
ร้านหม้อใหญ่รั่วคือแหล่งชุมนุมพ่อมดแม่มดยอดนิยมที่ปลอดภัย เหมาะที่จะติดตามหรือหาข่าวคราวต่าง ๆ ในโลกเวทมนตร์ ชั้นล่างเป็นบาร์สาธารณะ เลยถัดไปเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัว มีโต๊ะและเก้าอี้เพียงเล็กน้อย ชั้นบนมีห้องนอนสองสามห้อง ใช้สำหรับนักเดินทางที่ต้องการพักค้างคืนในระยะหนึ่งหรือใช้หลบภัยได้ ด้านหลังของร้านเปิดออกสู่ลานเล็ก ๆ ต้อนรับลมเย็น และเมื่อแตะกำแพงอิฐด้านหลังของร้านหม้อใหญ่รั่วอย่างถูกต้อง ก็กลายจะเป็นเส้นทางที่ใช้พาไปสู่ตรอกไดแอกอน
กติกา
http://hogwartsthai.com/forum/index.php?showtopic=42179 http://hogwartsthai.com/forum/index.php?showtopic=43205
ห้องพักชั้นบน
ห้องพักของร้านหม้อใหญ่รั่ว หมายเลข 1 - N/A
หมายเลข 2 - N/A
หมายเลข 3 - N/A
เงื่อนไข
http://hogwartsthai.com/forum/index.php?showtopic=42179 http://hogwartsthai.com/forum/index.php?showtopic=43205
Mission
เงื่อนไข
http://hogwartsthai.com/forum/index.php?showtopic=42179 http://hogwartsthai.com/forum/index.php?showtopic=43205
ร้านหม้อใหญ่รั่ว
▔▔▔▔▔▔
แมวเมนคูนสีขาวดูสะอาดจนสะดุดตา ที่คอของมันมีลายพาดสีเทาประหนึ่งปลอกคอ เดินอย่างเรียบร้อยตามหลังผู้คนที่พากันเปิดประตูเข้ามาในร้านหม้อใหญ่รั่ว
แมวตัวนั้นเดินเข้าไปทางหลังร้าน ผ่านไปไม่ถึงนาที หญิงสาววัยกลางคนผมบลอนด์ในชุดที่ดูไม่เข้ากัน และสวมผ้าพันคอสีเทา ก็ออกมาจากหลังร้าน และเดินขึ้นชั้นสองไปอย่างไม่สะดุดตา
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ไม่รอดสายตาของหญิงสาวที่นั่งอยู่ พวกแอนิเมจัสไม่ลงทะเบียนสินะ เธอคิดในใจ ถ้าเธอเป็นกองควบคุมกฎหมายเวทมนตร์ ป่านนี้ก็คงได้เหรียญตราดีเด่นไปแล้ว กับการเจอพวกนอกรีตที่ทำผิดกฎหมาย แล้วยังทำอย่างไม่เนียนเอาเสียเลยในสายตาของเธอ
หญิงสาวในชุดสีดำ กล่าวคือเสื้อสเวตเตอร์สีดำ กางเกงสีดำ ถุงเท้าสีดำ และรองเท้าผ้าใบสีขาว เธอใส่แว่นกันแดดสีดำที่คิดว่าจะทำให้ตัวเองดูไม่โดดเด่น แต่กลับเป็นที่จับตาของคนในร้าน ที่มองเธออย่างไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงใส่แว่นดำในร้านนี้ที่ก็ไม่ได้มีแสงสว่างมากมา
ยนัก
__ เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น ออกมาจากปากของชายหนุ่มร่างสูง ที่แม้ว่าเธอจะใส่แว่นดำอยู่ก็ยังมองออกว่า สูทที่เขาใส่มีสีสันสดใสเกินไปในสายตาของซินเนส
เพิร์ซ นั่งก่อนสิ เธอถอดแว่นกันแดด และกล่าวทักทายโดยปราศจากคำที่ใช้ในการทักทาย
__
รับอะไรดีล่ะวันนี้ เสียงจากแฮนน่าห์ เจ้าของร้านคนปัจจุบันของร้านหม้อใหญ่รั่วเอ่ยถาม
ขอเป็นบัตเตอร์เบียร์1707 สองที่ค่ะ
นี่แม่หนู นี่มันร้านหม้อใหญ่รั่ว ไม่ใช่ร้านไม้กวาดสามอันนะ เราไม่มีหรอก บัตเตอร์เบียร์1707 เธอพูดเสียงดังแสดงออกถึงความไม่พอใจ
อ่า บัตเตอร์เบียร์1707 ของที่นี่ มีไว้ให้บริการแค่กับ พวกคนที่คุณช่วยให้ซ่อนตัวจากมือปราบมารหรอคะ ? เธอสวนอย่างไม่ยี่หระ แค่ห้านาทีระหว่างที่นั่งรอเพอร์ซี่ มันก็เพียงพอสำหรับเธอแล้วที่จะมองไปรอบ ๆ และเก็บข้อมูลสิ่งรอบตัว ข้างบนนั่นจะต้องมีการนัดหมายกันระหว่างพวกนอกรีตแน่ ที่หน้าร้านก็มีนกฮูกเรียกเก็บค่าบริการจากร้านไม้กวาดสามอัน แล้วจะมีอะไรล่ะที่ร้านหม้อใหญ่รั่วจะต้องสั่งจากร้านไม้กวาดสามอัน ไม่ใช่เค้กหม้อใหญ่แน่ ๆ
__
อ้อ ฉันขอแนะนำให้รู้จัก คุณเพอร์ซี่ ปลัดอาวุโสคนล่าสุดของกระทรวงเวทมนตร์ค่ะ เธอไม่หยุด และจะยังไม่หยุด จนกว่าเธอจะได้ในสิ่งที่ต้องการ
แฮนน่าห์หน้าซีดเผือด แต่เธอยังต้องคงความเป็นมืออาชีพเอาไว้
โอ้ สวัสดีค่ะท่านรัฐมนตรี ร้านหม้อใหญ่รั่วของเรายินดีอย่างยิ่งที่จะให้บริการ ขอเชิญที่ห้องส่วนตัวด้านหลังเถอะนะคะ เธอพูดด้วยความลุกลี้ลุกลนสุดขีด
__
ทั้งสองเดินมายังห้องนั่งเล่นส่วนตัวด้านหลัง ก่อนที่แฮนน่าห์จะรีบเข้ามาเสิร์ฟบัตเตอร์เบียร์1707 ให้กับทั้งสอง
พอดีเรามีสั่งไว้บ้าง มาลองชิมเฉย ๆ ค่ะ ก็ต้องศึกษาตลาดคู่แข่งไว้เสียหน่อย
__ เพอร์ซี่กล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ
ห้องพักของเราก็ไม่ได้มีแขกอะไรมากมายหรอกค่ะ ช่วงนี้ก็ให้ช่างมาดูซ่อมพวกอุปกรณ์เครื่องเรือนเฉย ๆ ท่านอย่าได้เป็นกังวลไปเลยนะคะ แฮนน่าห์เสียงสั่น
ซินเนสยิ้มมุมปาก เธอเพลิดเพลินกับการเห็นอากัปกิริยานี้จากแฮนน่าห์
__ เพอร์ซี่พูด ก่อนจะส่งยิ้มทรงเสน่ห์ของเขาด้วยท่าทางน่ารัก สวนกับคำพูดที่กล่าวออกมาสุด ๆ
แฮนน่าห์รีบเผ่นออกจากห้องอย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยเสียงตะโกนเรียกพนักงานของเธอ
ซินเนสหัวเราะออกมาเป็นครั้งแรกของวัน เอาล่ะ งั้นก็ถึงเวลาบัตเตอร์เบียร์1707เทสติ้งคลาส อยากลองมานานแล้วล่ะ นี่รอชิมพร้อมนายเลยนะ
__ ชายหนุ่มบ่นอุบ
กิน ๆ ไปเถอะน่าเพิร์ซ อย่าไปคิดอะไรมาก นาน ๆ ทีจะได้มีโอกาสเจอท่านรัฐมนตรี ก็ขอยืมพลังมาเล่นสนุกหน่อยจะเป็นไรไป เธอตอบก่อนที่จะลองลิ้มรสบัตเตอร์เบียร์1707
__ เขากล่าว ก่อนจะยกแก้วตาม
กลิ่นของบัตเตอร์เบียร์1707 ช่างต่างจากบัตเตอร์เบียร์ทั่วไปเสียจริง ๆ มีทั้งความหอมกว่า ละมุนกว่า คลาสสิกกว่า เหมือนที่เขาว่ากันเลยเนอะ
เมื่อทั้งสองได้ลองบัตเตอร์เบียร์หายากจนสาแก่ใจแล้ว ก็เดินออกมาทางหลังร้าน ตรงไปยังลานซอมซ่อที่ใครเห็นก็คิดว่าทั้งสองไม่น่าจะมายืนอยู่ตรงนี้ ถ้าคนที่พบเห็นไม่ได้เป็นพ่อมดแม่มดน่ะนะ เพอร์ซี่เดินไปข้างหน้า ยกไหล่ขึ้นเล็กน้อย ด้วยท่าทางมีเสน่ห์ตามธรรมชาติของเขา ที่ซินเนสได้แต่แอบคิดในใจ ว่าคนเราสามารถโปรยเสน่ห์โดยไม่ตั้งใจตลอดเวลาแบบนี้ได้อย่างไรกัน หมอนี่ต้องใช้ศาสตร์มืดซักอย่างแน่ ๆ เขาแตะกำแพงอิฐจากซ้ายเหนือถังขยะ เคาะอิฐขึ้นไปสามก้อน และเคาะทางขวาอีกสองก้อน
กำแพงกลายเป็นประตูขนาดใหญ่
__ ชายหนุ่มกล่าว
ลองเดินทางแบบพ่อมดแม่มดธรรมดาเดินดินดูบ้าง ก็ไม่เสียหายอะไรนี่ เธอยักไหล่ก่อนจะเดินนำเข้าไป
__ เพอร์ซี่แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยเท่าไหร่นัก แต่ก็ปล่อยเลยตามเลย
เอาล่ะ เราเริ่มจากตรงไหนก่อนดี ตรอกน็อกเทิร์นเลยมั้ย? หญิงสาวเอ่ยถามและยิ้มให้ชายหนุ่มตรงหน้าเป็นครั้งที่สองของวัน
#FFBFBF | Sinestrea Denzel Spencer
#A2C8C9 | Perseus Wystan Westbrooke Del Kalzer
#FFF | Hannah Abbott (NPC)
▔▔▔▔▔▔
ไม่รู้ว่าเป็นเวลานานเท่าไรแล้วที่เด็กชายเจ้าของจิตวิญญาณโบราณแห่งสเปนเซอร์ ไม่ได้มาเยือนยังร้านหม้อใหญ่รั่ว ผับเก่าแก่ซ่อมซ่อ ที่ตั้งอยู่ระหว่างร้านหนังสือและร้านแผ่นเสียงบนถนนชาริงครอส ครั้งล่าสุดที่มาก็คงจะเป็นเมื่อหลายขวบปีก่อน เมื่อเด็กชายได้รับจดหมายเชิญให้เข้าเรียนยังโรงเรียนเวทมนตร์ ที่งี่เง่าที่สุดในเกาะอังกฤษ เรย์มอนด์อดีตผู้ครอบครองจิตวิญญาณแห่งปัญญาได้พาเขามาที่นี่ เพื่อใช้เป็นทางผ่านในการไปตรอกไดแอกอน
คิดถึงภาชนะเก่าของเดนเซลหรือไงเจ้าหนู เสียงของจิตวิญญาณแห่งนภาแทรกขึ้นมาในความคิดของเด็กชายในทุกครั้งที่มีโอกาส
เลิกสอดสักทีได้มั้ย น่ารำคาญชะมัด เอลวินเอ่ยอย่างเหลืออด ต่อให้เวลาผ่านไปอีกกี่ปีกี่ชาติ สาบานได้เลยว่าเขาและไบรซ์ไม่มีทางญาติดีกันได้ เหมือนผู้ครอบครองจิตวิญญาณคนอื่นแน่นอน
ข้าพูดแทงใจดำหรือไง ถึงได้อารมณ์เสียขนาดนี้ ไบรซ์ยังคงไม่เลิกพูดจากวนประสาท
ถ้าไม่หุบปาก แกเตรียมหาที่สิงใหม่ได้เลย ไอผีเร่ร่อน เด็กชายเอ่ยออกมาอย่างเหลืออดจนเหล่าผู้วิเศษ ที่กำลังพูดคุยกันอยู่ภายในร้านเงียบเสียงลง และหันมามองเขาเป็นสายตาเดียว เอลวินที่ไม่รู้จะทำตัวอย่างไรเมื่อสายตาทุกคู่จับจ้องมายังเขา เด็กชายจึงเดินฝ่าฝูงชนเข้าไปสงบสติอารมณ์เงียบ ๆ อยู่ด้านหลังร้าน
#F5DEB3 | Elwynn Bryze Spencer
❝ Mission2 เมื่อเช้าวันใหม่มาเยือน กิจวัตรของเด็กหนุ่มดำเนินไปเฉกเช่นทุกวัน อาบน้ำ ล้างหน้า แต่งตัว รับประทานมื้อเช้า ก่อนจะนั่งดูข่าวประจำวันของพวกมักเกิ้ลบริเวณโซฟาตัวยาวที่วางอยู่ห้องนั่งเล่น ทว่าวันนี้ต่างออกไปจากทุกวันตรงที่หลังเสร็จสิ้นภารกิจทุกอย่างที่ทำแล้ว เมื่อนาฬิกาบอกเวลา เข็มสั้นชี้ลงตรงเลขสิบสอง เสียงของนาฬิกาปลุกที่ตั้งแจ้งเตือนไว้ดังขึ้น เด็กหนุ่มจำต้องพาตัวเองให้ก้าวขาออกจากบ้าน เพื่อมุ่งหน้าตรงไปยังสถานที่ซึ่งผู้วิเศษเรียกว่า ร้านหม้อใหญ่รั่ว
ไม่บ่อยนักที่เด็กหนุ่มจะพาตัวเองมายังสถานที่แห่งนี้ มันเป็นเพียงบาร์ขนาดเล็ก ทว่ากลับมีที่สำหรับให้พักอาศัยชั่วคราว เหมาะเป็นอย่างมากกับเหล่าพ่อมดแม่มดที่สัญจรผ่านไปมา และเหล่านักดื่มที่เข้ามาแล้วไม่สามารถรับผิดชอบพาตัวเองกลับยังที่พักอาศัยได้ รวมถึงบุคคลผู้ประสงค์ต้องการหาเพื่อนคุยในยามวิกาล อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่ใช้สำหรับการเดินทางไปยังตรอกไดแอกอนอีกด้วย
และใช่ ไซออนไม่ได้ต้องการมาหาที่พัก เครื่องดื่ม หรือเพื่อนคุยอะไรเทือกนั้น แต่เป็นเพราะเขาต้องการเดินทางไปยังตรอกไดแอกอน จึงได้จำต้องมาโผ่ลอยู่ที่นี่ในเวลาเช่นนี้ หากถามว่าทำไมเขาไม่เดินทางด้วยวิธีการของผู้วิเศษอย่างที่ควรจะเป็น นั่นก็คงเป็นเพราะที่พักอาศัยหลักของเขาตั้งอยู่ในพื้นที่เมืองของมักเกิ้ล และที่บ้านก็ไม่อนุญาตให้ใช้ผงฟลูสำหรับเดินทางยังไงหละ !
ทันทีที่เดินทางมาถึง เด็กหนุ่มเดินตรงเข้าไปด้านในของตัวร้าน ก่อนจะถูกดักหน้าดักหลังด้วยพนักงานคนหนึ่งที่แต่งกายด้วยเครื่องแบบซอมซ่อ ก่อนจะพยายามเสนอเบียร์เกลอเก่าแกมป์ พร้อมเงินรางวัลหากสามารถดื่มได้จนหมดไพน์
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วสำหรับผู้วิเศษว่าเบียร์เกลอเก่าแกมป์มีที่มาจากที่ใด และมีรสชาติน่าขยะแขยงขนาดไหน และนั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เด็กหนุ่มจำต้องปฎิเสธ พร้อมกับพยายามเดินหนีตรงไปยังด้านหลังของตัวร้าน เพื่อใช้งานเส้นทางที่จะผ่านเข้าสู่ตรอกไดแอกอน
ไม้กายสิทธิ์ถูกหยิบยกขึ้นจากด้านในของเสื้อโค้ดตัวยาวที่เด็กหนุ่มสวมใส่ เขากวาดสายตามองหาถังขยะที่ตั้งอยู่ติดกับกำแพงอิฐ ก่อนจะใช้มันแตะกระทบเข้าที่ก้อนอิฐขึ้นไปสามก้อน และขวาอีกสองก้อน มันสั่นไหวเล็กน้อย พร้อมกับเปิดออกเผยให้เห็นซุ้มประตู และถนนที่ถูกปูพื้นด้วยหินตลอดเส้นทาง
#99BADD ⏤ Zion Zayne
หลังจากใช้เวลาอยู่ในตรอกไดแอกอนสักพัก เมื่อถุงเกลเลียนในมือเด็กชายเบาหวิว พันไมล์ก็คิดได้ว่าเขาควรกลับเสียที
การออกจากตรอกอันแสนคึกคักนี้ไม่ได้ยากเหมือนกับในตอนที่เข้ามา อันที่จริงพันไมล์ก็แค่เดินตามหลังของครอบครัวผู้วิเศษครอบครัวหนึ่งออกมา ยามที่กำแพงอิฐ มันเปิดทางให้ก็เท่านั้น
"หลบหน่อยเจ้าหนู"
มือของเด็กชายผลักประตูหลังร้านหม้อใหญ่รั่วเข้าไป หวังเดินทะลุออกไปทางหน้าร้านเพื่อหาทางกลับบ้านต่อ แต่ทว่าเดินไปไม่ถึงไหนก็ต้องหยุดจนตัวโก่ง เมื่อมีเสียงแหบ ๆ ของพนักงานหนุ่มคนหนึ่งในร้านดังขึ้น พร้อมกับแก้วบัตเตอร์เบียร์หอม ๆ ลอยได้ด้วยคาถา ผ่านหน้าของเขาไปวางเสิร์ฟลงบนโต๊ะไม้ที่อยู่ไม่ไกล โดยพนักงานไม่จำเป็นต้องเดินให้เมื่อยสักนิด
"น่ากินแฮะ"
พันไมล์บ่นพึมพำกับตัวเองเบา ๆ บัตเตอร์เบียร์ของร้านหม้อใหญ่รั่วมันเป็นเครื่องดื่มขึ้นชื่อไม่ใช่หรือยังไงกัน ไหน ๆ ก็ได้เป็นพ่อมดทั้งยังได้เป็นนักเรียนฮอกวอตส์ทั้งที จะพลาดการดื่มบัตเตอร์เบียร์ที่นี่ก็คงจะประหลาดเกินไป ติดที่ว่าตอนนี้เขาไม่มีซักเกลเลียนเลยน่ะสิ
"ที่นี่รับเงินปอนด์มั้ยนะ"
Dylan Orpheus Middleton Yang
"ครับ?" พันไมล์หันไปทำหน้างุนงงใส่ชายหนุ่มแปลกหน้าที่เดินเข้ามาทัก ถึงแม้จะแน่ใจว่าไม่เคยรู้จักแน่ ๆ แต่ใบหน้าเปื้อนยิ้มที่ดูทั้งสวยและหล่อในเวลาเดียวกัน รวมถึงท่าทางและการแต่งกายก็ทำให้อีกฝ่ายดูไม่ใช่คนที่มีพิษมีภัยเท่าไหร่
Dylan Orpheus Middleton Yang
เด็กชายถึงบางอ้อเมื่อคนตรงหน้าแนะนำตัว ที่แท้เขาก็เป็นรุ่นพี่บ้านกริฟฟินดอร์ที่เรียนจบออกไปแล้ว ยิ่งพันไมล์ก้มมองตัวเอง ที่พันผ้าคอบ้านกริฟฟินดอร์ไว้เด่นหราขนาดนี้กับหน้าตาที่เหมือนชีต้าร์หลงทาง ก็ไม่แปลกใจที่ดีแลนจะเข้ามาทัก
"ผมพันไมล์ครับ นักเรียนปี 1 บ้านกริฟฟินดอร์" แนะนำตัวกลับไปอย่างเต็มยศพร้อมรอยยิ้ม
Dylan Orpheus Middleton Yang
"อ้อ ครับ แต่ว่าเกลเลียนผมหมดแล้ว ตอนนี้มีแค่เงินปอนด์ติดตัวไม่รู้ว่าร้านจะรับมั้ย"
พันไมล์ชูถุงเกลเลียนแห้ง ๆ ประกอบคำพูด ได้ยินอีกคนหลุดขำพันไมล์ก็รู้สึกร้อน ๆ ที่หน้าขึ้นมา กามเทพอย่าเพิ่งทำงานตอนนี้เลยได้โปรด
Dylan Orpheus Middleton Yang
"จะดีเหรอครับ ผมเกรงใจ"
Dylan Orpheus Middleton Yang
"งั้นรบกวนด้วยนะครับ"
สุดท้ายก็เป็นดีแลนที่เสนอตัวว่าจะเลี้ยงบัตเตอร์เบียร์ซักแก้ว เป็นการต้อนรับน้องใหม่ เด็กชายจากประเทศไทยรู้สึกคิดไม่ผิดที่ซื้อเจ้าผ้าพันคอประจำบ้านนี้มาก่อนอย่างอื่น
ทั้งคู่เดินไปหาที่นั่งมุมหนึ่งของร้านที่คนไม่พลุกพล่านนัก ก่อนที่มือเรียวของดีแลนจะยกขึ้นสั่งบัตเตอร์เบียร์จำนวนสองแก้ว
พันไมล์ไม่ใช่คนเริ่มบทสนทนาที่ดีนัก เมื่อสิ้นเสียงสั่งเครื่องดื่มของคนตรงหน้า โต๊ะของพวกเขาก็เงียบลง มีเพียงเสียงพูดคุยจากโต๊ะอื่น ๆ ในร้านเท่านั้นที่ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง เด็กชายทำทีมองไปมารอบร้าน แต่จริง ๆ ก็ลอบสังเกตพี่คนสวยนั่นแหละ
Dylan Orpheus Middleton Yang
"อ๋อ" เด็กชายสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อดีแลนชวนคุย แต่ก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติก่อนจะตอบออกไป "มาซื้ออุปกรณ์การเรียนแหละครับ แต่ซื้อได้สองอย่างเกลเลียนก็หมดแล้ว แล้วพี่ล่ะครับ แวะมาร้านหม้อใหญ่รั่วเฉย ๆ หรือมาตรอกไดแอกอนด้วย"
Dylan Orpheus Middleton Yang
"อย่างนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้นดื่มบัตเตอร์เบียร์เสร็จแล้วให้ผมไปเดินตรอกเป็นเพื่อนมั้ยครับ"
Dylan Orpheus Middleton Yang
"ถือว่าเป็นค่าบัตเตอร์เบียร์ก็ได้"
พันไมล์กระพริบตาปริบ ๆ รออีกฝ่ายชั่งใจ สุดท้ายดีแลนก็ตอบตกลง เป็นเวลาเดียวกับที่บัตเตอร์เบียร์มาเสิร์ฟพอดี
เด็กนักเรียนปี 1 คนเดียวในโต๊ะยิ้มกว้าง ก่อนจะยกแก้วบัตเตอร์เบียร์ขึ้นจิบในทันที แต่รสชาติเปรี้ยวจี๊ดของเลม่อนก็เล่นงาน เปรี้ยวเสียจนรู้ตัวว่าต้องทำหน้าตลก ๆ ออกไปแน่ ๆ
Dylan Orpheus Middleton Yang
ดีแลนถามด้วยความสงสัย พันไมล์วางแก้วลงพลางจ้องมองมันอย่างสงสัยเหมือนกัน
"ไม่รู้สิครับ ผมไม่คิดว่าบัตเตอร์เบียร์จะเปรี้ยวขนาดนี้ ว่าแต่ทำไมแก้วของผมกับของพี่ไม่เหมือนกันล่ะ"
เด็กชายสังเกตเห็นความผิดปกติ ดีแลนถึงได้ก้มลงมองแก้วของตัวเองกับของรุ่นน้องบ้าง คนโตกว่าก็ใจดี เรียกพนักงานมาถามให้
"อ้าว ไม่ได้สั่งบัตเตอร์เบียร์ 1 น้ำมะนาวลิ้นผูก 1 หรอกเหรอ"
"ครับ?"
พันไมล์ทวนเสียงสูง เมื่อพนักงานร้านหม้อใหญ่เฉลยที่มา ของระเบิดความเปรี้ยวที่เข้าจู่โจมลิ้นของเขาเมื่อครู่นี้ ดีแลนหัวเราะ ก่อนจะสั่งแก้วใหม่ให้เขาอย่างใจดี หมดกันความประทับใจแรกกับบัตเตอร์เบียร์ของเขา
_______________________________________
Panmile Pasuthadol #A99488
Dylan Orpheus Middleton Yang #660000
NPC พนักงานร้านหม้อใหญ่รั่ว
▔▔▔▔▔▔
เป็นอะไรหรือเปล่าหนุ่มน้อย เสียงของหญิงสาวเจ้าของร้านหม้อใหญ่รั่วดังขึ้น แฮนนาห์ อับบอต ยืนปรายตามองมาที่เขาอย่างไม่วางตา ราวกับกลัวว่าเด็กชายคนนี้จะก่อความไม่สงบในร้านของหล่อน
ไม่ได้เป็นอะไร เอลวินตอบกลับ ก่อนจะเดินกลับออกไปทางหน้าร้านหม้อใหญ่รั่ว แต่แล้วเขากลับถูกชายร่างใหญ่สองคนที่อยู่ด้านหลังมาดามอับบอตจับตัวไว้
จะทำอะไร
ปล่อย ผู้ครอบครองจิตวิญญาณแห่งนภาเอ่ยพลางออกแรงดิ้น เพื่อให้หลุดจากพันธนาการของผู้วิเศษร่างกำยำสองคนที่หิ้วปีกเขาอยู่คนละข้าง
ฉันคงปล่อยให้เธอไปก่อความวุ่นวายในร้านของฉันไม่ได้หรอกนะจ๊ะ เจ้าของร้านวัยกลางคนพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูใจดี แต่แววตาของเธอนั้นบ่งบอกว่าเธอหมายความเช่นนั้นจริง ๆ
เฝ้าเขาไว้ อย่าให้เข้าไปในร้านได้อีก เธอสั่งลูกน้องของตัวเองก่อนจะเดินหายเข้าไปในร้านหม้อใหญ่รั่ว
ปล่อยได้แล้ว ไม่เข้าก็ไม่เข้าวะ เด็กชายสบถออกมาอย่างหัวเสีย
#F5DEB3 | Elwynn Bryze Spencer
#FFFFFF | Hannah Abbott (NPC)
http://hogwartsthai.com/forum/index.php?s=&showtopic=38721&view=findpost&p=605722. . . ร้านหม้อใหญ่รั่ว
สองข้างทางในซอยของถนนชาริงครอส ซึ่งเป็นที่ตั้งของผับเก่าแก่ชื่อดังของผู้วิเศษไร้วี่แววของพวกมักเกิ้ล หันไปทางไหน ทางซ้ายหรือทางขวา ท้องถนนก็เต็มไปด้วยบรรดาพวกพ่อมดแม่มดที่เดินทางมาเพื่อสังสรรค์ที่ร้านอาหารแห่งนี
้หรือเพื่อมุ่งหน้าไปยังตรอกไดแอกอน
หลังจากที่เพอร์ซี่กลับมาจากทำภารกิจที่ญี่ปุ่น เขารีบติดต่อรุ่นพี่คนสนิท เพื่อให้มาสังสรรค์ด้วยกัน เขาส่งจดหมายนกฮูกไปเพียงไม่ถึงสองชั่วโมงก็ได้รับการตอบกลับมา
ชายหนุ่มยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู ขาทั้งสองรีบก้าวยาวไปตามทางถนน เมื่อเข้ามาที่ร้าน เขากวาดสายตาไปทั่วเห็นหญิงสาวผมยาวถึงกลางหลังนั่งหันหลังอยู่โต๊ะริมหน้าต่าง ชายหนุ่มจำรูปร่าง สีผมน้ำตาล อีกทั้งชุดเดรสที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของเธอ
“พี่ซิน” เพอร์ซี่ตะโกนพร้อมโบกมือ เขาส่งเสียงแข่งกับเสียงอื้ออึงภายในร้านเพื่อเรียกหญิงสาวรุ่นพี่
“เพิร์ซ นั่งก่อนสิ” ซินเนสเทียเงยหน้าพร้อมเอ่ยขึ้น
“ขอโทษทีพี่ มาช้าไปห้านาที งานที่กระทรวงเข้ากระทันหัน เลยเคลียร์เพิ่งเสร็จ” เขาเอ่ยกับพี่สาวคนสนิท พร้อมบ่นสาระทุกข์สุกดิบเกี่ยวกับการทำงานในกระทรวง
ทั้งสองสนทนากันอย่างเมามัน ท่ามกลางผู้คนมากมายที่กำลังนั่งดื่มและรับประทานอาหาร ต่างคนต่างคุยสังสรรค์ ไม่นานนักหญิงสาวสวมผ้ากันเปื้อนลายหม้อใหญ่มุ่งหน้าเดินเข้ามาที่โต๊ะ
“รับอะไรดีล่ะวันนี้” หญิงสาวผมบลอนด์เอ่ยถามแทรกระหว่างบทสนทนาของทั้งสองคน
“ขอเป็นบัตเตอร์เบียร์1707 สองที่ค่ะ” เธอสั่งด้วยความมั่นใจว่าที่ร้านต้องมีแน่นอน
“นี่แม่หนู นี่มันร้านหม้อใหญ่รั่ว ไม่ใช่ร้านไม้กวาดสามอันนะ เราไม่มีหรอก บัตเตอร์เบียร์1707” แฮนน่าห์ตอบกลับด้วยหน้าขิ้วขมวด
“อ่า บัตเตอร์เบียร์1707 ของที่นี่ มีไว้ให้บริการแค่กับ พวกคนที่คุณช่วยให้ซ่อนตัวจากมือปราบมารหรอคะ ?” ซินเนสเทียตอบกลับทันควันด้วยความยียวน พร้อมกันหันไปมอง สาดส่องสายตาไปบริเวณบนร้านชั้น 2 พร้อมคว่ำปากตามทันที
“นี่ พี่จะคว่ำปากทำไมเนี่ย ฮ่าๆ” เพอร์ซี่หันไปสังเกตเห็นปากของพี่สาวเธอคว่ำปากเป็นรูปครึ่งวงกลม
“อ้อ ฉันขอแนะนำให้รู้จัก คุณเพอร์ซี่ ปลัดอาวุโสคนล่าสุดของกระทรวงเวทมนตร์ค่ะ” หญิงสาวกล่าวแนะนำตัวน้องชายให้กับสาวผมบลอนด์ที่ยืนอยู่ข้างโต๊ะ
“โอ้ สวัสดีค่ะท่านรัฐมนตรี ร้านหม้อใหญ่รั่วของเรายินดีอย่างยิ่งที่จะให้บริการ ขอเชิญที่ห้องส่วนตัวด้านหลังเถอะนะคะ” สีหน้าแววตาถอดสี เมื่อเธอได้ยินตำแหน่งของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ เธอได้ชวนให้ทั้ง 2 ย้ายไปห้องรับรองแขกส่วนตัวดานหลังร้าน
“ห้องส่วนตัวเลยหรอ หึหึ” เพอร์ซี่บ่นกรุบ เห็นได้ถึงความพริวิลเลจที่ยังคงมีในโลกผู้วิเศษ
ถึงแม้เพอร์ซี่จะไม่ค่อยอยากมาใช้บริการห้องส่วนตัวสักเท่าไร แต่พี่สาวของเธอคะยั้นคะยอจนสำเร็จ
“พอดีเรามีสั่งไว้บ้าง มาลองชิมเฉย ๆ ค่ะ ก็ต้องศึกษาตลาดคู่แข่งไว้เสียหน่อย” สาวเสื้อกันเปื้อนเดินถือแก้วบรรจุน้ำสีเหลืองฟองล้นมาด้วยมือสั่นเล็กน้อย
“ละนี่ร้านแขกเยอะไหมครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามผู้เสิร์ฟ เพื่อที่จะลดความเกร็งของเธอ
“ห้องพักของเราก็ไม่ได้มีแขกอะไรมากมายหรอกค่ะ ช่วงนี้ก็ให้ช่างมาดูซ่อมพวกอุปกรณ์เครื่องเรือนเฉย ๆ ท่านอย่าได้เป็นกังวลไปเลยนะคะ” เธอตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
ซินเนสเห็นอาการสั่นของหญิงสาว เธอยิ้มมุมปาก ราวกับชอบใจที่ได้แกล้งเธอ
“เลิกสั่นได้แล้วครับ” เพอร์ซิอุสส่งยิ้มออกไปด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ แต่เสน่ห์จากร้อยยิ้มของเขาช่วยลดความตึงเครียดระหว่างบทสนทนาลงได้ แฮนน่าห์ยิ้มตอบรับเล็กน้อย แล้วรีบออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
ซินเนสหัวเราะดังลั่นห้อง หลังจากที่เธอออกไป เพอร์ซี่ก็พลอยหัวเราะตามไปพร้อมกัน
“เอาล่ะ งั้นก็ถึงเวลาบัตเตอร์เบียร์1707เทสติ้งคลาส อยากลองมานานแล้วล่ะ นี่รอชิมพร้อมนายเลยนะ”
“หวานมากเนี่ย 1707 นี่หวานกว่าสูตรธรรมดาอีกนะ " รสชาติที่ไม่ถูกจริตกับเพอร์ซี่สักเท่าไร
รสชาติของบัตเตอร์เบียร์สูตรนี้ ค่อนข้างหวาน สำหรับส่วนตัวของเพอร์ซี่ที่เขาไม่ค่อยชอบรสชาติหวานเป็นทุนเดิม แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่จะกินอะไรได้ยาก นานๆจะได้ลิ้มรสชาติของบัตเตอร์เบียร์ เขาจึงเลือกที่จะดื่มต่อไป
“กิน ๆ ไปเถอะน่าเพิร์ซ อย่าไปคิดอะไรมาก นาน ๆ ทีจะได้มีโอกาสเจอท่านรัฐมนตรี ก็ขอยืมพลังมาเล่นสนุกหน่อยจะเป็นไรไป” เธอสวนกลับ
“ก็จริง นานๆเราจะได้นัดกันมาสังสรรค์กัน Cheers!”
“กลิ่นของบัตเตอร์เบียร์1707 ช่างต่างจากบัตเตอร์เบียร์ทั่วไปเสียจริง ๆ มีทั้งความหอมกว่า ละมุนกว่า คลาสสิกกว่า เหมือนที่เขาว่ากันเลยเนอะ”
ทั้งสองนั่งดื่ม สนทนาเรื่องราวต่างๆที่ห่างหายกันไปช่วงหลายเดือนให้ฟังซึงกันและกัน ไม่นานนักก็ได้เวลาไปต่อ พวกเขาเดินไปหลังร้านที่ค่อนข้างสกปรก เศษหยากไย่แมงมุมเกาะเต็มผนัง แถมยังมีขยะกองเต็มพื้น ไม่ได้ชวนมอง หรือชวนให้มายืนแถวบริเวณเสียเท่าไร สำหรับพวกมักเกิ้ล แต่สำหรับผู้วิเศษนี่คือประตูสำคัญสู่สถานที่สุดวิเศษสำหรับพวกเขา เพอร์ซี่ยกมือแตะกำแพงอิฐจากซ้ายเหนือถังขยะ เคาะอิฐขึ้นไปสามก้อน และเคาะทางขวาอีกสองก้อน แนวตั้งสาม แนวนอนสอง
กำแพงค่อยๆขยายกลายเป็นประตูขนาดใหญ่
“ไม่ค่อยได้มาทางนี้เท่าไรเลยนะ”
“ลองเดินทางแบบพ่อมดแม่มดธรรมดาเดินดินดูบ้าง ก็ไม่เสียหายอะไรนี่” ซินตอบกลับเพอร์ซี่
“ตรงนี้เหม็นขยะ กลิ่นติดเสื้อผ้านะสิ” เพอร์ซี่ยกแขนสูทขึ้นมาดม พร้อมบ่นอุบ
“เอาล่ะ เราเริ่มจากตรงไหนก่อนดี ตรอกน็อกเทิร์นเลยมั้ย?” ซินเนสเทียยิ้มร่า พร้อมเอ่ยถามสถานที่ที่จะไปเที่ยวต่อด้วยกัน
“อืม นั่นสิร้านไหนดี แต่ขอปลีกตัวไปส่งเอกสารที่สำนักพิมพ์เดลี่พรอเฟ็ตสักแปปนะพี่ เดี๋ยวกลับมาเจอกันตรงแถวร้านฝั่งทิศเหนือ” ชายหนุ่มเอ่ยถึงพี่สาว
ทั้งสองแยกจากกันชั่วคราว ชายหนุ่มเดินมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ของตรอกไดแอกอนเพื่อนำเอกสารของกระทรวงเวทมนตร์ไปส่งให้บรรณาธิการสำนักพิมพ์ ซินเนสเทียแสดงความเป็นห่วงว่าเพอร์ซี่จะหลงทางหรือไม่ เพราะชายหนุ่มไม่ค่อยได้มาบริเวณนี้สักเท่าไร
Sinestrea Denzel Spencer #FFBFBF
Hannah Abbott (NPC) #FFFFFF
Elyseen Rosen #6666FF
NPC พนง.ร้านหม้อใหญ่
ร้านหม้อใหญ่
บรรยากาศภายในร้านตกแต่งให้ดูสมกับวันเปิดเทอม เหล่าพ่อมดแม่มดต่างก็ถยอยกันเข้าออกร้าน เสียงแก้วสีหัวเราะดังไม่ขาดสาย หลังจากที่ไม่ได้มาที่นี้นานมันก็ทำให้รู้สึกถึงบรรยากาศเก่าๆ หญิงสาวเดินเข้าไปในร้านก่อนจะมองไปรอบๆร้านว่ายังมีที่นั่งเหลืออยู่อีกไหม 'มีไหมนะโต๊ะว่างๆ โอ๊ะนั้นไง' พอเธอมองเห็นเธอก็เรียบเดินไปยังโต๊ะนั้นทันที แต่ก็ต้องสะดุดเพราะรุ่นพี่จากบ้านเรเวนคลอ นักร้องร้านไม้กวาดมาตัดหน้าซะได้
"อะเร๊ะ..ไหงพี่มานั่งโต๊ะที่น้องเล็งไว้ละ"
Elyseen Rosen
"แง่ว งั้นขอพวกหนูนั่งด้วยนะ" รุ่นพี่คนสวยพยักหน้าให้พวกเราก่อนที่เธอจะเลื่อนเก้าอี้นั่งลง ก่อนจะยกมือเรียกพนักงานในร้านเพื่อสั่งของ
'รับอะไรดีคะคุณหนู' เธอมองเมนูแนะนำของทางร้านก่อนจะหันไปมองพี่สาวที่กำลังนั่งคิดอะไรสักอย่างอยู่
"พี่เอลๆๆ เอาเครื่องดื่มอะไรไหม"
Elyseen Rosen
"แล้วแต่น้องหยอ โอเคค่ะงั้นเอาบัตเตอร์เบียร์ 1 น้ำมะนาวลิ้นผูก 1 ค่ะ"
'ได้ค่ะ กรุณารอสักครู่นะคะ' เธอมองพนักงานที่เดินจากไปพร้อมเมนูที่ได้รับ จากนั้นเธอก็หันกลับมาหารุ่นพี่ก่อนจะยกยิ้มอย่างมีเลห์นัยขึ้น 'หุหุ อยากจะเป็นพี่เอลทำหน้าเปรี้ยวจริงๆ'
Elyseen Rosen
"ป่าวฮับ ว่าแต่พี่เอลดื่มอะไรเสร็จแล้วจะไปไหนต่อไหมอ่ะ"
Elyseen Rosen
"งั้นพรุ่งนี้เราไปร้านนกฮูกอายล๊อปส์ และ ร้านสัตว์วิเศษกันนะ น้องอยากไปดูนกฮูกอ่ะ"
Elyseen Rosen เธอยิ้มร่าพอรุ่นพี่คนสวยตอบตกลงที่จะไปเที่ยวกับเธอในวันพรุ่งนี้ และใช้เวลาไม่นานเครื่องสุดแสนจะอร่อยก็มาเสิร์ฟ
'ขออนุญาตว่างเครื่องดื่มนะคะ'
"พี่เอล ดื่มแก้วนี้ดิ"
Elyseen Rosen
"ห่ะ ไหนๆ อ้าวววไม่เห็นจะมีเลยพี่เอลแกล้งน้องอ่ะ" ที่ตัวเธอหันไปนอกร้านเมื่อกี้นั้นเพราะคนตรงข้ามเธอดันบอกว่าเจอนกฮูกบินมาเกาะหน้า
ร้าน เธอก็เลยหันไปดูโดยทันทีแต่กลับโดนหลอกซะได้
"อึ้ยยย เปรี้ยว! ไหงน้ำของน้องกลายเป็นน้ำมะนาวลิ้นผูกอ่ะ"
Elyseen Rosen เสียงหัวเราะที่ดูขำอร่อยนั้นกำลังขำที่ตัวเองได้แกล้งคืนสำเร็จ เธอหน้ามุ่ยทันทีก่อนจะทำท่าทีงอนๆใส่อีกคน
. . . ร้านหม้อใหญ่รั่ว
"มันน่าจะอยู่แถวนี้นี่นา"
เสียงพึมพำเบา ๆ ของชายหนุ่มแทบจะถูกกลืนหายไปด้วยเสียงรถยนต์ที่กำลังสัญจรไปมาอยู่ตลอดเวลาข้างกาย จูเลียนขมวดคิ้วพลางมองซ้ายมองขวาเพื่อหาสถานที่อันเป็นจุดหมายในวันนี้ ขณะก้าวไปเรื่อย ๆ ตามทางเท้า ท่าทางหลุกหลิกอยู่ไม่สุขนั่นทำให้สัตว์เทพผู้ถูกบังคับให้ติดตามมาด้วย (อีกแล้ว) ลอบมองอย่างเหนื่อยหน่ายใจ
จูเลียนลงมายังแดนมนุษย์ทุกครั้งยามที่โรงเรียนของเจ้าตัวเปิดเรียน ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน แต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะไม่คุ้นเคยกับโลกมนุษย์อย่างน่าประหลาด
"นั่นไงเจอแล้ว! ร้านหม้อใหญ่รั่ว"
ทันทีที่เห็นร้านอาหารชื่อดังของผู้วิเศษ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างร้านหนังสือและร้านขายแผ่นเสียงบนถนนชาริงครอส จิ้งจอกน้อยก็กระโดดโลดเต้นอย่างอารมณ์ดี รีบคว้าแขนของอินทรีดำก่อนจะลากให้ออกวิ่งไปด้วยกัน เดือดร้อนคนตัวสูงกว่าที่ต้องขืนตัวไว้ เพราะกลัวว่าองค์ชายแห่งแดนอิสานจะล้มคะมำไปเสียก่อน
แม้บรรยากาศในร้านหม้อใหญ่รั่วจะดูอึมครึมจากการตกแต่งและอายุของร้านที่มากแล้ว แต่ก็ยังคงมีสีสันอยู่เสมอจากผู้วิเศษทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะด้านหลังร้านนี้เป็นทางเข้าหลักไปสู่ตรอกไดแอกอน ทำให้ผู้คนต่างแวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฮอกวอตส์ใกล้เปิดเทอม
เมื่อผลักประตูด้านหลังร้านออกไป ก็จะเจอกับกำแพงอิฐซึ่งเป็นทางเข้าสู่ตรอกไดแอกอน เพียงแค่ต้องเคาะไม้กายสิทธิ์ในตำแหน่งที่ถูก ทางเข้าก็จะเผยให้เห็น
"แน่ใจใช่มั้ยว่าจำวิธีเข้าได้"
เสียงทุ้มที่ไม่แสดงอารมณ์ของคนข้างกายดังขึ้น วันนี้เชียนอวิ๋นดูแปลกตาไปทั้งการแต่งตัวและภาษาที่ใช้ เนื่องจากต้องการทำตัวให้กลมกลืนกับมนุษย์โลกมากที่สุด แต่ถึงจะไม่ใส่ฮั่นฝูสีดำสนิท เชียนอวิ๋นก็ยังคงเลือกเสื้อผ้าทันสมัยที่เป็นสีดำทั้งตัวอยู่เช่นเดิม ผิดกับจูเลียนที่ใส่เสื้อสเวตเตอร์สีรุ้งแบบจัดเต็ม พอมายืนข้างกันแล้วให้ความรู้สึกถึงมีมบ้านสองหลัง ที่โด่งดังในโซเชียลมีเดียของมักเกิ้ลอย่างไรอย่างนั้น
"จะ
จำได้" ถึงจะตอบออกไปแบบนั้นแต่น้ำเสียงก็ไม่มีความมั่นใจเลยสักนิด
จูเลียนหยิบไม้กายสิทธิ์ปอปล่าร์ของตัวเองขึ้นมาถือค้างไว้ เพราะความทรงจำที่มีเกี่ยวกับวิธีการเข้าตรอกไดแอกอนอยู่ ๆ ก็หายไปเสียดื้อ ๆ ราวกับว่าไม่เคยมีมาก่อน
เชียนอวิ๋นยกมือขึ้นกอดอกมองคนตัวเล็กกว่าหันมาส่งยิ้มแหยให้ จูเลียนกวาดสายตามองไปรอบ ๆ พลางใช้ความคิดอย่างหนักว่าต้องเริ่มจากตรงไหน
"โอ๊ะ! ถังขยะ ใช่แล้ว ๆ"
ตะโกนออกมาเสียงดังก่อนจะนับจากซ้ายเหนือถังขยะ เคาะไปที่อิฐแนวตั้งสามก้อน แนวนอนทางขวาอีกสองก้อน พลันกำแพงอิฐตรงหน้าก็ค่อย ๆ ขยับ กลายเป็นทางเข้าสู่ตรอกค้าขายอันคึกคัก
"เป็นไง บอกแล้วว่าจำได้"
"ดูท่าก็เกือบจะไม่รอด"
"นี่!"
ไม่ปล่อยให้จิ้งจอกน้อยเริ่มโวยวาย เชียนอวิ๋นก็เดินนำเข้าไปในตรอกไดแอกอนทันที
▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔
Julien Aneurin Delacroix Bai ❀ #CD8E8D
NPC Qianyun ❀ #FFFFFF
.....
ร้านหม้อใหญ่รั่ว
ตั้งแต่จบการศึกษามาหลายปีก่อนดีแลนไม่เคยคิดกลับมาสถานที่แห่งนี้อีกเลย แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกันใน เมื่อหยางเยวียนมารศาสตาตัวป่วนของตนนั้นอยากได้เสื้อคลุมกริฟฟินดอร์ หลังจากที่ได้นำของดีแลนไปใส่เล่นครานึงกลับชอบอกชอบใจ จนตนอดไม่ได้ที่ต้องเดินทางมาซื้อที่ตรอกไดแอกอน
ภายในร้านหม้อใหญ่รั่วยังคงเหมือนเดิมทุกระเบียบนิ้ว ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนผู้คนยังคงอัดแน่นไม่เปลี่ยน นัยน์ตาสีเทาหม่นสาดสองไปทั่วบริเวณ ก่อนจะสะดุดเข้ากับเด็กหนุ่มที่สวมใส่ผ้าพันคอสีแดงเลือดนก อันเป็นเอกลักษณ์ประจำบ้านราชสีห์ของโรงเรียนเวทมนต์ชื่อดัง คิ้วๆเล็กขมวดเข้าหากันราวกับใช้ความคิด
ที่นี่รับเงินปอนด์มั้ยนะ
เงินไม่พอหรอครับ
ครับ?
ริมฝีปากยกยิ้มขึ้นเมื่อใบหน้าของเด็กหนุ่มหันมามองตนอย่างวยงง ท่าทางคนตรงหน้าคล้ายคลึงกับหยางเยวียนจนทำให้ดีแลนอดนึกถึไม่ได้ น่าเอ็นดูเสียจนอยากลูบหัว
ดีแลนครับ ศิษย์เก่าบ้านสิงโต
ผมพันไมล์ครับ นักเรียนปี 1 บ้านกริฟฟินดอร์
ไม่ต้องเต็มยศขนาดนั้นก็ได้ แล้วนี่อยากกินบัตเตอร์เบียร์หรอครับ
"อ้อ ครับ แต่ว่าเกลเลียนผมหมดแล้ว ตอนนี้มีแค่เงินปอนด์ติดตัวไม่รู้ว่าร้านจะรับมั้ย"
ดีแลนหลุดขำออกมากับท่าทางน่าเอ็นดูของรุ่นน้องตรงหน้า ดวงตากลมโตคล้ายคลึงลูกเสื้อชีต้ากับลังออดอ้อนตนอย่างไงอย่างนั้น หากไม่เคยโดนลูกอ้อนเช่นนี้จากหยางเยวียนบ่อยๆตนคงเหมาทั้งร้านนี้ให้อีกคนเป็นแน่
เดี๋ยวเลี้ยงเอง ในฐานะต้อนรับรุ่นน้องเข้าบ้านสิงโต
"จะดีเหรอครับ ผมเกรงใจ"
ปฏิเสธผู้ใหญ่มันไม่น่ารักรู้ไหมครับ
"งั้นรบกวนด้วยนะครับ"
ดีแลนยกยิ้มเมื่อพันไมล์ไม่ปฏิเสธคำชวนของตน ก่อนจะเดินพารุ่นน้องร่วมบ้านที่เพิ่งรู้จักเมื่อครู่เดินไปยังมุมร้าน ด้วยความเป็นคนไม่ชอบคนพลุกพล่านมากเท่าไร เลยทำให้เลือกที่นั่งตรงนี้แทนที่จะนั่งใกล้เคาน์เตอร์
ขอบัตเตอร์เบียร์ 2 ที่ครับ
ดีเเลนเอ่ยสั่งเครื่องดื่มยอดฮิตตลอดกาลของร้านหม้อใหญ่รั่ว ก่อนจะหันมาสนใจเศษกระดาษในมือที่จดบันทึกรายการทั้งหมด ที่ตนต้องเดินซื้อในตรอกไดแอกอนในครั้งนี้ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเมื่อตนเริ่มรู้สึกถึงสายตาที่จับจ้อง พลางเงยหน้าขึ้นมองเด็กหนุ่มตรงหน้า
มาทำอะไรที่นี่ล่ะ มาซื้อหนังสือหรอครับ
"อ๋อ"
"มาซื้ออุปกรณ์การเรียนแหละครับ แต่ซื้อได้สองอย่างเกลเลียนก็หมดแล้ว แล้วพี่ล่ะครับ แวะมาร้านหม้อใหญ่รั่วเฉย ๆ หรือมาตรอกไดแอกอนด้วย"
มาซื้อของพวกเนี้ยแหละ
แผ่นกระดาษถูกยกขึ้นมาตรงหน้าเด็กหนุ่ม ดวงตากลมโตจับจ้องรายละเอียดในนั้นก่อนจะพยักหัวทุยขึ้นลงช้าๆ
"อย่างนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้นดื่มบัตเตอร์เบียร์เสร็จแล้วให้ผมไปเดินตรอกเป็นเพื่อนมั้ยครับ"
เรื่องแค่นี้เองไม่ต้องหรอก
"ถือว่าเป็นค่าบัตเตอร์เบียร์ก็ได้"
ริมฝีปากเม้มเข้าหากันเมื่อพันไมล์ส่งสายตาออดอ้อนมายังตน ก่อนจะพยักหน้าส่งพลางเบนสายตาไปทางอื่น ท่าทางเหมือนลูกเสือชีต้าร์นัน มันเกือบทำให้ตนอดหักห้ามใจไม่อยู่ ดีแค่ที่เครื่องดื่มมาเสิร์ฟเสียก่อน ไม่งั้นมีหวังตนได้ยกมือขึ้นสั่งเครื่องดื่มเพิ่มแล้ว
ทำไมทำหน้าอย่างนั้น ไม่ถูกปากหรือไง
"ไม่รู้สิครับ ผมไม่คิดว่าบัตเตอร์เบียร์จะเปรี้ยวขนาดนี้ ว่าแต่ทำไมแก้วของผมกับของพี่ไม่เหมือนกันล่ะ"
คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเมื่อได้ยินคำพูดจากรุ่นน้องร่วมบ้าน พลางสักเกตความผิดปกติจากแก้วตนกับอีกคน แค่สีก็ไม่เหมือนกันแล้ว อาจจะเป็นเพราะเด็กคนนี้ไม่เคยลองบัตเตอร์เบียร์ด้วยก็อาจะเป็นได้
ขอโทษนะครับ ทำไมบัตเตอร์เบียร์สองแก้วนี้ถึงไม่เหมือนกันครับ
"อ้าว ไม่ได้สั่งบัตเตอร์เบียร์ 1 น้ำมะนาวลิ้นผูก 1 หรอกเหรอ"
"ครับ?"
พันไมล์ถามเสียงหลงจนดีแลนระเบิดหัวเราะออกมา ไม่คิดว่าเด็กคนนี้จะโดนรับน้องใหม่จากร้านหม้อใหญ่รั่วเสียแล้ว เด็กหนุ่มตรงหน้ารีบดันแก้วตนเองออกไปให้พ้นด้วยใบหน้าขยี๋ ดีแลนไม่แปลกใจที่อีกคนเพิ่งสังเกตุเห็นความแตกต่างของแก้วทั้งสอง ก็ในเมื่ออีกคนไม่เคยได้ลองบัตเตอร์เบียร์สักครั้ง
ขอเพิ่มบัตเตอร์เบียร์อีกแก้วนะครับ
▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔
Dylan Middleton Yang ❀ #660000
Panmile Pasuthado ❀ #A99488
NPC พนักงานร้านหม้อใหญ่รั่ว❀ #FFFFF
RAVENCODE © 2022 __________________________________________⦿ ⦿ ⦿
ALBRIGTSEN
MERWYN ZYNAXALIA
ห้องพัก หมายเลข 1
อีกไม่นานปีการศึกษาใหม่ของโรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดฮอกวอตส์จะเริ่มต้นขึ้น ถึงเวลาแล้วที่อัลบริกท์เซนจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม ก่อนหน้านั้นหนึ่งวันเขาได้ทำการแบกสัมภาระที่จำเป็นของตัวเองมายังกรุงลอนดอน ก่อนที่จะรีบมุ่งหน้าออกมาที่ร้านหม้อใหญ่รั่ว เพื่อที่จะออกไปซื้ออุปกรณ์การเรียนที่ยังขาดเหลืออยู่ ณ ตรอกไดแอกอนแหล่งรวมพ่อมดแม่มด การเดินทางมาในครั้งนี้เขาไม่ได้บอกใครเอาไว้ก่อนเลย แม้กระทั่งบุคคลร่วมตระกูลหรือเพื่อนสนิทของเขาเอง
รถโดยสารส่วนตัวเคลื่อนที่อยู่บนถนนชาริงครอส เพื่อมุ่งหน้ามายังจุดหมายปลายทางหรือร้านหม้อใหญ่รั่ว ไม่นานนักรถสีดำเงาก็จอดหยุดอยู่ตรงข้ามกันกับร้าน เขาคว้าหยิบเงินสกุลปอนด์สเตอร์ลิงออกไปจ่ายให้คนขับ ก่อนจะหยิบยกสัมภาระของตัวเองออกมาจากด้านหลังรถ แล้วเร่งฝีเท้าเดินตรงไปสู่ประตูทางเข้าร้าน เมื่อประตูบานหนึ่งถูกเปิดออกก็ทำให้พบกับผู้วิเศษมากมาย นั่งรวมตัวสังสรรค์กันอยู่ด้านใน อัลบริกท์เซนเลือกที่จะเดินหลีกตัวออกไปยังหน้าบาร์ไม้ เพื่อขอเปิดห้องพักไว้เก็บพวกของสัมภาระและพักผ่อนเพียงเล็กน้อย
ขอเปิดห้องพัก หนึ่งห้องครับ เสียงทุ้มเอ่ยบอกพนักงานที่นั่งประจำตำแหน่งอยู่ด้านในบาร์ไม้เก่าแก่ ก่อนที่จะคว้าหยิบกุญแจห้องพักที่ถูกส่งให้โดยพนักงานขึ้นมา ไม่ต้องก็ได้ครับ ผมไปเอง ลูกค้าเยอะคุณอยู่ดูแลลูกค้าคนอื่นๆเถอะครับ เมื่อพนักงานประจำร้านกำลังจะลุกเดินออกมานำทางไปยังห้องพัก ชายหนุ่มจึงบอกปฏิเสธไป เพราะเหมือนว่าลูกค้าในร้านจะเยอะขึ้นเรื่อยๆ ทันใดนั้นสองขาก็ก้าวเดินขึ้นตามขั้นบันไดไปด้านบน ร่างใหญ่หยุดอยู่ด้านหน้าห้องหมายเลขหนึ่ง ก่อนจะทำการปลดล็อคประตูด้วยกุญแจที่ได้รับมอบมาจากพนักงานร้าน
ประตูไม้เก่าแก่ขนาดเล็กถูกเปิดออกให้เห็นกับตัวห้องด้านใน ขนาดห้องไม่ได้กว้างหรือแคบมากนักสำหรับเขา อัลบริกท์เซนเดินยกกระเป๋าสัมภาระเข้าไปด้านในเพื่อไม่ให้เกิดเสียงดัง แก่บุคคลที่อยู่ด้านล่างมากนัก กระเป๋าสัมภาระทั้งหมดถูกวางตั้งเข้าไว้ที่มุมห้องอย่างเป็นระเบียบ และเจ้าตัวเองก็คงไม่ลืมที่จะเดินไปปิดประตูห้องพักหมายเลขหนึ่ง ทันทีที่ทุกอย่างถูกวางเข้าที่หมดแล้ว
อัลบริกท์เซนเลือกที่จะงีบเล็กน้อยก่อนที่จะไปเดินท่องที่ตรอก ชายหนุ่มจึงเดินไปยังเตียงไม้ขนาดพอดีตัวแต่ไม่ใช่ขนาดตัวเขานี่สิ ถึงมันจะเล็กไปนิดหน่อยแต่ก็ยังพอใช้สำหรับพักผ่อนข้ามคืน ร่างสูงถอดรองเท้าออกก่อนจะเก็บมันไว้ด้านใต้เตียงที่ตนนอน แล้วทิ้งตัวลงนอนไปบนเตียงทันที เมื่อเปลือกตาสีขาวถูกปิดไป บรรยากาศรอบตัวก็มืดหายไปพร้อมกับเขาทันที ไม่นานนักเขาก็หลับไป อย่างไม่สนว่าจะมีสิ่งใดมารบกวนเวลานอนของเขาหรือไม่
▔▔▔▔▔▔
เวลาล่วงเลยผ่านไปสักพักกว่าที่ชายร่างกำยำ ลูกไล่ของมาดามอับบอตต์ เจ้าของร้านหม้อใหญ่รั่วคนปัจจุบัน จะปล่อยตัวเขาให้หลุดพ้นจากพันธนาการ แต่ถึงกระนั้นด้วยคำสั่งของผู้เป็นนายใหญ่ สมุนทั้งสองจึงไม่สามารถให้ทายาทลำดับที่สิบสองแห่งสเปนเซอร์คนนี้ กลับเข้าไปภายในร้านได้
เมื่อไม่มีทางเลือก เอลวินจึงตัดสินใจที่จะไปยังตรอกไดแอกอนแทน เนื่องจากแรกเริ่มเดิมทีเด็กชายก็ได้รับภารกิจจากเฮลล่าผู้เป็นพี่ ให้มาทำธุรกรรมแทนตนที่ธนาคารกริงกอตส์สาขาตรอกไดแอกอนอยู่แล้ว แต่สาเหตุที่เขาแวะมาที่ร้านหม้อใหญ่รั่ว เพราะแค่อยากจะมาซื้อบัตเตอร์เบียร์สูตรพิเศษที่ทางร้านโฆษณาไว้เท่านั้น
ร่างสูงของผู้ครอบครองจิตวิญญาณแห่งนภาเดินไปยังถังขยะที่อยู่ติดกับกำแพงอิฐ ก่อนจะหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมาแล้วนำไปแตะ จากซ้ายเหนือถังขยะ เคาะอิฐขึ้นไปสามก้อน และขวาอีกสองก้อน หลังจากนั้นไม่นานกำแพงอิฐก็เริ่มขยับ ก่อนจะขยายกลายเป็นประตูขนาดใหญ่ เผยภาพเบื้องหลังเป็นตรอกไดแอกอน จุดหมายปลายทางของเอลวินในวันนี้
#F5DEB3 | Elwynn Bryze Spencer
. . . ร้านหม้อใหญ่รั่ว
กรุงลอนดอนในยามบ่ายคราคร่ำไปด้วยมักเกิ้ลที่สัญจรไปมา ไมร่าเดินผ่านกลุ่มคนเหล่านั้นด้วยความแนบเนียน โดยมีชายหนุ่มอีกคนเดินตามหลังไม่ห่าง ชุดเดรสสีม่วงอ่อนดีไซน์แขนตุ๊กตา กระโปรงยาวเลยเข่าขึ้นมานิดหน่อย ส่งผลให้หญิงสาวดูน่ารักและเด็กกว่าวัยไปโดยปริยาย ความเร็วในการก้าวเดินของคนตัวเล็กช่างรวดเร็ว เนื่องจากคุ้นชินพื้นที่บริเวณนี้เป็นอย่างดี ต่างกับแบรนเดอร์ที่เอาแต่เบี่ยงตัวหลบคนนู้นที คนนี้ที บนใบหน้าแสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนว่ากำลังกังวลอย่างเห็นได้ชัด ช่างเป็นเรื่องราวที่แสนไม่คุ้นตาเสียจริง เพราะสัตว์เทพของเธอมักจะมีใบหน้านิ่งเฉย แฝงรังสีความน่าเกรงขามเอาไว้เสมอ
หญิงสาวอมยิ้มออกมาน้อย ๆ ก่อนจะเดินฝ่าฝูงชนกลับไปยังเส้นทางเดิมที่จากมา มือเล็กคว้าจับเอามือใหญ่กว่าเข้ามากุมไว้ พลางระบายรอยยิ้มที่มีอยู่ก่อนแล้วให้กว้างกว่าเดิม เธอออกแรงดึงเพื่อให้เฟิงฮว๋าเดินตามมา และหงส์หยกในร่างเซียนภูตที่กำลังปลอมตัวเป็นมนุษย์อยู่นี้ก็แสนจะว่าง่าย ชายหนุ่มไม่ขัดเธอเลยสักนิดก่อนที่ทั้งสองคนจะเข้าไปในร้านหม้อใหญ่รั่ว แน่นอนว่ามักเกิ้ลไม่เห็นหรอกว่ามีผู้วิเศษสองชีวิตกำลังเคลื่อนกายอยู่ ณ ที่แห่งนั้น
ร่างสูงและร่างเล็กเดินเข้ามาถึงด้านในร้านได้ในที่สุด ความเก่าแก่ของที่นี่บ่งบอกผ่านเฟอร์นิเจอร์ผุพังได้เป็นอย่างดี แต่ถึงอย่างนั้นมันกลับให้ความรู้สึกอบอุ่น แทนที่จะเป็นความรู้สึกไม่ดี ในคราแรกหลินหลินต้องการจะไปชอปปิงที่ตรอกไดแอกอนให้สบายอารมณ์เสียหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นกลิ่นอาหารและเครื่องดื่มมากมายกลับตีเข้าจมูกก่อน จนทำให้เธอเผลอนั่งลงกับเก้าอี้ตัวหนึ่งที่อยู่แถวนั้นโดยไม่รู้ตัว
"ไหนบอกว่าจะมาซื้อของไง" ร่างสูงกว่าว่า แต่ก็ไม่วายนั่งลงตามอย่างไม่อาจเลี่ยง เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าหากเจ้านายอย่างเธอตัดสินใจที่จะอยู่ที่นี่ ใครอีกคนก็ห้ามย้ายตัวเองไปไหนจนกว่าคนตัวเล็กจะอนุญาต
"ขอแวะนิดนึงน่า อย่าเครียดสิ เดี๋ยวก็แก่เร็วหรอก" ไมร่ากล่าวด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าของคนตรงข้ามยังคงเรียบเฉยเหมือนที่ผ่านมา แต่หญิงสาวก็ยังคงมีความสุขอยู่ดีที่สามารถหาเรื่องใครอีกคนได้ แม้เพียงสักนิดก็พึงพอใจแล้ว ทุกวันนี้เธอเหมือนป่วยเป็นโรค หากไม่ได้กวนประสาทเพื่อนคนสนิทของตัวเองสักวัน ก็ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะเหงาหงอย จนทำให้อีกฝ่ายต้องเป็นคนเข้ามาหาเรื่องเล่นด้วยเสียเอง
"แก่เร็วแล้วไง เซียนอย่างพวกเราอายุยืนยาวหลายหมื่นหลายแสนปีอยู่แล้ว ฉันยังต้องอยู่ในร่างหนุ่มแบบนี้ไปจนเธอเบื่อเลยล่ะ" คำพูดคำจาต่อล้อต่อเถียงของคนตรงหน้า ทำให้หลินหลินเผลอหัวเราะหึในลำคอออกมาอย่างไม่รู้ตัว ไม่รู้ว่าไปฝึกภาษามักเกิ้ลยุคนี้มาจากไหนกัน แต่แน่นอนว่าหลังผ่านการลงมาเยือนโลกมนุษย์หลายต่อหลายครั้ง ร่างสูงก็ย่อมต้องสามารถสื่อสารได้อยู่แล้ว สัตว์เทพของเธอน่ะเก่งกาจไม่แพ้ใครหรอกนะ
"แล้วรู้ได้ไงว่าจะเบื่อ" ไมร่าตอบกลับ เลิกคิ้วขึ้นสูงข้างหนึ่งเป็นการเน้นย้ำคำถาม
"ก็ถ้าอยู่ด้วยกันนานใคร ๆ ก็มักจะเบื่อไม่ใช่หรือไง ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือเทพก็หนีไม่พ้นความจริงของโลกหรอกนะ" เสียงทุ้มว่าอีกครั้ง และในขณะที่หลินหลินกำลังจะตอบกลับ พนักงานของร้านหม้อใหญ่รั่วก็เดินเข้ามารับออเดอร์พอดิบพอดี ช่างมาได้ถูกจังหวะซะจริง!
"เอาบัตเตอร์เบียร์หนึ่งแก้ว แล้วก็อันนี้ค่ะ" ร่างเล็กจัดการสั่งเมนูที่ตัวเองต้องการ ใช้นิ้วชี้เรียวจิ้มไปยังภาพที่ขยับอยู่บนกระดาษรายการอาหาร เมื่อทำหน้าที่เสร็จแล้วใครอีกคนจึงเดินจากไป และเพราะเหตุนั้นหญิงสาวจึงกลับมาต่อฝีปากกับคนตรงหน้าอีกหน
"งั้นเราก็ไม่ใช่ทั้งมนุษย์ทั้งเทพสิเนี่ย อยู่ด้วยกันมาตั้งหมื่นสองพันปีแล้วยังไม่เห็นเบื่อเลยสักนิด" เสียงหวานกล่าวตอบประโยคเมื่อครู่ที่โดนบริกรขัด เรียกให้เฟิงฮว๋าจิ๊ปากออกมาอย่างไม่รู้จะสู้ยังไง และยิ่งเธอไล่บี้ คนตัวสูงก็ยิ่งแสดงออกทางสีหน้าอย่างชัดเจนว่ากำลังรู้สึกเช่นไร
"หรือนายเบื่อ"
"ใช่ ฉันเบื่อเธอแล้ว" ตอบออกมาแบบนั้น แต่ร่องรอยริ้วสีแดงที่พาดผ่านหน้าแก้มกลับทำให้อีกฝ่ายน่าเอ็นดูจนโกรธไม่ลง ต่อให้เขาจะไม่ได้เบื่อกันจริงก็เถอะ แต่ถึงยังไงคำพูดมันก็มีผลกับใจนี่นา แล้วนี่อะไรกัน เธอกำลังน้อยใจงั้นเหรอ ดูไม่สมกับเป็นไป๋หลินหลินเลยสักนิด หญิงสาวสะบัดหน้าไปมาท่ามกลางสายตาของเฟิงฮว๋าที่จับจ้อง ต้องการไล่ความรู้สึกไร้สาระไร้ที่มาให้หายไป ใครอีกคนกลืนน้ำลายลงคอหนึ่งอึก ทำท่าว่าจะพูดอะไรออกมาบางอย่าง แต่สุดท้ายแล้วก็เลือกที่จะนิ่งเงียบตามเดิม
ในระหว่างการรอออเดอร์ที่สั่งไป อยู่ดี ๆ ทั่วทั้งโต๊ะก็ประสบเข้ากับภัยความเงียบ ไมร่าเงียบเพราะกำลังตีกับความรู้สึกข้างในใจ ไม่อยากทำตัวงี่เง่าเพราะเรื่องแค่นี้ แม้ความสัมพันธ์ของเธอและแบรนเดอร์ มันจะคืบหน้าไปอย่างก้าวกระโดดแล้วก็ตามที ส่วนใครอีกคนก็ทำท่าอึกอัก สายตาแสดงออกถึงความรู้สึกผิดอย่างปิดไม่มิด
"ขอโทษนะคะ พอดีมาคนเดียว ขอนั่งด้วยคนได้ไหม" และในตอนนั้นเอง เสียงใสเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา เมื่อหันมองไปตามที่มาก็พบเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่งหน้าตาสะสวย แม้ส่วนสูงจะพอ ๆ กับเธอ แต่ถึงอย่างนั้นสัดส่วนก็ชัดเจนกว่ามาก ไม่รู้ทำไม อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกโมโหขึ้นมา
คนตัวสูงมองเธอเป็นการขอความช่วยเหลือ หญิงสาวรู้ดีว่าอีกฝ่ายต้องการสื่อว่าอะไร เฟิงฮว๋าอยากให้ไมร่าเป็นคนให้คำตอบกับประโยคคำถามเมื่อครู่นี้ ทั้ง ๆ ที่หญิงสาวแปลกหน้ากำลังจ้องหน้าเขาอยู่ ไม่ใช่เธอ ชายหนุ่มอึกอัก เผลอสบตาเข้ากับผู้มาใหม่ด้วยความบังเอิญ ร่างบางคนนั้นทำหน้าออดอ้อนราวต้องการที่นั่งตรงนั้นมากจริง ๆ
"เอ่อ
ก็ได้ครับ" ว่าละ หลินหลินได้แต่นึกหงุดหงิดในใจ จะว่าใครก็ไม่ได้เพราะเธอเป็นฝ่ายที่ไม่ให้คำตอบเอง
"ขอบคุณนะคะ" หญิงสาวกล่าวพลางนั่งลงที่ข้างสัตว์เทพของเธอ
"มารับประทานอาหารกันเหรอคะ เราเพิ่งเคยมาที่นี่ครั้งแรก ไม่ทราบว่ามีเมนูอะไรอยากแนะนำไหมคะ" ใช้คำว่าเพิ่งมาที่นี่กันเหรอคะ แต่กลับมองหน้าแบรนเดอร์เพียงคนเดียว ไมร่าได้แต่มองเบนไปทางอื่น เท้าคางลงกับโต๊ะราวกับมองภาพสองคนตรงหน้าเป็นอากาศ
"ไม่ทราบครับ ผมก็เพิ่งจะมาที่นี่เป็นครั้งแรกเหมือนกัน ถ้าอยากได้คำแนะนำก็ถามแฟนผมดูสิครับ" ไมร่าไม่คิดจะหันกลับไปมองใครอีกคนเลยแม้แต่น้อย ถ้าคำที่เขาใช้ไม่ใช่คำนั้น หลินหลินรีบหันขวับกับมาจดจ้องไปที่ใบหน้าของอีกฝ่ายทันที และเหมือนว่าร่างสูงจะรอจังหวะนั้นอยู่ก่อนแล้ว เมื่อพบว่าหญิงสาวหันกลับมาสนใจ เฟิงฮว๋าก็ลุกขึ้นเปลี่ยนที่นั่งจากฝั่งตรงข้ามของเธอ มาเป็นด้านข้างติดกันทันที
"เครื่องดื่มมาเสิร์ฟแล้วครับ" ยังไม่ทันจะได้ตอบอะไรกลับไป บริกรที่เคยรับออเดอร์ของเธอก็เดินกลับมาพร้อมสิ่งที่เธอสั่ง หญิงสาวยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจ ได้แต่คิดกับตนเองว่าอย่างนี้สิ ถึงจะเรียกว่ามาถูกเวลา ไม่ใช่เหมือนเมื่อครู่
"ขอบคุณค่ะ" เธอกล่าวตอบ โค้งหัวให้ผู้ให้บริการเล็กน้อยอย่างมีมารยาท ก่อนจะหันกลับมาสบตาหญิงสาวแปลกหน้าอีกครั้ง เธอยกยิ้มด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์ พลางดันแก้วเครื่องดื่มอีกแก้วที่ไม่ใช่บัตเตอร์เบียร์ไปตรงหน้าของใครอีกคน
"ดิฉันว่าเมนูนี้ก็ไม่เลวนะคะ ลองดูสิ" ไมร่าเอ่ย สบตากับคนตรงข้ามนิ่ง และเหมือนว่าใครอีกคนจะรู้ว่าเครื่องดื่มในแก้วมันคืออะไร ดูก็รู้แล้วว่าไม่ได้มาร้านนี้เป็นครั้งแรก แล้วสุดท้ายคนตรงหน้า ก็ไม่สามารถต้านทานแรงกดดันจากสายตาของไมร่าได้อีกต่อไป ร่างบางยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจรดริมฝีปาก ก่อนจะกลืนมันลงคอไป หลังจากนั้นจึงพยายามปั้นหน้าให้ปกติที่สุดแล้วระบายยิ้มออกมา ในทีแรกเธอกะว่าจะให้เฟิงฮว๋าลองชิมน้ำมะนาวลิ้นผูกเสียหน่อย แต่ใช้มันไปแบบนี้ก็ไม่แย่เหมือนกัน
"งั้นเราไปก่อนนะคะ ขอบคุณที่แนะนำค่ะ อร่อยมากเลย" ใครอีกคนกล่าว รอยยิ้มที่ไปไม่ถึงตาส่งผลให้ไมร่าทำแบบเดียวกันกลับไป
และเมื่ออีกฝ่ายเดินจากไปแล้ว จิ้งจอกขาวจึงยกแก้วบัตเตอร์เบียร์ที่ตนชอบขึ้นกระดกอย่างหงุดหงิด หากอยู่ในแดนเซียนป่านนี้เก้าหางของเธอคงโผล่ออกมาให้ได้เห็นแล้ว สาเหตุก็เนื่องมาจากอารมณ์แปรปรวน
ความเงียบโรยตัวเข้าครอบงำบรรยากาศอีกครั้ง เฟิงฮว๋าทำเพียงแค่หยิบแก้วบัตเตอร์เบียร์ ที่เจ้านายของตัวเองดื่มแล้วไปดื่มอีกต่อหนึ่ง ไมร่าทำเพียงแค่หันไปมองหน้าอีกฝ่าย ฉีกยิ้มให้เหมือนที่มักเกิ้ลชอบเรียกกันว่ายิ้มธุรกิจ จดจ้องอีกฝ่ายอยู่อย่างนั้นจนใครอีกคนวางแก้วเครื่องดื่มลง แล้วเอ่ยคำพูดออกมา
"ขอโทษครับ" ร่างสูงว่า สายตาสะท้อนความรู้สึกผิดอย่างชัดเจน ในตอนนี้อีกฝ่ายแทบจะไม่ใช่หงส์หยกแล้ว แต่เป็นเพียงหมาใหญ่ที่ถูกเจ้าของโกรธแต่เพียงเท่านั้น ความจริงแค่เพียงเท่านี้เธอก็หายโกรธแล้ว แต่ก็อยากจะแกล้งอีกฝ่ายต่อไปเสียหน่อย
"ขอโทษเรื่องอะไรเหรอคะ ไม่เห็นรู้เลย" เธอตอบกลับ ใช้คำลงท้ายแบบสุภาพเหมือนเช่นที่อีกฝ่ายใช้ เท้าคางมองร่างสูงกว่าอย่างอยากรู้ว่าอีกคนจะว่ายังไง
"ขอโทษที่บอกว่าเบื่อ ขอโทษที่ให้ผู้หญิงอื่นมานั่งด้วย" แบรนเดอร์ว่า ก่อนจะทำหน้าหงอกว่าเดิมอย่างน่าเอ็นดู ไม่รู้แล้วว่าตอนนี้หางใครจะโผล่มาก่อนกัน ถ้ามีหางจริงคงหางตกแล้วมั้งขนาดนี้
"ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณที่ขอโทษนะ" หญิงสาวจบเรื่องราวไว้เพียงแค่นั้น ก่อนจะระบายรอยยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน เธอวางมือลงไปบนศีรษะของอีกฝ่ายพลางลูบไปมาเบา ๆ เรียกสายตาที่บ่งบอกว่ามากเกินไปกลับมาอย่างน่าขัน
"ว่าแต่เราเป็นอะไรกันเหรอถึงให้ผู้หญิงอื่นมานั่งด้วยไม่ได้
อ๋อ เป็นแฟน งั้นวันนี้แฟนพาไมร่าชอปปิงหน่อยนะคะ" เอ่ยอย่างกระตือรือร้น ท่าทางดี๊ด๊าที่เธอแสดงออกส่งผลให้ชายหนุ่มได้แต่ส่ายศีรษะไปมาเบา ๆ กับความซนนั้นของเธอ แต่ถึงอย่างนั้นหลินหลินก็ไม่ได้แสดงทีท่าว่าจะหยุดการเล่นโรลเพลย์บทบาทนี้ลง ร่างบางจ่ายเงินให้กับพนักงานคนเดิม หลังจากนั้นจึงดึงแขนคนตัวสูงกว่าให้เดินตามไปด้วยกัน เอาล่ะ วันนี้คงสนุกกว่าที่คิดซะแล้ว
▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔
โรลเพลย์ในโรลเพลย์ หลินหลินการละคร เริ่ม!
Myra Lamour Alliyana Bai ❀ #CCCCFF
NPC Brandder Blaze Tweedle - Huang Fenghuo ❀ #EAECEE
NPC ❀ #FFFFFF
. . .
ใกล้ถึงเวลานัดเจรจากับผู้บริหารใหญ่ ผู้ควบคุมธุรกิจวงการบันเทิง ละคร ซีรีส์ และภาพยนต์จากทุกประเทศในแถบเอเชียตะวันออก ที่ใครอื่นไม่มีทางรู้เช่นโลแกนเป็นแน่ ว่าขาใหญ่ผู้นั้นเองก็มีสายเลือดผู้วิเศษอยู่ในตัว การที่ได้คุยงานจากโลกมักเกิ้ลในสถานที่ที่เต็มไปด้วยพ่อมดแม่มด แถมยังได้จิบบัตเตอร์เบียร์ไปพลางๆนั้น สามารถป้องกันความลับไม่ให้รั่วไหลไปถึงพวกคนธรรมดาได้ดีทีเดียว
ยังไม่ถึงหรอครับ อ่า
ไม่เป็นไรอั๊วเข้าไปนั่งรอก่อนได้ เมื่อปลายสายเล่าถึงสภาพการจราจรที่ติดขัดจบ ก็เป็นหน้าที่ของนักแสดงมืออาชีพแบบเขา ที่ต้องเข้าไปนั่งชิลๆรอในร้านหม้อใหญ่รั่ว
ก็บอกว่าไม่รับแล้วไง ทำไมถึงได้ซี้ซั้วไม่หยุด? เสียงของเจ้าของร้านอย่างแฮนนาห์ ตะโกนลั่นหลังจากที่ทางการของโลกมักเกิ้ล ได้ส่งแรงงานมาทำงานที่ร้าน สังเกตจากสีหน้าของเธอแล้ว ก็คงจะกังวลเรื่องสายเลือดกระมัง แถมร้านนี้ก็ไม่เคยเปิดรับให้พวกมักเกิ้ลเข้ามาเลยด้วยซ้ำ
สายตาของหญิงวัยกลางคนเข้ามาสบเข้ากับโลแกนพอดี ก่อนที่ขนาดตัวสูงชะลูดของโลแกน จะถูกลากเข้ามายืนประกบกับเธอ นี่ เด็กเสิร์ฟของร้านนี้ เห็นชัดแล้วใช่ไหมว่าไม่มีตำแหน่งว่างน่ะ? หลังจากที่ผู้เป็นเจ้าของร้านมอบสรรพนามอันรวบรัดใส่ ก็ทำเอาชายหนุ่มจากตระกูลหวางถึงกับมองสารรูปตัวเอง เด็กเสิร์ฟ? เขาเนี่ยนะจะมาเป็นเด็กเสิร์ฟ
คุณนายแฮนนาห์ได้หันหลังกลับเข้าไปในร้าน ก่อนจะออกมาด้วยผ้ากันเปื้อนสีดำ และสวมใส่เข้ากับตัวของโลแกนแบบลวกๆ พร้อมเสียงกระซิบที่เขาเองก็ฟังไม่ค่อยถนัดว่า (ช่วยทีเถอะหนุ่ม ฉันไม่อยากมีปัญหา) ถึงความเป็นจริงจะไม่ค่อยสมเหตุสมผล แต่สัญชาตญาณนักแสดงมืออาชีพ ที่ใช้บริการร้านหม้อใหญ่รั่วมาหลายทศวรรษ ก็ทำให้โลแกนเรียนรู้สถานการณ์ตรงหน้าอย่างรวดเร็ว
เหมือนโชคจะเข้าข้าง โลแกนเหลือบไปเห็นลูกค้าคู่สามี-ภรรยา ที่มองจากการแต่งตัวก็รู้ได้ทันทีว่าไม่ใช่มักเกิ้ล กำลังกล้าๆกลัวๆแถมไม่กล้าเดินเข้าร้าน เพราะตำรวจท้องที่นั้นยืนบังหน้าประตูเต็มไปหมด อิรัชชัยมาเสะ! คุณลูกค้ามากันกี่ท่านครับ?
ทั้งเจ้าของร้าน ทั้งตำรวจ ทั้งแรงงานตาดำๆงงเป็นไก่ตาแตก แต่โลแกนแอบเห็นว่าแฮนนาห์เอง ก็ตีเนียนเล่นละครชีวิตไปกับเขาอยู่ ครับสองท่านนะครับ เชิญทางนี้เลยครับ วันนี้มีโปรโมชั่นสำหรับบัตเตอร์เบียร์ด้วย สนใจรับทั้งสองแก้วเลยมั้ยครับ? โลแกนยังคงสวมบทบาทต่อไป ก่อนจะเอาตัวรอดด้วยการพาลูกค้าเข้าไปในร้าน ท่ามกลางสายตาจับผิดของเหล่าเจ้าหน้าที่
ชายหนุ่มมองไปที่หน้าร้านอีกครั้ง ก็ยังเห็นว่าไม่มีใครกลับไป ทำให้เขาต้องเล่นละครแบบนี้ต่อแบบช่วยไม่ได้ โลแกนหยิบเมนูอาหารมาให้ ก่อนจะตีเนียนช่วยพนักงานคนอื่นๆเก็บโต๊ะ เช็ดโต๊ะ ถูพื้น รวมไปถึงยกอาหารมาเสิร์ฟ ใช้เวลาสักพัก กว่าพวกนั้นจะหายสงสัยแล้วถึงค่อยขึ้นรถตำรวจกลับกันไป
ไหนๆก็ใส่ผ้ากันเปื้อนแล้ว ทำต่อไปสิ เห็นเขาบอกว่าจะมีตรวจสองรอบ แฮนนาห์ อับบอตกลับเข้ามาในร้าน แล้วเดินผ่านตัวโลแกนขึ้นบันไดอย่างสบายใจ
ห๊าา จบแล้วเจ๊ เอาดาราหนังดังมาแกง โอ้ยจะสิ้น
#FFFFFF Hannah Abbott (NPC)
หลังจากจากเข้ามายังตรอกไดแดกอนที่มีทั้งนักเรียนและพ่อมดแม่มดมากมายที่กำลังเดิน
พรุกพร่านบรรยากาสที่แสนคึกคักวุ่นวาย
ohm lee ที่สวมชุดมักเกิลได้เดินเข้าไปยังร้านแห่งหนึ่งซึ่งเป็นร้าน
ขายชุดเสื้อคลุมของพ่อมด แล้วมีเสียงชายผู้หนึ่งเรียก
' พ่อหนุ่มจะรับเสื่อคลุมแบบไหนดี ' ohm leeได้หันไปมองตามเสียงเรียกทันที แล้วตอบกลับไปว่าขอเดิน
ดูก่อนได้มั้ยครับ ' ได้สิเธอเลือกเสื้อคลุมใด้แล้วให้มาบอกนะ'
" ครับ" หลังจากสิ้นเสียงพนักงานของร้าน ohm leeเขาได้เดินเลือกเสิ้อคลุมอยู่นาน แล้วเขา
ก็ได้พบเสื้อคลุมสีเขียวอยู่ชุดหนึ่งเขาชอบเสื่อคลุมชุดนี้มาก เขาจึงหยิบแล้วเดินไปหา
เจ้าของร้าน นี้ครับราคาเท่าไรครับ ' 400 เกลเลียนครับพ่อหนุ่ม' ohm leeได้ยื่นเงินให้พ่อค้า
แล้ว นำเสื้อคลุมมาลองสวมใส่ดู "เอดูดีเหมือนกันนี้" เขากล่าว ก่อนเดินทางไปร้านหม้อใหญ่รั่ว
...ณ ร้านหม้อใหญ่รั่ว
บรรยากาศตกแต่งไปด้วยไฟหลากสี มีการจุกพรุฉลองอย่างยิ่งใหญ่
ohm leeเขาได้เดินมาถึงหน้าร้านซึ่งมีเหล่าพ่อมดแม่มดเดินเข้าอกกจากร้านไม่ขาดสาย
ohm leeจึงเดินเข้าไปถามพนักงานร้าน "ว่ามีโต็ะว่างมั้ย " เจ้าของร้านได้พาเดินมาที่
มุมหนึ่งซึ่งเป็นโต็ะหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงข้างสวนดอกไม้ เมื่อได้โต็ะนั่งแล้ว
ohm leeจึงเรียกพนักงานมา ' จะสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มอะไรดีครับ' พนักงานกล่าว
ohm leeจึงสั่ง บัตเตอร์เบียร์ 1 แก้วและอาหารอีดสองสามอย่าง
หลังจากพนักงานเอา ของที่สั่งมาส่งให้แล้ว
ohm leeจึงได้บอกพนักงานของร้านมาเช็คบิล
พอพนักงานมาเช็คบิลเสร็จ ohm leeจึง ออกเดินทางจากร้านกลับบ้าน ทันที
ohm lee #99FF99
NPC เจ้าของร้านขายสื้อคลุม #FF0000
NPC พนักงานร้านหม้อใหญ่รั่ว #F5DEB3
ลมอะไรก็ไม่รู้หอบเขามายังร้านหม้อใหญ่รั่ว ถึงเเม้ว่าชื่อของมันจะฟังดูเเปลกประหลาดไปหน่อย เเต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าที่นี้มีบัตเตอร์ที่อร่อยที่สุดในตรอกไดเเอกอนเเห่งนี้ พยอนเเจไม่ลังเลที่จะเข้าไปข้างในร้านหวังจะหาอะไรบรรเทาอาการเหนื่อยล้า จากเหตุการณ์วิ่งไล่จับระหว่างเขากับโยลันดา
ทันทีที่เข้าไปข้างในร้าน กลิ่นอายบางอย่างของร้านหม้อใหญ่ตบเข้าที่จมูกของเขาอย่างจัง สูบดมเข้าไปเต็มปอดก่อนจะค่อยๆผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ กลิ่นเฉพาะของที่นี้ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย ความเหนื่อยที่สะสมไว้ค่อยๆบรรเทาลง
เขามองหาที่ว่างที่พอจะว่างให้เด็กหนุ่มวัยรุ่นอย่างเขาได้นั่งพัก เพราะลูกค้าที่เข้าออกร้านอยู่ตลอดบวกกับพนักงานที่มีจำนวนจำกัด จึงไม่น่าจะมีคนว่างคอยมาต้อนรับลูกค้าใหม่ที่กำลังมีช่วงเวลาที่ยากลำบากกับการหาที
่นั่ง เเต่ถึงอย่างงั้นเขาก็หาที่นั่งได้โดยตัวเอง โต๊ะที่เขานั่งนับว่าเป็นมุมที่เขาชอบที่สุดเพราะติดกับหน้าต่างของร้าน ทำให้เขามองสามารถมองเห็นผู้คนที่กำลังเดินสัญจรไปมาอยู่ข้างนอก
เขานั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง ดูผู้คนมากมายเดินไปมา ปล่อยให้เวลาเดินไปเรื่อยๆโดยไม่สั่งอะไร เเค่อยากจะนั่งพักก็เเเค่นั้น
เขารู้สึกว่าตัวเองนั่งนานเกินพอเเล้ว ไม่อยากจะนั่งกันที่ใครโดยการไม่สั่งอะไรเลย เขากลับมาสนใจข้างในร้านอกีครั้ง ไม่รู้จะเรียกใครดีทุกคนดูมีไรต้องทำล้นมือไปหมด เขายกมือขึ้นเหนือหัวเเต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากใครเลยก็ตาม ความไม่พอใจเล้กน้อยถูกเเสดงออกผ่านทางสีหน้า
ล้มเลิกความพยายามที่จะเรียก เขาก้มไปหยิบอะไรบางอย่างในกระเป๋าออกมา กระดาษเเผ่นหนึ่งบวกกับปากการูปหมา บรรจงเขียนสิ่งที่ต้องการลงไปในหน้าhttps://i.imgur.com/lRpVrzr.png ไม่ลืมที่เขียนโต๊ะที่ตัวเองนั่งตบท้ายไปด้วย เเล้วส่งมันให้เด็กเสิร์ฟหนุ่มที่ดูเหมือนจะว่างที่สุดเท่าที่เขาจะหาได้เเล้ว โดยใช้คาถาเคลื่อนย้ายที่ได้เรียนมา
#6495ED Hwang PyeonJae
✧ MCCARTHY UNIVERSE ✧
หากไม่นับว่านี่เป็นช่วงใกล้เปิดภาคการศึกษา การเดินทางมายังร้านหม้อใหญ่รั่วของชายหนุ่มตระกูลเบลซ คงเป็นเรื่องที่พบเจอได้ไม่บ่อยนัก เนื่องด้วยเขาค่อนข้างเป็นคนติดบ้าน และไม่ค่อยได้ออกมาในพื้นที่ที่มีคนวุ่นวายหรือพลุกพลานมากเท่าไหร่นัก แต่ในวันนี้เขาจำต้องพาตัวเองออกจากที่พักเพื่อเดินทางไปยังตรอกไดแอกอน ซื้อของเตรียมพร้อมสำหรับภาคการศึกษาใหม่ที่กำลังจะเริ่มขึ้น แม้เขาจะไม่ได้อยู่ในสถานะนักศึกษาแล้วก็ตาม
และคงเป็นโชคดีของวินที่ในวันนี้ปริมาณคนในร้านไม่ได้หนาแน่นมากนัก เพราะงั้นเขาถึงมีโอกาสได้จับจองที่นั่งบริเวณริมขอบหน้าต่าง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ดูแล้วน่าจะมีความเป็นส่วนตัวมากที่สุดในร้าน เมื่อเทียบกับบริเวณอื่น เนื่องจากขนาดของร้านที่ดูจะคับแคบ เมื่อเทียบกับจำนวนของผู้เข้ามาใช้บริการในแต่ละวัน และยังไม่รวมถึงเหล่าผู้วิเศษ ที่ใช้เป็นทางผ่านสำหรับการเดินทางไปยังตรอกไดแอกอน
แก้วใบใสที่ภายในบรรจุด้วยบัตเตอร์เบียร์ ถูกวางเสิร์ฟลงบนโต๊ะไม้ตัวเก่าของร้าน ก่อนมือเรียวของชายหนุ่มจะยกมันขึ้นจรดลงบนริมฝีปาก ลิ้มรสชาติที่แสนคุ้นเคย เพราะไม่ว่าเขาจะเดินทางมายังที่แห่งนี้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ก็ไม่สามารถห้ามใจตัวเองไม่ให้สั่งเมนูเดิมนี้ได้
ทว่ายังไม่ทันที่ของเหลวในแก้วจะหมดลง ร่างสูงของเซนต์ฌาริสก็ปรากฎขึ้นบริเวณทางเข้าหน้าร้าน เขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก่อนจะหยุดลงเมื่อเจอคนรู้จัก พร้อมกับการเอ่ยทักด้วยท่าทางกวนประสาท อยากให้คนอื่นเห็นด้านนี้ของมันจริง ๆ
Xencharlys Wildsmith
คิ้วเส้นสวยกระตุกทันทีที่ได้ยินประโยคแรกที่อีกคนเอ่ยปาก พร้อมด้วยท่าทางประหลาดที่ทำให้ชายหนุ่มถึงกับต้องกรอกตาโดยอัตโนมัติ และถ้าเป็นไปได้เขาอยากขอปาแก้วใส่ใบหน้ากวนประสาทนั้นสักครั้ง
ทว่ายังไม่ทันที่วินจะได้เอ่ยปากกร่นด่าอีกคนกลับไป เขากลับนึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่อยากจะมอบให้อีกฝากมากเสียจนไม่อาจควบคุมสีหน้าไว้ได้ จึงเปลี่ยนใจตอบกลับประโยคนั้นด้วยการหยิบยื่นน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้อีกคน พร้อมรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นบริเวณมุมปาก
นั่งดิ เดี๋ยวไปสั่งเครื่องดื่มให้
หลังพูดจบวินไม่ได้รอให้อีกฝ่ายตอบกลับ เขาลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะที่นั่งอยู่ทันที ก่อนจะเดินตรงไปยังบริเวณเคาน์เตอร์ เพื่อสั่งเครื่องดื่มให้กับผู้ที่พึ่งมาถึงไม่นาน
น้ำมะนาวลิ้นผูกที่นึง โต๊ะด้านในสุดด้านนู้นครับ วินสั่งเครื่องดื่มกับพนักงานก่อนจะชี้นิ้วตรงไปยังโต๊ะที่เขาพึ่งลุกออกมาเมื่อครู่ และเมื่อเห็นว่าพนักงานพยักหน้ารับออเดอร์ของตนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถึงได้เดินกลับไปยังโต๊ะเดิมที่นั่งอยู่
ในที่สุดออเดอร์เมื่อครู่ที่สั่งไว้ก็ถูกเดินมาเสิร์ฟที่โต๊ะ วินเลื่อนมันไปไว้ตรงหน้าอีกคน และเมื่อเห็นถึงสีหน้าที่ดูไม่ค่อยไว้ใจของอีกฝ่ายที่ส่งมา เขาจึงจำต้องใช้ความสามารถพิเศษของตนในการสร้างคำพูดหว่านล้อม ให้อีกคนที่นั่งอยู่ตรงหน้านี้ยอมรับเครื่องดื่ม และยกมันขึ้นจรดลงบนริมฝีปาก
ทันทีที่เครื่องดื่มอึกใหญ่แล้วไหลลงสู่ลำคอของเซนต์ ใบหน้าเหยเกก็ปรากฏขึ้นพร้อมคำด่าที่ถูกส่งมา แต่อีกฝ่ายที่ถูกพ่นคำด่าใส่นั้นกลับกับพึงพอใจจนหัวเราะร่วน
Xencharlys Wildsmith
#998877 ✦ Wynn Blaze
#93BDE6 ✦ Xencharlys Wildsmith
การใช้ความสามารถพิเศษนี้ได้รับความยินยอมจากเจ้าของตัวละครแล้ว
Lorand Jay Kathiella #A1DBF1
Alisha Dan Kathiella #4CD7D0
Sarina Avalynn Kathiella #75ABDA
NPC พนักงานร้านหม้อใหญ่รั่ว #E0B589
Leaky Cauldron
จะสั่งอะไรกันไหม ผมเลี้ยงเอง ชายหนุ่มเอ่ยถาม พร้อมทั้งเรียกพนักงานให้เข้ามารับออร์เดอร์
ชายวัยกลางคนที่เป็นพนักงานในร้าน เมื่อได้ยินเสียงเรียกของลูกค้า ก็เร่งฝีเท้าเข้ามาหาบุคคลที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ และยืนรอรับออร์เดอร์ตามคำสั่งของลูกค้า เพื่อเตรียมจดมันไปให้กับพ่อครัว ที่กำลังยืนทำอาหารให้กับลูกค้าท่านอื่น ๆ อยู่
วันแสนธรรมดาของใครหลายคน แต่กลับเป็นวันที่น่าตื่นเต้น ของเด็กสาวในวัยสิบห้าปีอย่างเจย์เจย์ เพราะในอีกไม่กี่วัน โรงเรียนคาถาและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ ก็จะเริ่มเปิดปีการศึกษาใหม่
พอลองนึกย้อนไปดูตัวเองในหลายสิบปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยมีความรู้สึกตื่นเต้นเหมือนกับเด็กคนอื่น ๆ เลยสักนิด
ว่าไง อยากดื่มอะไรกันไหม คราวนี้เขาใช้น้ำเสียงที่ต่ำกว่าเดิม ก่อนจะเอ่ยถามออกไปอีกครั้ง จนทุกคนต้องรีบเงยหน้าขึ้นมาจากเครื่องมือสื่อสารของพวกมักเกิ้ล แล้วหันไปสนใจเจ้าของน้ำเสียงเมื่อครู่
Lorand Jay Kathiella
สาวน้อยหันมาพูดกับเขาด้วยท่าทางน่ารัก เธอบอกสิ่งที่ต้องการพร้อมกับส่งรอยยิ้มหวาน ๆ มาให้กัน จนเขาเผลอยิ้มตามอย่างไม่รู้ตัว แต่ใบหน้าคมคายต้องกลับมาเรียบนิ่งเหมือนอย่างเดิม เมื่อ....
Sarina Avalynn Kathiella
ชักช้า.... คนตัวสูงหันไปพูดกับเด็กสาวอายุเพียงสิปแปดปีอย่างไม่พอใจ เขาเพียงนึกอยากจะแกล้งเธอเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะไม่ได้คิดแบบเดียวกัน
Sarina Avalynn Kathiella
แล้วนายอยากดื่มอะไร ? เขาเลือกที่จะไม่สนใจคำพูดของเธอ โดยรีบหันไปถามอลิชาที่กำลังนั่งเล่มวิดีโอเกม กำลังฮิตในตอนนี้อย่างสนุกสนาน โดยไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้น
Lorand Jay Kathiella เจย์เจย์ช่วยเรียกคนที่มีสักเป็นลุงของตน ให้เงยหน้าขึ้นจากหน้าจอมือถือ
Alisha Dan Kathiella
Lorand Jay Kathiella
รับอะไรดีครับ ? พนักงานที่ยืนรอจดรายการอาหารเอ่ยถามขึ้นมา เมื่อลูกค้าไม่ยอมสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มเสียที
บัตเตอร์เบียร์ 4 ที่ครับ
ALBRIGTSEN
MERWYN ZYNAXALIA
Adele #B3C7A1
ร้านหม้อใหญ่รั่ว
ดวงตาเบิกกว้างขึ้นทันทีเมื่อเขารู้สึกตัวตื่นขึ้นจากภวังค์ แสงสว่างลอดตามทางเดินด้านนอกเข้ามาภายในห้อง เขาไม่รู้ตัวเองเลยว่าตนหลับไปนานเสียเท่าไหร่แล้ว ร่างสูงลุกขึ้นออกจากเตียงก่อนที่จะคว้าหยิบรองเท้าข้างใต้เตียงออกมาสวมใส่อีกครั้ง มือหนาเลื่อนไปขยับส่วนต่างๆของเสื้อผ้าให้กับมาเรียบร้อย เหมือนก่อนที่จะทิ้งตัวนอนหลับไป เขาในตอนนี้กำลังโหยหาเครื่องดื่มเพื่อช่วยแก้คอแห้งหลังจากพึ่งตื่นนอนมากที่สุด และเมื่อประตูห้องพักหมายเลขหนึ่งถูกเปิดออกจากด้านใน เจ้าของห้องพักในตอนนี้ก็เดินออกมา ก่อนที่จะปิดมันให้สนิทอีกครั้ง สองขาร่ายเดินตามทางไปจนถึงบันไดขั้นสุดท้ายของชั้น นัยน์ตาสีดำกวาดมองหาโต๊ะที่เหลืออยู่ของร้าน อัลบริกท์เซนเดินไปที่เก้าอี้ตัวที่ว่างและอยู่ไกลผู้คนมากที่สุด ก่อนจะทิ้งร่างให้นั่งลงไปที่เก้าอี้ตัวนั้น
บัตเตอร์เบียร์ หนึ่งที่ครับ เสียงทุ้มเอ่ยสั่งเมนูเครื่องดื่มกับพนักงานประจำร้าน เมื่อทิ้งตัวนั่งลงไปยังเก้าอี้แล้ว พนักงานตะโกนขานรับเมนูที่สั่งไปทันที ในตอนนี้เขาคงจะทำได้เพียงแค่หาอะไรทำเพื่อฆ่าเวลา ระหว่างรอเมนูที่สั่งไปมาเสิร์ฟบนโต๊ะที่เขานั่งอยู่ อัลบริกท์เซนเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตนจะทำอะไรดี ทว่าสายตาของเขาก็แอบไปเห็นหนังสือพิมพ์วางอยู่โต๊ะด้านข้างที่ว่างอยู่ จึงขยับตัวเอื้อมไปหยิบมันมาอ่านแทนระหว่างรอ
ขอบคุณครับ! ในขณะเดียวกันที่ชายหนุ่มกำลังก้มหน้าก้มตาอ่านเนื้อหา ภายในกระดาษหนังสือพิมพ์อยู่ บัตเตอร์เบียร์แก้วใหญ่ก็ถูกวางอยู่ตรงหน้าแล้ว เขาเห็นพนักงานเสิร์ฟเดินกลับไปด้วยความเร็ว จึงไม่ลืมที่จะเอ่ยคำขอบคุณทิ้งท้ายให้เขาด้วยเสียงที่ไม่ดังเกินจนไป มืออีกหนึ่งข้างยกแก้วขึ้นเพื่อนำมากระดกดื่มด้วยความกระหายน้ำ อัลบริกท์เซนสัมผัสได้ถึงความร้อนซ่านไปทั่วร่างกายหลังจากดื่มมันไปแล้ว ซึ่งเขาไม่เคยเป็นแบบนี้มานานมากแล้ว จำได้ว่าเวลาเขามาที่ร้านหม้อใหญ่รั่วทีไรก็เลือกใช้เป็นทางผ่านระหว่างโลกผู้วิเศษ กับมักเกิ้ลอย่างเดียว ไม่ค่อยจะได้มานั่งอยู่นานๆสักเท่าไหร่
บาร์เก่าแก่ประจำลอนดอนแห่งนี้มีผู้คนเข้าและออกอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นผู้วิเศษใช้เดินทางไปกลับตรอกไดแอกอนทางด้านหลังร้านหรือ นัดกันมาสังสรรค์ภายในร้าน พอเห็นกลุ่มคนภายในร้านแล้วก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงภาพบรรยากาศเก่าๆ นึกแล้วก็เสียดายที่ไม่ได้ชวนคนอื่นในตระกูลมาด้วยกัน เอาจริงแล้วเขาก็แอบเหงาอยู่เล็กน้อย ที่เลือกเดินทางมาเพียงคนเดียว เขาหวังว่ามาในครั้งนี้จะได้เจอคนที่พอสนิทและรู้จักอยู่บ้าง จะได้ไม่เดินเหงาคนเดียวในตรอกไดแอกอน
มานั่งด้วยกันไหมครับ โต๊ะตัวนี้ยังว่าง เหมือนว่าโชคชะตาจะเข้าข้างเขาแล้ว ทันทีที่เขามองสำรวจไปรอบๆร้าน ก็พบกับเด็กสาวหน้าตาคุ้นเคยกำลังมองหาโต๊ะที่ยังว่างอยู่ในบริเวณใกล้เคียง เธอเป็นเด็กบ้านเรเวนคลอเฉกเช่นเดียวกับเขา อัลบริกท์เซนมักจะพบเธอตลอดในมุมหนังสือของบ้านเรเวนคลอ ถ้าหากจำไม่ผิดเด็กสาวคนนั้นน่าจะมีชื่อว่า อเดล มาจากตระกูลไป๋
Adele Ava Skylar Bai
Alisha Dan Kathiella #4CD7D0
Xavier Maverick Kathiella #A6A6A6
Sarina Avalynn Kathiella #75ABDA
NPC พนักงานร้านหม้อใหญ่รั่ว #E0B589
Leaky Cauldron
เด็กสาวได้เดินทางมาถึงร้านหม้อใหญ่รั่ว พร้อมกับคุณลุงและพี่ๆในตระกูลของเขา ทั้ง 4 คนพากันเดินเข้าไปในภายในร้าน ที่ตอนนี้มีคนอยู่เยอะแยะเต็มไปหมด ยิ่งใกล้ช่วงเวลาที่โรงเรียนของพวกเขาจะเปิดเทอม คนก็ยิ่งเยอะเป็นพิเศษ เด็กสาวเดินตามคุณลุงและพี่ๆไปที่โต๊ะ และทุกคนก็ต่างพากันก้มหน้าก้มเล่นอุปกร์อิเล็กทรอนิค ที่นำติดมือมาจากโลกมักเกิล
จะสั่งอะไรกันไหม ผมเลี้ยงเอง จู่ๆก็มีเสียงเข้มๆของชายคนหนึ่งดังขึ้นมา แต่บุคคลที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขากับไม่มีใครมีท่าทีว่าจะฟังเขาเลย
ว่าไง อยากดื่มอะไรกันไหม เด็กสาวเงยหน้าขึ้นไปมองคนตรงหน้าและคนรอบตัวของเขา พร้อมกับเอ่ยปากอย่างตื่นเต้นออกไปว่า
น้องเจย์เอาบัตเตอร์เบียร์ค้าบ พร้อมกับยิ้มอย่างร่าเริง จนชายหนุ่มตรงหน้าถึงกับหลุดขำและยิ้มตามอย่างอดไม่ได้
Sarina Avalynn Kathiella
ชักช้า....
โรแลนด์ ที่นั่งคั่นระหว่างเซเวียร์กับสาริน่า ก็จ้องมองเขาทั้งสองคนสลับกันไปมาอย่างกับว่า ในร้านหม้อใหญ่รั่วนี้จะมีสงครามเกิดขึ้นยังไงอย่างนั้น แต่ไม่นานนักเซเวียร์ก็หันไปคุยอลิชาหรือคุณลุงของเธอนั่นเอง แทนที่จะสนใจคำพูดของสาริน่าบุคคลที่เขาพึ่งมีปากเสียงด้วยเมื่อสักครู่
แล้วนายอยากดื่มอะไร ? เมื่อเสียงเซเวียร์สิ้นสุดลงก็ไม่มีท่าทีว่าคุณลุงของเขาจะตอบกลับเลยแม้แต่น้อย
"คุณลุง คุณลุง คุณลุ๊งงงงง" เด็กสาวตะโกนเรียกคุณลุงของเขาอย่างดัง จนเจ้าตัวสงสัยเองว่าคนในร้านจะหันมามองทางโต๊ะเขาหรือเปล่า
Alisha Dan Kathiella
"ริคถามว่าคุณลุงจะดื่มอะไรค้าบ พี่พนักงานรอนานแล้ววว!!" เด็กสาวพูดพร้อมกับทำสีหน้าแกล้งโมโหนิดๆ หวังว่าจะให้คุณลุงของเธอรู้สึกผิดนิดนึง
Alisha Dan Kathiella
รับอะไรดีครับ ? พี่พนักงานทำท่าทางเหมือนกำลังจะจดบางอย่าง ไม่นานนักก็มีเสียงทุ้มๆดังขึ้น
บัตเตอร์เบียร์ 4 ที่ครับ
หลังจากเซเวียร์บอกเมนูไป พี่พนักงานก็จดอย่างรวดเร็วและเดินออกไปทันที โรแลนด์มองไปรอบๆร้านๆ เพื่อดูฝูงชนมากมายภายในร้าน เป็นเรื่องปกติมากๆที่ร้านหม้อใหญ่รั่วจะคึกคักขนาดนี้ เมื่อถึงเวลาใกล้เปิดเทอม ตัวเขาเองก็ชักอยากจะให้ถึงวันเปิดเทอมเร็วๆแล้วนี่นา น้องๆ ปี1 จะหน้าตาน่ารักขนาดไหนกันนะ ตื่นเต้นจะตาย อยากให้เปิดเทอมเร็วๆแล้วล่ะนะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า
. . .
โลแกนยังคงต้องตีเนียนต่อไป ในขณะที่พนักงานคนอื่นๆก็เป็นใจทำเหมือนกับว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของร้านหม้อใหญ่รั่ว ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังตั้งใจเช็ดโต๊ะอย่างดี กระดาษฉีกก็ปลิวมาแปะกลางหน้าผากจนบดบังทัศนวิสัย โลแกนพยายามข่มความโกรธไว้ในใจ เพราะวิธีกลั่นแกล้งเช่นนี้มีแต่พวกนักเรียนปี1เท่านั้น ที่ร้อนวิชาอยากลองใช้คาถานอกโรงเรียน
ลูกค้าคือพระเจ้า ลูกค้าคือพระเจ้า พระเจ้ากับผีน่ะสิ
ทำให้มือเรียวต้องเอื้อมไปคว้ากระดาษขาวมาพลิกดูเนื้อความข้างใน ทว่าคำลงท้ายที่ลูกค้าผู้นั่นเขียนไว้ แลดูกวนส้นเท้าใช้ได้ โลแกนขยำกระดาษใบน้อยก่อนจะทิ้งลงในกระเป๋าผ้ากันเปื้อน สายตาทอดไปทั่วๆร้านเพื่อหาตำแหน่งของผู้สั่งเครื่องดื่ม หัวทุยๆดุจสุนัขพันธุ์บอร์เดอร์คอลลี่นั่งเอกเขนก รอบัตเตอร์เบียร์ที่ตนสั่งอย่างสบายใจ
โลแกนที่มองเห็นเขาจากที่ไกล อาศัยโอกาสที่เด็กนั่นหันหน้าชมวิวนอกหน้าต่าง ก่อนจะยิ้มตาหยีราวกับคิดแผนการออก อีกทั้งเปิดปากพูดแบบไร้เสียงใส่ลูกค้าคนนั้นออกไปว่า https://glitter.mthai.com/app/uploads/2014/12/1388893913-1365798612-o.gif
เดี๋ยวแก้วนี้ผมทำเอง โลแกนเดินเข้าไปโซนปรุงเครื่องดื่มหน้าตาเฉย แต่ถึงกระนั้น พนักงานที่ประจำอยู่เคาน์เตอร์ก็มิได้ปริปากทั้งท้วงอะไร ชายหนุ่มที่วันๆชงเป็นแต่โปรตีนเช็ค ก็ก้มดูสูตรเครื่องดื่มของร้านอย่างใจจดใจจ่อ
มะนาวหลายลูกถูกคั้นลงแก้วน้ำด้วยน้ำมือของโลแกน ก่อนที่จะตามด้วยน้ำแข็งป่น และส่วนผสมอื่นๆอันรวมกันเป็นน้ำมะนาวลิ้นผูกโดยสมบูรณ์ ทำเอาพนักงานชงเครื่องดื่มคนเดิมถึงกับทำหน้าเหยเกให้กับเสน่ห์ปลายจวักของโลแกน หวาง ที่แน่ๆเขาคงอยากถามอยู่เต็มอกว่าใครมันเล่นพิเรนทร์สั่งเมนูนี้
โลแกนมองไปที่ผู้ที่นั่งอยู่โต๊ะริมหน้าต่างตาเขียวปั๊ดหนึ่งที ก่อนที่สีผสมอาหารสีเหลืองจะถูกหยดลงไป คนผสมให้เข้ากัน จากเดิมที่เป็นน้ำสีเขียวอ่อนของมะนาวเปรี้ยวๆ จนกลายเป็นสีเหลืองมีฟองปุดๆเหมือนเครื่องดื่มอีกเมนูหนึ่งไปแล้ว ตามด้วยฟองครีมโปะหน้าเป็นท็อปปิ้งเพื่อความแนบเนียน
เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยดี โลแกนหยิบเครื่องดื่มใส่ถาด ยกไปเสิร์ฟลูกค้าคนนั้นด้วยความตั้งใจ ไม่ให้ของเหลวหล่นหกลงพื้นสักหยดเดียว ก่อนที่น้ำสีเหลืองละม้ายบัตเตอร์เบียร์ จะวางลงตรงหน้าเจ้าของปากการูปสุนัขจนได้ยินเสียงแก้วกระทบกับโต๊ะดังขึ้นมา บัต-เตอร์-เบียร์ของคุณลูกค้า ได้-แล้ว-ครับ
พูดจบก็เดินกลับเข้าไปกดกาแฟร้อนลงแก้ว ก่อนจะเดินมานั่งยังเก้าอี้ตรงข้ามลูกค้าผู้โชคร้าย โลแกนจิบเครื่องดื่มสีน้ำตาลเข้มด้วยอารมณ์ดีกว่าใครเขา รอเวลาที่คนตรงหน้า จะหยิบเครื่องดื่มแสนอร่อยจากน้ำมือของโลแกนเข้าปาก
รัานหม้อใหญ่รั่ว Mission 1 หนุ่มร่างสูง คาร์ธีเชียลอันดับที่สิบเอ็ด ย่างกรายเข้ามาในร้านขนาดเล็กบนถนนชาริงคอส ร้านหม้อใหญ่รั่ว เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ถ้าหากเขามีโอกาส เขาจะมานั่งจิบบัตเตอร์เบีย ทำตัวสบาย ๆ หลบหลีกความวุ่นวายอยู่ตรงมุมของในร้าน แม้เหล่าผู้วิเศษจะอยู่กันครึกครื้นเพราะเป็นที่ยอดนิยม แถมยังเป็นทางเข้าของตรอกไดแอกอน ย่านการค้าอันโด่งดังของโลกผู้วิเศษ แต่สำหรับจูลีเอน ที่นี่กลับทำให้เขารู้สึกสงบอย่างน่าประหลาด เขาเองก็รู้สึกแปลกใจที่คิดเช่นนี้
วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เขาแวะเข้ามาที่ร้านหม้อใหญ่รั่ว เนื่องจากเขาต้องมาซื้อของในตรอกไดแอกอน และอย่างทุกที เขาสั่งบัตเตอร์เบียหนึ่งแก้วมาจิบก่อนไปอีกครั้ง
โครม!
เสียงดังขึ้นมาจากตรงอีกฝั่งไกล ๆ ของทางร้าน พบกับเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกัน ล้มลงไปกับพื้นอย่างน่าอนาถ คาดว่าคงสะดุดอะไรเข้า เด็กหนุ่มคนนั้นลุกขึ้น และรีบเดินตรงไปทางหลังร้านหม้อใหญ่รั่วแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตาคมจ้องเขาอย่างไม่วางตา
เหมือนจะเคยเห็นที่ไหนนะ
#D8BFD8 Julienne De Pelissier
✧ MCCARTHY UNIVERSE ✧
ไม่นานเกินรอ เครื่องดื่มที่สั่งก็ถูกนำมาเสิร์ฟโดยเด็กหนุุ่มคนเดิมที่รับออเดอร์จากเขา ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่พอใจอะไรเขาสักอย่าง สัมผัสได้จากการวางเเก้วที่ดูไม่เหมือนมืออาชีพของอีกฝ่าย เสียงดังที่เกิดจากการกระทบกันของเเก้วเเละโต๊ะเรียกสติของคนที่กำลังเหม่อให้กลับมา
สนใจในสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง
เขาอยากจะชูนิ้วกลางให้อีกฝ่ายเเต่เขาทำเพียงเเค่ยิ้มเเห้งๆส่งไปให้ ยังไม่ทันที่จะได้สัมผัสรสชาติอันเเสนหอมหวานของมัน เปลวไฟสีเขียวก็ประทุขึ้นที่ปล่องไฟของร้าน ดูเหมือนจะมีลูกค้าใช้บริการเครือข่ายผงฟู มันไม่ได้น่าสนใจอะไรเขาเพียงเเค่ชายตามองเล็กน้อย เเต่เขาก็ต้องชะงักเมื่อคนที่ออกเดินมานั้นเป็นคนที่เขารู้จัก เเละใช่นั้นคือโยลันดารุ่นคนพี่ที่พึ่งเล่นวิ่งไล่จับกับเขาไป เขาโปกมือให้อีกฝ่ายพร้อมกับส่งยิ้มหวานๆไปให้
"พิโยยย มานั่งนี่" เขาตะโกนเรียกเสียงดังฟังชัด โยลันดาคงหัวหมุนน่าดูหลังจากเกิดเหตุการ์ณเมื่อสักครู่ไป เอาเถอะเขามีวิธีไถ่โทษของตัวเองน่ะ ให้เดาอีกฝ่ายเองก็คงอยากจะดื่มบัตเตอร์เบียร์ให้ชื่นใจเหมือนกันสินะถึงมาที่นี้ เเต่ถึงขั้นต้องใช้ผงฟูเลยหรอ ทั้งๆที่เดินเเปปๆก็ถึงร้านหม้อใหญ่เเล้ว อย่างกับคนเเก่ที่ปวดเเข้งปวดขาจนเดินไม่ไหว
เขาใช้เวลาอันสั้นก่อนที่โยลันดาจะเดินมาถึงโต๊ะ นึกหาวิธีที่จะพอจะล้างบาปให้กับตัวเอง ตากลมเหลือบไปเห็นเเก้วบัตเตอร์เบียร์ที่เขาพึ่งสั่งไป ก่อนจะตกลงกับตัวเองในหัวว่าเเก้วนี้จะยกให้โยลันดาเเละอาสาเลี้ยงเอง เพื่อเป็นการไถ่โทษ(ติดสินบน)จากเหตุการณ์เมื่อสักครู่ เเต่เขาเองก็กระหายไม่ใช่น้อย "ขอบัตเตอร์อีกเเก้วนะครับ " เขาพูดกับเด็กเสิร์ฟคนที่กำลังจะเดินผ่านโต๊ะเขาไป อีกฝ่ายพยักหน้ารับรู้ก่อนจะเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์ เพื่อเตรียมออเดรอ์ของเขาเเละลูกค้าคนอื่นๆในร้าน
เขาใช้เท้าถีบเก้าอี้ให้มันเลื่อนออก เพื่อที่โยลันดาจะได้นั่งได้โดยไม่ต้องหยิบจับอะไร "have a seat" เขาผายมือไปทางเก้าอี้ตัวที่ใช้เท้าเลื่อนเพื่อเชิญให้อีกฝ่ายนั่ง พร้อมกับส่งยิ้มหวานๆให้อย่างเป็นมิตร ยิ้มลูกหมา "เเก้วนี้ผมยังไม่ได้กิน พี่เอาก่อนเลย ผมสั่งอีกเเก้วไปละ "
#6495ED Hwang PyeonJae
✧ MCCARTHY UNIVERSE ✧
RAVENCODE © 2022 __________________________________________⦿ ⦿ ⦿
TW: Profanity
(ย้อนเวลา)
ถ้าไม่นับการใช้ชีวิตในบ้านพักที่อาศัยอยู่ปัจจุบัน ร้านหม้อใหญ่รั่วก็ถือเป็นแหล่งพักอาศัยชั้นดีสำหรับชายหนุ่มอย่างเซนต์ฌาริส เขามักมาที่นี่อยู่บ่อยครั้ง แม้จะมีจำนวนของผู้คนที่พลุกพล่าน ทว่าทุกคนกลับใช้ชีวิตของตัวเอง โดยไม่ได้เข้ามาวุ่นวายหรือก้าวก่ายชีวิตเขาแต่อย่างใด
แต่ในวันนี้กลับต่างออกไปจากทุกวัน เพราะเมื่อเซนต์ฌาริสก้าวขาเข้าสู่ตัวร้าน ชายหนุ่มก็กวาดสายตามองหาโต๊ะที่นั่งว่างเฉกเช่นทุกครั้ง แต่กลับไปสะดุดตาเข้ากับคนรู้จักที่ไม่ได้เจอกันมาเป็นแรมปี เนื่องด้วยหน้าที่การงานหลังจบการศึกษา ทำให้ทั้งคู่ไม่ได้มีเวลาว่างมากนักที่จะนัดเจอ ทว่าในวันนี้กลับพบเจอกันโดยบังเอิญเสียอย่างนั้น
ร่างสูงของเซนต์ยกมือขึ้นเหนือหัวทั้งสองข้าง ก่อนจะโบกไม้โบกมือไปมาด้วยท่าทางดีใจ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาพร้อมยักคิ้วหลิ่วตาด้วยท่าทางกวนประสาทที่มักทำเป็นประจำ ส่งผลให้คนตรงหน้าเขาในตอนนี้กรอกตาใส่ด้วยท่าทีที่ดูรำคาญเต็มทน
ไง ออกจากแหล่งกบดานได้แล้วหรอ เซนต์ทักขึ้นทันทีที่หยุดลงพร้อมลงนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม โดยที่อีกคนยังไม่ทันได้อนุญาต และในจังหวะนั้นเองที่เขามองเห็นเส้นคิ้วของอีกคนกระตุกจนเกือบหลุดขำ ก่อนจะต้องแปลกใจเมื่อคนตรงข้ามเปิดปากบอกอาสาจะเดินไปสั่งเครื่องดื่มให้ พร้อมกับลุกขึ้นออกไปทันทีจนเขาไม่ทันได้เอ่ยปากห้าม
นั่งดิ เดี๋ยวไปสั่งเครื่องดื่มให้
เซนต์นั่งรออย่างใจเย็น จนอีกฝ่ายกลับมานั่งยังโต๊ะตัวเดิม แต่ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้เปิดบทสนทนา กลับถูกขัดจังหวะด้วยการเสิร์ฟออเดอร์ของบริกรภายในร้าน ก่อนจะเดินจากไปพร้อมรอยยิ้มขำ อะไรวะ ใบหน้าเขามันมีอะไรที่ดูน่าตลกรึไง
แก้วใบใสที่ภายในบรรจุของเหลวสีเหลืองอ่อน ไม่รู้ว่าเมนูที่อยู่ตรงหน้าเขานี้คืออะไร แต่มองดูแล้วยังไงก็ไม่น่าใช่บัตเตอร์เบียร์ เครื่องดื่มยอดฮิตประจำร้านที่เขาสั่งอยู่เป็นประจำ และเมื่อเป็นเช่นนั้นสายตาหวาดระแวงของเซนต์ก็ถูกส่งกลับไปหาคนตรงหน้าพอดี ก่อนจะรู้สึกราวกับมนต์สะกด ยกแก้วที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้น ก่อนทาบริมฝีปากจรดลงบนขอบแก้ว ตามด้วยของเหลวสีเหลืองอ่อนในมือลงสู่ลำคอ
และวินาทีนั้นเองที่ดวงตากลมของเซนต์เบิกโพรงขึ้น ริมฝีปากเมื่อครู่ที่รับเครื่องดื่มเม้มเข้าหากันจนแน่นสนิท คิ้วทั้งสองข้างขมวดผูกเป็นปม ก่อนจะตั้งสติได้ว่าเขาโดนคนตรงหน้าใช้ความสามารถเวรนั่นใส่ เหมือนตอนที่ทั้งคู่ยังเรียนอยู่ไม่มีผิดเพี้ยน
โตเป็นควายแล้วนะ จะเลิกแกล้งได้ยัง ไอ้ห่านี่
#93BDE6 ✦ Xencharlys Wildsmith
#998877 ✦ Wynn Blaze
Leaky Cauldron
| The Leaky Cauldron |
*เลื่อนเพื่ออ่าน
ใจหวังว่าจะตามมาแอบดูชายหนุ่มตัวต้นเรื่อง ทว่าเหตุการณ์ชุลมุนเมื่อสิบนาทีก่อน ทำให้เธอหมดแรงข้าวต้มเกินจะเดินต่อตามหารุ่นพี่ปีห้าตัวต้นเรื่องไหว จึงตัดสินใจว่าจะหาร้านนั่งเล่นสักที่
เติมพลังก่อนค่อยว่ากัน
กระโดดลงหลังลุงคนเมื่อครู่ ทำเอาแม่มดสาวเจ็บข้อเท้าไปซะได้ ไม่ต้องโทษใครแต่จะโทษพยอนแจนี่แหละ ตัวต้นเรื่องเลยไอ้ตัวนี้ ปากเล็กพรูลมหายออกมาอย่างท้อแท้กับนิสัยของเพื่อนฝูง ทั้งยังลอบมองข้อเท้าของตนที่มีอาการแปล็บปล๊าบ ตั้งแต่กระโดดลงจากหลังชายแปลกหน้า ด้วยความตกใจเมื่อสิบนาทีก่อน ทำเอาอยากเพ่งกบาลพยอนแจ ให้สมองกลับเสียทีเหมือนกัน
ภาพตรงหน้าไม่ไกลคือร้านหม้อใหญ่รั่ว ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างร้านหนังสือและร้านขายแผ่นเสียงบนถนนชาริงครอส ตรอกแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยเสียงดนตรีแผ่วจากอีกร้าน และความวุ่นวายของบรรดาผู้วิเศษที่เดินทางมาจับจ่ายสินค้าเสมอ ซึ่งแน่นอนว่าโยลันดาเองก็เช่นกันในครานี้
สองเท้าเหลือบมองแผ่นเสียงคุ้นตา จึงตัดสินใจเดินแว็บเข้าไปเยือนในร้านเครื่องเสียงสักครู่ ก่อนจะพบว่ามันแค่คล้ายคลึงกันมากๆเท่านั้น ไม่ใช่แผ่นเสียงที่เดบอราห์อยากได้ ร่างเล็กหันหลังตั้งท่าจะกลับก่อนจะหลุดไอค่อกแค่ก เพราะมีผู้ใช้ผงวิเศษในการเดินทางผ่านเตาผิง เรียกให้เด็กสาวหันไปมอง อดีตเปลวไฟสีเขียวสว่างชั่วพริบตา
ไปดื่มบัตเตอร์เบียร์สักหน่อยแล้วค่อยกลับดีมั้ยนะ ? ครุ่นคิดก่อนตั้งท่าจะเดิน ทว่าความเจ็บแปล็บทำให้เธอถอนหายใจ ไม่เดินละกันไหนๆมีผงฟลูแล้ว ก็ต้องลองใช้หน่อยแล้วมั้ย ปากเล็กยกขยับแต้มรอยยิ้มบนวงหน้าสวย ก่อนหันกายเดินเข้าไปยังปล่องไฟ แล้วโรยผงสีเขียวปรากฏควันพวยพุ่ง คลุ้งไปทั้งบริเวณเตาผิงทันที
เจ๋งแฮะ ถึงว่าคนแก่ๆเลยชอบใช้กันนัก ใช้มากๆจะเป็นอัมพาตป่ะ การเดินคืออะไรไม่รู้จักอีกต่อไป โยลันดาโบกมือไล่ฝุ่นควันจากเปลวไฟสีเขียว ก่อนก้าวออกจากปล่องไฟร้านหม้อใหญ่รั่ว ขาเล็กชะงักลงทันทีเมื่อได้ยินเสียงห้าวทุ้มที่ถูกดัดเล็กจากพยอนแจ เพื่อนรักสี่ขา 'หากจะรักเพื่อนของเธอก็ต้องรักหมาของเขาด้วย' พยอนแจว่างั้นน่ะนะ
เจอมันทุกที่เลยว้อยยยยยยยยยยยยยยยย
"พิโยยย มานั่งนี่" พยอนแจตะโกนเรียกด้วยเสียงหวานชวนขนหัวลุก เรียกให้ทั่วทั้งร้านหันมามองผู้มาเยือนใหม่เช่นตน เร่งให้สาวร่างเล็กต้องรีบตรงดิ่ง ลืมอาการเจ็บป่วยข้อเข่าเสื่อมของตนเอง พุ่งไปหาพยอนแจ เพื่อลดระดับเสียงโหยหวนดังกล่าวลงอย่างรวดเร็ว
ไม่ต้องให้ใครเล่นหรอก คือเล่นตัวเองเจ็บน้อยสุด นี่เสือกระดาษประจำบ้านสอนมา
เท้าที่ถูกยกถีบเพื่อเลื่อนเก้าอี้ออกต้อนรับตนเองจากสัตว์สี่ขาเพื่อนรัก ทำเอาคิ้วเรียวกระตุกก่อนยกยิ้มแยกเขี้ยวให้พยอนแจไปหนึ่งครั้ง ประโยคต้อนรับอบอุ่น (?) ของพยอนแจกล่าวพร้อมมือใหญ่ที่ผายไปยังที่นั่ง "have a seat" ทำให้เธอเลือกที่จะทิ้งร่างลงบนเก้าอี้เจ้ากรรมทันที ตรงหน้ามีแก้วบัตเตอร์เบียร์ฟองเยอะมากอยู่หนึ่งแก้ว เด็กสาวเหลือบมองอย่างหวั่นใจก่อนพบยิ้มลูกหมาประจำตัวของพยอนแจ ที่โยลันดาอยากจะกัดลิ้นตายทุกรอบ ครั้งก่อนมันก็ยิ้มแบบนี้
"เเก้วนี้ผมยังไม่ได้กิน พี่เอาก่อนเลย ผมสั่งอีกเเก้วไปละ "
ไม่เอาอ่ะลองชิมให้ดูก่อน ที่บ้านสอนให้ไม่กินของจากคนหน้าแปลก มือเล็กขยับเลื่อนแก้วกลับคืนไปตรงหน้า ก่อนจะตกใจเมื่อเหลือบสายตาไปเห็นเพื่อนร่วมโต๊ะหน้าแปลก และแปลกหน้าอีกคน นั่งเหมือนตอไม้ไม่พูดจาอยู่หนึ่งหน่อ
นี่ใครอ่ะ ขยับแก้วดันคืนหมาหนุ่มก่อนหันไปยิ้มแหยให้ชายหัวเทาแปลกหน้า ด้วยอาการสำรวมกิริยาไม่ทัน เดบอราห์เองก็ไม่ได้ทันเห็นซะด้วยว่ามีชายหนุ่มอีกคนนึ่งอยู่ สวัสดีค่ะ เราโยเย ชื่อจริงยาวมากไม่ต้องไปจำหรอกเนอะ สงสัยเพราะพยอนแจบังอีกฝ่ายเสียมิดแน่นอน แต่ถ้าทายาทแห่งพระจันทร์ไม่ตาฝาดไป เห็นไม่ผิดว่าสีเหลืองของน้ำในแก้ว ดูไม่เหมือนแก้วอื่นเสียด้วย ออกแนวคนละเฉดล้ะ
ในใจของโยลันดากู่ร้องทันทีอย่างไหวตัวทัน ฉัน-จะ-ไม่-ดื่ม-แก้ว-นี้-เด็ด-ขาด คิดได้ดังนั้นจึงดันแก้วบัตเตอร์เบียร์เจ้ากรรมออกจากหมาแก่ หันเหไปทางเพื่อนร่วมโต๊ะคนแปลกหน้าทันที
พยอนแจเลี้ยงค่ะแก้วนี้ถือเป็นเวลคั่มดริ้งของพวกเราที่เจอกันครั้งแรกดีมั้ย ว่าแต่คุณชื่ออะไรนะคะ?
ก็ถ้าพยอนแจตายพี่ธีมาบีบคอแน่เลยอ่ะ บ้านฮวังที่ไม่มีพยอนแจมันเหงาเกินไปนี่ว่า
| Yolunda Deborah Benoit | #bebebe
| Hwang PyeonJae | #6495ED
© 2022 The Benoît
ร้านหม้อใหญ่รั่ว
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่จังหวัดคังวอน ประเทศเกาหลีใต้ ที่กูร์แฟงจำเป็นต้องไปเข้าร่วมงานประมูลสมบัติล้ำค่า ที่อยู่ในการครอบครองของตระกูลอัน จนท้ายที่สุดเขาและทายาทสาวหน้าสวยจากสเปนเซอร์ ก็สามารถชิงแหวนแห่งราชินีชินซ็องแห่งซิลลา ที่มีความสามารถอันแรงกล้าในการควบคุมจิตใจผู้คนมาได้สำเร็จ แต่น่าเสียดายที่สมบัติชิ้นนั้นถูกคุณหนูจากสเปนเซอร์แย่งไปจนได้ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้อีกตัวตนนึงของเขาหัวเสียมาจนถึงตอนนี้
ถ้าถามว่าการ์วิน อีกหนึ่งตัวตนที่อยู่ภายในส่วนลึกของจิตใจนั้น หงุดหงิดขนาดไหนก็ถึงขนาดที่ว่าไปก่อเรื่องชกต่อยกับอันธพาลแก๊งใหญ่ย่านคังนัม จนต้องเขาไปอยู่ในคุกถึงหนึ่งอาทิตย์ด้วยกัน แต่คนที่ต้องมารับเคราะห์จากการกระทำในครั้งนั้นกลับกลายเป็นกูร์แฟง ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเลยแม้แต่น้อย และนั่นเป็นสาเหตุให้ตัวตนที่กำลังแสดงออกมาอยู่ภายในร้านหม้อใหญ่รั่ว เวลานี้เป็นกูร์แฟง ที่เพิ่งเดินทางกลับมายังประเทศอังกฤษ ไม่ใช่การ์วินแต่อย่างใด
ขอบัตเตอร์เบียร์เพิ่มอีกแก้วครับ เด็กหนุ่มเจ้าของใบหน้ารูปไข่เอ่ยสั่งแก่พนักงานประจำร้านหม้อใหญ่รั่ว ถ้านับตั้งแต่ที่กูร์แฟงมาที่นี่ ก็เป็นบัตเตอร์เบียร์แก้วที่สามแล้ว ด้วยรสสัมผัสของบัตเตอร์สกอตช์และกลิ่นที่หอมติดจมูก ทำให้กูร์แฟงชื่นชอบเครื่องดื่มชนิดนี้เป็นอย่างมากตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ลองชิม แม้ใครต่อใครจะบอกว่ามันเลี่ยนเกินไปก็ตาม
#48D1CC | Gauvain Leon Zynaxalia
▔▔▔▔▔▔
หลังจากทำธุระให้เฮลล่าที่ธนาคารกริงก็อตส์สาขาตรอกไดแอกอนเสร็จสิ้นเป็นที่เรี
ยบร้อย ทายาทลำดับที่สิบสองแห่งสเปนเซอร์ก็กลับมาที่ร้านหม้อใหญ่รั่วเพื่อหาซื้อเครื่องดื่
มสักแก้วใช้ดับกระหายก่อนที่จะเดินทางกลับไปยังคฤหาสน์สเปนเซอร์
ถือว่าเป็นโชคดีของเอลวินในการกลับมาที่ร้านอาหารเก่าแก่ในครั้งนี้ เพราะดูเหมือนว่าเจ้าของร้านหม้อใหญ่รั่วคนปัจจุบันจะไม่ได้อยู่ที่ชั้นล่างของร้าน ซึ่งเป็นโซนสำหรับขายอาหารและเครื่องดื่ม ถ้าจะให้เดามาดามอับบอตต์คงจะง่วนอยู่กลับการต้อนรับแขกเหรื่อ ที่มาจองห้องพักในช่วงเวลาใกล้เปิดภาคการศึกษาเช่นนี้ และด้วยความโชคดีนั้นเอง ทำให้ผู้ครอบครองจิตวิญญาณแห่งนภา สามารถเข้ามานั่งสั่งเครื่องดื่มในร้านได้อย่างสบายโดยไม่มีใครมาหิ้วปีกออกไปอีก
เอาบัตเตอร์เบียร์แก้วนึง เด็กชายเอ่ยสั่งแก่พนักงานที่อยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์ ใช้เวลาไม่นานเครื่องดื่มแก้วใหญ่สีเหลืองทอง มีฟองเต็มแก้วก็ถูกนำมาวางไว้ตรงหน้าของเอลวิน เด็กชายไม่รอช้ารีบยกแก้วบัตเตอร์เบียร์ขึ้นมาดื่มเพื่อดับกระหายทันที
#F5DEB3 | Elwynn Bryze Spencer
Lorand Jay Kathiella #A1DBF1
Xavier Maverick Kathiella #A6A6A6
Sarina Avalynn Kathiella #75ABDA
NPC พนักงานร้านหม้อใหญ่รั่ว #E0B589
Leaky Cauldron
หลังจากที่ลูกพี่ลูกน้องของเขาขอแยกออกไปก่อนเพราะมีธุระที่ต้องไปทำ ทำให้เขาต้องเดินมาที่ร้านหม้อใหญ่กับพวกเด็กๆแทนภายในร้านตอนนี้มีผู้คนเข้ามาใช้ บริการอย่างหนาแน่นเมื่อเจอโต๊ะว่างเขาก็ได้เดินนำพวกเด็กๆไปยังโต๊ะตัวนั้นทันที ก่อนที่จะนั่งลงแล้วหยิบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นของที่มักเกิ้ลพัฒนา ขึ้นมาเล่นระหว่างรอ
'จะสั่งอะไรกันไหม ผมเลี้ยงเอง' มีเสียงของชายหนุ่มที่อายุใกล้เคียงกับเขาดังขึ้น แต่ตัวเขาเองหาสนใจไม่เขาสนแค่เกมตรงหน้าที่เล่นเท่าไร ก็ไม่ผ่านด่านสักที 'ให้ตายสิ ด่านนี้ก็ไม่ใช่ด่านบอสทำไมมันยากจัง'
'ว่าไง อยากดื่มอะไรกันไหม'
'น้องเจย์เอาบัตเตอร์เบียร์ค้าบ'
Sarina Avalynn Kathiella
'ชักช้า....'
เขาเงยหน้าขึ้นมาสังเกตเล็กน้อยก่อนที่จะก้มหน้าลงเล่นเกมตามเดิม ด้วยนิสัยของตัวเขาที่จะไม่สนใจอย่างอื่นเลยนอกจากเกมหรืองานที่ เขาจะจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้นจนโดนลูกพี่ลูกน้องตัวเองบ่นอยู่บ่อยๆว่าให้หาเวลาพักผ่อน
ซะบ้าง
'แล้วนายอยากดื่มอะไร ?'
'คุณลุง คุณลุง คุณลุ๊งงงงง'
"หืม มีอะไรรึเปล่าครับ" เขาตอบด้วยเสียงนิ่ง เกือบไปแล้วตัวเขาเกือบโวยวายใส่หลานสาวเพราะมาขัดจังหวะเกมเสียได้ แต่ตัวเขาคงต้องเก็บมันลงไปก่อนแล้วสิ ก่อนที่ตัวเขาจะเงยหน้าขึ้นมองเด็กสาวที่ดูเหมือนจะโมโหเพราะตัวเขาอยู่
'ริคถามว่าคุณลุงจะดื่มอะไรค้าบ พี่พนักงานรอนานแล้ววว!!'
"อ่อ เอาบัตเตอร์เบียร์เหมือนน้องเจย์เลยครับ" หลังจากที่พูดบอกเมนูเครื่องดื่มไปเขาก็ ทำหน้าเสียใจเล็กน้อยที่ดันทำให้หลานสาวโมโห 'เฮ้อไว้ค่อยง้อละกัน'
'รับอะไรดีครับ ?'
'บัตเตอร์เบียร์ 4 ที่ครับ'
เมื่อสิ้นเสียงการสั่งรายการเครื่องดื่มกับพนักงานไปเรียบร้อย เขาก็นั่งมองบรรยากาศรอบร้านที่มีผู้คนมากมายหลากหลายหน้าตาหลายเชื่อชาติ เดินเข้าออกไม่ขาดสายจนเขาเริ่มจะลายตาอยากดื่ม บัตเตอร์เบียร์หวานๆเย็นๆนั้นซะแล้วสิ เมื่อไรเครื่องดื่มนั้นจะมาสักทีนะ
ร้านหม้อใหญ่รั่ว
เมื่อดื่มบัตเตอร์เบียร์แก้วที่สามจนหมดแก้ว กูร์แฟงก็เรียกพนักงานร้านหม้อใหญ่รั่ว ที่กำลังเดินเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มอยู่มา เพื่อคิดเงินค่าอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดที่ตนได้สั่งไป
ทั้งหมดเท่าไรครับ เด็กหนุ่มเอ่ยถามอย่างสุภาพ และเมื่อพนักงานบอกยอดมาเขาจึงหยิบเงินเกลเลียนที่มีอยู่ในกระเป๋า ออกมาชำระค่าเครื่องดื่ม ก่อนที่จะเดินผ่านฝูงชนภายในร้านหม้อใหญ่รั่วไปยังด้านหลังของร้าน ซึ่งเป็นเส้นทางที่ใช้พาไปสู่ตรอกไดแอกอน
ไม้กายสิทธิ์ถูกหยิบยกขึ้นจากด้านในของเสื้อโค้ดตัวยาว ที่เด็กหนุ่มหน้ามนสวมใส่อยู่ เขากวาดสายตามองหาถังขยะที่ตั้งอยู่ติดกับกำแพงอิฐ อันเป็นสัญลักษณ์ของกำแพงที่จะเชื่อสู่ตรอกไดแอกอน ก่อนจะใช้ไม้กายสิทธิ์ของตนแตะกระทบเข้าที่ก้อนอิฐขึ้นไปสามก้อน และขวาอีกสองก้อน หลังจากนั้นไม่นาน กำแพงอิฐก็สั่นไหวเล็กน้อย พร้อมกับเปิดออกเผยให้เห็นซุ้มประตู และถนนที่ถูกปูพื้นด้วยหินตลอดเส้นทาง นั่นคือตรอกไดแอกอน
#48D1CC | Gauvain Leon Zynaxalia
สายลมเอื่อยพัดผ่านพวงแก้มขาวอมชมพูของหญิงสาวอย่างแผ่วเบา อเดล เอวา สกายลาร์ ไป๋ เจ้าของเรือนผมเงาสีน้ำตาล กำลังยืนอึกอักอยู่หน้าประตูร้านหม้อใหญ่รั่ว ในมือถือกระเป๋าเพอร์ซสีครีมไว้แน่นขนัด คนเยอะแบบนี้ ตลอดเลยมั้ยนะ.. เธอคิดพลางมองไปรอบๆ ถึงยังไงก็ตัดสินใจมาจนถึงหน้าประตูแล้ว จะให้ถอยตอนนี้ก็ยังไงอยู่ หญิงสาวก้าวขาเข้าไปในร้านที่มีคนนั่งอยู่เต็มไปหมด จนกระทั่งมีเสียงหนึ่งทุ้มลึกเอ่ยเรียกเธอ
มานั่งด้วยกันไหมครับ โต๊ะตัวนี้ยังว่าง อเดลหันไปตามเสียงก็พบชายหนุ่มหน้าคุ้น เหมือนจะพบเจอมาบ้างในหอพักเรเวนคลอ แถมยัง.. ตระกูลไซแนกซาเลีย? เธอกัดฟันเล็กน้อย นอกเหนือจากซินเทีย เพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันของเธอแล้ว เธอก็มีเรื่องคาใจกับผู้ชายนามสกุลนี้อยู่พอควร
ขอบคุณค่ะ แต่ไม่เป็นไร เธอยิ้มเจื่อนก่อนเบือนหน้าหนี แต่จะให้มองไปทางไหน ก็ไร้ซึ่งที่นั่ง คนพลุกพล่านและไม่คุ้นหน้าหนาแน่นไปหมด
Albrigtsen Merwyn Zynaxalia
ก็ได้ เธอเอ่ยเบาๆก่อนหย่อนตัวนั่งลงทางฝั่งตรงข้ามของอีกฝ่าย สายตาเบือนมองออกไปอย่างไม่สนใจนัก ร้อยล้านหมื่นพันคน เหตุใดจะต้องมาพบกับคนตระกูลนี้อยู่เรื่อย นึกถึงก็ได้แต่พึมพำในใจ เมื่อพนักงานมารับเมนูที่ต้องการ เธอจึงชี้นิ้วไปที่เครื่องดื่มของอีกฝ่ายก่อนเอ่ย เอาแบบเขาที่นึงค่ะ
Albrigtsen Merwyn Zynaxalia
อือ มาคนเดียว เธอพูดก่อนจะเว้นสักครู่ นายก็เหมือนกันนี่ นั่งคนเดียวสนุกหรอ? เธอสังเกตว่าปกติแล้วมักจะพบเขามากับคนในตระกูลเสมอ ยามนี้เห็นจะมีแต่เขาคนเดียวไร้ซึ่งใครอื่น จึงเอ่ยถามเชิงอยากรู้อยู่นิดๆแต่ในใจก็ปฏิเสธไม่ได้ ว่าหมายถึงใครเป็นอันดับต้น
Albrigtsen Merwyn Zynaxalia
ฉัน?
ก็อยู่คนเดียวมาตลอดนะ คนเยอะมันวุ่นวาย ความสัมพันธ์ก็น่ารำ โทษที พูดมากไป เหมือนกับความคับคั่งใจเล็กๆค่อยๆถูกกระเทาะออกมา เมื่อบัตเตอร์เบียร์แก้วใหญ่ถูกเสิร์ฟ หญิงสาวก็รับเอามาจิบดับกระหายไปพลางๆ สองมือโอบแก้วไว้พร้อมจ้องเข้าไปในของหลวสีเหลืองอย่างเหม่อลอย ไม่รู้ว่าทำไมเธอต้องมาพูดเพ้อเจ้อกับคนที่ไม่สนิทแบบนี้ด้วย เธอผละเรื่องตัวเองออกจากหัว ก่อนจะหันไปถามเขาต่อ พอเป็นมารยาท แล้ว นายจะไปไหนต่อมั้ย?
Albrigtsen Merwyn Zynaxalia
เมื่อได้ฟังอีกฝ่ายตอบกลับ หญิงสาวก็ครุ่นพินิจอยู่ครู่หนึ่ง ตนก็มีธุระจะไปซื้อหาหนังสือสักเล่มอยู่แล้ว ไหนๆก็ไหนๆ จะไปด้วยกันคงไม่เสียหายมาก
ฉันไปด้วยก็ได้ จะเปิดเทอมอยู่แล้ว ต้องไปซื้อหนังสือพอดี เธอพูดพลางจิบบัตเตอร์เบียร์รสหวานเข้าปาก บรรยากาศชวนอึดอัดพัดเข้ามาสักครู่ ความรู้สึกอึมครึมของจิ้งจอกสาวทำให้อุณหภูมิรอบตัวเย็นลงเล็กน้อย คนตัวเล็กกว่าเบือนหน้าเศร้านั้นลงเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยความเป็นธิดาของเจ้าสมุทร เธอก็ไม่ควรแสดงกิริยาเช่นนี้ให้อีกฝ่ายที่ไม่สนิทได้พบเช่นนี้ งั้นไปตอนนี้เลย ไปกัน
เธอไม่รอให้อีกฝ่ายโต้ตอบ เงินเกลเลียนจำนวนเหลือเฟือสำหรับบัตเตอร์เบียร์สองแก้วถูกวางไว้บนโต๊ะ เพื่อให้พนักงานมารับชำระไป แล้วหญิงสาวก็ดันตัวเองออกจากที่นั่งพร้อมพุ่งตัวเองออกไปทางประตูหน้า ร่างบางสูดอากาศบริสุทธิ์ ยามต้นฤดูหนาวเข้าเต็มปอด ก่อนจะถอนหายใจออกอย่างช้าๆ ไม่เป็นตัวเองเลยแบบนี้
Adele Ava Skylar Bai ❀ #B3C7A1 Albrigtsen Merwyn Zynaxalia ❀ #708090สีโค้ดแกไม่ผ่าน
. . . ตรอกไดแอกอน ❀ ร้านหม้อใหญ่รั่ว
สถานที่แสนคึกคักและบรรยากาศอันครึกครื้นทำเอาจิ้งจอกน้อยอารมณ์ดีไม่น้อย จูเลียนวิ่งเข้าร้านนั้นที ออกร้านนู้นที ได้ทั้งขนมและของเล่นพะรุงพะรังเต็มมือ จะมีก็แต่คนที่ถูกบังคับให้มาด้วยกันที่เวียนหัวอยู่เพียงผู้เดียว ทั้งเวียนหัวกับผู้คนเยอะ ๆ รอบกาย ไหนจะคนตัวเล็กกว่าที่อยู่ไม่สุขนั่นอีก
"ได้ครบตามที่ต้องการรึยัง" เชียนอวิ๋นถามขึ้นขณะที่พวกเขาทั้งสองคนก้าวออกมาจากร้านขายของตลกกัมเบิลและเจปส์ ซึ่งเป็นร้านสุดท้ายของวันนี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้จูเลียนจะพูดว่าร้านสุดท้ายแล้วมามากกว่าสามครั้งก็ตาม
"น่าจะพอแล้วล่ะ กลับกันเถอะ"
เชียนอวิ๋นรู้สึกคล้ายจะรอฟังคำนี้มาแสนนาน คนตัวสูงพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะดึงถุงสินค้าทั้งหมดในมือของจูเลียนไปถือไว้เองโดยไม่พูดอะไร ทั้งยังหลบเลี่ยงสายตาและรอยยิ้มล้อเลียนของเซียนจิ้งจอกไปด้วยเช่นเดียวกัน
เชียนอวิ๋นก็เป็นเสียอย่างนี้ ไม่ตามใจแต่ก็ตามใจ ไม่เป็นห่วงแต่ก็เป็นห่วง
ทั้งคู่เดินกลับไปทางด้านหลังร้านหม้อใหญ่รั่วอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันได้ก้าวถึงประตูหน้าร้าน เสียงเรียกพร้อมกับร่างของผู้มาใหม่ก็ตรงเข้ามาหา เชียนอวิ๋นคว้าข้อมือเล็กของคนข้างกาย ดึงให้ถอยมายืนหลบอยู่ด้านหลังตนเล็กน้อยโดยอัตโนมัติในทันที
Penelope Chole Lombardia
เด็กหนุ่มแปลกหน้าเอ่ยด้วยความสุภาพก่อนจะยื่นของเล่นชิ้นเล็ก ๆ ของจูเลียนที่น่าจะร่วงออกจากถุงเมื่อครู่นี้มาให้ พร้อมกับรอยยิ้มสดใส เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าดูไม่มีอันตรายอะไร เชียนอวิ๋นจึงกลับมาสำรวมกริยาอีกครั้ง
"โอ๊ะ! ขอบคุณมากเลยนะครับ ถือยังไงให้มันร่วงได้เนี่ย"
จิ้งจอกรับของกลับคืนมา พลางหันไปเอ็ดสัตว์เทพคู่กายของตนอย่างไม่จริงจังนัก จูเลียนยิ้มกว้างจนดวงตายิบหยีให้คนตรงหน้า ดูไปแล้วทั้งคู่ให้ความรู้สึกคล้ายกันอยู่หลายส่วน โดยเฉพาะตรงตายิ้มนั่น
"เป็นเด็กนักเรียนจากฮอกวอตส์รึเปล่าครับ"
เจ้าของฉายาอาคิรากลางราตรีเริ่มชวนคุยอย่างเป็นธรรมชาติตามประสาคนอัธยาศัยดี
Penelope Chole Lombardia
"ก็เป็นรุ่นน้องน่ะสิ เราจูเลียนนะครับ ฮัฟเฟิลพัฟ ปี 5"
Penelope Chole Lombardia
"ชื่อน่ารักจัง เรียกเราว่าพี่จูลได้เลยนะ" ด้วยความที่เป็นหนึ่งในน้องเล็กของสกุลไป๋มาโดยตลอด จึงรู้สึกขัดเขินไม่น้อยที่ต้องแนะนำให้ใครเรียกตัวเองว่าพี่ แต่ถึงอย่างนั้นก็รู้สึกภูมิใจที่ตนเติบโตมาได้ถึงขนาดนี้ "ส่วนนี่
"
เพิ่งรู้สึกตัวว่ายังมีเชียนอวิ๋นที่ยืนฟังบทสนทนาเงียบ ๆ มาตั้งนานอยู่ด้วย คนตัวเล็กกว่าเลยหันไปแนะนำให้เพเนโลเปรู้จัก
"เฮกเตอร์ครับ เป็นเพื่อนเรา" ด้วยการคิดชื่อใหม่ให้เสียเลย
คนที่ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นเฮกเตอร์หมาด ๆ หันมาทำหน้างุนงง จิ้งจอกเลยลอบส่งสัญญาณให้ตามน้ำไปก่อน
Penelope Chole Lombardia
"งั้น
เพื่อเป็นการต้อนรับน้องใหม่ แล้วก็ขอบคุณที่เก็บของให้เราเมื่อกี้ ให้เราเลี้ยงเครื่องดื่มกับขนมเพพนะ"
นัยน์ตาสีเปลือกไม้ฉายแววออดอ้อนแบบที่ชอบทำ จูเลียนยิ้มกว้างอีกครั้งเมื่อเพเนโลเปตอบตกลง ก่อนที่ทั้งสามคนจะเลือกโต๊ะว่างที่อยู่ข้าง ๆ บาร์เพื่อนั่งคุยกัน
"เพพดื่มอะไรดีครับ"
Penelope Chole Lombardia
"แล้วเฮกเตอร์ล่ะ"
"ไม่เอา"
จูเลียนพยักหน้าหงึกหงัก ด้วยความไม่แน่ใจนักว่าสัตว์เทพทานอะไรได้หรือไม่ได้บ้างเลยไม่ได้เซ้าซี้ต่อ ก่อนจะหันไปกวาดสายตามองป้ายเมนูอย่างเร็วจี๋ เมื่อพร้อมแล้วก็ยกมือเรียกพนักงานที่อยู่ใกล้ที่สุด "เอาบัตเตอร์เบียร์หนึ่งครับ น้ำมะนาวลิ้นผูกหนึ่ง แล้วก็พายอีกหนึ่งครับ" ปิดท้ายด้วยการส่งยิ้มขอบคุณจนแก้มขึ้นเป็นลูกเหมือนเดิม
หลังจากสั่งเครื่องดื่มและพายกับพนักงานเรียบร้อยแล้ว จูเลียนก็หันกลับมาสนใจรุ่นน้องตรงหน้าต่อ คนแก่กว่าวางคางบนหลังมือตัวเองก่อนจะยิ้มจนตาหยีให้เพเนโลเป ดูจากท่าทางแล้วอีกฝ่ายคงไม่พ้นอยู่บ้านเรเวนคลอแน่ ๆ
ทั้งคู่คุยสัพเพเหระไปเรื่อย รู้ตัวอีกทีเครื่องดื่มและพายก็มาเสิร์ฟ
น้ำมะนาวลิ้นผูกเป็นเครื่องดื่มที่จูเลียนเลือกจะลองในวันนี้ แม้จะเทใจทั้งใจให้บัตเตอร์เบียร์ แต่จะไม่ลองชิมเมนูอื่นทั้ง ๆ ที่มาถึงร้านหม้อใหญ่รั่วแล้วก็เสียดายแย่
ทันทีที่ปลายลิ้นชิมรสชาติ รสเปรี้ยวของมะนาวก็แล่นเข้าใส่จนเผลอเบ้หน้า ใช่ว่ามันจะเปรี้ยวขนาดนั้น เพียงแต่เซียนจิ้งจอกแค่ไม่ชอบรสชาติเปรี้ยวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
"เพพชิมมั้ย" กลายเป็นว่าหาเพื่อนช่วย จูเลียนยิ้มกลบเกลื่อน มือบางเลื่อนแก้วเครื่องดื่มไปตรงหน้าคนเด็กกว่า "ลองดูครับ อร่อยนะ ลิ้นไม่ผูกแบบชื่อแน่นอน"
เพเนโลเปมีท่าทีลังเลในคราแรก แต่สุดท้ายก็ยอมดึงหลอดออกจากแก้วของตน ออกมาชิมเครื่องดื่มสีเหลืองอ่อนในแก้วของรุ่นพี่บ้าง
Penelope Chole Lombardia
จูเลียนหลุดหัวเราะให้กับคำโอดครวญของรุ่นน้องหลังรับรู้รสชาติ ไม่สนใจเชียนอวิ๋นที่ลอบถอนหายใจอยู่ข้าง ๆ
เขาไม่ได้ตั้งใจแกล้งรุ่นน้องเลยนะเชื่อสิ
▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔
Julien Aneurin Delacroix Bai ❀ #CD8E8D
Penelope Chole Lombardia ❀ #7B1FA2
Qiānyún (NPC) ❀ #FFFFFF
ย่านการค้าเก่าแก่ยังคงเต็มไปด้วยเหล่าผู้วิเศษที่มาจับจ่ายซื้อของ เพื่อเตรียมต้อนรับการเปิดภาคเรียน รองเท้าบูธสีเข้มก้าวออกพ้นประตูร้านตัวบรรจง และหยดหมึก นับว่าเป็นร้านสุดท้ายของธุระเขาในวันนี้ เด็กหนุ่มผิวกายขาวซีดในชุดสีสะอาด จัดกระเป๋าสะพายใบกระทัดรัดให้เข้าที่ ก่อนตัดสินใจตั้งหน้าตั้งตา เดินทางกลับหลังร้านหม้อใหญ่รั่ว เขาจะไม่แวะร้านไหนอีกแล้วในวันนี้ แม้แต่ร้านไอศกรีมก็ตาม
คงไม่มีอะไรแล้วล่ะมั้ง ปากเล็กบ่นอุบอิบตามประสา
เมื่อครั้นใกล้เข้าถึงประตูทางออก เพเนโลเปเปิดกระเป๋าเช็คของจำเป็นเป็นครั้งสุดท้าย เขาอยากจะหมดธุระกับตรอกไดแอกอนแล้วเสียที ในสัปดาห์นึงเขาแวะเวียนมายังย่านเก่าแก่เกินครึ่งจำนวนวัน การพบปะผู้คนบ่อย ๆ นั้นไม่ได้ทำให้เขาชินชาแต่อย่างใดเลย เมื่อมั่นใจแล้ว คนตัวเล็กตัดสินใจก้าวเท้าเดินต่อไปตามทาง
เสี้ยววินาทีกล่องเล็กที่ดูเหมือนกับบรรจุของเล่นอะไรอยู่สักอย่าง ตกลงมาใกล้เจ้ารองเท้าสีนิล กับเรือนผมสีน้ำตาลดูนุ่มฟูที่ไหวไปตามสายลม ของเจ้าของกล่องเล็กตรงหน้าเขาที่เดินผ่านไป นัยน์ตาสีอำพันไม่รู้ว่ามันควรวางไว้ตรงไหนก่อน ได้แต่ขมวดคิ้วสวยมองของที่ถูกลืมสลับกับคนสองคนที่เดินผ่านเขาไป มือเรียวจึงก้มลงเก็บกล่องสีม่วงอ่อนขึ้นมา ถึงโดยปกติแล้วเด็กหนุ่มไม่ใช่คนที่จะเก็บของของผู้อื่นขึ้นก่อนมาสุ่มสี่สุ่มห้า
แต่กับเคสนี้ค่อนข้างจะใกล้เกินไปนิดหน่อย และเขาไม่ใช่คนไม่มีสามัญสำนึกขนาดนั้นเสียนี่..
ดะ เดี๋ยวสิ เด็กหนุ่มหวีดร้องออกมา เผลอเพียงครู่เดียวเจ้าของกล่องของเล่นก็เดินหายไปในฝูงชนแล้ว คนที่ดูเรียบนิ่งมาตลอดแปรเปลี่ยนเป็นคนที่ทำตัวไม่ถูกกับสถานการณ์ทันใด นี่เขาต้องทำภารกิจตามหาเจ้าของเจ้ากล่องนี่งั้นหรอ..
ว่าที่นักเรียนใหม่เดินเตร็ดเตร่มาจนถึงทางออกตรอก ที่เชื่อมกับร้านหม้อใหญ่รั่วดังเช่นทางเข้า ในมือเรียวยังคงถือกล่องใบเล็กที่เจ้าของหาใช่เขา ร้านหม้อใหญ่รั่วยังคงเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย โต๊ะนั่งมากมายถูกจับจองอย่างคับแน่น เพเนโลเปจัดหมวกเสื้อคลุมสีมุกลงมาให้ปกปิดใบหน้ามิดชิดขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการพบปะ แต่ยังไม่ลืมที่จะมองหานักเดินทางที่ทำของหล่นไว้เมื่อครู่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาพบกับเจ้าของสีผมที่คุ้นตา เด็กหนุ่มเผลอหวีดร้องทักอย่างลืมตัว ราวกับกลัวว่าคู่ชายหนุ่มตรงหน้าเขาจะหายตัวไปอีกครา แน่นอนสิ เขาไม่ได้อยากหยิบของของผู้อื่นกลับบ้านนะ
คุณ คุณครับ !
เป็นชายหนุ่มตัวสูงกว่าอีกคนรู้สึกตัวก่อน ข้อมือเล็กของคนตัวเล็กที่อยู่ข้าง ๆ ถูกคว้าดึงให้ไปหลบข้างหลังอย่างรวดเร็ว เจ้าของเสียงทักเผลอตกใจตาม จนต้องก้าวถอยหลังไปก้าวนึงเช่นกัน เป็นเรื่องที่คงไม่แปลกมากนัก หากว่าเขาถูกทักในที่แบบนี้จากคนแปลกหน้า เขาเองก็คงต้องรู้สึกไม่ปลอดภัยเช่นกัน ว่าแล้วเด็กหนุ่มจึงตัดสินใจเปิดโหมดเป็นมิตรชั่วคราว
บังเอิญผมเก็บเจ้านี่ได้ครับ คุณทำตกเอาไว้ มือเล็กยื่นกล่องเล็กสีม่วงให้กับคนตรงหน้า ก่อนคลี่ยิ้มตาปิดแบบที่ชอบทำยามต้องใช้เสน่ห์การเจรจา
โอ๊ะ! ขอบคุณมากเลยนะครับ ถือยังไงให้มันร่วงได้เนี่ย
ของที่ถูกลืมได้กลับคืนสู่เจ้าของของมันเป็นที่เรียบร้อย เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลที่ดูนุ่มนิ่มยิ้มให้เขาจนตาหยี นี่สินะนิยามของคำว่าสดใสจนแสบตา คนตรงหน้ามีรอยยิ้มที่จริงใจต่างกับเขาลิบลับ
เป็นเด็กนักเรียนจากฮอกวอตส์รึเปล่าครับ คนตรงหน้าเอ่ยถามออกมาชวนคุย
กำลังเตรียมตัวเข้าเรียนครับปี 1 เด็กหนุ่มตอบอย่างไม่ได้ปิดบัง มันอาจจะเป็นเรื่องดีในอนาคตหากเขาทำความรู้จักผู้อื่นไว้เสียบ้าง
ก็เป็นรุ่นน้องน่ะสิ เราจูเลียนนะครับ ฮัฟเฟิลพัฟ ปี 5
นี่คงเป็นสิ่งที่ช็อคโลกที่สุดในวันนี้ของเขา เด็กหนุ่มนัยน์สีเข้มตรงหน้าเป็นรุ่นพี่เขาอยู่หลายปี ถึงจะคาดเดาไว้ในใจบ้าง แต่นี่คงเป็นความจริงที่เกินความคิดเขาไปมาก
เพเนโลเปครับ เรียกเพพอาจจะง่ายกว่า เจ้าของเรือนผมสีบลอนด์ทองแนะนำตัวเองอย่างง่าย ๆ บ้าง
ชื่อน่ารักจัง เรียกเราว่าพี่จูลได้เลยนะ คนตรงหน้าแนะนำตัวอย่างสบาย ๆ และดูมีความภูมิใจจนเขาอดเอ็นดูรุ่นพี่ตรงหน้าไม่ได้ ก่อนจะเจ้าตัวหันไปแนะนำคนข้าง ๆ ให้กับเขา ส่วนนี่
เหมือนว่าเจ้าของนัยน์ตาสีเปลือกไม้จะครุ่นคิดสิ่งใดอยู่ครู่นึง
เฮกเตอร์ครับ เป็นเพื่อนเรา จูเลียนแนะนำอีกคนก่อนจะหันไปสบตากัน เด็กหนุ่มมองว่าน่ารักดี ความสัมพันธ์ของเขาทั้งสอง
ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ เพเนโลเปทาบมือเรียวลงบนอกแล้วโค้งเล็กน้อย เพื่อทักทายทั้งคู่อย่างเป็นทางการ
งั้น
เพื่อเป็นการต้อนรับน้องใหม่ แล้วก็ขอบคุณที่เก็บของให้เราเมื่อกี้ ให้เราเลี้ยงเครื่องดื่มกับขนมเพพนะ แววตาสดใสแปรเปลี่ยนเป็นการออดอ้อนที่ยากจะปฏิเสธ เด็กหนุ่มครุ่นคิดชั่วครู่ นาฬิกาพกเรือนเล็กถูกแอบเปิดดูแว้บนึง เพื่อประกอบการตัดสินใจ ก่อนเจ้าของเรือนผมสีบลอนด์จะคลี่ยิ้มบาง ๆ เป็นการตกลง
รุ่นพี่บ้านฮัฟเฟิลพัฟคนน่ารักเลือกโต๊ะที่ใกล้บาร์ที่สุดสำหรับสามที่ ในยามนี้ร้านหม้อใหญ่รั่วก็ยังคงมีผู้คนหลั่งไหลกันเข้ามาจับจองที่นั่งดื่ม โชคดีที่ยังเหลือโต๊ะนั่งแสนทำเลดีตรงนี้อยู่ ทำเลดีพอที่จะทำให้คนสายตาสั้น แต่ไม่ได้พกแว่นมาแบบเจ้าของนัยน์ตาสีอำพันสว่าง สามารถมองเห็นป้ายเมนูได้แบบไม่ต้องเพ่งมองมากนัก
เพพดื่มอะไรดีครับ ?
งั้นเพพขอเป็นบัตเตอร์เบียร์ครับ เสื้อคลุมสีขาวบริสุทธิ์ถูกร่นลงเพื่อที่จะทำอะไรได้ถนัด ก่อนตอบคำถามรุ่นพี่ตายิ้มที่นั่งอยู่ตรงข้าม ในคราแรกใจจริงเขาก็อยากจะลองเครื่องดื่มอื่นดูบ้าง แต่ในวันนี้คงไม่เหมาะเสียเท่าไหร่ หากเขาสั่งมาแล้วดื่มมันไม่หมด
แล้วเฮกเตอร์ล่ะ
ไม่เอา หัวทุยสีบลอนด์หันไปทางรุ่นพี่ฮัฟเฟิลพัฟครั้งนึง สลับกับคู่สนทนาอีกคนที่สูงกว่า เขาทำได้แค่นั่งมองตามประสาคนพูดคุยไม่เก่ง หลังได้คำตอบจากชายหนุ่ม จูเลียนผงกหัวตอบรับเล็กน้อย ก่อนจะยกมือเรียกพนักงานที่อยู่ใกล้สายตาที่สุดเพื่อสั่งอาหาร และเครื่องดื่ม
เอาบัตเตอร์เบียร์หนึ่งครับ น้ำมะนาวลิ้นผูกหนึ่ง แล้วก็พายอีกหนึ่งครับ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มหยีลงอีกครั้งจากการส่งยิ้มให้กับพนักงาน รุ่นพี่คนนี้ตรงกับคำว่า สดใสจนแสบตาจริง ๆ นั่นแหละ
ชื่อของอาหาร และเครื่องดื่มที่เพเนโลเปไม่เคยลิ้มลอง ถูกเอ่ยออกมาจากรุ่นพี่ตายิ้มตรงหน้า ทำให้นัยน์ตาอำพันต้องกวาดตามองหาในป้ายเมนูอีกครั้งอย่างสนใจ ก่อนจะโดนสายตาจากคนที่นั่งตรงข้ามดึงออกมาจากภวังค์
ระหว่างรอเครื่องดื่ม และพายจะทำเสร็จ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใดเช่นกัน เพเนโลเปถูกรุ่นพี่ร่วมสถาบันชวนคุยสัพเพเหระจนลืมเวลา รุ่นพี่จูเลียนเป็นคนสดใสที่พูดคุยเก่งมาก ๆ นั่นคือสิ่งที่เขาได้รับรู้ และเป็นความประทับใจแรกพบ รู้สึกตัวอีกครั้ง พายอุณหภูมิอุ่น และเครื่องดื่มสีสวยสองแก้วก็ถูกบริการวางลงบนโต๊ะแล้ว
บัตเตอร์แก้วใหญ่ขนาดสองมือจับถูกวางลงตรงหน้าเด็กหนุ่ม สองมือเรียวค่อย ๆ ประคองแก้วสีสวยขึ้นมาจรดริมฝีปากบาง รสชาติหวานซ่าเมื่อสัมผัสปลายลิ้นที่คุ้นเคยกลับมาทักทายลำคอสวย เครื่องดื่มสีเดียวกับนัยน์ตาของเขาถูกดื่มไปสองอึก ก่อนเจ้าของแก้วจะยอมแพ้แล้ววางลงพักยก
เพพชิมมั้ย แก้วใสถูกเลื่อนมาตรงหน้าเขา พร้อมกับคำพูดเชื้อเชิญให้ลองลิ้มรส หากจำไม่ผิดชื่อของมันคือน้ำมะนาวลิ้นผูก เพเนโลเปช่างใจอยู่ชั่วครู่
ลองดูครับ อร่อยนะ ลิ้นไม่ผูกแบบชื่อแน่นอน เสียงหวานกล่าวล่อลวงเขาอีกครั้ง ครั้งแรกไม่เป็นไร ครั้งต่อไปเริ่มมีพิรุธ แต่อย่างไร เด็กหนุ่มไม่อยากปฎิเสธคำเชิญจากคนตรงหน้าเลยสักนิด เพเนโลเปยิ้มขำปนเอ็นดูคนตรงหน้าเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจใช้หลอดของตัวเองชิมเครื่องดื่มที่ไม่คุ้นเคยตามคำชวน
อึก ! จี๊ดจนปวดหัวเลย
ในคราแรกเขาเพียงแค่คิดว่ามันคงจะตัดความหวานเลี่ยนจากบัตเตอร์เบียร์เขาได้ เพียงแค่อึกเดียวเท่านั้น เพเนโลเปได้รับรู้เลยว่าเขาคิดผิด เด็กหนุ่มเจ้าของผมสีสว่างสบัดศีรษะไล่ความรู้สึกจี๊ดขึ้นสมองออกทันที เมื่อความเปรี้ยวนั้นส้มผัสปลายลิ้น ให้ตายเถอะ เขาโดนรุ่นพี่ตายิ้มล่อซื้อแกล้งแล้ว เจ้าของแก้วหลุดหัวเราะสดใสออกมาตอนเห็นอาการของเขาหลังจิบไปอึกนึง กับคนข้างกายรุ่นพี่ที่ลอบถอนหายใจ หลอดใสถูกหยิบสลับแก้วกลับอย่างรวดเร็ว
Julien Aneurin Delacroix Bai #CD8E8D ❤
Hecter (NPC) #FFFFFF
(ย้อนเวลา)
หลังชายหนุ่มนั่งหัวเราะเอิ๊กอ๊ากกับเพื่อนสนิทอย่างเซนต์ ที่ไม่ได้เจอกันเป็นเวลานานตั้งแต่เรียนจบ จนเวลาล่วงเลยผ่านไป ดวงอาทิตย์จากที่เคยทอแสงอยู่เหนือศีรษะ ก็เบนเอียงมาอีกฟากอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว และเมื่อเห็นดังนั้นเขาจึงยกข้อมือขึ้น ก่อนจะดูตัวเลขบนหน้าปัดนาฬิกา พร้อมกับกล่าวอำลาเพื่อนสนิทด้วยเหตุที่เขานั้นยังมีธุระอื่นที่ต้องทำ
ชิบหาย นั่งเล่นเพลินเลย ขอตัวก่อน ไว้นัดเจอกัน บาย ! หลังกล่าวจบ วินแยกตัวจากเพื่อนสนิททันทีโดยที่ไม่ได้รอให้อีกฝ่ายตอบกลับ เขาพาตัวเองเดินตรงมาที่บริเวณหลังร้านหม้อใหญ่รั่วด้วยความเร่งรีบ สายตาทั้งสองข้างกวาดมองหาถังขยะ ที่เปรียบเสมือนจุดแลนด์มาร์คของการพาตัวเองไปอยู่อีกฟากของกำแพง
มือเรียวหยิบไม้กายสิทธิ์ออกจากเสื้อคลุมทันที ก่อนจะแตะมันลงบนกำแพงของร้าน โดยกระทบมันเข้ากับก้อนอิฐที่อยู่เหนือถังขยะจากทางด้านซ้ายขึ้นไปสามก้อน และขวาอีกสองก้อน ใช้เวลาไม่นานกำแพงบริเวณนั้นก็สั่นไหวและถูกเปิดขยายออกเป็นช่องกว้าง โดยที่ภาพเบื้องหน้าปรากฎให้เห็นถนนเส้นยาวที่มีเหล่าผู้วิเศษสัญจรไปมา รวมถึงร้านค้าต่าง ๆ ที่ตั้งเรียงรายยาวตลอดสองข้างทาง
#998877 ✦ Wynn Blaze
©RAVENCLAW
"ฮู่วว.. หวังว่าจะครบแล้วนะ" หญิงสาวเปิดรายการของที่ต้องซื้อในกระดาษแผ่นเล็กขึ้นดู เพื่อตรวจสอบอีกครั้งว่าตนไม่ได้ลืมของจำเป็นสำคัญอะไรก่อนจะพับใส่กระเป๋า
อีกไม่กี่สัปดาห์เรมิงตันก็จะได้เข้าเรียนที่ฮอกวอตส์อย่างเต็มตัวในฐานะนักเรียนชั้
นปีที่ 1 บ้านเรเวนคลอ ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะได้พบปะกับเพื่อนร่วมชั้นบางคนแล้วแต่เธอก็ยังไม่มีเพื่อนมาร่วม
เดินตรอกไดแอกกอนแห่งนี้
"เดี๋ยวนะ.. กลิ่นหอมแบบนี้? ต้องใช่แน่ๆ" เดินต่อมาไม่ไกลนักเรมิงตันก็ได้กลิ่นหอมหวานของ 'บัตเตอร์เบียร์' เครื่องดื่มยอดฮิตของร้านหม้อใหญ่รั่ว บาร์สำหรับพ่อมดแม่มดนักดื่มที่ถึงจะดูมอซอไปบ้างตามกาลเวลาแต่ก็ยังเป็นที่นิยม
ด้วยช่วงที่ใกล้เปิดเรียนแบบนี้ภายในร้านก็จะยิ่งคึกคักเป็นพิเศษ หากกวาดตามองไปรอบ ๆ ก็จะเห็นคนรุ่นราวคราวเดียวกันนั่งดื่มบัตเตอร์กับครอบครัว บางคนก็อยู่กับเพื่อน แต่เรมิงตันคงต้องฉายเดี่ยวในเวลานี้
"บัตเตอร์เบียร์ 1 แก้วค่ะ" สาวน้อยทิ้งตัวลงนั่งโต๊ะที่อยู่ในมุมร้านก่อนจะสั่งเครื่องดื่มเพื่อดับกระหาย ไม่นานแก้วบัตเตอร์เบียร์ก็ลอยมาเสริฟ
"อึ่ก.. ฮาา อร่อยสมคำล่ำลือจริง ๆ" ลิ้นเล็กกวาดเลียฟองสีขาวที่เลอะริมฝีปากออกจนหมดและใช้แขนเสื้อซับทำความสะอาดแบบลว
ก ๆ ที่เป็นนิสัย(ไม่ค่อยจะดี)ของเรมิงตัน พลางนั่งมองผู้คนและบรรยากาศรอบข้างอย่างยิ้ม ๆ
หลังจากนั่งจนปล่อยเวลาให้ผ่านไปไม่นานบนโต๊ะก็มีแก้วบัตเตอร์กองไว้สองสามใบ การเติมพลังด้วยของอร่อยเรมิงตันก็พร้อมกลับบ้าน หญิงสาวเดินเบียดเสียดคนแถวหน้าบาร์เพื่อจ่ายเงินให้กับพนักงาน สายตาก็ไปสะดุดกับใครบางคนที่คุ้นเคย แต่ตอนนี้เป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าไปแล้ว
-- หวังว่าเธอคงมีความสุขดีนะ
หญิงสาวคิดในใจเพียงครู่เดียวก่อนจะใช้ฮู้ดคลุมหัวเดินออกทางหลังร้าน
VALENTINE
VICTOR ZYNAXALIA
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้ว กับการที่วาเลนไทน์ไม่ได้พาตัวเองเดินทางออกจากที่พักอาศัยเลยทั้ง ๆ ที่บุคคลผู้ซึ่งเป็นพี่น้องในตระกูลพากันไปนั่นนี่ ซึ่งหากจะว่ากันตามตรงแล้ว มันก็ค่อนข้างจะผิดวิสัยเขาไปมาก โดยเฉพาะการพาตัวเองไปเสี่ยงอันตรายนั้น ล้วนเป็นอะไรที่ชายหนุ่มค่อนข้างโปรดปราน และเขาก็ไม่เคยพลาดการเข้าร่วมต่อสู้เลยสักครั้ง
ทว่ากลับกัน ในหนนี้วาเลนไทน์ดันเลือกที่จะพาตัวเองเดินทางมายังร้านหม้อใหญ่รั่ว นั่งดื่มและสังสรรค์กับตัวเองเงียบ ๆ เพียงคนเดียว แทนที่จะพาตัวเองกลับไปยังดินแดนที่อยู่ในความดูแลในฐานะอนุประมุขอย่างแดนสารท
แต่ถึงกระนั้นชายหนุ่มก็ไม่ได้มีความรู้สึกผิดหรือโหยหามันแต่อย่างใด เขาเพียงแค่อยากอยู่อย่างสงบบ้างก็เพียงเท่านั้น ใช่ ฟังไม่ผิดหรอก ถึงได้บอกไงว่ามันผิดวิสัยคนอย่างเขาหนะ !
บัตเตอร์เบียร์ไม่รู้แก้วที่เท่าไหร่แล้วที่มันไหลลงลำคอหนา เพราะตั้งแต่วาเลนไทน์มาถึง เขาก็ไม่ได้สั่งเครื่องดื่มหรืออาหารใดเลยนอกจากเครื่องดื่มสีเหลืองทองใสนี้ ถึงแม้ว่าคนขายจะพยายามแนะนำเครื่องดื่ม อย่างน้ำมะนาวลิ้นผูกให้ไม่รู้กี่สิบครั้งแล้วก็ตาม
ของประหลาดแบบนั้น ใครมันจะไปกินวะ ชายหนุ่มบ่นอุบในใจ พร้อมกับจัดการภาชนะสีใดที่บรรจุเครื่องดื่มตรงหน้า จนมันพร่องลงมากกว่าครึ่ง ก่อนจะตัดสินใจลุกออกจากโต๊ะบริเวณมุมห้องที่ติดกับบันไดทางเดินขึ้นชั้นบน ตรงไปยังหน้าเคาน์เตอร์ เพื่อสั่งอาหารสักจานมาประดับโต๊ะ แล้วถึงได้เดินกลับมานั่งลงที่เดิมอีกครั้ง
เวลาผ่านไปไม่นาน อาหารที่สั่งไว้ก็ถูกเสิร์ฟลงบนโต๊ะไม้ตัวเก่า พร้อมด้วยบัตเตอร์เบียร์ที่เขาไม่ได้สั่ง
ผมไม่ได้สั่งแล้วนี่ครับ แล้วทำไม.. แต่ยังไม่ทันที่วาเลนไทน์จะพูดจบ พนักงานเสิร์ฟของร้านก็เพยิดหน้าไปยังโต๊ะของหญิงสาวที่อยู่ในร้านก่อนจะเดินจากไป
วาเลนไทน์ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงกับเหตุการณ์ตรงหน้า เขาไม่ค่อยถนัดการผูกมิตรแบบคนปกติทั่วไป จึงทำได้เพียงแค่กดฉีกยิ้มที่คิดว่าดูปกติที่สุด ก่อนจะศีรษะลงเล็กน้อยพร้อมยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นเป็นการขอบคุณ
ALBRIGTSEN
MERWYN ZYNAXALIA
Adele #B3C7A1
ร้านหม้อใหญ่รั่ว
เมื่อเด็กสาวหันหน้าตามเสียงเรียกมา ก็ทำให้เขาพบกับนัยน์ตาสีสวยของเธอ ทว่าแต่หญิงสาวดันทำสีหน้าที่ดูผิดไปจากตอนแรก อัลบริกท์เซนก็ไม่อาจรู้ว่ามีเหตุผลอะไร ที่ทำให้สีหน้าของเธอเป็นดังเช่นนี้ หากจะถือวิสาสะเข้าไปถามเธอ ก็จะดูเป็นอะไรที่แอบไร้มารยาทอยู่ไม่น้อย เท่าที่จำได้เขาก็ไม่เคยไปทำอะไรให้เธอจงเกลียดจงชังเลย หรือว่าเขาหน้าตาคล้ายคลึงกับใครที่เธอไม่ชอบหน้าหรือเปล่า คำถามบางอย่างก่อเกิดขึ้นมาภายในหัวเล็กน้อย
ขอบคุณค่ะ แต่ไม่เป็นไร รอยยิ้มที่ถูกส่งมานั้นดูเหมือนว่า เธอกำลังฝืนส่งยิ้มมาให้เขาอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากมายนักจึงไม่ได้สนใจอะไร
นั่งเถอะครับ ไม่เหลือที่ตรงอื่นแล้ว ร่างสูงบอกกับคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าไป เมื่อเห็นว่าไม่มีที่เหลือให้เธอนั่งอยู่จริงๆ เขาไม่รู้ว่าเธอจะตอบตกลงแล้วฝืนนั่งกับเขาไปก่อนไหม แต่ถ้าเธอตอบตกลง เขาก็จะถือเป็นโอกาสดีด้วยที่เขาจะได้ทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมบ้านไว้สักหน่อย
อัลบริกท์เซนไม่รู้ว่าเด็กสาวเอ่ยพึมพำอะไรออกมาเบาๆ แต่เธอก็ยอมหย่อนตัวนั่งลงมาอยู่ดี ทว่าดวงตาคู่นั้นของเธอก็ยังไม่ยอมสบมอง มาทิศทางที่เขานั่งอยู่ดี เหมือนว่าเด็กสาวกำลังพยายามที่จะไม่พูดหรือเปิดบทสนทนาอะไรกับเขาก่อน ร่างสูงเองก็ไม่อาจรู้ว่าต้องทำอย่างไร ถึงจะเปิดประโยคสนทนากับคนไม่คุ้นเคยได้ดีที่สุด หากมารียงค์อยู่คงจะดี เมอร์วินเริ่มนึกถึงผู้เป็นพี่ขึ้นมา ในเวลานี้มารียงค์คงจะเป็นคนเปิดบทสนทนาขึ้นมาก่อนเป็นแน่ ถ้าหากเธออยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดเช่นนี้ เอาแบบเขาที่นึงค่ะ
ว่าแต่คุณมาคนเดียวงั้นเหรอ เขาได้ยินคำสอนหนึ่งว่ากันว่า หากพบโอกาสควรคว้าไว้ เสียงทุ้มเอ่ยทักเธอก่อนในทันที เมื่อเด็กสาวเอ่ยปากสั่งเมนูที่ต้องการกับพนักงานประจำร้าน แต่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าเธอนั้นจะตอบอะไรกลับมาหรือไม่ ทว่าในใจจริงแล้วก็ยังแอบคาดหวังอยู่เล็กน้อย สถานการณ์ตรงนี้จะได้ไม่ดูตึงเครียดจนเกินไป หากให้คนสองคนที่นั่งร่วมโต๊ะกัน ไม่ปริปากพูดหรือสนทนาอะไรด้วยกันเลย คงจะแปลกน่าดูเลยใช่ไหมละ
อือ มาคนเดียว เธอเว้นประโยคสนทนาไว้เล็กน้อย นายก็เหมือนกันนี่ นั่งคนเดียวสนุกหรอ? เขาแอบสงสัยอยู่นิดหน่อยว่านี่เป็นประโยคหาเรื่องไหม แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากนักเลยปล่อยไป ทว่ามันแอบแปลกที่เธอถามออกมาแบบนี้ ใครไหนกันจะถามคนไม่ค่อยสนิทด้วยประโยคกำกวมแบบนี้
ฮะ ก็ปกตินะ ไม่ได้รู้สึกสนุกหรืออะไร แล้วเธอสนุกเหรอ เห็นมาคนเดียว เขาตอบกลับไปในทันที เมื่อรับรู้ว่าประโยคคำถามที่ถูกส่งมาจากเธอจบแล้ว เมอร์วินเองก็ตอบไปตามตรงกับที่เธอถามเช่นกัน ถึงเขาจะรู้สึกว่ามันแปลกๆยังไงก็เถอะ ถามเรื่องส่วนตัวคนอื่นมากไปก็ใช่ว่าจะดี เขาเลยเลือกที่จะปัดความคิดนั้นออกไป ก่อนที่เขาจะเริ่มถามเรื่องส่วนตัวของเธอไปมากกว่านี้ เขาจึงหันมาให้ความสำคัญกับคนตรงหน้าต่อ
ฉัน?
ก็อยู่คนเดียวมาตลอดนะ คนเยอะมันวุ่นวาย ความสัมพันธ์ก็น่ารำ โทษที พูดมากไป เธอพูดออกมาเชิงบ่นเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้จะเก็บเรื่องนี้ไว้ในหัว ให้มันตีกันไปมากกว่าเดิม จึงไม่ได้ถือสาอะไรกับเธอนัก จึงไม่ได้ตอบอะไรเธอกลับไป ทว่าของเหลวสีเหลืองในแก้วที่เธอจับอยู่ถูกจิบเข้าไปเพียงเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเอ่ยเปิดประโยคสนทนาต่อ แล้ว นายจะไปไหนต่อมั้ย?
คงจะเป็นตรอกไดแอกอน สนใจจะไปเดินด้วยกันไหม? ร่างสูงชักชวนให้เธอมาเดินเตรซื้อของสำหรับเข้าเรียนด้วยกัน ทว่าการถามในครั้งนี้เขาเองก็แอบคาดหวังมันไว้ไม่น้อยเลย เขาหยิบยกแก้วที่บรรจุของเหลวสีใสไว้ขึ้นมาดื่มอีกครั้ง ก่อนจะกลับมานั่งลุ้นรอคำตอบของหญิงสาวตรงกันข้าม
ฉันไปด้วยก็ได้ จะเปิดเทอมอยู่แล้ว ต้องไปซื้อหนังสือพอดี เขาแอบรู้สึกดีใจอยู่ไม่น้อยที่เธอนั้นตอบตกลงมาว่าจะไปกับเขาด้วย อัลบริกท์เซนไม่รู้ว่าควรตอบอะไรกลับไป เลยทำได้แต่นั่งเงียบ แล้วกวาดสายตามองบรรยากาศรอบๆตัวไปพลาง จนสุดท้ายแล้วของเหลวสีเหลืองอร่ามได้ถูกยกดื่ม จนหมดไม่เหลือแม้แต่หยดสุดท้ายหลงเหลือไว้ในแก้ว งั้นไปตอนนี้เลย ไปกัน
หลังพูดจบหญิงสาวคนนั้นก็รีบวางเงินเกลเลียนไว้บนโต๊ะ ก่อนเธอจะรีบปลีกตัวเดินตรงไปที่ประตูทางเข้า เขาแอบรู้สึกงุนงงอยู่ไม่น้อยเลย แต่จะให้ทำอย่างไรได้ เลยเดินออกไปแล้ว เขาเองก็ไม่รอช้าที่จะรีบพาตัวเองเดินตามเธอไปก่อน แล้วค่อยเดินไปทางเข้าตรอกไดแอกอนพร้อมกันกับเธอ อะไรของเธอกันนะ ผู้หญิงคนนี้บทจะเร็วก็เร็วเกินไป
ร้านหม้อใหญ่รั่วช่วงหัวค่ำคราคร่ำไปด้วยผู้วิเศษ ที่ต้องการพักผ่อนหย่อนใจหลังจากวันอันหนักหนา ตรงกันข้ามกับไอเดน ฟีนิกซ์ วาเลนไทน์ที่เร่งรุดมาที่นี่เพราะภาระงาน มันไม่มีวันพักผ่อนสำหรับนักสืบเอกชนและผู้วิเศษที่ต้องการความช่วยเหลือหรอก
เขาได้นัดพบกับแม่มดจบใหม่จากฮอกวอตส์คนหนึ่งผ่านทางไปรษณีย์นกฮูก เธอมีชื่อว่า วิเวียน สโนว์โกลว เป็นแม่มดสายเลือดผสมที่มีภูมิลำเนาอยู่ในโลกเวทมนตร์ ไอเดนที่อาศัยอยู่ ณ ใจกลางกรุงลอนดอน...แหล่งที่อยู่อาศัยของมักเกิ้ล จึงต้องหาจุดกึ่งกลางที่จะมาพูดคุยถึงเรื่องการว่าจ้างกับเธอ แล้วพวกเขาก็ตกลงกันว่าจะเป็นภายในร้านหม้อใหญ่รั่ว สถานที่ที่เชื่อมระหว่างทั้งสองโลกเข้าด้วยกัน มันตั้งอยู่ที่ถนนชาริงครอสนี่เอง
ด้านนอกหิมะตกหนัก ไอเย็นสามารถลอดผ่านช่องประตูเข้ามาได้ ตรงบริเวณบาร์และจุดที่อยู่ใกล้กับเตาผิงจึงไม่มีพื้นที่ว่างให้จับจองเลย แต่ถึงอย่างไร ตรงที่ที่มีผู้คนอยู่เนืองแน่นก็ไม่ใช่สถานที่ในอุดมคติในการพูดคุยงานอยู่แล้ว เขาจึงฝากข้อความทิ้งไว้กับทอมว่าเขาจะไปรอเธออยู่ในห้องนั่งเล่นส่วนตัว
หนังสือพิมพ์เดลี่พรอเฟ็ตมีข่าวน่าสนใจมากมาย แต่นั่นก็เทียบไม่ได้กับการเงี่ยหูฟังสิ่งที่คนในร้านหม้อใหญ่รั่วซุบซิบกัน บ้านหลังคาทะลุจากการฝึกคาถาป้องกันตัว นักโทษแหกคุกเมื่อคืนวาน และการพบเห็นมังกรเหนือน่านฟ้า...ไอเดนฟังไม่เคยเบื่อจริง ๆ
ประตูห้องนั่งเล่นส่วนตัวเปิดออกพร้อมเสียงดังเอียด ผู้หญิงที่อายุใกล้เคียงกับเขาเดินเข้ามาด้วยท่าทางเขินอาย แก้มของเธอมีรอยเปื้อนสีน้ำเงินและแดง
เพิ่งเคยมาเหรอ, คุณสโนว์โกลว ไอเดนลดหนังสือพิมพ์กล่าวทักทายเธอ นั่งลงก่อนสิ สั่งอะไรอุ่น ๆ ดื่มให้หายหนาวสักหน่อย แล้วเราค่อยมาพูดคุยเรื่องปัญหาของคุณกัน
ขอบคุณค่ะ เธอกล่าวแล้วลดตัวลงนั่งโซฟาตัวตรงข้าม ทว่าใบหน้ากลับฉายแววไม่มั่นใจตอนที่หยิบใบเมนูขึ้นมาดู
ลองเมนูยอดฮิตของร้านตอนนี้ก็ได้นะคุณสโนว์โกลว เหมือนมันจะชื่อ น้ำมะนาวลิ้นผูก น่ะ นักสืบวาเลนไทน์แนะนำ ใบหน้าของเขาฉายแววซุกซนอยู่แว้บหนึ่ง แต่วิเวียนดูเหมือนจะตีความหมายเป็นความใจดี
งั้นเอาน้ำมะนาวลิ้นผูกอุ่น ๆ หนึ่งแก้วแล้วกันค่ะ
ไอเดนเอ่ยสั่งบัตเตอร์เบียร์ ในเวลาไม่กี่นาที เครื่องดื่มทั้งสองก็ถูกนำมาเสิร์ฟถึงในห้อง พวกเขาทั้งสองคนพูดคุยสัพเพเหระระหว่างจิบของเหลวอุ่น ๆ จากในแก้ว เป็นไงบ้าง? อร่อยหรือเปล่า?
ทันทีที่วิเวียน สโนว์โกลวละริมฝีปากของขอบแก้ว เธอก็มีสีหน้าที่ไม่ต่างจากคนที่อมมะนาวมีพิษอยู่ในปาก อี่อันแอ้อ้าก! เธอพูดไม่ชัด ส่งผลให้ชายหนุ่มหัวเราะชอบใจยกใหญ่ ไม่นานนักหลังจากฤทธิ์เปรี้ยวของน้ำมะนาวลิ้นผูกซาลง เธอก็หัวเราะไปพร้อม ๆ กับเขา นี่คุณแนะนำเมนูนี้ให้กับผู้ว่าจ้างทุกคนเลยไหมเนี่ย?
นักสืบวาเลนไทน์ยักไหล่ มุมปากของเขาหยักเป็นรอยยิ้ม นี่คุณเห็นผมใจร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ? เอาล่ะ เข้าเรื่องกันเถอะ แต่ถ้าให้ผมเดานะ เรื่องของคุณน่าจะเกี่ยวข้องกับภาพวาดใช่ไหม?
โอ๊ะ? คุณรู้ได้ยังไงคะ?
เขาชี้ไปที่แก้มของตัวเอง มีสีเลอะตรงนี้น่ะ คงเป็นภาพวาดท้องฟ้ายามเย็นที่คุณกำลังวาดอยู่ แต่ระหว่างนั้นคุณกลับพบอะไรบางอย่างที่สะเทือนใจมาก ๆ จนทำให้คุณต้อง...
เช็ดน้ำตา เธอต่อประโยค ใช่ค่ะ ฉันมีรูปวาดของฟิลิป...แมวดำของตระกูลฉันกับคุณปู่ทวด แต่วันนี้พวกเขากลับหายไป
ปกติของรูปวาดนะ คุณคงไม่หวังจะให้พวกเขาอยู่ที่เดิมไปตลอดหรอกจริงไหม?
เธอส่ายหัว หนนี้มันไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะผ่านไปกี่รุ่น คุณปู่ทวดและฟิลิปจะไม่ออกไปจากภาพวาดนั้น ฉันพยายามตามหาพวกเขาแล้ว แต่กลับไม่พบพวกเขาอยู่ในภาพวาดอื่นเลย
นักสืบวาเลนไทน์พยักหน้า เขาเคยรับงานตามหาคนหายมาก่อนแล้ว แต่หนนี้แตกต่างออกไป การตามหาคนในรูปภาพที่หายไปคงไม่ใช่งานหมู ๆ สำหรับไอเดน วาเลนไทน์อย่างแน่นอน เขารู้สึกแบบนั้น งั้นพรุ่งนี้คุณว่างไหม? ผมอยากจะไปดูสตูดิโอวาดรูปของคุณหน่อย
Vivian Snowglow (NPC) | #FFFFFF
Leaky Cauldron | ร้านหม้อใหญ่รั่ว
"น้ำมะนาวลิ้นผูกสำหรับผู้แพ้พนันหนึ่งที่ครับ"
เสียงเข้มในชุดสูทสีดำเรียบร้อยที่แหวกอกในแบบของโดมินิค พร้อมด้วยนาฬิกาหรูเรือนใหม่ที่เขาเพิ่งได้เมื่อครู่ กล่าวกับพนักงานไม่ทราบชื่อคนหนึ่งที่ถูกชายหนุ่มร่างสูงมาที่นี่ครั้งแรกเรียกไว้ เจ้าพ่อนักพนันจากอิลเวอร์มอร์นี่การใช้ชีวิตในประเทศอังกฤษได้เป็นเวลาเกือบครึ่งปี ไม่ยักจะรู้ว่ามีสถานที่แบบนี้อยู่บนโลกเวทมนตร์ด้วย หากเขาไม่ถูกรับเชิญท้าดวลจากผู้ประลองผู้ร้อนวิชาที่ตอนนี้ไม่มีของมีค่าติดตัวใด ๆ เหลืออยู่แล้วจากการแพ้พนันเขาทุกวิถีการประลองทางโชคชะตา
"ไม่ต้องย้ำขนาดนั้นคุณโดมินิค แก้วนั้นผมเต็มใจดื่มเพราะแพ้พนันครั้งนี้เท่านั้น" เขาพูดออกมาด้วยความรู้สึกหัวเสียเล็กน้อย ขณะที่เก็บไพ่โปกเกอร์สำหรับมักเกิลลงกับไปในกล่อง "แต่ก็สมกับเป็นคุณดีนะ โดมินิค เอ็ดการ์ คามิลโล ควอน ... ขืนชื่อนี้ไปแพ้ใครเข้าคงขายหน้าไปถึงเนวาดาเอา"
"สิ่งเดียวที่ทำให้ผมพ่ายแพ้กับการพนันได้คือความตายเท่านั้นน่ะ" มือเรียวใหญ่ที่ใช้นิ้วเกี่ยวแก้วกาแฟอยู่ยกจิบขึ้นก่อนหน้าประโยคน้ำเสียงนิ่งของตน "คุณยังจ่ายไม่ครบเลยนะ เผื่อคุณไม่รู้"
"นะ นี่คุณ ... คุณอะไรจากผมอีกหา?! เงินทั้งหมดห้าพันเกลเลียน นาฬิกาโรเล็กซ์รุ่นแรกของโลก และที่ดินที่เดียวของผมในเมืองบาท นี่ยังทำให้คุณไม่พอใจอีกหรือยังไง?! คุณต้องการอะไรอีก"
"แล้ว อลิซ ล่ะครับ หืม?"
เจ้าของชื่อนั้น คือเหตุผลที่ทำให้โดมินิคกล้าที่จะตอบรับคำเชิญของนักพนันกระจอกคนนี้ ทั้งข้อมูล หลักฐานการมีอยู่ และสิ่งที่โดมินิคต้องการทั้งหมดนั่นถูกชายคนนี้กุมมันไว้ แม้เขาไม่ได้เอ่ยปากถามออกมาตั้งแต่แรกว่าชายคนนี้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเธอ และแม้เขาจะล้วงข้อมูลด้วยความสามารถในการสะกัดใจได้ง่ายดาย แต่เพราะจรรยาบรรณนักพนันที่เขายึดถือไว้เสมอ จึงได้แต่พยายามต่อสู้ทางการพนันเพื่อแลกกับสิ่งนั้นตามที่ต้องการ แม้ว่าที่จริงเขาจะเอาชนะเขาอย่างง่ายดายภายในห้านาทีแรกก็ตาม ก็ยังดี อย่างน้อยก็เป็นการฆ่าเวลาที่เสียเปล่าไป
"หึ...เรื่องนี้เองหรอกหรอที่ผมลืมไปน่ะ? หึ ๆ ความจำดีชะมัด" ชายที่ท่าทางแก่กว่าพูดขึ้นมาหลังจากที่โดมินิคทวงสัญญาของเขา "แหม แหม คุณเล่นชนะผมได้จนไม่มีอะไรติดตัวอยู่แล้ว แล้วแม่ผู้หญิงคนนั้นมันสลักสำคัญอะไรกับคุณโดมินิคนักหนา ถึงได้ต้องเล่นพนันเพื่อชิงข้อมูลที่แค่คุณสะกัดใจผมเอาง่าย ๆ ก็ได้"
"ไม่มีจ่ายก็ไม่เป็นไรครับ แต่หลังจากนี้คุณคงไม่มีโอกาสได้พูดแล้วล่ะ"
แม้ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงที่สุภาพอยู่ แต่สายตาและความรู้สึกด้านในนั่นกลับยากที่จะอธิบายออกมาในตอนนี้ มือที่เพิ่งใช้ถือแก้วกาแฟเมื่อครู่ยังคงวางมันลงอย่างเบามือตามมารยาท มีเพียงสายตาที่ดูเป็นมิตรจ้องเขม็งไปยังชายที่พยายามตุกติก ทยอยมีบรรยากาศชวนขนลุกปกคลุมขึ้นรอบตัวของโดมินิคและคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แม้แต่พนักงานที่ยืนอยู่ไม่ห่างกันนัก พร้อมแก้วน้ำมะนาวในมือยังไม่แม้แต่คิดเข้าใกล้สักคืบเดียว อย่าว่าแต่ขัดขืนไม่ยอมชดใช้หนี้ของร่างสูงเลย แค่พูดให้เป็นปกติหรืออวดเบ่งเช่นเมื่อครู่ก็เป็นเรื่องยากสำหรับชายแก่ไปแล้ว
"มะ มะ มะ มะ มันต้อง ต้อง มีอยู่แล้วสิครับคุณโดมินิค! แหม...ใครจะกล้าเบี้ยวยอดนักพนันแบบคุณได้ล่ะครับ นะ เนี่ย...ผมกำลังจะบอกคุณ...ตามที่คุณต้องการ ยะ ยะ ยังไงล่ะ!" สุดท้ายทุกอย่างก็จบลงด้วยความพ่ายแพ้ที่เกือบต้องสูญเสียชีวิตของตนเองไป แต่โดมินิคจะไม่ทำเช่นนั้น ไม่มีทาง
Dominic Edgar Camillo Kwon #AABBCC
NPC #FFFFFF
แม้อากาศเหน็บหนาวของเหมันต์ฤดูจะมาเยือน แต่ในช่วงเดือนสุดท้ายของปีนั้น แดนมนุษย์กลับยังดูมีชีวิตชีวา เหล่าบ้านเรือนและถนนหนทางประดับประดาไปด้วยดวงไฟสีนวลมากมาย ทุกแห่งคลอเคล้าไปด้วยบทเพลงแห่งความสุข จนทำให้จิ้งจอกใหญ่แห่งสกุลไป๋อดยิ้มบางออกมาไม่ได้
ในวันนี้ไป๋ซือจินซ่างเสินใช้เวลาในช่วงพักจากการว่าราชการ ลงมาเดินเล่นที่โลกมนุษย์ จุดหมายนั้นไม่ได้มีในใจ พอรู้ตัวอีกที ร่างสมส่วนก็มายืนอยู่หน้าร้านหม้อใหญ่รั่วในกรุงลอนดอนเสียแล้ว มือขาวผลักบานประตูเข้าไปด้านใน ก็พบว่าร้านเก่าที่เคยอึมครึมในตอนนี้ ก็ประดับตกแต่งให้เข้ากับเทศกาลคริสต์มาสด้วยเช่นกัน ซ่างเสินเลือกนั่งมุมด้านในของร้าน ก่อนจะกวาดตามองเมนูอยู่สักพัก
น้ำมะนาวลิ้นผูกงั้นหรือ
จิ้งจอกดำมากไปด้วยปัญญาและอายุพึมพำเบา ๆ หลังจากได้ยินเด็กนักเรียนจากฮอกวอตส์สั่งเมนูนี้โดยบังเอิญ ไม่รู้ว่าด้วยบรรยากาศของเทศกาลหรือเป็นเพราะอากาศหนาวจนแทบติดลบก็ไม่ทราบได้ ไป๋ซือจินถึงได้อย่างลองอะไรใหม่ ๆ และเอ่ยปากสั่งเมนูชื่อเดียวกันนี้กับพนักงานที่กำลังจะเดินผ่านไปทันที
เครื่องดื่มในแก้วใสถูกนำมาเสิร์ฟ หน้าตาเหมือนกับน้ำมะนาวทั่วไป รสชาติก็ยังคงเป็นน้ำมะนาวไม่มีอะไรผิดเพี้ยน เห็นทีคงตั้งชื่อให้ดึงดูดลูกค้าเพียงเท่านั้น แต่ด้วยความที่ไป๋ซือจินนิยมชอบเครื่องดื่มรสกลมกล่อมและมีกลิ่นหอม อย่างพวกชาบนแดนเซียนมากกว่า เครื่องดื่มแก้วนี้จึงตั้งทิ้งไว้หลังจากเจ้าตัวจิบไปได้เพียงสองสามครั้งเท่านั้น
ไป๋ซือจินเอนหลังพิงเก้าอี้ไม้ ที่แม้จะดูเก่าแต่ก็ถูกทำความสะอาดมาอย่างดี ยกแขนขึ้นกอดอกปล่อยเวลาให้เดินไปเรื่อย ๆ ด้วยการสังเกตความเป็นไปของผู้วิเศษภายในร้านรวมถึงมนุษย์ปุถุชนด้านนอก
Racha Tenebrus Domitrov Bai (Bái Sijin) ❀ #B0A160
จะนอนไปถึงไหนกัน เสียงสัตว์เลื้อยคลานพูดได้แล่นเข้ามาในหูเป็นการเตือนให้รู้ว่าตอนนี้พ่อมดฝึกหัดถึ
งที่หมายแล้ว
หาว
เด็กหนุ่มที่พึ่งถูกปลุกโดยเสียงของเจ้านาคาน่ารำคาญสูดลมเข้าปอดด้วยอาการกึ่งหลับก
ึ่งตื่น เนื่องจากเขาได้นอนได้ไม่ถึง 7 ชั่วโมงก็โดนลากมาที่นี้ เขาก้าวลงมาจากภาหนะรับส่งของเหล่ามักเกิ้ลที่เรียกว่าแท็กซี่และหันมองรอบๆทำให้พบก
ับ ร้านหม้อใหญ่รั่ว สถานที่ที่มีเฉพาะผู้วิเศษเท่านั้นที่จะมองเห็นหรือรับรู้
ซีเอลเดินไปหยุดอยู่ ณ หน้าประตูร้านก่อนจะเปิดประตูเข้าไปด้านใน เสียงพูดคุยจากผู้คนมากหน้าหลายตาทำให้รู้ได้ว่าเขามาถูกที่แล้ว
ว่าไงจ๊ะหนุ่มน้อย มาทำอะไรที่นี่ละ สตรีที่คาดว่าอาจจะเป็นพนักงานของร้านกล่าวทักเจ้าเด็กที่มัวแต่ยืนนิ่งอยู่นานสองนา
น
ค..คือผมอยากจะไปตรอกไดแอกอนครับ หนุ่มขี้อายบอกสิ่งที่ตัวเองต้องการออกไป
นู้น ! หลังร้านเลยจ๊ะ หญิงสาวกล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปยังด้านหลังของประตู
ขอบคุณครับ พอเอ่ยคำขอบคุณเสร็จก็ปรี่ไปทางที่พนักงานสาวได้บอกกับเขา เมื่อถึงกับพบเพียงกำแพงอิฐเท่านั้น ลูกชายตระกูลเฟลิซิโอ้ ยิบสมุดจดที่ตัวเองมักจะสรุปทุกอย่างเอาไว้ขึ้นมาเปิดอ่าน ทำให้ได้พบว่าการที่จะเดินทางไปยังตรอกไดแอกอนผ่านร้านหม้อใหญ่รั่วจะต้องมีรหัสลับล
ะมั้ง
เอ่อ
แตะกำแพงอิฐด้านหลัง จากซ้ายเหนือถังขยะ เคาะอิฐขึ้นไปสามก้อน และขวาอีกสองก้อน มือเรียวเอื้อมไปแตะกำแพงตามที่ตนเองได้เขียนไว้
ทันใดนั้นรูเล็กก็ปรากฏขึ้น ก่อนจะขยายกลายเป็นประตูขนาดใหญ่หลังจากก้าวเข้าไปทำให้พบกับพ่อมดแม่มดจำนวนมากเดิน
กันอย่างขวักไขว่
ว่าแต่ฉันมาทำอะไรนะ อายาลันหันหน้าไปถามกับสิ่งมีชีวิตที่นอนอยู่ตรงบ่า
เงี้ยวดวงตาสีโลหิตอึ้งกับคำถามของคนเลี้ยงไม่น้อย แล้วจะไปทำอะไรรอด ถ้าไม่มีข้า
เสียงในร้านหม้อใหญ่รั่วดังจนหนวกหู สาบานได้เลยว่าถ้าไม่ได้มีเรื่องจำเป็น เธอไม่มีทางมาเหยียบสถานที่วุ่นวายแบบนี้เป็นอันขาด พวกผู้วิเศษขี้เมาที่ซุบซิบนินทาจนลั่นร้าน แบลร์เอียนกับเรื่องพวกนี้จะแย่
จุดหมายที่แท้จริงของคุณหนูบอนนี่คือตรอกไดแอกอน แน่นอนว่าจะใช้ผงฟลูก็ย่อมได้ แต่ถ้าต้องเลอะขี้เถ้าจากเตาผิง เธอยอมใช้ร้านหม้อใหญ่รั่วเสียยังดีกว่า หญิงสาวไม่รอช้าที่จะเดินตรงไปยังหลังร้าน ไม้กายสิทธิ์ในมือแตะลงบนก้อนอิฐอย่างรวดเร็ว ก่อนจะปรากฏภาพของย่านการค้าที่คึกคักที่สุดในลอนดอน และธนาคารที่ได้ชื่อว่ามีการรักษาความปลอดภัยอย่างหนาแน่นที่สุด
แม้จะอยู่ห่างไกลจากบ้านเกิดเกือบครึ่งโลก แต่ไม่มีทางที่เธอจะยอมห่างจากอัญมณีที่เธอรักเด็ดขาด เพียงแค่นึกว่าจะได้เห็นประกายแวววับ มุมปากของแบลร์ก็ยกยิ้มอย่างช่วยไม่ได้
ใช่ เธอยอมลำบากทั้งหมดนี้ก็เพื่ออัญมณีแสนรักของเธอนั่นแหละ
Leaky Cauldron
ทัมเบลินานั่งเอามือกอดอก ดวงตาสีไพลินจ้องมองพี่ชายเขม็ง ตอนนี้ทั้งเธอและคาเรียดกำลังนั่งอยู่ในร้านหม้อใหญ่รั่ว เสียงดังอึกทึกจากคนรายรอบตัว ไม่ได้ช่วยให้สมาธิของเธอละไปจากคนตรงหน้าได้แม้แต่วินาทีเดียว
"พี่กำลังปิดบังอะไรฉันอยู่รึเปล่า สารภาพมานะ!" ริมฝีบางระเรื่อขยับขึ้นลงเป็นท่วงทำนองคำพูด สายตาจ้องเขม็งอย่างคาดคั้น เธอได้ยินเสียงของพี่ชายถอนหายใจ ก่อนพูดประโยคที่เธอคาดไว้อย่างถูกเผง
Cariad Sol Hamilton
"ไม่มีอะไร?" หญิงสาวทวนคำของพี่ชาย มือทั้งสองยันโต๊ะพลางลุกขึ้นยื่นหน้าแทบจะชิดกับใบหน้าของคาเรียด
"ดูสภาพพี่ตอนนี้ซิ ขอโทษเถอะ เหมือนคนจรจัดก็ไม่ปาน พี่หวีผมครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เสื้อผ้าพวกนี้พี่ไปหยิบจากถังขยะไหนมา" นิ้วเรียวเล็กจิ้มลงบนหว่างคิ้วพี่ชายที่มันกำลังขมวดเป็นปมยุ่ง ภายใต้เสื้อคลุมตัวหนาสภาพมอมแมม ปรากฏภาพของเสื้อยืดยับยู่สภาพไม่ต่างกับเสื้อคลุมซักเท่าไหร่ กลิ่นกายของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้ป่า นั่นเป็นสิ่งเดียวที่แยกพี่เธอออกจากคนไร้บ้าน คาเรียดเป็นคนหน้าตาดีแต่ไม่เคยใช้ให้เป็นประโยชน์ ทัมเบลินาไม่แปลกใจหากชาตินี้พี่เธอยังครองตัวเป็นโสด เพราะคงไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากเข้าใกล้ เมื่อก่อนชายหนุ่มก็เหมือนกับคนปกติทั่วไป มาระยะหลังเธอเห็นเขาทำตัวแปลกมากขึ้น มันเกิดขึ้นตั้งแต่พี่ชายย้ายออกจากปราสาทมาอาศัยอยู่ที่ลอนดอนคนเดียว ไม่ว่าทัมเบลินาจะพยายามพูดหว่านล้อมเท่าไหร่ คาเรียดก็ไม่เคยหลุดปากเล่าความในใจให้ฟังซักที
"อย่าทำเหมือนกำลังแบกโลกทั้งใบไว้คนเดียวซิ ไหนว่าจะไม่มีเรื่องปิดบังต่อกันไง เรายังเป็นครอบครัวกันอยู่รึเปล่า พี่ยังเห็นฉันคนนี้เป็นน้องอยู่มั้ย?" สิ่งที่เอ่ยออกมาทั้งหมดนั้นมาจากใจ เพราะคนตรงหน้าช่วยให้ครอบครัวพ้นจากคำว่าล้มละลาย มีชีวิตสุขสบายอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้ แต่เบื้องหลังความสุขของครอบครัว คาเรียดต้องแบกรับหลายสิ่งหลายอย่างไว้บนบ่า แม้เขาไม่เคยปริปากพูด ทัมเบลินาก็สัมผัสได้ถึงความกลัดกลุ้มจากทางสีหน้านั้น มือเล็กกุมมือหนาของพี่ชายพร้อมกับบีบเบา ๆ ความเฉยชาของชายหนุ่มในบางครั้งมันทำให้เธอรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เพราะในสายตาของคาเรียดแม้แต่เธอที่เป็นน้องสาว ยังไม่อาจเป็นที่พึ่งพิงในยามทุกข์ยากให้กับเขาได้เลย
Cariad Sol Hamilton
มือหนายีผมของเธอไปมา พร้อมกับรอยยิ้มมุมปากอันทรงเสน่ห์ ความอ่อนโยนที่หาได้ยากในตัวคนตรงหน้าทำให้ความน้อยใจเมื่อครู่มลายหายเป็นปลิดทิ้ง ทัมเบลินายู่หน้าทิ้งตัวลงนั่งตามเดิมพลางถอนหายใจยาว เธอไม่อยากเชื่อในสิ่งที่คาเรียดพูดเท่าไหร่ แต่ก็ไม่มีเหตุผลใดที่เธอจะไม่เชื่อใจเขา
"ฉันมีพี่คนเดียว ไม่ให้ห่วงพี่แล้วจะให้ไปห่วงใคร" หญิงสาวบ่นอุบ ส่งค้อนวงใหญ่ให้อีกฝ่าย
"แล้ว
" ทัมเบลินาเว้นวรรคคำพูดสลับกับมองหน้าชายหนุ่ม "พี่จะกลับไปฉลองปีใหม่กับพ่อแม่มั้ย?"
Cariad Sol Hamilton
"งั้นหรอ อืม
เสร็จงานแล้วรีบกลับบ้านล่ะ พ่อกับแม่คงดีใจที่ได้เจอหน้าพี่ซักที" สำหรับผู้วิเศษระยะทางระหว่างลอนดอนกับวาร์วิคเชอร์ไม่ได้ไกลกันมากเท่าไหร่ แต่พ่อกับแม่กลับพบหน้าพี่ชายแทบนับครั้งได้ เหตุผลหลักของการไม่กลับไปวาร์วิคเชอร์อันดับหนึ่งสำหรับคาเรียดคือเรื่องงาน
Cariad Sol Hamilton
"ฉันโตแล้วน่าไม่ใช่เด็กอายุสิบเอ็ดพึ่งเข้าเรียนฮอกวอตส์ซักหน่อย ห่วงแต่ตัวเองเถอะ ช่วยแต่งตัวให้เหมือนคนปกติกับเขาบ้าง ไม่ให้เกียรติตัวเองก็ให้เกียรติชุดกระโปรงคอลเลกชันใหม่ที่ฉันใส่ด้วย" บอกตามตรงสภาพการแต่งตัวระว่างเธอกับพี่ชายในตอนนี้ ไม่ต่างกับนิทานเรื่องโฉมงามกับเจ้าชายอสูรในชุดเสื้อผ้าขาดวิ่น ทัมเบลินามองคนตีหน้าตายอย่างอ่อนใจ ก่อนจะหันไปสนใจมื้ออาหารอันโอชะตรงหน้า หญิงสาวจิ้มชิ้นเนื้อเข้าปากเคี้ยวจนแก้มตุ่ย มองดูพี่ชายกำลังลงมือทานอาหารด้วยความละเหี่ยใจ ทัมเบลินาสาบานกับตัวเองเลยว่า สิ่งแรกที่เธอจะทำเมื่อไปถึงอะพาร์ตเมนต์ของคาเรียด คือจัดการเผาเสื้อผ้าของอีกฝ่ายให้สิ้นซาก
หญิงสาวกระชับเสื้อกันหนาวตัวหนาเข้ากับร่างเล็กอันบอบบาง มองแผ่นหลังของพี่ชายกำลังห่างออกไป คาเรียดบอกแต่เพียงสั้น ๆ ว่าจะไปพบคนรู้จักที่นัดกันไว้แถวตรอกไดแอกอน และทิ้งเงินจำนวนหนึ่งสำหรับค่าอาหารและเครื่องดื่ม ก่อนไปเขายังกำชับให้เธอดูแลตัวเองดี ๆ เพราะคงไม่ได้ไปส่ง ทัมเบลินาไม่ใช่เด็กเธออายุสิบเจ็ดแล้ว เมื่อ 2 - 3 วันก่อนเธอกับเพื่อนชาวเอเชียสมัยเรียนที่ฮอกวอตส์พากันเที่ยวตะลอนทั่วอังกฤษ นับเป็นครั้งแรกที่พ่อแม่รวมถึงพี่ชายอนุญาตให้เธอได้ออกไปใช้ชีวิตข้างนอกตามลำพัง หลังส่งเพื่อนรักเดินทางกลับสู่บ้านเกิด ทัมเบลินาจึงใช้เวลาที่เหลืออีกนิดหน่อยนัดพบพี่ชาย และค่ำนี้เธอจะกลับปราสาทที่วาร์วิคเชอร์ทันที
Thumbelina Della Winterbottom #FF5656
Cariad Sol Hamilton #669999
TUESDAY 2022
Leaky Cauldron
บุคคลในชุดมอซอรอการมาถึงของใครบางคนภายในมุมหนึ่งของร้านหม้อใหญ่รั่ว ก่อนหน้านั้นสักสิบนาทีเจ้าตัวเกือบถูกพนักงานเฉดหัวออกจากร้าน เพราะถูกเข้าใจว่าเป็นคนจรจัด ปัญหาทั้งหมดจบลงด้วยเงิน เพียงเท่านั้นพนักงานในร้านก็ปฏิบัติต่อชายหนุ่มราวกับราชา อาหารจำนวนมากมายรวมทั้งเครื่องดื่มถูกวางรอไว้พร้อมสรรพ ทุกอย่างล้วนเป็นเมนูที่น้องสาวของเขาชื่นชอบ ไม่นานคนที่รอคอยก็เดินทางมาถึง ทัมเบลินาดูตกใจไม่น้อยที่เห็นสภาพของเขา แต่เพราะไม่อยากให้เสียบรรยากาศหญิงสาวจึงพยายามหาเรื่องพูดคุย ไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบในช่วงเวลาที่ทั้งเขาและเธอต่างไปใช้ชีวิตตามเส้นทางของตัวเอง
"พี่กำลังปิดบังอะไรฉันอยู่รึเปล่า สารภาพมานะ!"บางสิ่งที่รบกวนจิตใจมานาน เป็นตัวกระตุ้นให้คาเรียดเผลอแสดงความกลัดกลุ้มทางสีหน้า แน่นอนว่ามันไม่อาจรอดพ้นสายตาของยัยน้องสาวจอมสังเกต รอยยิ้มที่เคยมีเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง ดวงตาจ้องเขม็งราวกับต้องการคาดคั้นเพื่อเอาคำตอบ คาเรียดลอบถอนหายใจ ไม่มีเหตุผลใดที่เขาจะต้องบอกให้อีกฝ่ายรับรู้
"ไม่มีอะไร"ชายหนุ่มปฏิเสธเสียงแข็ง ตีหน้านิ่ง
"ไม่มีอะไร?"ทัมเบลินาลุกขึ้น สองมือยันโต๊ะ ใบหน้าเล็กยื่นเข้ามาใกล้รู้สึกได้ถึงลมหายใจที่กำลังราดรดลงบนหน้าเขา
"ดูสภาพพี่ตอนนี้ซิ ขอโทษเถอะ เหมือนคนจรจัดก็ไม่ปาน พี่หวีผมครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เสื้อผ้าพวกนี้พี่ไปหยิบจากถังขยะไหนมา"น้ำหนักนิ้วกดย้ำ ๆ ลงที่หว่างคิ้วของเขา พร้อมกับคำถามคาใจมาตั้งแต่พบหน้า คาเรียดเลือกที่จะเงียบ
"อย่าทำเหมือนกำลังแบกโลกทั้งใบไว้คนเดียวซิ ไหนว่าจะไม่มีเรื่องปิดบังต่อกันไง เรายังเป็นครอบครัวกันอยู่รึเปล่า พี่ยังเห็นฉันคนนี้เป็นน้องอยู่มั้ย?"น้ำเสียงเต็มไปด้วยความน้อยใจ แววตาสดใสวูบไหวน้อย ๆ และมันทำให้คาเรียดเริ่มใจอ่อน
"ฉันกับหุ้นส่วนเรามีเรื่องกระทบกระทั่งกันนิดหน่อย แต่ไม่ต้องห่วงกำลังอยู่ในช่วงปรับความเข้าใจ"คำตอบคล้ายดั่งคำสารภาพที่เกาะกินในใจตลอดหลายเดือนถูกเฉลย แม้เป็นเพียงเศษเสี้ยวของความจริงทั้งหมด ชายหนุ่มไม่ต้องการลากคนในครอบครัวเข้ามาเกี่ยวข้อง ในเมื่อปัญหามันเกิดจากเขา เขาเท่านั้นที่จะเป็นผู้สะสางเรื่องราวทั้งหมด คาเรียดเว้นประโยคไว้ชั่วระยะหนึ่ง สบสายตาน้องสาวที่กำลังจ้องมองเขาตาไม่กะพริบ
"คำสัญญาที่เราเคยรับปากกันไว้ในวันแต่งงานของพ่อกับแม่ ฉันไม่เคยลืมมันแม้แต่วินาทีเดียว พ่อ แม่ และเธอ คือของขวัญล้ำค่าที่สุดในชีวิต ฉันจะไม่มีวันยอมให้ใครหน้าไหนแตะต้องแม้แต่ปลายเล็บ โดยเฉพาะเธอยัยหน้าบูด"มือหนาเลื่อนไปยีผมสีน้ำตาลอ่อนนุ่มของผู้เป็นน้องสาว เจ็ดปีแล้วที่คาเรียดและทัมเบลินาได้กลายมาเป็นครอบครัวเดียวกัน เป็นพี่ชายน้องสาวจากการแต่งงานของพ่อและแม่ ตอนนั้นเธอเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ บัดนี้เติบโตเป็นสาวสะพรั่ง ทว่าในสายตาพี่ชายอย่างเขาเธอก็ยังเป็นเด็กเสมอไม่แปรเปลี่ยน
"อย่าห่วงเลย มันไม่มีอะไรจริง ๆ"คาเรียดเน้นย้ำ เพื่อให้คนตรงหน้าคลายความกังวล ทัมเบลินาทำหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ครั้นสบสายตาที่กำลังจ้องนิ่งไม่ไหวติงผสานกับรอยยิ้มอบอุ่นที่เห็นได้ยากยิ่ง ก็ทำให้หญิงสาวจำนนยอมนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิม
"ฉันมีพี่คนเดียว ไม่ให้ห่วงพี่แล้วจะให้ไปห่วงใคร"ความห่วงใยยังคงถูกส่งมาจากแววตาและคำพูดอย่างไม่ลดละ
"แล้ว
พี่จะกลับไปฉลองปีใหม่กับพ่อแม่มั้ย?"
"เคลียร์งานที่นี่เสร็จเมื่อไหร่จะรีบตามไป"คาเรียดรับปาก ส่วนจะทำตามที่พูดสักกี่เปอร์เซ็นต์ให้มันเป็นเรื่องของอนาคต
"งั้นหรอ อืม
เสร็จงานแล้วรีบกลับบ้านล่ะ พ่อกับแม่คงดีใจที่ได้เจอหน้าพี่ซักที"คาเรียดรับรู้ถึงความน้อยใจในท้ายเสียง ไม่ว่าเทศกาลไหน ๆ ชายหนุ่มแทบไม่เคยปรากฏตัวใช้เวลาอันแสนสุขร่วมกับครอบครัว มีเพียงกรอกเสียงไถ่ถามไปตามสายเพื่อยืนยันว่ายังไม่ตายไปจากโลกนี้
"วันนี้ไม่ได้ไปส่งนะ แต่ถึงไม่ได้ไปส่งก็ต้องรายงานด้วยว่าอยู่ที่ไหน ห้ามเถลไถลเป็นอันขาด เข้าใจมั้ย"ดวงตาสีเปลือกไม้สบมองใบหน้าเล็ก ปากพร่ำพูดราวกับเป็นพ่อคนที่สอง
"ฉันโตแล้วน่าไม่ใช่เด็กอายุสิบเอ็ดพึ่งเข้าเรียนฮอกวอตส์ซักหน่อย ห่วงแต่ตัวเองเถอะ ช่วยแต่งตัวให้เหมือนคนปกติกับเขาบ้าง ไม่ให้เกียรติตัวเองก็ให้เกียรติชุดกระโปรงคอลเลกชันใหม่ที่ฉันใส่ด้วย" ปฏิเสธไม่ได้ว่าน้องสาวมีปัญหากับรสนิยมการแต่งกายของเขา ซึ่งคาเรียดมีเหตุผลของการกระทำนั้น และไม่จำเป็นต้องอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจ ชายหนุ่มเพียงยิ้มและนิ่งเงียบ ช่วงเวลาแห่งความสุขระหว่างครอบครัวจบลงในระยะเวลาอันสั้น หมุดหมายต่อไปของเขาคือตรอกไดแอกอน ดวงตาสีเปลือกไม้มองนาฬิกาข้อมืออีก 20 นาทีจะถึงเวลานัดหมาย ก่อนจากกันชายหนุ่มหยิบเงินจำนวนหนึ่งวางลงบนโต๊ะสำหรับค่าอาหารและเครื่องดื่ม คาเรียดมองร่างเล็กที่กำลังส่งสายตาจ้องกลับมาเช่นกัน หมดเวลาอาลัยอาวรณ์ร่างสูงเหลียวกายมุ่งหน้าไปยังหลังร้าน อันเป็นสถานที่นำพาไปสู่ตรอกไดแอกอน ที่หลังกำแพงสูงมีร่างของใครคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ ร่างนั้นปกปิดด้วยเสื้อผ้ามิดชิดตามสภาพอากาศอันหนาวเหน็บ เดาจากลักษณะรูปร่างคงเป็นผู้หญิง คาเรียดรออีกฝ่ายยืนพิจารณากำแพงอิฐอย่างใจเย็น แต่คนตรงหน้าคงใช้ความใจเย็นของเขานานเกินไป ร่างสูงเดินเข้าไปยืนเคียงกับร่างเล็ก ฮู้ดบดบังใบหน้าของอีกฝ่ายเสียจนมิดชิด และคาเรียดไม่มีเวลามาพิจารณาว่าคนข้าง ๆ นั้นเป็นใคร มือหนาล้วงเข้าไปในเสื้อคลุม
"หลบหน่อยสิคุณ"คำขอร้องแกมสั่งดังจากปากร่างสูงเมื่อเห็นอีกฝ่ายยังคงยืนนิ่ง สิ้นเสียงเขาร่างนั้นขยับเล็กน้อยราวกับหลุดจากภวังค์
Perona Juracule Carrington
"?"คำทักทายสุดแปลกส่งให้คนฟังถึงกับเลิกคิ้วสูง เปลี่ยนความสนใจจากกำแพงตรงหน้าเป็นร่างข้าง ๆ
Perona Juracule Carrington
เจ้าของเสียงปลดฮู้ดลง ใบหน้าแบบฉบับสาวเอเชียแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางสีอ่อนดูผิดตาไปจากครั้งแรก เป็นคน ๆ เดียวกับที่เขาเจอในย่านการค้าของพวกเศรษฐีเมื่อหลายเดือนก่อน นัยน์ตาสีเปลือกไม้พิจารณาหญิงสาวอย่างถ้วนถี่ การปรากฏตัวของเธอคงพอให้คาเรียดคาดเดาสถานะของอีกฝ่าย โดยไม่ต้องเอ่ยปากถามเพื่อหาคำตอบ ชายหนุ่มส่งเสียงหึในลำคอ คาดไม่ถึงว่าโลกมันจะกลมถึงเพียงนี้
"มาที่นี่เป็นครั้งแรกหรือไง"คำถามส่งไปยังหญิงสาวผู้ไม่รู้แม้กระทั่งชื่อ การพบครั้งกันครั้งแรกระหว่างเขาและเธอไม่น่าจดจำเท่าไหร่นัก วันนี้ก็คงไม่ต่างกัน เดาจากอาการเก้ ๆ กัง ๆ เมื่อครู่คาดว่าอีกฝ่ายคงพยายามหาทางเข้าตรอกไดแอกอน
Perona Juracule Carrington
"ในนั้นคงไม่มีอะไรน่าสนใจเท่ากับห้างที่เธอเคยเดิน เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทัน"คาเรียดบอกด้วยความหวังดี เทียบกับห้างสรรพสินค้าหรูหราที่อีกฝ่ายชื่นชอบ ตรอกไดแอกอนก็คงคล้ายกับตลาดนัดเปิดท้าย
Perona Juracule Carrington
เห็นแก่ความมุ่นมั่นของอีกฝ่าย มือหนาจัดการแตะไม้กายสิทธิ์ไปที่อิฐบนกำแพง เริ่มจากก้อนทางซ้ายเหนือถังขยะขึ้นไปสามก้อนตามด้วยทางขวาอีกสองก้อน โดยลดระดับความเร็วให้ช้าลงกว่าปกติ อึดใจเดียวกำแพงหนาตระหง่านค่อย ๆ แปรสภาพเป็นซุ้มประตูทางเข้าพร้อมกับทางเดินทอดยาวขนาบด้วยร้านค้ามากมาย และผู้คนเดินสวนกันไปมาท่ามกลางสภาพอากาศติดลบ คาเรียดมองใบหน้าด้านข้างของหญิงสาวเดาอาการไม่ออกว่ากำลังตกอยู่ในห้วงอารมณ์ใด
"จากตรงนี้เดินไปเราเรียกมันว่าร้านค้าฝั่งเหนือ มีร้านขายของเบ็ดเตล็ดทั่วไป ตึกสีขาวที่เห็นอยู่ตรงนั้นคือธนาคารกริงกอตส์ ถัดไปเป็นร้านขายอุปกรณ์การเรียนกับสัตว์วิเศษสำหรับนักเรียนฮอกวอตส์ ส่วนทางเดินด้านนั้นพาไปสู่ร้านค้าฝั่งใต้ เป็นที่ตั้งของสำนักพิมพ์โลกเวทมนตร์ ของเก่าแปลก ๆ รวมทั้งร้านขายไม้กายสิทธิ์ ฝั่งใต้มีร้านเกิดใหม่เพิ่มขึ้นอีกหลายร้าน ฉันไม่รู้รายละเอียดมากนักเธอลองเดินไปดูเอาเองแล้วกัน ทั้งหมดก็มีคร่าว ๆ ประมาณนี้"มันคงเป็นประโยคที่ชายหนุ่มพูดยาวที่สุดในรอบปีเลยก็ว่าได้ เพราะเห็นแก่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่เข้ามาอย่างไม่รู้จุดหมายปลายทาง
Perona Juracule Carrington
"แต่ขอเตือนไว้อย่าง ห้ามเดินทะเล่อทะเล่าเข้าไปในตรอกน็อกเทิร์นเด็ดขาด เธอไม่เหมาะที่จะเข้าไปในนั้นด้วยเหตุผลทั้งปวง" คาเรียดไม่ได้อธิบายถึงเหตุผลของคำเตือน แต่เชื่อว่าหญิงสาวคงไม่คิดย่างกรายเข้าไป เมื่อยามเห็นสภาพอันสุดแสนสกปรกมอซอของตรอกทางเดิน
Perona Juracule Carrington
"ฉันมีเรื่องต้องไปทำต่อ ขอตัว"คาเรียดพูดทิ้งท้ายก่อนแยกจากหญิงสาว นึกแปลกใจที่วันนี้ข้างกายเธอไร้เงาบอดี้การ์ดร่างยักษ์ แต่มันไม่ใช่ธุระกงการที่เขาต้องใส่ใจ สองเท้าก้าวเดินไปตามทางเดินปูลาดด้วยอิฐ ก่อนเร้นกายหายไประหว่างซอกเล็ก ๆ ของตึกที่ร้างผู้คน ไม่นานชายหนุ่มในชุดมอซอ ก็ก้าวเดินออกจากเงามืดในรูปลักษณ์ที่แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เชิ๊ตขาวแขนยาวสวมทับด้วยโค้ทสีน้ำตาลตัวหนาเข้ากับกางเกงยีนส์สีเข้ม และรองเท้าบูทสีดำมันขลับ ผมกระเซอะกระเซิงเซ็ตเป็นทรงอย่างดีเปิดให้เห็นหน้าผาก ใบหน้าราวกับพระเจ้ารังสรรค์หากแต่น้อยครั้งที่เจ้าของจะใช้มันอย่างเป็นประโยชน์ ยกเว้นช่วงเวลาแห่งการกอบโกย การปรากฏตัวในสภาพยาจกคงไม่เป็นที่น่าประทับใจสำหรับคู่ค้าสักเท่าไหร่ หิมะเริ่มกลับมาโปรยปรายอีกครั้ง ร่างสูงสาวเท้าเดินฝ่าเกล็ดน้ำแข็งสีขาวมุ่งหน้าไปตามเส้นทางเล็ก
- ตรอกน็อกเทิร์น -
ประตูไม้บานเก่าเปิดออกพร้อมกับร่างสูงของผู้มาเยือนก้าวเข้ามา ภายในร้านเต็มไปด้วยของโสโครกน่าขยะแขยง ในขณะเดียวกันก็เป็นสวรรค์ของผู้พิสมัยในศาสตร์มืด ข้าวของถูกวางระเกะระกะไม่ต่างกับกองขยะ แมลงสาบตัวเขื่องพึ่งบินผ่านหน้าเขาไป แต่ไม่มีอะไรหยุดยั้งคาเรียดได้ ชายหนุ่มเดินตรงไปยังผู้ที่นั่งเอกเขนกอยู่บนเก้าอี้ม้าโยก บุรุษสูงวัยร่างท้วมทั้งตัวเต็มไปด้วยปุ่มปมค่อย ๆ ยันกายลุกขึ้นทันที่เห็นเขา สองขาก้าวเดินไปตามจังหวะของไม้เท้าที่กระแทกลงกับพื้นไม้เก่าคร่ำคร่า
"รักษาเวลาดีกว่าลูกน้องฉันเสียอีก ป่านนี้ยังไม่โผล่หัว อ้างว่าแม่ป่วย เมียจะคลอดลูก ล่าสุดมียมันคลอดลูกคนที่สิบสามไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งที่คนที่สิบสองพึ่งเกิดเมื่อกลางเดือนกันยานี้เอง ไอ้ลูกน้องเฮงซวยมันคงเห็นฉันเป็นไอ้แก่หน้าโง่ล่ะมั้ง ฮ่า ๆ"เจ้าของความสูงหนึ่งร้อยหกสิบเซนฯ เศษ เงยหน้ามองผู้มาเยือน ดวงตาข้างหนึ่งปูดโปนคล้ายจะถลนออกมานอกเบ้า ผิวหนังตะปุ่มตะป่ำราวกับคางคก ริมฝีปากดำหนาเปิดกว้างคล้ายกำลังแสยะยิ้ม เผยให้เห็นฟันซี่โตเรียงอย่างไม่เป็นระเบียบ
"เวลาเป็นเงินเป็นทองเสมอคุณวินสตัน"คาเรียดมองข้ามลักษณะทางกายภาพที่น่าขยะแขยง ราวกับคนเป็นโรคผิวหนังของชายแก่ที่ชื่อวินสตัน ซึ่งความจริงมันไม่ใช่โรคผิวหนังแต่เป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมอย่างหนึ่ง โอกาสเกิดหนึ่งในพันและวินสตันคือผู้โชคดีคนนั้น
"ไหนล่ะเจ้านั่น"มืออวบเต็มไปด้วยปุ่มปมแบออกยื่นตรงไปที่ร่างสูง ส่งสายตาเป็นประกายวาววับ คาเรียดล้วงมือไปในเสื้อคลุมหยิบกล่องไม้สีน้ำตาลเป็นมันเงาขนาดเท่าฝ่ามือ มือหนาเปิดฝาออกด้วยความระมัดระวัง เผยให้เห็นสิ่งมีชีวิตรูปร่างเล็กจิ๋วนอนสงบนิ่งอยู่ภายในกล่อง ระหว่างขนย้ายเขาจำเป็นต้องวางยามัน อีกสองหรือสามชั่วโมงหลังจากนั้นจึงจะฟื้นคืนเป็นปกติ
"โอ้! ดูมันสิ ตัวเล็กน่ารักน่าชัง นายไม่เคยทำให้ฉันผิดหวังสักครั้งนะคาร์ล"วินสตันหัวเราะร่วนด้วยความพึงพอใจ ชายร่างท้วมหยิบกล่องจากมือคาเรียดมองสิ่งที่อยู่ภายในอย่างชื่นชม
"ช่างงดงามเหลือเกิน งดงามจริง ๆ"นิ้วตะปุ่มตะป่ำจิ้มลงบนร่างเล็กจิ๋วกลมป๊อกที่กำลังหลับใหลด้วยฤทธิ์ยา สนิดเจ็ตสีทองเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธ์ุจึงเป็นที่ต้องการของเหล่านักสะสมกระเป๋าหนัก ด้วยบทลงโทษที่รุนแรงสำหรับผู้ล่าราคาซื้อขายย่อมสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว
"อย่าลืมที่ตกลงกันไว้ล่ะคุณวินสตัน"คาเรียดเตือนความจำอีกฝ่าย ที่เอาความสนใจทั้งหมดไปอยู่กับสินค้าตัวใหม่
"แล้วที่แกเคยรับปากฉันไว้ ลืมไปแล้วหรือยัง ?"
#669999 Cariad Sol Hamilton
#FF5656 Thumbelina Della Winterbottom
#BBAA88 Perona Juracule Carrington
#000000 NPC
#6C2C10 Winston [NPC]
#CC0000 Juan [NPC]
TUESDAY 2022
XEL LIZ- @Leaky Cauldron, London
- Xel Liz #A22222--------เสื้อคลุมสีดำสะบัด ปรากฎร่างของมือปราบมารหนุ่มในตรอกเล็ก ๆ ข้างร้านหม้อใหญ่รั่ว มือเรียวจัดหมวกของตนให้เข้าทรง ก่อนจะขยับตัวเดินออกมาจากตรอกนั้นแล้วเข้าไปในร้านหม้อใหญ่รั่วทันที เสียงกระดิ่งสั่นเป็นจังหวะทันทีที่มือปราบมารหนุ่มผลักประตูร้านเข้ามา กลิ่นเครื่องเทศและบรรยากาศที่คุ้นเคยทำให้เขารู้สึกปลอดภัย
--------"บัตเตอร์เบียร์หนึ่งแก้วครับ" เสียงเรียบเอ่ยก่อนจะหันหลังแล้วเดินลงไปนั่งบนเก้าอี้ไม้ตัวเก่า เสียงผู้คนมากมายพูดคุยกัน ไม่นานนัก แก้วบัตเตอร์เบียร์ก็มาเสิร์ฟบนโต๊ะตัวเล็ก ดวงตากลมเงยหน้าขึ้นไปก่อนจะรับแก้วบัตเตอร์เบียร์ขึ้นมาถือ บรรยากาศของผู้คนและเสียงเพลงที่บรรเลงคลออยู่เบา ๆ ก็ทำให้เซลนึกถึงบรรยากาศเก่า ๆ ไม่น้อย หลังจากที่ไปรับภารกิจมาทำเป็นวรรคเป็นเวร ในที่สุดก็ได้มีเวลามาผ่อนคลายบ้าง หน้าที่มือปราบมารถึงจะหนักแต่เขาก็ยังรักในสายอาชีพนี้อยู่ และไม่มีแพลนที่จะโยกตำแหน่งในกระทรวงเวทมนตร์เกาะอังกฤษเลย
--------เขายกแก้วบัตเตอร์เบียร์ขึ้นดื่ม และไม่ลืมที่จะซดฟองของมันเข้าไป รสชาติหอมหวานเนยยิ่งทำให้เขารู้สึกสุนทรีย์มากขึ้นไปอีก สายตาของเขามองไปข้างหน้าอย่างไม่ยี่หระ ปล่อยให้เวลาค่อย ๆ นำพาให้เขาผ่อนคลายท่ามกลางความวุ่นวายของโลกเวทมนตร์นี้
Leaky Cauldron
(ย้อนเวลา)
Lady Carrington ꒱˚ ༘
'ที่นี่เหรอร้านหม้อใหญ่รั่ว?'
หญิงสาวร่างสูงโปร่งยกยิ้มแห้งเมื่อพาตัวเองมาเยือนยังหน้าร้าน ซึ่งเป็นทางเชื่อมไปยังตรอกไดแอกอน อันเป็นเป้าหมาย เสียงดังอื้ออึงของเพลงช่วงเทศกาลที่เปิดในละแวก คลอเคล้ากับเสียงผู้คนชวนให้ปวดหัวมากพอ ๆ กับจำนวนชีวิตของคนที่หลั่งไหลเข้ามาเรื่อย ๆ
ถึงจะไม่สบอารมณ์ แต่สุดท้ายก็กลั้นใจก้าวเข้าไปในร้านตามกระแสของผู้คน ผิวขาวกระจ่างใสและเส้นผมนุ่มสลวย ในตอนนี้ถูกคลุมไว้ด้วยฮู้ดตัวยาว เจตนาชัดเจนว่าต้องการปกปิดตัวตนจากสายตาใคร เพราะหากเป็นเพโรน่าในเวลาปกติ คงไม่มีทางที่เลดี้แห่งแคริงตันจะแต่งตัวจืดชืดแบบนี้มาเดินเตร็ดเตร่ให้ใครได้เห็น ขณะใช้สายตากวาดมองไปทั่วร้านพลางนึกถึงสิ่งที่ 'เนล' เพื่อนสนิทของเธอได้กำชับเอาไว้ ไม่นานเธอก็พาร่างของตัวเองมุ่งไปยังลานกว้างหลังร้านอย่างรวดเร็ว
"อะไรแล้วนะ ใช่ ถังขยะ" ริมฝีปากบางระเรื่อพึมพำเมื่อหลบผู้คนออกมาได้ ถึงจะรู้ว่าต้องทำสิ่งใดในขั้นตอนต่อไป แต่เธอกลับจมจ่อมอยู่ที่ตำแหน่งถังขยะหน้ากำแพงอย่างใช้ความคิดอยู่พักใหญ่ หรือจะให้อธิบายตามตรง วิธีการไปยังตรอกไดแอกอนแบบนี้ มันค่อนข้างที่จะไม่เข้าท่าสำหรับเธอสักนิด ถึงจะมีประโยคที่เคยได้ยินมาว่า เกิดมาครั้งหนึ่งก็ต้องลองทำอะไรใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำบ้างก็ตามที
"หลบหน่อยสิคุณ" แต่ก่อนที่จะได้ทำอะไรใหม่ ๆ ที่ว่า เสียงทุ้มปริศนาจากชายแปลกหน้าคนหนึ่งกลับกล่าวขึ้นมาเสียก่อน
คิ้วเรียวขมวดมุ่นทันทีเมื่อเห็นใบหน้าเจ้าของเสียง หากจำไม่ผิด คราวก่อนที่ไปเดินช็อปปิ้งแถว ๆ ห้างหรูในลอนดอน เธอได้บังเอิญชนกับคนผู้หนึ่ง แต่ไม่ยักจำได้ว่าคน ๆ นั้นจะพูดได้
"นาย...ไม่ได้เป็นใบ้หรอกเหรอ" คงเป็นประโยคทักทายที่แปลกที่สุดแห่งปีสำหรับคนทั้งคู่ แต่ไม่ว่าจะคิดยังไงก็คงไม่มีคำไหนที่เหมาะไปมากกว่านี้แล้ว นี่ไม่เท่ากับว่าก่อนหน้านี้เขาแกล้งไม่ตอบคำถามเพื่อหนีความผิดของตัวเองหรอกหรือไง
"?" เขาเอียงคอเล็กน้อยด้วยสงสัย จริงอยู่ที่รูปลักษณ์ของเธอจะต่างไปจากเมื่อก่อนบ้าง ไม่เหมือนกับอีกคนที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงยังไงในตอนนั้น ตอนนี้ก็ยังคงยุ่งเหยิงได้มากกว่า แต่งตัวก็ออกจะ...เรียบเกินไป เหมือนประเภทคนไร้บ้านที่เธอเคยได้ยินและพบเห็นได้บ้างตามท้องถนน
"ฉันเอง ที่นายเดินชนวันนั้นไง" เพโรน่าเลิกให้ความสนใจกับสภาพของเขา หมวกจากฮู้ดที่สวมอยู่ถูกเปิดออก เผยให้เห็นดวงหน้าที่ถูกแต่งแต้มบาง ๆ อย่างชัดเจน ถึงจะไม่ค่อยชอบให้ใครเห็นตัวเองในสภาพนี้ แต่สำหรับ(อดีต)ชายหนุ่มน่าสงสารและน่าเห็นใจเพราะ(เคยคิดว่า)พูดไม่ได้ เพโรน่าจึงไม่ถือสาเลยสักนิด
ท่าทีของเขาดูแปลกใจเล็กน้อยในครั้งแรกที่ละสายตาออกมามาจากกำแพง จากความแปลกใจก็เริ่มแปรเปลี่ยนมาเป็นสายตาที่ตรวจสอบเธออย่างเปิดเผย ไม่นานร่างสูงกว่าก็แค่นหัวเราะออกมาจากลำคอทั้งอย่างนั้น พฤติกรรมชวนให้หงุดหงิดนี้ทำเอาเพโรน่าที่กำลังจะเปิดปากถึงกับพูดไม่ออก
"มาที่นี่เป็นครั้งแรกหรือไง" เหมือนเขาจะยังจดจำใบหน้าของเธอได้ และเพราะคำถามห้วน ๆ แบบนี้คงไม่ถามกับคนที่เพิ่งเจอกันในครั้งแรกหรอกมั้ง... คิดอีกทีก็คงจะเป็นไปได้สำหรับคนตรงหน้า
"...ใช่" ตอบออกไปก่อนจะสังเกตเห็นไม้กายสิทธิ์ในมือของคนที่เพิ่งเอ่ยถาม และเพิ่งฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าพักนี้ตัวเองคงเหม่อนึกถึงเรื่องอื่นมากเกินไปแน่ ๆ ขนาดที่ลืมคิดว่าทำไมเขาถึงได้มาอยู่ในที่แบบนี้เหมือนกัน
"ในนั้นคงไม่มีอะไรน่าสนใจเท่ากับห้างที่เธอเคยเดิน เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทัน"
"เรื่องของฉันน่ะ แล้วอีกอย่าง ฉันดูเหมือนคนที่มาเดินช็อปปิ้งเล่นแถวนี้หรือไง" สภาพการแต่งตัวแบบนี้ ไม่ว่าใครก็คงจะดูออก ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการพาดพิงจากเรื่องที่เคยพบกันในครั้งแรก และตั้งแต่เมื่อกี้แล้วที่เขายังไม่หยุดพูดจาห้วน ๆ กลับมา ทำให้เธอเองก็เผลอตอบเขากลับไปในแบบเดียวกัน
ชาย ไร้นาม ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เขาเพียงเดินกลับไปยืนอยู่ในตำแหน่งหน้ากำแพง และใช้ไม้กายสิทธิ์เคาะบนก้อนอิฐที่เรียงรายต่อกัน ชั่วอึดใจหนึ่งอิฐแต่ละก้อนจึงค่อย ๆ ขยับขยายจนเกิดเป็นทางให้ผ่านเข้าไปได้ บรรยากาศภายในตรอกไดแอกอนไม่ได้เกินจากความคาดหมายของเพโรน่าสักเท่าไหร่ และที่ไม่ต่างจากสถานที่ก่อนหน้าที่เพิ่งผ่านมา ก็เห็นจะเป็นผู้คนที่คับคั่งไปแทบจะทั่วทุกตารางนิ้ว
"จากตรงนี้เดินไปเราเรียกมันว่าร้านค้าฝั่งเหนือ มีร้านขายของเบ็ดเตล็ดทั่วไป ตึกสีขาวที่เห็นอยู่ตรงนั้นคือธนาคารกริงกอตส์ ถัดไปเป็นร้านขายอุปกรณ์การเรียนกับสัตว์วิเศษสำหรับนักเรียนฮอกวอตส์ ส่วนทางเดินด้านนั้นพาไปสู่ร้านค้าฝั่งใต้ เป็นที่ตั้งของสำนักพิมพ์โลกเวทมนตร์ ของเก่าแปลก ๆ รวมทั้งร้านขายไม้กายสิทธิ์ ฝั่งใต้มีร้านเกิดใหม่เพิ่มขึ้นอีกหลายร้าน ฉันไม่รู้รายละเอียดมากนักเธอลองเดินไปดูเอาเองแล้วกัน ทั้งหมดก็มีคร่าว ๆ ประมาณนี้" หลังจากที่เพโรน่าได้ฟังน้ำเสียงทุ้มต่ำอย่างชัดเจนมากขึ้น เธอแทบจะไม่เชื่อหูของตัวเองว่า ชายผู้นี้จะยอมเปิดปากสาธยายมันทั้งหมดออกมา
"อ้อ" หญิงสาวพยักหน้าเข้าใจขณะใช้สายตามองไปตามที่อีกคนชี้ทาง และเมื่อได้รู้รายละเอียดที่มากกว่าการพิจารณาด้วยสายตา สถานที่แห่งนี้ก็นับว่าน่าสนใจมากกว่าที่เห็น
"แต่ขอเตือนไว้อย่าง ห้ามเดินทะเล่อทะเล่าเข้าไปในตรอกน็อกเทิร์นเด็ดขาด เธอไม่เหมาะที่จะเข้าไปในนั้นด้วยเหตุผลทั้งปวง"
"รู้แล้วน่ะ
" เห็นแก่น้ำใจที่พยายามจะช่วยเหลือของอีกฝ่าย เธอจึงเลือกมองข้ามประโยคที่ดูเหมือนกำลังถูกตัดสินตัวเองเป็นกราย ๆ ของเขา ถึงลึก ๆ ในใจจะทวนคำว่าน็อกเทิร์นไว้อย่างขึ้นใจแล้วก็ตามที
"ฉันมีเรื่องต้องไปทำต่อ ขอตัว" ไม่รอให้ได้ร่ำลาหรือกล่าวขอบอกขอบใจใด ๆ รู้ตัวอีกทีแผ่นหลังของเขาก็ห่างออกไปไกลด้วยขายาว ๆ ทั้งสองข้างนั้นแล้ว
'ช่างเถอะ'
Perona Juracule Carrington #BBAA88
Cariad Sol Hamilton #669999
TUESDAY 2022
Hello
แผนการแก้แค้นเริ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไทโรนรู้ดีว่าเรื่องนี้จะใจร้อนไม่ได้ ไม่ช้าก็เร็วเคลแลมต้องตายในน้ำมือของเขา ทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลสายหลักแห่งวอสเซน วาดภาพทุกขั้นตอนขึ้นใจ มันจะเป็นแบบนั้น สิ่งที่เขาต้องทำก็แค่ต้องอดทนเท่านั้น โอ เมื่อคิดถึงความอดทนแล้ว การผ่านความตายครั้งนั้นและประสบการณ์เฉียดตาย (หรือจะพูดว่าถูกลอบสังหารดีล่ะ) อีกนับครั้งไม่ถ้วนที่ตามมา ล้วนสอนบทเรียนแก้ไทโรน เขาอดทนและเฝ้ารอได้ดีเกินคาด กระทั่งตัวเขายังนึกประหลาดใจ
ไทโรนรู้ เขารู้ดีว่าแผนนี้จะคงอยู่ได้ไม่นานนัก กษัตร์ยคาลันไซอัสที่หนึ่ง หรือเคลแลม ผู้เป็นอาของเขา คงไม่ยอมให้เด็กหนุ่มไร้อนาคตคอยผลาญเงินพระคลังหมดอยู่อย่างนี้เป็นแน่ ความตาย และร่างไร้วิญญาณจะเป็นสิ่งที่วีล์ฟได้เจอเป็นอย่างสุดท้าย เหมือนกับหลายชายแท้ ๆ ของเคลแลมเองนั่นไงล่ะ
ระหว่างนี้ เขาจะตักตวงผลประโยชน์จากทุกฝ่ายให้เต็มที่ แค่ต้องทำให้แนบเนียนกว่าเดิม ดังนั้น ไทโรน ไม่สิ วีล์ฟ วาซีรอสจึงเขียนจดหมายไปหาพระญาติทุกคนที่นึกออก ชวนไปเที่ยวเล่นหาความสำราญ ลงเรือขึ้นเหนือล่องใต้ ไปทุกที่ที่เงินมากมายจะพาไปได้ และเมื่อมีขุนนางอ้วนแผละในสภาสักคนเริ่มอ้าปากค้าน เขาก็ใช้ข้ออ้างชักแม่น้ำทั้งห้าสายพูดตอบไปอย่างคลุมเครือ ให้คนพวกนั้นติ๊ต่างความหมายกันเอง
หลังจดหมายหลายฉบับถูกตีกลับมา วีล์ฟไม่แยแสคำบริภาษในนั้น เขาสนแค่คนที่ตนใช้ประโยชน์ได้ คน ๆ นั้นคือญาติผู้น้องห่าง ๆ ทางฝั่งตระกูลแม่ของวิลเฟร็ด จึงเป็นเป้าหมายของเขาในวันนี้ และเป็นครั้งแรกที่พวกเขากลับมาเจอกันอี่กครั้ง หลังผ่านงานเลี้ยงของท่านบารอนสักคนเมื่อสิบปีก่อน
เนื่องจากสถานที่นัดหมายครั้งนี้คือตรอกไดแอกอน วีล์ฟจึงนัดญาติผู้น้องเจอกันที่หน้าร้านหม้อใหญ่รั่ว
Tyarra Thornley
วีล์ฟจ้องเด็กสาวในชุดสดใส แสงสลัวในยามเย็นทอทาบร่างกายของเทียร์ร่า ทั้งร่างราวกับมีแสงเรืองรองแผ่กระจาย คล้ายนักมายากลโชว์ปาฏิหาร์ยสักอย่าง นัยน์ตาสีฟ้าเปล่งประกายเจิดจ้าท่ามกลางแสงมากมายในกลางคืน วีล์ฟชะงัก รู้ตัวว่าเสียมารยาทก็รีบปรับสีหน้าใหม่
"ใช่ วาซีรอสคนนั้นนั่นแหละ" วีล์ฟกล่าว "ยินดีที่ได้พบ มิสแอชเวิร์ธ"
Wilf Vazeiros #BBC6C8
Tyarra Thornley #d3c3d6
TUESDAY 2022
Guifei Li ร้านหม้อใหญ่รั่ว Mission 2#e0df84
เสียงผู้คนพูดคุยกันเซ็งแซ่ยังดังเข้ามาในประสาทการรับรู้ของหลี่กุ้ยเฟย
เด็กสาวผินใบหน้าของเจ้าหล่อนไปด้านข้าง พร้อมกวาดสายตามองไปรอบบริเวณ แม้เธอจะเป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ค่อนข้างดีในระดับหนึ่ง แต่การเดินตรงปรี่เข้าไปทักคนอื่นในตอนนี้คงไม่ใช่ทางเลือกของเธออย่างแน่นอน นั่งอยู่ตรงนั้นได้เพียงไม่นานนัก เจ้าหล่อนก็ลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูงของเธอ
เจ้าของเรือนผมสีดำสนิทเดินเยื้องย่างออกมาจากจุดที่ตนเคยนั่งอยู่เมื่อครู่ วันนี้เธอไม่มีนัดหมายกับใครและคงจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานเช่นเดียวกัน สิ่งเดียวที่เด็กสาวทำได้จึงเป็นการเดินสำรวจทั้งร้านหม้อใหญ่รั่วและตรอกไดแอกอนอย่
างเงียบเชียบ วันเปิดเทอมคงใกล้จะมาถึงในอีกไม่ช้านี้แล้ว แม้เตรียมตัวจนเสร็จเรียบร้อยก็ใช่ว่ามันจะการันตีความพร้อมของเธอได้ ออกจะคนละเรื่องกันเลยด้วยซ้ำไป
ร่างสูงโปร่งของเด็กสาวเดินนวยนาดมาเรื่อย ๆ จนถึงกำแพงบริเวณหลังร้าน มือเรียวของเจ้าหล่อนค่อย ๆ หยิบไม้กายสิทธิ์ของตัวเองออกมา กวาดสายตามองภาพเบื้องหน้าอย่างละเอียดอีกครั้ง แล้วนำปลายไม้เอล์มในมือเคาะอิฐขึ้นไปสามก้อนจากซ้ายเหนือถังขยะ ก่อนจะเคาะไปด้านขวาอีกสองก้อนตามที่จดจำมาอีกที
รูเล็กจากช่องอิฐแปรเปลี่ยนกลายเป็นทางไปยังตรอกไดแอกอน เปิดออกคล้ายต้องการรับเธอเข้าสู่ความคึกคักของตรอก แม้จะเคยมาอยู่หลายครั้งแต่ไม่นึกชินกับความจริงข้อนั้นนัก สุดท้ายก็ก้าวเท้าเดินเข้าไปยังตรอกอันเป็นจุดหมายต่อไปของเธอในวันนี้โดยไม่เหลียวห
ลังกลับไปมองทางที่เดินผ่านมาแล้วอีก
Lindley
ร้านหม้อใหญ่รั่ว ย้อนเวลา
หนึ่งเดือนก่อนไปเรียนที่โรงเรียนพ่อมดแม่มดศาสตร์ฮอกวอตส์ เป็นหนึ่งเดือนที่ทำให้ ลินด์ลีย์ เคลซี ที่กำลังนั่งอยู่ที่มุมหนึ่งของร้านหม้อใหญ่รั่ว รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยที่จะได้ไปเรียนที่นั่น ตอนนี้เขากำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศอันเงียบสงบ อย่างน้อยก็ยังสงบในตอนนี้ เพราะห้องพักที่เขาอาศัยอยู่ของร้านหม้อใหญ่รั่ว แทบจะเป็นสถานที่ที่มีแต่ความวุ่นวายและเสียงรบกวนในยามกลางคืน
กลิ่นของเชพเพิร์ดส์พายที่อยู่ตรงหน้าเขาลอยเข้ามาเตะจมูกของเด็กหนุ่ม เขาตักมาชิมเพื่อลิ้มรสรสชาติอันเข้มข้นของมัน เชพเพิร์ดส์พายเป็นอาหารทานง่ายแถมยังอิ่มท้อง ทำให้เขานึกถึงอาหารทำเองที่บ้าน ในระหว่างที่ลินด์ลีย์กำลังกินอยู่นั้น เขาก็หยิบหนังสือฮอกวอตส์ประวัติศาสตร์น่ารู้ออกมาอ่านต่อ เขาได้มาจากร้านขายหนังสือมือสองเก่า ๆ ที่อยู่ในตรอกไดแอกอน
ลินด์ลีย์จมอยู่กับหน้ากระดาษโดยที่ไม่ได้สังเกตเห็นทอม เจ้าของร้านที่เข้ามาเติมบัตเตอร์เบียร์ให้กับเขา ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม? พ่อมดวัยกลางคนถามด้วยน้ำเสียงปกติ เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมอง เขาผงะอยู่ช่วงหนึ่งก่อนที่จะพยักหน้า
ครับ เชพเพิร์ดส์พายอร่อยมาก หลังจากที่ลินด์ลีย์พูดจบพ่อมดวัยกลางคนก็ยิ้มออกมา ดวงตาของทอมก็ย่นไปที่มุมแล้วพูดขึ้นมา
ฉันดีใจที่ได้ยินแบบนั้น คุณจะไปฮอกวอตส์เร็ว ๆ สินะ? ลินด์ลีย์พยักหน้าอีกครั้ง แม้จะรู้สึกตื่นเต้นแต่ความรู้สึกประหม่าก็ผสมผสานกันอย่างบอกไม่ถูก
ใช่ครับ ในอีกหนึ่งเดือน ผมซื้อของใช้ทั้งหมดแล้ว เหลือแค่... ทำความคุ้นเคยกับทุกสิ่ง
มันเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่คุณจะต้องชอบมันที่นั่น หลังจากที่พูดจบทอมจึงย้ายไปที่โต๊ะอื่น เขารู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าก้มตากินอาหารและอ่านหนังสือต่อไป
เมื่อถึงเวลาค่ำ ร้านหม้อใหญ่รั่วก็เริ่มคึกครื้นมากยิ่งขึ้น แต่ลินด์ลีย์ยังคงนิ่งสงบอยู่ที่มุมเล็ก ๆ ของเขาต่อไป เขาทานอาหารเสร็จและอ่านหนังสือต่ออย่างตั้งใจ โดยลืมเวลาไปโดยสนิทในขณะที่เขาเจาะลึกเข้าไป ในเนื้อหาของประวัติศาสตร์ของโรงเรียนที่กำลังจะเปิดเทอมเร็ว ๆ นี้ เทียนที่ริบหรี่บนโต๊ะของเขาให้แสงที่อบอุ่น และสว่างมากพอที่เขาจะใช้ในการอ่านหนังสือ
ในที่สุดลินด์ลีย์ก็ปิดหนังสือลงแล้วเอนหลังพร้อมกับเหยียดแขนออก เขามองไปรอบ ๆ ร้านหม้อใหญ่รั่ว เด็กหนุ่มมองภาพบรรยากาศอันแสนวุ่นวายเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาจะมุ่งหน้ากลับไปที่ห้องชั้นบน ในระหว่างที่เขายืนขึ้นเพื่อจะจากไป เขารู้สึกถึงความคาดหวังบางอย่างที่เดือนหน้า เพื่อเริ่มต้นบทใหม่ของชีวิต อย่างไรก็ตาม สำหรับตอนนี้ เขาพอใจที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ทีละขั้น เพลิดเพลินกับความสุขที่สามารถหาได้ง่าย ๆ อาหารรสเลิศ หนังสือดี ๆ สักเล่ม และความเงียบสงบ
ร้านหม้อใหญ่รั่วถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สามารถพบเซนต์ฌาริสหากต้องการ เนื่องจากมันเป็นสถานที่เดียวเขามักจะแวะเวียนมาอยู่เสมอ หากไม่นับที่อยู่อาศัยปัจจุบันและออฟฟิศที่ทำงาน
ทว่าในวันนี้ดูเหมือนผู้คนภายในร้านจะเยอะกว่าทุกที เพราะหลังจากที่เซนต์เดินตรงไปยังเคาน์เตอร์และเอ่ยปากสั่งอาหารอย่างคุ้นชิน เขาก็พึ่งจะสังเกตเห็นว่าผู้คนในร้านนั้นเนืองแน่น ไม่ว่าดวงตาสีเข้มจะหันมองไปทางไหน เขาก็ไม่เห็นโต๊ะที่ยังว่างอยู่เลยแม้แต่ตัวเดียว จะเห็นว่างอยู่จริง ๆ ก็ดูมีเพียงเก้าอี้ที่ตั้งโดดออกมาข้างโต๊ะตัวหนึ่ง ซึ่งโต๊ะตัวนั้นมีเจ้าของจับจองอยู่ก่อนแล้ว
เซนต์ถอนหายใจออกมาเบา ๆ ให้กับความอับโชคแต่หัววัน แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเมื่อมาถึงแล้วเขาก็อยากจะทานอะไรเสียหน่อย ไม่ได้อยากมาเสียเที่ยวแล้วจะต้องกลับออกไปเฉย ๆ หรือหอบหิ้วอาหารที่สั่งไปนั่งหาที่ทานอยู่ด้านนอก และทางเลือกที่สามารถทำได้ในตอนนี้จึงมีเพียงแค่การรวบรวมความกล้า ก่อนจะเดินตรงไปยังเก้าอี้ตัวที่ว่างอยู่ และเอ่ยปากขอพื้นที่ให้ได้หย่อนตัวทานอาหาร
ขอโทษนะครับ ถ้าตรงนี้ยังไม่มีคนนั่งผมขอรบกวนนั่งด้วยได้รึเปล่า พอดีที่มันเต็มและผมก็ดันเผลอสั่งอาหารไปแล้ว
แม้จะกล่าวออกไปเช่นนั้น แต่การกระทำของชายหนุ่มร่างสูงกลับตรงกันข้าม เพราะดวงตาสีน้ำตาลยังคงสอดส่องไปทั่วร้านเผื่อว่าจะยังพอมีโต๊ะว่าง หรือมีใครสักคนลุกขึ้นออกจากร้าน เพราะเอาเข้าจริงต่อให้เขาเป็นคนที่ค่อนข้างอัธยาสัยดี ที่หมายถึงดีขึ้นมากกว่าแต่ก่อน แต่การนั่งร่วมโต๊ะกับคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ก็อาจทำให้ทั้งตัวเขาและอีกฝ่ายนั้นรู้สึกอึดอัดขึ้นมาได้
Blair Bonnie
#93BDE6 ✦ Xencharlys Wildsmith
#C52944 ✦ Blair Bonnie
Leaky Cauldron
ใช้เวลาไม่นาน แบลร์ บอนนี่ ก็เดินทางมาถึงร้านหม้อใหญ่รั่วร้านอาหารเลื่องชื่อในตรอกไดแอกอน ด้วยความที่เป็นผับเก่าแก่ และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากผู้วิเศษที่อยู่ลอนดอน ในเวลานี้จึงมีผู้คนมากมายหลั่งไหลเข้ามาภายในร้าน แต่เหมือนว่าโชคจะยังเข้าข้างแบลร์อยู่ หลังจากที่มองหาโต๊ะอยู่ได้ไม่นาน โต๊ะข้าง ๆ ก็ได้ลุกเดินออกจากร้านไปพอดี ร่างเล็กของแบลร์รีบเดินแทรกเข้าไปนั่งแทนที่ในทันที เธอยกมือขึ้นโบกไปโบกมา เพื่อเรียกความสนใจจากพนักงานร้าน ซึ่งเธอทำมันสำเร็จพนักงานร้านเดินตรงที่มาเธอ เธอจึงรีบเอ่ยปากขอให้เขามาช่วยเก็บเช็ดโต๊ะให้ แล้วขอเมนูอาหารมานั่งเปิดดู
ขอโทษนะครับ ถ้าตรงนี้ยังไม่มีคนนั่งผมขอรบกวนนั่งด้วยได้รึเปล่า พอดีที่มันเต็มและผมก็ดันเผลอสั่งอาหารไปแล้ว
เธอละสายตาจากเมนูอาหาร แล้วมองไปยังคนแปลกหน้าที่เอ่ยปากขอเข้ามานั่งด้วยกัน พอตั้งสติได้ก็รีบยิ้มตอบกลับอย่างเป็นมิตรไปว่า ได้อยู่แล้ว ที่ตรงนั้นว่างอยู่นั่งเลยค่ะ ไม่ต้องเกรงใจเลยนะ
หลังจากมือเล็ก ๆ ของเธอจับเมนูพลิกไปพลิกมาอยู่ได้สองสามรอบ เธอก็ตัดสินใจได้เสียทีว่าจะกินอะไรดี ที่ตัดสินใจไม่ได้ไม่ใช่อะไรหรอกนะ เธอดันอยากกินทุกอย่างที่อยู่บนเมนูเลยน่ะสิ แต่เธอรู้ดีว่าถ้าสั่งมาทั้งหมด นอกจากจะกินไม่หมดแล้ว เงินที่เธอพกมาก็จะไม่พอกลับบ้านด้วย
สิ่งแรกที่มาเสิร์ฟนั่นก็คือ บัตเตอร์เบียร์ ซึ่งเป็นเมนูที่เธอรอคอยและคาดหวังมากที่สุด เพราะนี่เป็นจุดประสงค์ในการมาร้านหม้อใหญ่รั่วในวันนี้ เธอใช้สองมือในการกุมแก้วขึ้นมาก่อนจะลองค่อย ๆ จิบ รสชาติดีสมคำล่ำลือจริง ๆ ด้วย นอกจากเธอจะสั่งมาให้ตัวเอง เธอยังสั่งมาอีกแก้วเผื่อคนแปลกหน้าที่พึ่งนั่งลงตรงหน้าด้วย เธอขยับมือดันบัตเตอร์เบียร์อีกแก้วเข้าไปหาอีกฝ่าย เลี้ยง เราชื่อแบลร์ บอนนี่นะ
✦ Blair Bonnie #C52944
✦ Xencharlys Wildsmith #93BDE6
ระหว่างรอคำตอบ สายตาที่กวาดมองไปรอบ ๆ เพื่อหาที่ว่างก็ต้องผิดหวังเพราะดูท่าแล้วในเวลานี้ น่าจะไม่มีใครอยากขยับตัวลุกออกจากที่นั่งเลยแม้แต่คนเดียว ซึ่งเขาเองก็เข้าใจได้เพราะหากตัวเขาเองได้ที่นั่งดีดีสักที่พร้อมกับอาหาร เครื่องดื่ม และเพื่อนสนิทที่นั่งจับเขาคุยเรื่องราวต่าง ๆ เขาก็คงทิ้งตัวอยู่นั่งอยู่ไม่อยากลุกออกไปไหน
ได้อยู่แล้ว ที่ตรงนั้นว่างอยู่นั่งเลยค่ะ ไม่ต้องเกรงใจเลยนะ
ในขณะที่สายตาของชายหนุ่มยังคงกวาดมองพร้อมความหวัง ว่าจะได้ที่นั่งที่เป็นส่วนตัวมากกว่านี้ ในจังหวะนั้นเองที่เสียงเล็กตอบรับกลับมา และเมื่อเห็นแล้วว่าเขาไม่ได้มีทางเลือกอื่นมากไปกว่านี้ สุดท้ายเซนต์ฌาริสก็ตัดสินใจหย่อนตัวนั่งลงร่วมโต๊ะ กับหญิงสาวที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เขากดศีรษะลงหนึ่งจังหวะเป็นการขอบคุณโดยไม่ได้กล่าวอะไรเพิ่มเติม และรอเวลาจนกว่าอาหารจะมาเสิร์ฟโดยที่ไม่ได้เปิดประเด็นสนทนาใด
อาจจะเป็นเพราะวันนี้คนเยอะกว่าทุกวันจึงทำให้อาหารที่สั่งไปได้รับช้ากว่าที่เคย แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นตัวเขาที่ไม่ได้รีบร้อนต้องไปไหนจึงนั่งรออย่างใจเย็น และไม่ได้เอ่ยปากเร่งเร้าพนักงานให้รีบหรือทวงถามแต่อย่างใด ก่อนที่จู่ ๆ แก้วเครื่องดื่มสีอำพันถูกเลื่อนให้มาหยุดอยู่ตรงหน้าด้วยฝีมือของเจ้าของโต๊ะ และตามมาด้วยเสียงเล็กของเธอ เมื่อเห็นสีหน้าของชายหนุ่มที่ดูเหมือนว่าจะเต็มไปด้วยคำถาม
เลี้ยง เราชื่อแบลร์ บอนนี่นะ
ขอบคุณครับ ผมเซนต์ฌาริส เอ่อ..เรียกแค่เซนต์ก็ได้ เขาตอบกลับด้วยการขอบคุณสำหรับเครื่องดื่ม แนะนำตัวกลับไปเพื่อไม่ให้เสียมารยาท ก่อนจะนึกได้ว่าชื่อปกติของตัวเองนั้นมันยาวและเรียกยาก จึงบอกชื่อที่สามารถเรียกได้ต่อท้ายประโยคแทน
#93BDE6 ✦ Xencharlys Wildsmith
#C52944 ✦ Blair Bonnie
Leaky Cauldron
ท่ามกลางร้านอาหารมากมากในลอนดอน แทนที่ฟลารอสจะเลือกร้านอาหารสักร้านที่อยู่ติดริมถนนใหญ่ หรือไม่ก็ร้านที่อยู่ท่ามกลางความวุ่นวายของผู้คนที่เขาชอบนักหนา ทว่าหนนี้เด็กหนุ่มกลับเลือกที่จะปรากฎตัวในร้านที่มีสภาพมอซอ ซึ่งสีซีดของโต๊ะและเก้าอี้ที่เห็น สามารถใช้เป็นสิ่งที่บ่งบอกได้เป็นอย่างดีถึงความเก่าแก่ของร้าน และอาจด้วยเหตุผลนี้มันถึงได้เป็นร้านโปรด และร้านยอดฮิตของบรรดาพ่อมดแม่มด รวมถึงตัวเขาเองก็ด้วย
ขายาวก้าวตรงไปยังบาร์ขนาดเล็กหน้าร้านในทันทีที่มาถึง ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตัวสูงเก่า ๆ ที่ดูเหมือนต้องการจะปลดเกษียณอยู่ตลอดเวลา แต่ถึงกระนั้นก็ขอให้มั่นใจเถอะว่ามันยังคงใช้งานได้ดี ไม่ว่าจะด้วยเวทมนตร์หรืออะไรก็ตามแต่
บัตเตอร์เบียร์ ซุปถั่ว พายเนื้อและตับครับ เมนูอาหารถูกสั่งออกไปในทันทีที่พ่อครัวหน้าบาร์ปรายตามองมาทางเขา ก่อนที่รอยยิ้มกว้างของฟลารอสจะถูกส่งออกไปอย่างคนอัธยาศัยดี ถึงแม้จะรู้อยู่แล้วก็ตามว่าเขาจะไม่ได้รับมันกลับคืนจากชายตรงหน้า
ใช้เวลาไม่นานอาหารที่สั่งไปก็ถูกวางลงหน้าบาร์ที่นั่งอยู่ พายเนืัอและตับส่งกลิ่นชวนลิ้มลองพร้อมด้วยซุปถั่วที่ดูจากภายนอกคงข้นจนน่าขยะแขยง ทว่ารสชาติของมันกลับสวนทางไม่ได้เป็นเช่นที่เห็น มันอร่อยจนถึงขนาดที่เขาสามารถหยิบยกขึ้นมาเป็นเมนูโปรดในตอนนี้ได้ หากไม่นับเมนูเครื่องดื่มยอดฮิตตลอดกาลอย่างบัตเตอร์เบียร์
จริงด้วย ! แล้วบัตเตอร์เบียร์ที่เขาสั่งไปหล่ะ ?
ริมฝีปากบางที่กำลังจะอ้าออก และเอ่ยถามถึงเครื่องดื่มเมื่อเห็นว่ามันไม่ได้ถูกเสิร์ฟมาพร้อมกัน ก็ต้องปิดลงในทันทีเมื่อสิ่งที่เขากำลังจะถามหา ถูกเลื่อนมาวางไว้ตรงหน้าเป็นอย่างสุดท้าย
ขอบคุณครับ รสชาติดีเหมือนเคย ฟลารอสกล่าวคำชมออกมาหลังรับเครื่องดื่ม และยกมันขึ้นจรดริมฝีฝาก ลิ้มลองรสชาติที่แสนคุ้นเคย ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง มันก็มักทำให้เขารู้สึกประทับใจอยู่เสมอ และดูเหมือนคำชมนั้นจะทำให้เขาได้เห็นมุมปากที่กระตุกขึ้นจนเผยให้เห็นรอยยิ้มเล็ก ๆ ของพ่อครัวหน้าบาร์ แม้ว่ามันจะปรากฏขึ้นเพียงแค่เสี้ยววินาทีก็ตาม
Flauros Hailie Merlorlyn #FF8C69
VO SERVER 124.193.45.21
ECHO-7.64CASEFILE V12O_RXVIEW FOUND 3 USERS #BADA55 1 Jerome
#91B96F 2 Liquence
#FF597B 3 Miloco
PROTOCOL_DRSXR
USER: Jerome VirtuosoIM_VO12
เสียงรองเท้าบูทกระทบพื้นอิฐ ถูกกลบด้วยเสียงเจื้อยแจ้วของบรรดาผู้วิเศษภายในตรอกไดแอกอน แต่ทว่าไม่มีสิ่งใดสามารถดึงความสนใจของพ่อมดหนุ่มได้มากไปกว่าร้านบุโรทั่ง ที่อีกกี่พันชาติก็ยังคงเป็นแบบเดิม และแม้จะคร่ำครึเพียงไหนเขายังคงชอบการได้มานอนเอกเขนกกับคนรู้จักในนี้อยู่ดี
เจอโรมมีธุระปะปังมากมายที่รอให้เขาไปทำ ซึ่งโดยปกติกว่าจะหะแรกแต่ละอย่างต้องผ่านไปอย่างน้อยร่วมเดือนเสียก่อน เพราะความเกียจคร้านมันครอบงำจนกลายเป็นตัวตนเขาไปแล้ว จะให้แก้ง่าย ๆ ได้อย่างไร อีกอย่างคือเขาไม่สามารถปรับตัวกับปลอกใหม่ได้ไวขนาดนั้น ได้มาอย่างง่ายดายทว่าใช้งานลำบากเหลือเกิน เมื่อเป็นการตัดสินใจเลือกที่ค่อนข้างฉุกละหุก
โทษที เมื่อกี้ตรงร้านสัตว์เลี้ยงมีอุบัติเหตุนิดหน่อย เสียงทุ้มเอ่ยบอกกับเพื่อนที่นัดหมายกันไว้ทุกคน ในระหว่างที่ขยับเก้าอี้เพื่อหย่อนตัวลงนั่ง นกฮูกตัวใหม่ที่เพิ่งเข้ามาสีสวยดี อดไม่ได้
อุบัติเหตุที่เจอโรมว่ามักหมายความถึงกิเลสของเขาทั้งนั้น คราวก่อนที่บอกเพื่อนร่วมงานไปว่ามีอุบัติเหตุหน้าร้านเครื่องดนตรีวิเศษ คือเขาเองที่เดินเข้าไปเดินดูเป็นชั่วโมง ทว่าเขาไม่อยากผิปดสัจจาคำกับใคร เมื่อนัดแล้วก็ต้องมาหาแม้ไม่ค่อยตรงเวลานัก
มีอะไรอัปเดตบ้างวันนี้ มือหนาคว้าหนังสือพิมพ์เดลีพรอเฟ็ตขึ้นมากางอ่านเป็นอันดับแรก
12 ; 21 ; 12 ; 13 ; 21 ; 12 ; 31 ; 21 ; 12 ; 12
12 ; 13 ; 41 ; 21 ; 12 ; 21 ; 21 ; 12 ; 31 ; 12
VO SERVER 124.193.45.21
ECHO-7.64CASEFILE V12O_RXVIEW FOUND 3 USERS #91B96F 1 Liquence
#BADA55 2 Jerome
#FF597B 3 Miloco
PROTOCOL_DRSXR
USER: Liquence VirtuosoIM_VO12
เสื้อคลุมสีแดงถูกสวมทับเสื้อด้านใน ก่อนที่ร่างสูงโปร่งจะเดินเข้ามาในร้านที่เรียกกันว่าหม้อใหญ่รั่ว พื้นที่สำหรับผู้วิเศษหรือคนที่มีเวทมนตร์แบบเขา แน่นอนว่าเขาค่อนข้างที่จะรู้แทบทุกซอกทุกมุม จากสมัยที่เขาย้อนเวลามาเรียนโรงเรียนฮอกวอตส์และได้ใช้ชีวิต อยู่ในระแวกนี้เป็นเวลากว่าเจ็ดปี ได้กลับมาที่นี่ทีไรความรู้สึกเก่า ๆ ก็หวนคืนกลับมาทุกที ลิคเควนซ์เดินไปนั่งรอที่โต๊ะขนาดเล็กรอคนอื่น ๆ ตามมา
"ปลอกใหม่หรอ ไม่ชินเลย หล่อขึ้นไม่เบา" ลิคเควนซ์เอ่ยชมพร้อมยิ้มให้เจอโรม ถ้าจำได้ล่าสุดปลอกก่อนหน้าที่เจอโรมใส่จะดูดีไปอีกแบบ พอมาเป็นปลอกนี้ก็ดูมีความยุโรปมากขึ้นเล็กน้อย "นั่งก่อน ๆ"
"นกฮูก? ไม่เคยรู้ว่าชอบสัตว์ปีกแบบนั้นด้วย" เสียงทุ้มต่ำของลิคเควนซ์เอ่ยกับเจอโรม ก่อนจะมองไปบนโต๊ะที่มีหนังสือพิมพ์ในยุคนี้วางอยู่ และกำลังถูกเจอโรมหยิบขึ้นมาอ่าน
"ศึกษาประวัติศาสตร์หรอ" ลิคเควนซ์พูดหลังจากที่เห็นเจอโรมหยิบหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่ขึ้นมาอ่าน ปีนี้เป็นปี 2024 ซึ่งก็ห่างจากปีที่เขามาเกือบชั่วอายุคน ถ้าไม่เรียกว่าศึกษาประวัติศาสตร์ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร
"กินอะไรไหม? มันมีเมนูอะไรบ้างหว่า" เขาพูดลากเสียงคำสุดท้ายแล้วกรอกสายตาไปมา ถ้าอะไรที่มันพอจะเบสิก ๆ ก็คงจะมีเหมือนกันแหละมั้ง อีกอย่างพวกอะไรที่เป็นผักผลไม้ก็น่าจะหวานอร่อยอย่างแน่นอน
อันที่จริงเขาแพลนจะมาอยู่ที่นี่ซักพักอยู่แล้ว แต่ดันได้มาอยู่นานกว่าที่คิดเพราะไทม์แมชชีนดันมาเสีย คิดว่าอีกซักหน่อยก็คงจะกลับ ถ้าหากว่าเครื่องไทม์แมชชีนที่ติดกับโอนิซ่อมเสร็จเสียที ซึ่งก็คงจะอีกซักพักจากรายงานที่โอนิบอกเขา ระหว่างนี้ก็คงจะเรียกได้ว่าพักร้อนในปี 2024 ได้อย่างเต็มปาก
12 ; 21 ; 12 ; 13 ; 21 ; 12 ; 31 ; 21 ; 12 ; 12
12 ; 13 ; 41 ; 21 ; 12 ; 21 ; 21 ; 12 ; 31 ; 12
VO SERVER 124.193.45.21
ECHO-7.64CASEFILE V12O_RXVIEW FOUND 3 USERS #FF597B 1 Miloco
#BADA55 2 Jerome
#91B96F 3 Liquence
PROTOCOL_DRSXR
USER: Miloco VirtuosoIM_VO12
เด็กชายในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าสะอาดตา ใช้มือเรียวข้างหนึ่งผลักประตูไม้บานใหญ่ที่ป้ายหน้าร้านอ่านว่า ร้านหม้อใหญ่รั่ว ให้เปิดออก ถึงมิโลโค่จะไม่ใช่คนแถวนี้แต่ก็พอจะใช้เทคโนโลยีในยุค 2024 ให้ช่วยนำทางเขาได้ ส่วนเหตุผลสำคัญในการมาที่แห่งนี้ ก็คือเขาได้นัดหมายกับบุคคลในตระกูลที่ไม่น่าคบหาเสียเท่าไหร่เอาไว้
นัยน์ตาสีเข้มกวาดมองซ้ายขวาก่อนจะพบเข้ากับสมาชิกคนหนึ่ง ที่คุ้นหน้าคุ้นตามาเป็นเวลานาน สวัสดีครับพี่ลิคเควนซ์ โชคร้ายจังที่ต้องมาเจอกันแบบนี้ เสียงทุ้มกล่าวขึ้น พร้อมกับเสียงเข้นหัวเราะที่ดังออกมาอย่างแผ่วเบา พลางนั่งลงบนเก้าอี้ที่ถูกจัดวางเอาไว้ เพื่อรอชายหนุ่มอีกคน ที่ไม่รู้ว่าปัจจุบันนี้หายหัวไปอยู่ปีไหน
ทันใดนั้นร่างสูงของเจอโรมก็ปรากฎกายอยู่เบื้องหน้าของมิโลโค่และลิคเควนซ์ บนมือหนาก็ถือกรงขังสิ่งมีชีวิตตัวหนึ่งเอาไว้
นกฮูกสวยดีนะครับ แต่เอามาเลี้ยงไม่กลัวมันตายรึไง มิรู้ว่าเหตุผลอะไรถึงทำให้มิโลโค่พูดไปแบบนั้น รู้ตัวอีกทีมันก็หลุดปากไปเสียแล้ว นี่ก็คงเป็นนิสัยเสียที่เขาแก้ไม่หายสักที
อยากกินอะไรก็สั่งกันเลยนะครับ ผมไม่หิว
12 ; 21 ; 12 ; 13 ; 21 ; 12 ; 31 ; 21 ; 12 ; 12
12 ; 13 ; 41 ; 21 ; 12 ; 21 ; 21 ; 12 ; 31 ; 12
VO SERVER 124.193.45.21
ECHO-7.64CASEFILE V12O_RXVIEW FOUND 3 USERS #BADA55 1 Jerome
#91B96F 2 Liquence
#FF597B 2 Miloco
PROTOCOL_DRSXR
USER: Jerome VirtuosoIM_VO12
เจอโรมนั่งนิ่งยิ้มกริ่มไปตามคำพูดของเพื่อนร่วมโต๊ะในตระกูลเดียวกัน ขณะที่ไล่สายตาอ่านหนังสือพิมพ์ขึ้นชื่อประจำที่แห่งนี้ นัยน์ตาเฉี่ยวคมมองผ่านขอบกระดาษขึ้นมาจ้องไปที่คนทั้งสองอย่างคาดโทษ กับคนแรกอย่างลิคเควนซ์คงพูดอะไรไม่ได้มากนักนอกจากสำนวนคุ้นหู
เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยพลางกลั้วหัวเราะไปเล็กน้อย ในเมื่อจะไม่ได้กลับไปยังมิดซิตี้ภายในเร็ว ๆ นี้ การทำตัวกลมกลืนไปกับผู้วิเศษในสกอตแลนด์ยุคอดีตกาล บรรพบุรุษของเขาเองก็คงอยู่ในสมัยนี้เฉกเช่นเดียวกัน เฝ้ารอที่จะพบเจอไม่ไหวแล้ว ต่อให้ต้องเทียวไปเทียวมาเพื่อมองหน้าเขายังเชื่อว่าตัวเองสามารถทำได้
และอีกคนที่พูดถึงเรื่องสิ่งมีชีวิตที่ต้องจากโลกไปในสักวัน ทั้งที่ความจริง แม้กระทั่งพวกเขาก็ยังต้องหยุดหายใจ เขาจะกลัวพวกมันวายชนม์ไปด้วยเหตุผลอะไร ไม่กลัว มันตายก็ถือว่าได้ไปเลือกเซิร์ฟเวอร์ใหม่ให้ชีวิตไง ความคิดคล้ายคนติดเกมออนไลน์ถูกเปล่งออกมาเป็นคำพูดส่งไปหาเจ้าของประโยค
บัตเตอร์เบียร์แล้วกัน คอกำลังแห้งเลย
มือหนาวางหนังสือพิมพ์นอนลงบนโต๊ะ พร้อมเอ่ยบอกความต้องการของตนเองถึงเรื่องอาหารการกิน ความกระหายของเขาไม่ได้มากพอให้กระเพาะอุโฆษออกมาว่าอยากกินอาหารคาวหรือหวาน เครื่องดื่มจึงถือเป็นความง่ายที่ลงตัวมากที่สุดสำหรับร้านหม้อใหญ่รั่ว ซึ่งไม่เคยพัฒนาไปในทางที่ดีเลย
12 ; 21 ; 12 ; 13 ; 21 ; 12 ; 31 ; 21 ; 12 ; 12
12 ; 13 ; 41 ; 21 ; 12 ; 21 ; 21 ; 12 ; 31 ; 12
Powered by Invision Power Board (http://www.invisionboard.com)
© Invision Power Services (http://www.invisionpower.com)